จุดเริ่มต้น

ไทยลีก ดิวิชัน 1
23 พ.ค.53 สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น
ขอนแก่น 2-1 จุฬา ยูไนเต็ด

ทริปฟุตบอลภาคอีสานของผมสัปดาห์นี้มีโปรแกรมปิดท้ายที่ขอนแก่น

หลังจากดูขอนแก่นผ่านเข้ารอบเอฟเอคัพไปเมื่อกลางสัปดาห์, เต็มอิ่มกับประตูที่เลย ซิตี้ประเคนใส่มุกดาหารเมื่อวันเสาร์ วันต่อมาผมเดินทางกลับขอนแก่นอีกครั้งเพื่อดูใจจุฬา ยูไนเต็ด

มัวแต่อัพเว็บบล็อกรีวิวเกมเลย ซิตี้-มุกดาหารอยู่ สุดท้ายผมมาถึงสถานีขนส่งเมืองเลยเกือบเที่ยง อัตราเร็วของรถป.2 เลย-ขอนแก่นสนองตอบผมได้แค่...

“ถึงขอนแก่น 4 โมงเย็นค่ะ”

นั่นหมายความว่าผมต้องรีบบึ่งไปยังสนามทันที ไม่มีเวลาซื้อตั๋วรถนครชัยแอร์เพื่อกลับกรุงเทพฯ

“คุณเอส รบกวนซื้อตั๋วนครชัยแอร์ให้หน่อย เอารอบสองทุ่มนะครับ”

คุณเอสที่ว่านี้คือคุณวัชรพงษ์ หน่วยเขียว ประชาสัมพันธ์หนุ่มของคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่นซึ่งเป็นคนประสานงานให้ผมในการขึ้นมาถ่ายทำสารคดีวันศรีนครินทร์ครั้งนี้ (ผมเลยพ่วงการดูบอลอย่างเมามันส์เข้าไปด้วย)

ผมรู้จักคุณเอสครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน (ตอนมาทำงานเดียวกันนี่แหละ) พร้อมกับแรงบันดาลใจในการเขียนเว็บบล็อก “Futbol Review”

“ชอบดูบอลไทยหรือครับ?”

ผมเอ่ยถามคุณเอสหลังจากที่เห็นเขานั่งอ่านนิตยสารฟุตบอลสยามอยู่

เมื่อได้คำตอบว่า “ชอบ” แล้ว ผมก็ยิงคำถามต่อไปทันควัน

“ไปดูขอนแก่นแข่งบ่อยมั้ย?”

คำตอบว่า “ทุกแม็ทช์ที่เล่นในบ้าน” ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจบางอย่าง

นี่คือสิ่งที่ผมคิดทำมาตลอด...ไปดูบอลไทยที่สนาม แต่ก็ไม่เคยลงมือทำอย่างจริงจัง ^^!

อย่าว่าแต่ดูบอลที่สนามเลยครับ ตอนที่ทรูวิชันส์ถ่ายทอดสดทุกสัปดาห์ผมยังไม่ (มีเวลา) ดูเลยครับเนื่องจากว่าผมวางคิวตัดต่อรายการทุกเย็นวันศุกร์ยิงยาวไปจนถึงวันเสาร์

เน้น ๆ ให้เสร็จก่อนหัวค่ำเพื่อจะได้ดูบอลอังกฤษ แต่ถ้าเสร็จก่อนเย็นได้ ผมก็จะดูบอลไทย

น้อยครั้งที่ผมจะทำออปชันหลังได้ (แล้วก็ดูเหมือนผมไม่ค่อยแคร์มันมากนัก - -")

บอลไทยจึงเป็นลูกเมียน้อยของผมเรื่อยมา (ทั้ง ๆ ที่อยากดูนะ)

บรรยากาศการเชียร์ของขอนแก่น

มัสคอตไดโนเสาร์สีชมพูนำเชียร์ให้แฟน ๆ เป็นบางช่วง

อัฒจันทร์ฝั่งไม่มีหลังคาก็คึกคักไม่เบา

ได้คุยกับคุณเอส ผมจึงตัดสินใจว่าจะวางแพลนชีวิตใหม่เพื่อไปดูบอลไทยให้ได้...แต่ผมไม่อยากดูแค่อย่างเดียว ผมอยากทำอะไรกับบอลไทยมากกว่านั้น

