Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ขบวนการแว่นสีชมพู

ไทยลีก ดิวิชัน 1
24 เม.ย.53 สนามกีฬามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
นครปฐม 0-0 จุฬา ยูไนเต็ด


จุ๊ ๆ ถึงจะใช้มุก “เฟซบุ๊ค” เปิดเรื่องติดต่อกัน 2 ตอนรวด แต่ผมยังยืนยันครับว่า

“เค้าไม่ได้ติดเฟซบุ๊คนะ” ^^!

ก่อนวันแข่งนครปฐม-จุฬา ยูไนเต็ด ผมแอบไปเห็นอัพเดทเฟซบุ๊คของโต ชัยอนันต์ สร้อยจำปา ท่านผู้จัดการทั่วไปของเสือสามย่าน มีภาพแว่นตาในกรอบสีชมพูสดใสหลากหลายแบบวางเรียงรายกัน พร้อมกับโพสต์ข้อความไว้ว่า

“When Pink attacks Nakorn Pathom”

ไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้น

แต่วันต่อมา แว่น 10 อันนั้นกลับนอนกองอยู่ในถุงกระดาษที่โตยื่นให้บนรถตู้พร้อมกับบอกว่า

“อย่าดูก่อนนะ จับได้อันไหนใส่อันไหน แว่นมันจะเลือกเจ้าของของมันเอง”

แล้วสมาชิกทั้ง 10 คนในรถก็ได้จับจองแว่นตากรอบชมพูคนละอัน (ยกเว้นท่านผู้จัดการทั่วไป ที่รับบทหัวโจกกองเชียร์ด้วยอีกจ๊อบนึง ที่ยังใส่แว่นดำอันเก่งของตัวเองต่อไป)

“คนขายมันคงคิดนะว่า ใครมันจะบ้าใส่แว่นตาสีชมพู” ใครสักคนหน้ารถพูดขึ้น

แว่นสีชมพูเหล่านั้นส่วนใหญ่ติดกระจกดำ มีกระจกใสเพียงอันเดียว...ซึ่งผมได้เป็นเจ้าของ

“พี่ต้องลงไปถ่ายรูป ทำข่าว พี่ใส่อันใสแหละดีแล้ว”

มีแว่นตาอีกอันไม่ได้ติดทั้งกระจกดำหรือกระจกใส แต่ดีไซน์ให้เป็นช่อง ๆ เหมือนบานเกล็ด ทำเอาเจ้าของแว่นบ่น

“มันก็ดีไซน์เก๋ดีนะ แต่พอใส่แล้ว มองยากฉิบ...”

ผมหยิบแว่นสีชมพูบานใสขึ้นมาใส่ มันไม่ได้ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นหรอกเพราะมันเป็นกระจกใสธรรมดา แต่กลับเห็นภาพในอดีตชัดขึ้นเหมือนกันนะ...




นี่แหละขบวนการแว่นสีชมพู

บูธของที่ระลึกของทีมนครปฐม

พริตตี้ของฮอนด้า ผู้ร่วมสนับสนุนของทีมเจ้าบ้าน


22 สิงหาปีที่แล้ว รถตู้เก่า ๆ ที่มีดีกรีเป็นถึง “รถตู้ของคุณพันเลิศ ใบหยก” เชียวนะ แล่นออกจากจุฬาฯตอนบ่ายสามเศษ ๆ เพราะไอ้ดัมมี่ ดาราประกอบยอดเยี่ยม (หรือป่าววะ?) ในบท “ฟุเหยิน” จากหนังเพื่อนสนิทดันมาสาย

ก่อนไปถึงสนาม มีข่าวแจ้งว่าที่สังเวียนแข่งถูกพายุกระหน่ำจนต้องพักเกมชั่วคราว

เราไปถึงสนามเมื่อเกมกลับมาเตะใหม่ได้หลายนาทีแล้ว ไม่นานนักเจ้าบ้านก็เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน แต่เกมครึ่งหลังกลายเป็นจุฬา ยูไนเต็ดที่เล่นดีกว่า พลิกสถานการณ์กลับขึ้นมานำ 2-1 ก่อนจะลงท้ายด้วยการโดนตีเสมอในนาทีที่ 95 อย่างสุดเจ็บแสบ

