ไทยลีก ดิวิชัน 1
2 ต.ค.54 สนามสวนสมุนไพร มาบข่า
ปตท.ระยอง 2-1 บีบี-ซียู

ประมาณเดือนสิงหาคมปีกลาย

สโมสรฟุตบอล ปตท.ตัดใจทิ้งบ้านเช่า...สนามธูปะเตมีย์ แล้วเลือกที่จะไปสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นที่จังหวัดระยอง

ทีม “พลังเพลิง” เล็ง ๆ สนามฟุตบอลภายในสวนสมุนไพรปตท.ที่มาบข่าเอาไว้สำหรับรังเหย้าแห่งใหม่

ช่วงนั้นพอดีผมมีโอกาสได้ไปถ่ายสารคดีเกี่ยวกับสวนสมุนไพรแห่งนี้พอดี ว่าจะแวบ ๆ ไปดูพื้นที่สนามฟุตบอลเสียหน่อย แต่ก็ได้แค่ชะเง้อมองจากไกล ๆ แล้วพบว่าหากจะใช้จริงคงต้องต่อเติมอะไรอีกเยอะ

แต่ถ้าถามใจผมจริง ๆ ล่ะก็ สนับสนุนเต็มร้อยเลยครับ (^.^)/ อย่างน้อยก็...นี่จะเป็นสนามฟุตบอลที่มีทัศนียภาพงดงาม รวมทั้งให้ความรู้ ความเพลิดเพลินกับแฟนบอลก่อนเข้าชมเกมลูกหนังที่สุดมันส์

สวนสมุนไพรแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยจุดประสงค์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ต้องการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรของชาติให้เกิดประโยชน์แก่อนุชนคนรุ่นหลัง โดยใช้พื้นที่บริเวณศูนย์บำรุงรักษาและบ้านพักพนักงานของบริษัทที่จ.ระยองมาใช้ประโยชน์

บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่แห่งนี้ถูกเนรมิตเป็นสวนป่าที่รวบรวมพรรณพืชสมุนไพรกว่า 260 ชนิด รวมแล้วประมาณ 2 หมื่นต้น โดยหลังจากที่จัดทำเป็นสวนสมุนไพรแล้ว ทางปตท.ได้น้อมเกล้าถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี รวมทั้งตั้งชื่อสวนสมุนไพรแห่งนี้ว่า “สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”

นอกจากสวนสมุนไพรแล้ว ยังมีการจัดทำพิพิธภัณฑ์สมุนไพรขึ้นด้วยเพื่อเติมเต็มความรู้ให้กับนักท่องเที่ยวสำหรับการเข้าไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต่าง ๆ ในสวนแห่งนี้

หลังจากได้ชมเนื้อหาของพิพิธภัณฑ์รวมทั้งได้ชมพรรณพืชสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ที่ปลูกในสวนซึ่งแบ่งพื้นที่ปลูกออกเป็น 20 กลุ่มตามสรรพคุณการรักษาสูตรแพทย์แผนไทยแล้ว ออกจะน่าเสียดายไปนิดนึงที่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับยาแผนปัจจุบันกันอย่างเดียว ใช่...ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ยาพวกนี้สามารถรักษา “อาการป่วย” ได้ชงัดนัก แต่เร็วกว่าบางครั้งก็ไม่ได้หมายถึงดีกว่า

พูดถึงตรงนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดแย้งกับแฟนบอลส่วนใหญ่และ (บุคคลที่ทำตัวเสมือนหนึ่งว่า) เซียนลูกหนังบางท่าน

การผ่านเกณฑ์มาตรฐานเอเอฟซีเพื่อสิทธิ์ได้แข่งเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกแบบอัตโนมัติ...ถ้าถามผม ผมก็อยากให้ TPL ผ่านเกณฑ์นี้ให้ได้ เพียงแต่...เราต้องรีบขนาดนั้นจริงหรือ?

ค่อย ๆ สร้าง ค่อย ๆ เสริมไปแบบมั่นคง ดุจดั่งการรักษาโรคด้วยการใช้สมุนไพร ซึ่งรับประกันว่า “ไม่มีอาการแทรกซ้อน” น่าจะดีกว่าเร่งรีบด้วยการอัดฉีดยาที่บางครั้งมาพร้อมกับอาการแทรกซ้อนไหม?