แรงบันดาลใจที่ 2 มาจากเว็บพันทิป ห้องฟุตบอลไทยนี่แหละครับ เห็นกระทู้ที่มีคนมาโพสต์รูปตั้งแต่การเดินทางไปจนถึงเกมการแข่งขัน (เข้าใจว่าน่าจะเป็นคุณ The Football ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจจำล็อก อินมากนัก)

นั่นน่าจะเป็นแนวทางของผมได้

แต่...ผมถ่ายรูปไม่เก่งนี่นะ ออกจะเขียนเก่งมากกว่า (เข้าข้างตัวเองนิดส์นึง โดยอ้างอิงจากการได้รางวัลชนะเลิศ TOT World Cup Reporter ประเภทคอลัมนิสต์ที่บ.ทีโอทีร่วมมือจัดกับบ.สยามสปอร์ต ทำให้ผมได้ไปบอลโลกที่เยอรมัน รวมทั้งได้เขียนคอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันเป็นเวลา 11 วันด้วย)

งั้นผมจะเขียนรายงานผลการแข่งขันประกอบการไปดูทุกนัด พร้อมกับถ่ายรูปประกอบนิด ๆ หน่อย ๆ ก็แล้วกัน

แต่งานเขียนของผมจะไม่ “รายงานผลจ๋า” แต่จะสอดแทรกความไร้สาระลงไปบ้าง (มันดียังไงนี่?)

นั่นคือเหตุผลที่เกริ่นนำของผมยาวเหยียดแบบนี้นี่แหละ...สอดแทรกความไร้สาระ อ๊ะ อ๊ะ ไง ^^!

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของผมกับเว็บบล็อกที่ผมมาตั้งชื่อเอาในปีที่สองว่า “Futbol Review”

สวย ๆ งาม ๆ ที่ขอบสนามขอนแก่น

แม็ทช์ขอนแก่น-จุฬา ยูไนเต็ดก็เป็นจุดเริ่มต้นของคน ๆ นึง

พี่ธง ธงชัย สุขโกกี เฮดโค้ชคนใหม่ของเสือสามย่านนั่นไง

หลังจากทีมผู้บริหารพร้อมใจกันลาออกทั้งคณะ ทำให้สต๊าฟโค้ชต้องแสดงสปิริตลาออกไปด้วย ส้มใบใหญ่เลยหล่นมาให้พี่ธงรับติดมือไว้เต็มเปา (แหงแหละ! พี่แกเป็นอดีตผู้รักษาประตูนี่)

“พี่ว่าพี่มีดีเหมือนกันนะ แต่ด้วยสปิริตของการเป็นโค้ช เราจะไปบอกคนอื่นว่าขอผมทำทีมนี้ ๆ ไม่ได้ ที่ได้ทำนี่บางทีอาจจะเป็นการโบ้ยมามั่ว ๆ ไม่รู้หรอกว่าพี่ทำได้หรือเปล่า? แต่กับตัวพี่แล้ว พี่มั่นใจ” อดีตผู้ช่วยโค้ชเสือสามย่านพูดถึงการได้รับโปรโมทตำแหน่งของตนเอง

แต่บททดสอบของอดีตผู้รักษาในตำนานของโรงเรียนเทพศิรินทร์น่ะ ไม่ใช่อะไรที่บางเบา, กระชับ เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย พลิกตัวแล้วไม่ซึมเปื้อน...เอ้ย!นอกเรื่องแล้ว ^^!