ที่ว่าแสบเพราะเกมนั้นชูป้ายทดเวลาแค่ 4 นาทีเท่านั้น! -*-

“ปีที่แล้ว...ไม่มีคำบรรยายจริง ๆ ถ้าถามแค่เรื่องเกม ผมไม่ซีเรียส แต่ถ้าดูจากกรรมการหรืออะไรหลาย ๆ อย่าง...มันก็ไม่น่าพอใจ ถ้าวันนั้นเราได้ 3 แต้มมันก็จะกลายเป็นจุดเปลี่ยน แทนที่เราจะมีคะแนนพุ่งขึ้นมา มันก็อยู่กับที่ ส่งผลตามมาพอสมควร” อดุลย์ หมื่นสมาน แบ็กซ้ายตัวเก๋าที่อยู่ในทีมเมื่อปีที่แล้วรำลึกความหลัง

ปีนี้รถตู้คันใหม่ออกจากจุฬาฯเร็วกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะคนที่มาสายเมื่อปีที่แล้วย้ายไปทำงานก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ที่เชียงใหม่แล้วก็ได้ ^-^ ตอนนี้มันมี “กิ๊ก” ใหม่แล้ว...เอ่อ ผมหมายถึงทีม “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซีน่ะ

ปีนี้ไม่มีพายุกระหน่ำ มีเพียงฝนตกโปรยปรายในตอนเช้าเท่านั้น

ถ้าจะมีพายุก็น่าจะเป็น “พายุแห่งผลงาน” เท่านั้นแหละที่กระหน่ำขุนพลเสือสามย่าน จุฬา ยูไนเต็ดซะจนลงไปนอนหมอบอยู่ท้ายตาราง ทั้ง ๆ ที่ก่อนแข่งทีมชุดนี้ได้รับการคาดหมายว่าจะกลับคืนสู่ลีกสูงสุดได้

หรือบางทีก็อาจจะเป็น “พายุแห่งความกดดัน” ที่ถาโถมโจมตีซะจนเหล่านักเตะจุฬา ยูไนเต็ดยกแข้ง ยกขาไม่ออกก็ได้

พอไปถึงสนามแล้ว ผมขอแยกตัวกับ “ขบวนการแว่นสีชมพู” คนอื่น ๆ เพื่อเก็บภาพและบรรยากาศอยู่ข้างสนาม

“เป็นกัปตันทีมแล้วหรอ?” เจ้าเอ็ม เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ อดีตนักเตะจุฬา ยูไนเต็ดของทีม “หมูป่า” เจ้าบ้านทักทายเมื่อเห็นเจ้าโอ๊ต อภิวัฒน์ งั่วลำหินเดินนำลูกทีมมารายงานตัวกับกรรมการ

หลังจากนั้นอดีตนักเตะ Pink Panther หมายเลข 35 เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็เข้าสวมกอดกับเพื่อนเก่าหลาย ๆ คนเช่นอารอน, อดุลย์ หมื่นสมาน เป็นต้น

“รู้สึกดีที่ได้เจอทีมเก่านะ มันก็เหมือนนักเตะทุกคนนั่นแหละ ที่เวลาเจอทีมเก่าก็อยากจะเล่น อยากจะวิ่ง อยากจะโชว์” เฉลิมศักดิ์เปิดใจ

บังดุลวันนี้พ้นโทษแบนกลับมาประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม เขาอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องนี้ว่า

“เราใช้โชคลางนิดนึง...คือผมใส่ปลอกแขนกัปตันทีมมาตั้งแต่ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วตอนปลาย ๆ ซึ่งยังไม่เคยชนะได้เลย พอโอ๊ตใส่นัดที่แล้ว แล้วชนะได้ ก็เลยคิดว่าให้น้องมันใส่ไปยาว ๆ เลยดีกว่า จะได้เป็นขวัญกำลังใจให้ทีมได้”