ผมถึงขำทุกครั้งกับคำพูดว่า “ไทยพรีเมียร์ลีกเป็นพื้นที่ของทีมที่มีแฟนบอลเยอะ ๆ เท่านั้น”

ความคิดนี้ช่างน่าขันมากขึ้นไปอีกเพราะบางครั้งดันออกมาจากปากผู้ใหญ่ที่ดูแลการแข่งขัน!

และ

คอลัมนิสต์ผู้เรืองนาม!

กลุ่มพิงค์ พาวเวอร์ แฟนบอลกลุ่มเล็ก ๆ ที่พร้อมตามไปเชียร์ทีมรักในทุกที่

“ขึ้นมา!!บุรีรัมย์-ชัยนาท-สงขลา” คือชื่อบทความของใครสักคนที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หัวยักษ์เมื่อปลายเดือนก่อน

ตรรกะของข้อเขียนคุณภาพชิ้นนี้คงถูกกลั่นกรองออกมาแล้วแหละจากคนที่มีจิตใจคับแคบเท่านั้น -*-

หลังจากอ่านจบปุ๊บ ผมก็ปล่อยลมออกเบื้องล่างดังลั่น...ก็ผมอ่านขณะปล่อยหนักอยู่ในห้องน้ำนี่นา พื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ผมสามารถทำ “อะไรแบบนี้” ได้ดั่งใจคิด

แต่ถ้าอยู่ในที่สาธารณะ ผมมีมารยาทพอที่จะไม่ปล่อยให้เสียง (ที่มาพร้อมกลิ่น) นี้ออกมาทำลายบรรยากาศของคนรอบข้างหรอก - -"

คนเราสามารถคิดอะไรก็ได้ หากแต่ไม่สามารถพูดทุกเรื่องที่ตนคิดได้หรอก...ผมเชื่ออย่างนั้น

“การวิพากษ์วิจารณ์...ผมว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน การที่สื่อมวลชนจะชื่นชอบทีมไหนก็เป็นสิทธิ์ของเค้า เราไม่ก้าวก่ายกัน ผมไม่สนใจเลย” พี่บิ๊ก วีระยุทธ โพธารามิก ผู้จัดการทีมบีบี-ซียู ทีมที่ถูกคอลัมนิสต์ความคิดล้ำเลิศมองข้ามทั้ง ๆ ที่ทีมรั้งอันดับสองของตารางแท้ ๆ แย็บสักสองหมัด ก่อนจะปล่อยฮุคขวาเต็ม ๆ “ก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิตเค้าเคยทำอะไรมาบ้าง...นอกจากนั่งเทียน”

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือ แม้กองเชียร์กลุ่ม “พิงค์ พาวเวอร์” (กองเชียร์บีบี-ซียูและจามจุรี ยูไนเต็ด) จะเป็นกองเชียร์กลุ่มเล็ก ๆ แต่ความรักฟุตบอลนั้นไม่แพ้กองเชียร์กลุ่มใหญ่ ๆ ของทีมอื่นเลย

เมื่อรู้ว่าต้องมีคิวออกไปเยือนต่างจังหวัด พี่หมีสีชมพู แฟนพันธุ์แท้ของกลุ่มจึงเป็นตัวตั้งตัวตีติดต่อรถตู้เพื่อออกเดินทางกัน

ทริปนี้รวบรวมสมัครพรรคพวกได้ 13 คนพร้อมเคลื่อนทัพเพื่อไปสมทบกับสมาชิกอีก 3 คนที่เดินทางไปเมื่อคืนก่อนแล้วเพื่อขอย่ำราตรีที่ระยอง

และทั้งหมดก็จะไปสมทบกับทัพหลวงแห่งทรีบีบี

เรานัดกันว่าจะออกบ่ายสอง แต่สุดท้ายได้ออกบ่ายสาม เจน ช่างภาพสาวสวย เจ้าของฉายา “นางฟ้าข้างสนามแห่งบีจี” ขวัญใจของแฟนบอลหลาย ๆ คนคือต้นเหตุ

“พี่ต้องเข้าใจนะ ที่เลทเพราะมีเหตุผล กล้องเจนมีปัญหา”

พูดซะขนาดนี้แล้วคุณจะแกล้งไม่เข้าใจหรอ?