เขียนง่าย ๆ ว่า “หนัก” นั่นแหละ เพราะทีมนั้นคือขอนแก่น...แถมยังต้องออกมาเยือนอีก

“สำหรับพี่แล้ว...ไม่หนักใจเลยเพราะเรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่และรู้ว่าเรากำลังจะก้าวไปทางไหน พี่รับประกันได้เลยสำหรับกองเชียร์ ถ้าชอบฟุตบอลสนุกหรือฟุตบอลเอนเตอร์เทน เราจะมีให้ดู” ธงชัย สุขโกกีประกาศกร้าวด้วยความมั่นใจ

นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในการคุมทีมระดับลีกอาชีพของเฮดโค้ชเครางาม แต่ไม่ใช่ครั้งแรกของการคุมทีมฟุตบอลแน่นอนเพราะพี่ธงเคยผ่านการคุมทีมระดับมหาวิทยาลัยมาแล้ว (ม.คริสเตียน)

ส่วนผม นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ต้องเขียนแบบไม่ค่อยมีข้อมูลประกอบมากนักเพราะกระดาษที่ผมใช้จดช็อตโน้ตเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในเกม (ก็ใบรายชื่อทั้งสองทีมนั่นแหละ) ดันหายไปน่ะสิ -*-

เขียนแบบขุดคุ้ยจากความทรงจำก็แล้วกันนะ

เฮดโค้ชคนใหม่กับผู้รักษาประตูสำรอง วัชรพงษ์ กล้าหาญ

ลีลาของพี่ธงที่ม้านั่งสำรอง

ลีลาข้างสนามก็ดูจริงจังไม่เบา

ปรึกษากับพี่เก๋ วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐที่ต้องใช้สรรพนามนำหน้าใหม่เป็นโค้ชเก๋แล้วเพราะเลื่อนชั้นมาเป็นผู้ช่วยโค้ชเต็มตัว

ณรงค์ ท่วมไธสงค์ เฮดโค้ชเจ้าบ้านจัดผู้เล่นลงในสไตล์ถนัด 3-5-2 เปลี่ยนแค่คนเดียวจากนัดเชือดไทยฮอนด้าในศึกเอฟเอคัพเมื่อกลางสัปดาห์ นั่นก็คือส่งอดิศักดิ์ จารัตน์ลงมาเล่นแทนพีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์หลังคู่หน้าอย่างชรินทร์ บุตรฮาดและเอ็นต๊อตหรือที่แฟน ๆ เรียกกันง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า “จอห์น”

ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางอีก 2 คนคือผดุงศักดิ์ กิตติวราพลและกฤษดา เหมวิพัฒน์ วิงแบ็กซ้าย-ขวาเป็นศุภกร ฆารดาและสุรชาติ สิงห์โหง่นตามลำดับ

ปราการหลัง 3 ตัวใช้โรเมโอ ควาเย็ป, วุฒิศักดิ์ คำมูล กัปตันทีมและจัตตุพล สิทธิเลาะยืนขึงอยู่ข้างหน้า “พี่มาร์คสุดหล่อ” ปิยวัฒน์ อินทรพิมพ์

“พี่ชายไอ้มาร์คที่เป็นเพื่อนผมหล่อกว่ามันอีกนะ” คุณเอสคอมเมนท์หลังจากอ่านคอลัมน์ “สุดหล่อดิวิชัน 1” ในหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน

ส่วนจุฬา ยูไนเต็ดนั้น ธงชัย สุขโกกีมีการปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อย หันมายึดระบบ 4-3-3 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากบาร์เซโลนา

“บาร์ซาเล่นแบบไหน จุฬา ยูไนเต็ดจะเล่นแบบนั้น” พี่ธงพูด ทำเอาผมต้องชิงหัวเราะก่อนที่ “คนอื่น” ที่มาอ่านบทความนี้จะทำกันไปก่อน

แต่พอหัวเราะเสร็จปุ๊บ ผมรีบยืนหนุนอยู่ข้างหลังอดีตผู้รักษาประตูโรงเรียนคู่แค้น (กับโรงเรียนของผม) ทันที...พี่ทำให้ได้นะ ผมจะคอยเอาใจเชียร์

ส่วนคนที่กำลังจะคิดหัวเราะเยาะ ก่อนอื่น ช่วยใช้ “บัญญัติไตรยางค์” ให้เป็นประโยชน์หน่อยนะ