นอกจากบิ๊กบังในตำแหน่งแบ็กซ้ายแล้ว แผงหลังคนอื่นประกอบไปด้วยอุดม จอกรบที่วันนี้โยกมายืนด้านขวาแทนประสิทธิ์ เทาดีที่บาดเจ็บ ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้กัปตันโอ๊ตและไมตรี กุหลาบขาว มีพรชัย จันทร์อินทร์เฝ้าเสาอยู่ด้านหลัง

เขยิบขึ้นมาที่แดนกลางประกอบไปด้วยคนหน้าเดิม ๆ ทั้งนั้น อดิศักดิ์ กานู, วัฒนศัพท์ เจริญศรี, กิตติศักดิ์ ปิ่นทองและศรันย์ สมิงชัย คู่หน้าเป็นคู่หูต่างชาติ อารอนและมาลิค ปล่อยให้ “แฮท-ทริก ฮีโร” เมื่อนัดก่อนจับเจ่าอยู่ที่ม้านั่งสำรองรอลงไปเป็นซูเปอร์ซับ

กองเชียร์ Pink Panther ไม่มีไอ้ดัมมี่ เจ้าของท่าแซว “กำมือแล้วสาวขึ้น-ลง” ยามนักเตะคู่แข่งเล่นผิดพลาด แต่กับนักเตะนครปฐมแล้ว พวกเขามีดัมมี่ยืนเป็นศูนย์หน้า เขาคือภูวดล สุวรรณชาติซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องการย้ายทีมอยู่...แต่คงไม่ใช่กับจุฬา ยูไนเต็ด

“สโมสรไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะส่งหนังสือฟ้องทีมนครปฐมในเรื่องนี้นะ เนื่องจากบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ฝ่ายจัดการแข่งขันอนุญาตให้นักเตะรายนี้ลงสนามได้แล้ว ซึ่งจุฬาเองก็ต้องน้อมรับกฏระเบียบ อีกทั้งทางจุฬาและนครปฐมก็มีความใกล้ชิดกันดีและรู้จักมักคุ้นกันอยู่แล้ว เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้เราไม่เก็บมาคิดแน่นอน” พี่เต็ง มนตรี เครือวัลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมเสือสามย่านสัมภาษณ์ไว้กับ //www.thaileagueonline.com

นครปฐมใช้เจ้าดัมมี่ยืนเป็นศูนย์หน้าคู่กับอดีตจอมโขกแห่งราชประชา-นนทบุรีอย่างโคเน ฟรานซิส โดยมี “ไมเคิล เบิร์นคนใหม่” อย่างลี ทุคคอยเปิดป้อนให้ทางขวา ส่วนด้านซ้ายใช้วิทยา นนทะลี คู่กลางเป็นอดิศร แดงเรืองและรัชพล นาวันโน

แดนหลังของเจ้าบ้านดูแกร่งไม่น้อยเมื่อได้อดีตกัปตันทีมเยาวชนไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปีอย่างเฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้มาจับคู่กับธนสิทธิ์ ทองอินทร์ซึ่งเป็นกัปตันทีม ขนาบข้างขวา-ซ้ายด้วยชอย วัน เจือนและธนากร ขำโขมะ โดยมีมานะ นพเนตรเป็นผู้รักษาประตู




อภิวัฒน์นำทัพไปรายงานตัว

อารอนกอดกับเฉลิมศักดิ์เพื่อนเก่า

อดุลย์ขอกอดบ้าง

ผู้เล่นทั้งสองทีมเดินลงสู่สนาม

นี่เป็นช่วงกลาง ๆ แถว ไมตรี, มาลิค, กานู

กัปตันโอ๊ตพาลูกทีมจับมือทักทายนักเตะเจ้าบ้าน

ธนสิทธิ์ ทองอินทร์แลกธงกับอภิวัฒน์ งั่วลำหิน


ผมเหลือบไปมองที่ม้านั่งสำรองของจุฬา ยูไนเต็ด เห็นพี่แต้ กฤษฎา สัจจกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่วันนี้มาในเสื้อเชิ้ตโทนสีเบจ ไม่ใช่สีชมพูตัวเก่งเหมือนเดิม จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จุฬา ยูไนเต็ดแซงขึ้นนำ 2-1 นั้น ผมยังกอดคอกับพี่แกบูมให้ทีมอยู่เลย