บรรยากาศบนรถนั้นสนุกสนาน ทุกครั้งที่มีการพูดถึง “เชียร์” นันทพล พิบูลย์พล ปราการหลังแข้งโหดที่ข่าวแว่วว่าวันนี้จะได้เล่นมิดฟิลด์ตัวรับ กล้วย สาวคนสนิทของดาวเตะหมายเลข 5 แห่งเสือสามย่านคนนี้ก็จะหันมาขอเม้าท์ด้วยเสมอ ๆ

เสียงจ่อกแจ่กจอแจขนาดนี้ แต่แป๋ว แฟนบอลสาวอีกคนยังอุตส่าห์งัดหนังสือขึ้นมาอ่านเพราะใกล้สอบแล้ว

“ไม่มีปัญหา แป๋วมีสมาธิพอ อ่านได้อยู่แล้ว”

สักพักแป๋วแสดงให้เห็นว่าสมาธิแกร่งขนาดไหน เสียงจะดังขนาดไหน...แต่เธอก็หลับปุ๋ยได้ลง!

รถตู้ของพิงค์ พาวเวอร์มาถึงสนามเกือบหกโมงเย็น ใกล้เวลาคิกออฟเต็มที่ ตอนแรกกะไว้ว่าจะเดินชมนก ชมไม้ ชมสมุนไพรสักนิด เผื่อได้ยาดี ๆ รักษาโรคใจแคบสักหน่อย จะได้เอาไปฝากคอลัมนู้ด เอ้ย! นิสต์ท่านนั้น จะได้อ่านคอลัมน์สร้างสรรค์ ๆ ในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นบ้าง ก็เลยเป็นอันว่าชวด ฉลู ขาล เถอะซะหมด

เอ๋...แต่มันไม่มีกลุ่มสมุนไพรรักษาอาการแบบนี้นี่นะ มีแต่พวกกลุ่มพืชหอมต่าง ๆ, กลุ่มไม้แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง, กลุ่มยาแก้ไข้ ลดร้อน, กลุ่มยาถ่าย ยาระบาย เป็นต้น

สนามเหย้าของปตท.ระยองหลังการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงต่างจากที่ผมเคยเห็น (ไกล ๆ) เมื่อปีก่อนเยอะ สวยงามมาก แม้จะยังสร้างไม่เสร็จ 100% ก็เหอะ

พื้นสนามดูจากข้างนอกก็งดงาม พื้นสนามเขียวขจี ดูราบเรียบ แต่เส้นทางสู่ไทยพรีเมียร์ลีกของทั้งสองทีมที่ลงแข่งในวันนี้ไม่ราบเรียบขนาดนั้น

บีบี-ซียูผ่าน “สี่แม็ทช์อันตราย” ไปแล้วสาม เก็บมาได้แค่ 2 แต้ม

ส่วนปตท.ระยองยังไม่ติดสามอันดับแรกดั่งที่คาดหวังไว้เลย

นักเตะและสต๊าฟบีบี-ซียูรวมพลังเพื่อผ่านพ้น "สี่แม็ทช์อันตราย" แม็ทช์สุดท้ายไปด้วยกัน

สนามเหย้าของปตท.ระยองเป็นอีกหนึ่งสนามที่งดงามและทัศนียภาพดีไม่น้อย

เกมวันนี้ เชียร์ นันทพล พิบูลย์พลได้เล่นมิดฟิลด์ตัวรับจริง ๆ โดยจับคู่กับ “จ่าฮอต” อิศวะ สิงห์ทอง โดยมีอดิศักดิ์ กานูกับเอกชัย นุ้ยขาวกระชากริมเส้นขวา-ซ้าย

แผงรับเจย์ แฮร์ริสได้ลงจับคู่กับโกเบนาน เอ็นกาตตา ทั้ง ๆ ที่ “แจ๊ค” จักรพงษ์ ใหญ่โตพ้นโทษมาแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นเพราะอยู่ในเทศกาล “เจย์” มั้ง ^^!