ถ้ามีองค์ประกอบระดับโลก บาร์ซาเล่นได้แบบนี้

แล้วถ้ามีองค์ประกอบระดับดิวิชัน 1 เมืองไทย แถมผู้บริหารออกดูจะงง ๆ ซะอีก บาร์ซาจะเล่นได้แค่ไหน

นั่นน่าจะเป็นความหมายของพี่ธงนะ

11 ตัวแรกของเสือสามย่านประกอบไปด้วยพรชัย จันทร์อินทร์เป็นผู้รักษาประตู แผงหลังจากขวามาซ้ายมีประสิทธิ์ เทาดี, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, นันทพล พิบูลย์พลและอดุลย์ หมื่นสมาน กัปตันทีม

แดนกลาง 3 คนมีวัฒนศัพท์ เจริญศรีกับกิตติศักดิ์ ปิ่นทองยืนอยู่ข้างหลังเพลย์เมกเกอร์อย่างอดิศักดิ์ กานู ในขณะที่แดนหน้า 3 คนใช้ดาวเตะตัวเก๋าสารพัดประโยชน์ อุดม จอกรบอยู่ทางขวา, ศูนย์หน้าแคเมอรูน มาลิคอยู่ทางซ้ายและ “เจ้าบี้” ชัยณรงค์ ทาทองยืนเป็นตัวเป้า

นักเตะเจ้าบ้านวอร์มกันอย่างขะมักเขม้น

ผู้เล่นทั้ง 2 ทีมเดินลงสู่สังเวียน

ผู้เล่นทั้ง 22 คนพร้อมลงไล่ล่า 3 แต้มให้กับทีม

จับมือกระชับสัมพันธ์ก่อนเริ่มเกม

อดุลย์ หมื่นสมานแลกธงที่ระลึกกับวุฒิศักดิ์ คำมูล


นักเตะทั้ง 2 ทีมรวมใจกันก่อนเริ่มฟาดแข้ง

โฉมหน้า 11 ขุนพลเสือสามย่าน โดนประกบติดจากสาว ๆ T-Rex Girls

เกมช่วงต้นเป็นไปอย่างสูสี จุฬา ยูไนเต็ดวันนี้มาดีเลยแหละ กล้าเล่น กล้าต่อบอล กล้าต่อกรกับ “ไดโนเสาร์พิฆาต” ชนิดไม่เกรงใจเจ้าบ้านเลย

เสียงเชียร์ของเหล่าแฟน ๆ “เดอะ ที-เร็กซ์” ดังไม่หยุดหย่อน แม้กระทั่งในนาทีที่ 10 ที่มาลิคได้บอลทางด้านซ้ายกระชากขึ้นไปยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำสำเร็จ

ต้องรอจนมาลิควิ่งมาดีใจถึงกลางสนามนั่นแหละถึงจะรู้ว่าทีมรักเสียประตูแล้ว ทำเอาแฟน ๆ เจ้าบ้านเงียบไปวูบนึง ก่อนจะส่งเสียงกันต่อ

ขอนแก่นอาศัยวิงแบ็กคุณภาพระดับคับแก้วทำเกม แต่พอจูนเป้ายังไม่ติด เจ้าโอ๊ตกับเจ้าเชียร์ ปราการหลังทีมเยือนจึงยังไม่เจองานหนักมาก แม้จะออกอาการกระอักกระอ่วนอยู่บ้างเมื่อต้องชนกับศูนย์หน้าร่างใหญ่อย่างจอห์นก็ตาม

กำลังฝันหวานว่าจะเกิดการพลิกล็อกซะแล้ว คู่วิงแบ็กเจ้าบ้านก็แผลงฤทธิ์ทันควันก่อนหมดครึ่งแรก 6 นาที ศุภกรทางฝั่งซ้ายโยนบอมบ์เข้าไป เลยเป้าแต่กลับกลายเป็นดีซะอีกเมื่อบอลไปหล่นใส่เท้า “เจ้าหมีน้อย” สุรชาติทางฝั่งขวาจึงจัดการบอมบ์ใส่หน้าปากประตูจุฬา ยูไนเต็ดอีกครั้ง คราวนี้เป็นโรเมโอที่โถมเข้าโหม่งจมก้นตาข่ายสำเร็จ 1-1 แล้ว