พี่แต้มักจะส่งเสียงดังกระตุ้นนักเตะของทีมอยู่เสมอ...ในฐานะกองเชียร์คนหนึ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

กับบทบาทข้างสนามในฤดูกาลนี้ เขาก็ยังทำเหมือนเดิมเป๊ะ คอยสั่ง คอยบอก คอยกระตุ้นนักเตะอยู่เสมอ เป็นคนที่เสียงดังที่สุด ออกเสียงบ่อยที่สุดในม้านั่งสำรองแล้วแหละ




11 นักเตะตัวแรกของนครปฐม

11 ตัวแรกของจุฬา ยูไนเต็ด

แฟนบอลเจ้าถิ่นชมเกมแบบชิดขอบสนาม


เกมครึ่งแรกเป็นเกมที่สูสีกันไม่น้อย จุฬา ยูไนเต็ดครองบอล ต่อเกมกันได้ดี แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ค่อยเด็ดขาดเท่าไหร่ มาลิค ศูนย์หน้าแคเมอรูนที่บาดเจ็บไป 4 แม็ทช์ พอได้กลับมาเหมือนจะพยายามพิสูจน์ตัวเองยกใหญ่ หลาย ๆ จังหวะเขาพยายามเล่นเอง ทำให้เกมในแดนหน้ายังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่

ในขณะที่เจ้าบ้านนั้น ลี ทุคแสดงให้เห็นว่าที่แฟน ๆ “ฮันเตอร์” ปั้นให้เขาเป็น “นิว เบิร์น” นั้นไม่ใช่เรื่องเกินเลย นักเตะอังกฤษคนนี้ลากบอลกดดันแผงหลังทีมเยือนได้ รวมทั้งเปิดบอลได้คมด้วย เปิดให้เจ้าดัมมี่ได้โขกอยู่ครั้งนึง แต่กลับไม่ตรงกรอบ

ผ่าน 20 นาทีไป นครปฐมพยายามปรับเกมใหม่ด้วยการสลับข้างระหว่างทุคและวิทยา แต่ยังไม่สามารถกดดันแผงหลังสีชมพูได้มากนัก

นักเตะเด่นอีกคนของนครปฐมก็คือโคเน ฟรานซิส ผมเคยเห็นเขาเล่นให้กับทีมตราชฎา ราชประชา-นนทบุรีเมื่อฤดูกาลก่อนในศึกเอฟเอคัพกับสุรินทร์ ยังไม่ค่อยมีอะไรเลย นอกจากใช้ความใหญ่กดดันแผงหลังคู่แข่ง รวมทั้งคอยโหม่งทำทางให้เพื่อนเท่านั้น...แต่ไม่มีประสิทธิภาพมาก

แต่วันนี้เขาครบเครื่องจริง ๆ นอกจากใช้ความสูงใหญ่ให้เป็นประโยชน์แล้ว เกมภาคพื้นดินก็ดูดีเลยแหละ มีอยู่ช็อตนึงที่ดีดส้นแบบไขว้ ๆ ให้เพื่อนได้แบบเหนือ ๆ อีกด้วย

จังหวะน่าจะเป็นประตูที่สุดในครึ่งแรกของเจ้าบ้านน่าจะเป็นการยิงฟรีคิกระยะไกลของเฉลิมศักดิ์นั่นแหละ ได้ยินเสียงพี่แต้ตะโกนตอนกำลังตั้งลูกว่า

“เบิร์ด ระวังนะเค้ายิง”

เจ้าเอ็มยิงจริง ๆ บอลพุ่งวาบ แต่ไม่ฉีกมุม แล้วก็ไม่แรงมาก พรชัยจึงเซฟเข้าซองสบาย ๆ

ส่วนโอกาสเสียวของทีมเยือนเป็นของมาลิคที่กระชากบอลเข้าไปเองทางด้านขวา แต่กลับยิงออกไปทางเสาสอง

จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ช่วงพักครึ่งผมออกมาเดินดูบรรยากาศหน้าสนาม แฟนบอลเจ้าบ้านคนหนึ่งเดินมาทักทายผม

“ตกชั้นมาด้วยกัน ขึ้นชั้นไปด้วยกันก็แล้วกันนะ” แกทักแบบนี้

ผมอมยิ้ม คิดในใจว่า “ได้เลยครับ ถ้าจุฬา ยูไนเต็ดขึ้นชั้น...จะขึ้นไปกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่อันดับในตารางตอนนี้ ถ้าจะให้ดีขึ้น วันนี้ผมขอชนะทีมพี่ได้ไหมล่ะ?”

ไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ กลับถามอย่างอื่นแทน

“ปีนี้นครปฐมเล่นดีไหม? เห็นว่ายังไม่แพ้”

“นัดนี้เล่นไม่ดี หนืดไปหน่อย” เขาตอบแบบไม่ตรงคำถามมาก ประมาณว่าให้ผมคิดเองนิดนึงละกัน




วินาทีเริ่มเกมนี้

กานูกับอุดมประสานงานกันทางขวา

อุดมผ่านบอลต่อหน้าต่อตารัชพล

กัปตันโอ๊ตตามสกัดเจ้าดัมมี่ นักเตะเจ้าปัญหา

ไมตรีขึ้นแย่งลูกโหม่งกับโคเน

กานูถูกอดิศรหนุนซะตัวลอย

ศรันย์บล็อกลูกเปิดของดาวเตะเกาหลี

มาลิคตามลงมาสอยโคเน

ธนากรทิ้งตัวสกัดอุดม

ลีลาการพักบอลด้วยอกของกานู

มาลิคชิงเหลี่ยมกับธนากร

กานูดวลลูกโหม่งกับอดิศร

กานูทิ้งตัวสกัดลี ทุค


ครึ่งหลังอ.ชนะ ยอดปรางค์ เฮดโค้ชจุฬา ยูไนเต็ดปรับหมากทันที ส่งรองดาวซัลโวดิวิชัน 1 อย่างชัยณรงค์ ทาทองลงไปแทนอดิศักดิ์ กานู โดยให้เจ้าบี้เล่นทางด้านขวา

“กานูเจ็บที่เข่า...แต่คงไม่มาก เราอยากให้เค้าสมบูรณ์ ไม่อยากให้เจ็บมากไปกว่านี้” โค้ชชาวสุพรรณฯบอกเหตุผล

เกมในครึ่งหลัง ดูทั้ง 2 ทีมสร้างโอกาสหวาดเสียวได้มากกว่าในครึ่งแรก นาทีที่ 56 อดุลย์โยนคอร์เนอร์ให้กิตติศักดิ์โหม่ง แต่ก็ข้ามคานไป

คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟเจ้าบ้านมาได้ใบเหลืองติด ๆ กัน 2 ใบรวด ธนสิทธิ์ กัปตันทีมโดนก่อน ตามมาด้วยเฉลิมศักดิ์

นาทีที่ 67 ชัยณรงค์ร้องบอก “เอาบ้างฮี่” สอยคู่แข่งพร้อมกับรับใบเหลืองไป

เจ้าบ้านพยายามปรับเปลี่ยนเกมของตนเองด้วยการส่งอังเดร นักเตะผิวสีลงมาแทนทุค นักเตะผิวขาว ตามมาด้วยการส่งปริญญา อู่ตะเภาลงมาแทนโคเน ฟรานซิส เป็นการปรับเปลี่ยนเกมรุกทั้ง 2 ตำแหน่ง แสดงให้เห็นว่าหวัง 3 แต้มเต็มที่

นาทีที่ 73 แฟน ๆ Pink Panther ร้องด้วยความเสียดายกันลั่น จากลูกที่เปิดโค้งเข้าไป มานะออกมาแต่พอเหลือบเห็นว่าอาจจะเลยเส้นเขตโทษได้ เลยใช้หัวโหม่งสกัด บอลไปตกเข้าเท้าของมาลิค แต่ศูนย์หน้าแคเมอรูนกลับงัดไปชนคานซะงั้น