ปราการหลังผู้ยิง 2 นัดติดต่อกันสุดดีใจ ส่วนเจ้าเบิร์ดออกลูกเซ็ง เตะบอลซ้ำใส่ประตูอีกครั้งนึง...แสดงออกให้เห็นว่าผู้รักษาประตูคนนี้มีอารมณ์ร่วมกับเกมไม่น้อย

พอตีเสมอได้กลับกลายเป็นขอนแก่นที่โจมตีได้มากกว่าและมีโอกาสขึ้นนำก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที ศุภกรลุยขึ้นทางซ้าย ก่อนจะตบไปที่หน้าประตู ชรินทร์ ดาวยิงตัวเก่งของเจ้าบ้านโฉบเข้าหาและแปตามน้ำทันที ดีที่พรชัยคว้าไว้ได้ติดมือ

จบครึ่งแรกยังไม่มีทีมไหนเพลี่ยงพล้ำในสกอร์ 1-1

ช่วงพักครึ่งผมออกไปหาอะไรรองท้องสักหน่อย ได้ยินแฟนเจ้าบ้านคนหนึ่งคุยกับเพื่อนว่า

“จุฬา ยูไนเต็ดเสมอกลับไปก็ดีใจตายห่ะแล้ว”

วินาทีคิกออฟเปิดเกมนี้

กานูดวลลูกโหม่งกับผดุงศักดิ์ของเจ้าบ้าน

เจ้าบี้โดนสอยลงไปนั่งกอง

บังดุลเปิดฟรีคิกเข้าไปลุ้น

ชัยณรงค์ตามอัดจนคู่ประกบลงไปกองบ้าง

ประสิทธิ์ออกบอลให้เพื่อน โดยมีอุดมวิ่งอ้อมหลังขึ้นมา

มาลิคกับลีลาดีใจ

โค้ชธงก็ปลื้มกับการขึ้นนำไม่แพ้กัน

ผู้รักษาประตูรูปหล่อของขอนแก่นออกบอลให้เพื่อน

พรชัยป้องกันประตูเต็มที่

ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียว ยังเหิรหาวสวยด้วย แต่ลูกฟรีคิกของกานูนี้ลูกนี้ไม่ตรงกรอบ

กานูงัดลูกข้ามคู่แข่ง

เจ้าเชียร์บังไม่ให้ชรินทร์ ดาวซัลโวเจ้าบ้านเข้าถึงบอล

เฮฮาตามแบบ "ไดโนเสาร์พิฆาต" หลังตีเสมอได้สำเร็จ

เกมครึ่งหลังจากช่วงต้นที่ยังพอฟัดพอเหวี่ยง ยิ่งเล่น ๆ ไปกลายเป็นขอนแก่นที่บุกกระหน่ำได้มากกว่า โดยเฉพาะหลังการเปลี่ยนตัวลงมาของ “จอมโจ๊กเกอร์” ศราวุธ วิเชียร ผู้ทำประตูชัยเมื่อกลางสัปดาห์ โดยลงมาแทนอดิศักดิ์ จารัตน์

ส่วนของทีมเยือนนั้น โค้ชธงส่งอารอนลงมาแทนเจ้าบี้ ตามมาด้วยภาณุวัฒน์ ญาณอัมพรพิพัฒน์ที่ลงมาแทนอดิศักดิ์ กานูที่เจ็บ

ขอนแก่นมีโอกาสขึ้นนำหลายหน สุรชาติมีโอกาสสังหารฟรีคิกครั้งนึง แต่เจ้าเบิร์ดเซฟไว้ได้

จังหวะน่าได้ประตูที่สุดเกิดขึ้นจากการโยนมาทางปีกซ้าย ศราวุธพุ่งเข้าไปโหม่งคนเดียว ถ้าเป็นการ์ตูนซึบาสะ ลูกบอลจะลอยอยู่กลางอากาศในทิศทางที่พุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมประตูแน่ ๆ อยู่ประมาณ 5 นาที ศราวุธก็จะนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็ก ก่อนจะแหกปากในใจว่า “ลูกนี้เพื่อขอนแก่น แก่น แก่นนนนน” (ถ้าทำเสียงเอคโคด้วยจะได้อารมณ์มาก ๆ)

แฟนบอลเดอะ ที-เร็กซ์ก็เช่นกันที่เตรียมตัวเฮกับลูกนี้

แต่...

ทุกอย่างพังทลายลงหมดเพราะการเหิรหาวของเจ้าเบิร์ด พรชัยที่พุ่งไปปัดลูกออกหลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เจ้าเบิร์ดเหมือนจะกลัวไม่คุ้มเงินเดือน เซฟพัลวันอีกประมาณ 2 จังหวะทำให้แฟน ๆ Pink Panther (เอ! มีในสนามด้วยหรอ...อ้อ! มีประมาณ 2 คนคือเจ้าทีม บก.นิตยสาร “เสือสามย่าน” กับเพื่อน) เริ่มมั่นใจว่าวันนี้มี 1 แต้มกลับบ้านแน่ ๆ

แต่แล้วช่วงก่อนหมดเวลา 5 นาที จากลูกคอร์เนอร์ทางปีกซ้าย วิงแบ็กขวาอย่างเจ้าหมีน้อย สุรชาติเลยเดินไปรับหน้าที่ บอลโค้งพุ่งเข้าหาประตูเสือสามย่าน แต่พรชัยยืนอยู่ตรงนั้นเรียบร้อย น่าจะรับเข้ามือได้ไม่ยาก ใครจะไปเชื่อล่ะว่าวินาทีต่อมาบอลลูกนั้นกลับปลิ้นหลุดเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้

เจ้าหมีน้อยสะใจสุดขีด วิ่งมากระโดดชูกำปั้นแสดงอารมณ์กับแฟน ๆ เจ้าบ้านเต็มที่ ถึงจะเล่นวิงแบ็กขวา แต่นี่คือประตูที่ 5 ในฤดูกาลนี้ของเขาแล้ว ไม่มากไม่มายเท่าไหร่ แค่ยิงได้เท่ากับดาวซัลโวประจำทีมอย่างชรินทร์ บุตรฮาดเท่านั้นเอง

“ขอโทษพี่ ผมขอโทษ” เจ้าเบิร์ดเอ่ยวลีแรกแบบนี้เมื่อเห็นผมเดินเข้าไปทักหลังจบเกม โดยที่ยังไม่รู้ว่าผมจะคุยเรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ

ช่วงท้ายเกม จุฬา ยูไนเต็ดมีโอกาสตีเสมอแบบน่าได้ที่สุด จากลูกที่ผู้รักษาประตูรูปหล่อของเจ้าถิ่นออกมาโหม่งเคลียร์ไม่ขาด นันทพลหนุนบอลเข้าไปใหม่อีกครั้ง ลูกบอลไปเข้าเท้าภาณุวัฒน์ เจ้าปอจับ พลิก บรรจงยิงเดี่ยว ๆ คนเดียว น่าเสียดายที่บอลกลับหลุดกรอบไปแบบไม่น่าเชื่อ

“ผมเห็นกองหลังเค้าบังอยู่ทางนึงแล้ว เลยลองยิงไปอีกทาง น่าเสียดาย” เบบี้ เฟซสารภาพหลังจบเกม

ช่วงท้ายเกม โค้ชธงเปลี่ยนไมตรี กุหลาบขาวลงมาแทนอุดม แต่ไม่สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าอะไรเกมได้ จุฬา ยูไนเต็ดจึงต้องยอมรับผลพ่ายแพ้ไป 1-2 พร้อมกับจมอยู่ในตำแหน่งรองบ๊วยต่อไป

กิตติศักดิ์ตั๊นกับศุภกร

อภิวัฒน์ประกบจอห์นอย่างเต็มที่

เพื่อนเข้าไปห้ามอดิศักดิ์ จารัตน์ที่จะเข้าไปเอาเรื่องวัฒนศัพท์

อารอนเปลี่ยนตัวลงมาแทนเจ้าบี้

พรชัยเซฟลูกอันตรายลูกนี้ข้ามคานได้สำเร็จ

เจ้าเบิร์ดออกบอลให้เพื่อน

กานูถูกหามออกแล้วเปลี่ยนเอาภาณุวัฒน์ลงไปแทน

อารอนดวลลูกโหม่งกับโรเมโอ

ศราวุธถึงกับงงว่าลูกโหม่งของเขาไม่เป็นประตูได้ยังไง?