ถัดมาอีกนาทีเดียวเสือสามย่านได้โอกาสจะจะอีกครั้ง ชัยณรงค์หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับมานะ แต่กลับยิงข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อ

11 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านน่าได้ประตูแบบสุด ๆ เหมือนกันเมื่อเจ้าดัมมี่ ภูวดล สุวรรณชาติได้โหม่ง บอลกำลังจะย้อยเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่พรชัย ผู้รักษาประตูเสือสามย่านทำได้สวยกว่า ดีดตัวปัดบอลออกหลังไปได้แบบ “ถูกสุด ๆ”...ก็ “ซูเปอร์เซฟ” ไง

ถัดมาอีก 2 นาที นครปฐมใช้ลูกโหม่งโจมตีทีมเยือนอีกครั้ง แต่คราวนี้โหม่งออกไป

ช่วงท้ายเกม จุฬา ยูไนเต็ดปรับมาเล่น 4-3-3 โดยมาเห็นชัดเจนเมื่อเปลี่ยน “เบบี้ เฟซ” ภาณุวัฒน์ ญาณอัมพรพิพัฒน์ลงมาแทนศรันย์ พร้อมกับเสียงตะโกนสั่งของสต๊าฟโค้ชบอกให้กิตติศักดิ์เล่นแผงกลางทางด้านขวา แล้วให้เจ้าปอที่ลงมาใหม่ยืนคุมเป็นตัวกลาง

3 นาทีสุดท้าย กัปตันโอ๊ตได้รับใบเหลืองเป็นใบที่ 4 ของเกม

นาทีที่ 89 อารอนมีโอกาสสับไกเต็ม ๆ แต่ถูกปฏิเสธโดยมานะ นพเนตร

ช่วงทดเวลาเจ็บนาทีสุดท้ายอดุลย์โยนลูกฟรีคิกเข้าไปลุ้น แต่ชัยณรงค์กลับโหม่งไม่ตรงกรอบซะอีก หมดเวลาจึงแบ่งกันไปทีมละแต้ม เสมอกัน 0-0




กิตติศักดิ์กุมหัวด้วยความเสียดายที่โหม่งไม่ตรงกรอบ

พรชัยถูกโคเนชาร์จซะตัวลอย

ยักษ์โคเนถูกเปลี่ยนตัวออก

ภาณุวัฒน์เปลี่ยนตัวลงมาแทนศรันย์

เจ้าเอ็มถีบหน้าเจ้าบี้

มานะเซฟลูกยิงของอารอนในช่วงท้ายเกม


“ของเราน่าจะได้หลายลูกเลย แต่จังหวะและดวงไม่ค่อยดี” คุณสถิตย์ ทวีนุช ผู้จัดการทีมหมูป่าเขี้ยวตันเผยความรู้สึก “สองแม็ทช์หลังเราฟอร์มไม่ดีเท่าที่ควรนะ โดยเฉพาะนัดนี้ไม่ดีเลย น่าจะดีกว่านี้ เราเล่นไม่ได้ตามที่ซ้อม ซ้อมอย่าง เล่นอย่าง ไม่ได้มาตรฐาน น่าเสียดาย”

ส่วนเฉลิมศักดิ์ที่ช่วยขึงแผงหลังให้ทีมได้อย่างแข็งแกร่งบอกว่า “เหนื่อยมากวันนี้ ถามว่าเกมดีไหม? ก็ดีในระดับนึงนะ แต่มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์และสภาพสนาม ส่วนทีมจุฬา ยูไนเต็ดวันนี้มาดีมาก ๆ ผลเสมอผมก็โอเคนะ เพียงแต่ถ้ามองว่าเล่นในบ้าน มันก็อยากได้ 3 แต้มมากกว่า”

ฝั่งทีมเยือนนั้น อ.ชนะก็ออกอาการเสียดายไม่น้อยไปกว่ากันเลย “โอเคนะ ก่อนมาเราหวังแค่ 1 แต้มก็พอ แต่พอเล่นจริง ๆ แล้ว รู้สึกเสียดาย 3 แต้มเหมือนกัน เด็ก ๆ ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะแดนกลางที่เราเตรียมมาแล้วว่าจะเล่นยังไง เพียงแต่บางจังหวะเราไม่มีโชค”