สุรชาติบอมบ์ฟรีคิกใส่ปากประตูเสือสามย่าน

สุรชาติและวัฒนศัพท์ชิงเหลี่ยมเล่นบอล

โรเมโอตามมาประกบอารอนอีกช็อตนึง

เจ้าเบิร์ดผวาเซฟสุดชีวิต

แต่สุดท้ายก็มาพลาดจากจังหวะคอร์เนอร์ลูกนี้

“เกมวันนี้ค่อนข้างกดดันเพราะเรามีเกมกลางสัปดาห์มา ก็ต้องขอบคุณนักบอลของเราที่ทุ่มเทกันเต็มที่ ขอบคุณแฟนบอลและบอร์ดบริหารที่คอยให้กำลังใจตลอด รวมทั้งเหล่าสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนด้วย” ณรงค์ ท่วมไธสงค์ให้ความเห็นอารมณ์เดียวกับการได้รับรางวัลออสการ์ ก่อนจะเผยถึงเรื่องเกมการแข่งขันต่อว่า

“การที่โดนนำไปก่อนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ ผมมองว่าเป็นเรื่องของเกมฟุตบอล มันยังเหลือเวลาอีกเยอะด้วย อยู่ที่ว่าเราจะเข้าสู่เกมได้เร็วแค่ไหน ถ้าเด็กเราคุมอารมณ์ได้ ผมว่าเราก็จะกลับมาได้เร็ว”

ส่วนทางฝั่งผู้แพ้นั้น ธงชัย สุขโกกีบอกว่า “เรามีการปรับระบบการเล่นใหม่นะ รูปเกมโอเค มันกำลังจะเป็นไปตามรูปแบบที่เราต้องการ ทำเกมได้ดี แต่เนื่องจากเราซ้อมมาน้อย แล้วก็ทนแรงกดดันจากกองเชียร์ของเค้าไม่อยู่จริง ๆ เค้ารุกเร้าอย่างเต็มที่เลย แต่เด็ก ๆ ก็มีเลือดนักสู้ดี สู้มากกว่าทุกนัด เสียดาย แต่นัดต่อไปต้องดีกว่านี้”

ที่ว่า “ซ้อมน้อย” ก็เพราะเหตุผลที่เรารู้ ๆ กันดีนั่นแหละ สัปดาห์ที่แล้วจุฬา ยูไนเต็ดภายใต้การฝึกสอนของอดีตผู้รักษาประตูคนนี้จึงมีเวลาซ้อมแค่ 3 วัน ซึ่งมันน้อยเกินไปที่นักเตะจะซึมซับระบบที่โค้ชธงอยากจะใส่ลงไปใหม่

“เกม 30 นาทีแรกนั่นแหละคือจุฬา ยูไนเต็ดที่พี่อยากให้เป็น แต่พอซ้อมน้อย นักเตะหมดเร็ว พอเหนื่อยพวกเขาก็หันไปใช้ความเคยชินในการเล่นแบบเดิม ๆ เกมจึงกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก แต่ถ้าสัปดาห์หน้าเราได้ซ้อมเยอะขึ้น ให้พี่ได้เติมระบบนี้ใส่หัวนักบอลเรื่อย ๆ รูปแบบใหม่นี้จะกลายเป็นความเคยชินของพวกเค้า แล้วตอนนี้ถ้าเหนื่อย พวกเค้าก็จะเล่นด้วยระบบใหม่ได้เองโดยอัตโนมัติ ขอให้มาพิสูจน์ในแม็ทช์หน้าได้เลย แล้วพี่ขอเวลาอีก 2-3 นัด ถ้าเรายังเล่นไม่ดีขึ้น มาโห่พี่ได้เลย” ธงชัย สุขโกกีประกาศด้วยความมั่นใจ