ในขณะที่อดุลย์ให้ความเห็นว่า “พูดจริง ๆ ใคร ๆ ก็ต้องอยากได้ 3 แต้มอยู่แล้ว แต่ได้มา 1 มันก็โอเค เริ่มมีแต้มทุกแม็ทช์แบบนี้ มันก็แสดงให้เห็นถึงการพัฒนา รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย”

อารมณ์หลังจบเกมวันนี้ช่างคล้าย ๆ กับเมื่อปีที่แล้วไม่น้อย...เสียดาย

เพียงแต่มันเป็นความเสียดายคนละแบบ

ปีที่แล้วเป็นความเสียดายที่น่าหงุดหงิด ไม่รู้จะโทษแว่นตาหรือนาฬิกาของคุณปรีชา กางรัมย์ ผู้ตัดสินในวันนั้นดีที่ปล่อยให้เวลาเดินต่อไปทั้ง ๆ ครบ 4 นาทีแล้ว แถมยังมาเป่าลูกโทษในแบบที่ไม่เห็นจะฟาวล์ตรงไหนซะอีกจนเป็นที่มาของลูกตีเสมอ

ข้อแนะนำสำหรับคุณปรีชาก็คือ...น่าจะไปตัดแว่นที่ท็อปเจริญช่วงเดียวกับที่ผมตัด (เนื้อที่โฆษณา) เพราะโปรโมชันตอนนั้นคือ “ซื้อแว่น แถมนาฬิกา”

ส่วนปีนี้มันเป็นความเสียดายที่เสียด๊าย เสียดาย ในเมื่อนครปฐมไม่ได้โชว์ฟอร์มน่ากลัวอย่างที่คิดไว้ในใจตอนแรกเลย การเก็บได้แค่แต้มเดียว มันจึงเหมือนการเสีย 2 แต้มซะมากกว่า




เหล่านักเตะหมูป่าเขี้ยวตันมาแสดงความเคารพอ.ชนะ ยอดปรางค์

นักเตะเสือสามย่านมาปรบมือให้แฟน ๆ Pink Panther


หลังจากที่ใช้ “แว่นสีชมพู” มองอดีตแล้ว หลังจบเกมถ้าลองใช้แว่นนี้มองอนาคตกันบ้างล่ะ...ใครจะเห็นอะไรบ้าง?

“ผมว่าถ้ามาสปีดนี้ เราจะได้แค่ที่ 10 นะ” ผู้จัดการทั่วไปของจุฬา ยูไนเต็ดเปิดประเด็นก่อน

“กูว่าน่าจะอยู่กลาง ๆ ตารางนะ” ผมให้ความเห็นบ้าง

ส่วนไอ้แว่นบานเกล็ดนั้นมองโลกในแง่ดีสุด ๆ แม้แว่นตาอันนี้จะทำให้มันมอง “ยากฉิบ” ก็ตาม “ผมว่าน่าจะได้ถึงที่ 5 นะ”

ต่างคนต่างมุมมอง...ซึ่งจะว่าไปก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ถ้าเก็บแต้มแบบมักน้อยด้วยสปีดนี้จริง ๆ จบฤดูกาลก็ไม่น่าจะไปไม่ไกลกว่าที่ยืนอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่ถ้ามีโชคและดวงผสมเข้ามาช่วยหน่อยล่ะก็...กลางตารางไม่ใช่เรื่องยากหรอก

ส่วนจะไปถึงที่ 5 (หรือทะลุไปจนถึงเป้าหมายก่อนเปิดฤดูกาล) ไหม?

อยู่ที่ว่าสต๊าฟโค้ชและทีมงานจะค้นหา “แว่นวิเศษ” ที่ใช้ส่องให้เห็นวิธีการกำจัดจุดอ่อนในทีมให้หมดไปได้หรือยังนั่นแหละ




Create Date : 26 เมษายน 2553
Last Update : 26 เมษายน 2553 9:16:02 น. 1 comments
Counter : 2217 Pageviews.

 


โดย: thanitsita วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:13:17:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.