เฮดโค้ชทั้ง 2 ฝั่งจับมือกันหลังจบเกม

นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดเข้าไปแสดงความเคารพทีมงานสต๊าฟโค้ชขอนแก่น

ขุนพลเดอะ ที-เร็กซ์ขอบคุณแฟน ๆ ที่มาให้กำลังใจ

อันดับ 15 จาก 16 ทีมที่ทีมยืนอยู่ เป้าหมายของจุฬา ยูไนเต็ดน่าจะเป็นการหนีตกชั้นซะมากกว่า แต่โค้ชป้ายแดงคนนี้กลับไม่คิดแบบนั้น

“โค้ชบางคนอาจจะถ่อมตัว แต่สำหรับพี่แล้วไม่ใช่แบบนั้น ถ้าพี่มั่นใจ พี่ก็จะพูดออกไป ทุกนัดนี่ พี่วางเป้าหมายไว้แล้วว่าเราจะทำให้ได้กี่แต้ม แล้วถ้าเราทำได้แบบที่พี่วางเป้าหมายไว้หมด เราจะจบที่เลขตัวเดียว จากนั้นค่อยไปสปีดในเลกสอง” พี่ธงแสดงทัศนะ

ด้วยความเป็นคนที่เชื่อคนง่าย ผมลืมความ “หมดศรัทธา” ที่ก่อขึ้นในใจเล็ก ๆ หลังวันเสมอไทยฮอนด้าซะจนหมดสิ้น วันนั้นผมกลับบ้านพร้อมกับงุนงงกับเป้าหมายของจุฬา ยูไนเต็ด แต่ได้คุยกับพี่ธงวันนี้ เป้าหมายที่เสือสามย่านจะพุ่งทะยานไปนั้น...เริ่มมองเห็นราง ๆ แล้ว

“วันนี้มีพี่ ๆ น้อง ๆ กองเชียร์มาด้วย แม้จะไม่เยอะ แต่ก็ขอขอบคุณนะ ผมอยากพูดกับพวกคุณหน่อยซึ่งเป็นน้อง ๆ ของผมกันทั้งนั้น พวกคุณมั่นใจและสบายใจกันได้เลยว่าจุฬา ยูไนเต็ดจะมีการปรับและเป็นการปรับไปในทางที่ดีแน่นอน คุณอย่าเพิ่งท้อ ผมพูดคุยกับน้อง ๆ นักบอลแล้ว เราจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน อย่างน้อยเรื่องตกชั้น...เราไม่พูดถึงอยู่แล้ว เราไม่มีทางตก เป้าหมายสูงสุดของเราคือเราจะขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก! โอเคนะครับ” ธงชัย สุขโกกีฝากบอกถึงแฟน ๆ Pink Panther ทั่วสารทิศ

นั่นคืออนาคตของทีมในกำมือของโค้ชร่างโย่ง แล้วอนาคตของตัวเขาเองล่ะ?

“อยากคุมทีมยาว ๆ ไหม? แล้วแต่นะ ถ้าผลงานดี พี่เชื่อว่าคงได้คุมทีมต่อเองโดยอัตโนมัตินั่นแหละ แต่ปรกติถ้าพี่ทำงานอะไรก็จะเต็มที่กับงานเสมอ งานนี้มันก็เหมือนงานของบ้านที่เราอยู่มานาน เป็นงานในครอบครัว...ซึ่งเราต้องเต็มที่กว่าเดิมซะอีก” ธงชัย สุขโกกีเผยความในใจ

เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง...คงใช้ไม่ได้กับเฮดโค้ชป้ายแดงคนนี้

แต่...”ต้นร้าย ปลายดี” ก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ นี่นะ

Create Date : 27 พฤษภาคม 2553		1 comments
Last Update : 27 พฤษภาคม 2553 10:47:29 น.
Counter : 1635 Pageviews.
Share Tweet