ส่วนแบ็กทั้งสองข้างนั้น ทางขวาบุณยฤทธิ์ ปฐมทัศน์ ทางซ้ายกัปตันหน้ามน อดุลย์ หมื่นสมาน ด่านสุดท้ายเป็นฌอง มาร์ก เอ็นกูลู

คู่หน้าวันนี้ ชัยณรงค์ ทาทองจับคู่กับอูวานากา

ทีมเจ้าบ้าน “พลังเพลิง” วันนี้มาในระบบ 4-4-2 เช่นกัน ผู้รักษาประตูใช้ชยุตย์ นาคชำนาญ แผงหลังไล่จากขวามาซ้ายมีเอกสถา ธัญกรรม, ประธาน แม้นศิริ, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี กัปตันทีมจอมเก๋าและอามาดู ออตตารา

แดนกลางคุมทัพโดยยุทธนา ไชยแก้วและเมธี ทวีกุลกาญจน์ ริมเส้นขวา-ซ้ายใช้บริการของนเรศ กาพย์ไกรแก้วและอิบราฮิม กานูเตตามลำดับ

คู่หน้าเป็นการประสานงานกันของอดิศักดิ์ ศรีกำปังและอิสระพงษ์ ลิละคร

เกมช่วงสิบนาทีแรกกลับเป็นทีมเยือนซะอีกที่เปิดเกมรุกเข้าใส่แบบไม่มีเกรงใจเจ้าของบ้านกันเลย ในขณะที่ปตท.ระยองนั้นก็ไม่มีอุดเหมือนกัน พร้อมตอบโต้ทุกเมื่อ

นาทีที่ 14 โอกาสจั๋ง ๆ ครั้งแรกของเกมเกิดขึ้นจากการซัดของกานูเต แต่เอ็นกูลูยังหนึบหนับอยู่เหมือนเดิม

เกมนัดนี้เป็นเกมที่สนุกสนาน เพราะทั้งสองทีมเล่นไม่มีใส่เกียร์ถอยกันเลย แต่ความเข้มข้นของเกมหายไปนิดส์นึงเพราะจะว่าไปแล้ว โอกาสเข้าทำในพื้นที่อันตรายมีน้อยมาก

แปดนาทีสุดท้าย ขวัญใจแม่ยกของฝั่งทีมเยือนอย่าง “บังดุล” อดุลย์ หมื่นสมานก็มารับใบเหลือง เมื่อไปเตะผิดจังหวะเลยป๊าบใส่กานูเตเข้าเต็มรัก

จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

ชยุตย์ขว้างบอลเปิดเกม

บุณยฤทธิ์กับนันทพลช่วยกันบล็อกลูกยิงของเจ้าบ้าน

ดาวซัลโวดิวิชัน 1 ฤดูกาลก่อนยังแผลงฤทธิ์ไม่ออกในครึ่งแรก

บีแกนกับบังดุลกับแอคชันเดินเข้าห้องพักหลังจบครึ่งแรก

หลังสิ้นสุดเสียงนกหวีดเปิดเกมครึ่งหลังจากคุณชัยยะ มหาปราบปุ๊บ ปตท.ระยองก็ลุยเข้าใส่ทีมเยือนปั๊บ แต่เอาเข้าจริง เกมช่วง 15 นาทีแรกก็ยังเหมือนครึ่งแรกเปี๊ยบเลย

สนุก ๆ แต่ไม่ค่อยเสียว!

ซิโก้ เฮดโค้ชเสือสามย่านให้เวลาเซนเตอร์ฮาล์ฟอาชีพอย่างเชียร์ได้เล่นมิดฟิลด์ตัวรับอีก 10 นาทีก็ตัดสินใจส่ง “มืออาชีพ” ในตำแหน่งนี้อย่าง “ต้น” วัฒนศัพท์ เจริญศรีลงมารับหน้าที่แทน

ถัดมาอีกไม่กี่อึดใจ อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกาก็ตัดสินใจปรับเปลี่ยนเกมรุก โดยส่งจูเลียส ออนโนนิวูลงมาแทนเอกชัย

แต่จูลีที่ลงมาใหม่ ดันมาพร้อมกับพี่หนุ่ย อำพล ลำพูนที่ร้องบอกว่า “ลางร้ายบอกให้รู้ให้เตรียมใจ อะไรร้าย ๆ ให้ระวังให้ดี” เมื่อดันไปตัดเกมนเรศตรงนอกกรอบเขตโทษพอสมควร

นเรศลุกขึ้นมาสังหารเอง แล้วเขาก็ส่งลูกหนังลอยละลิ่วเข้าสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ เอ็นกูลูพยายามแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ขอเป็นพี่หนุ่ยบ้าง

“หากได้เจอะเพียงสักครั้งก็พอใจ จะได้ถามว่าทำไมถึงได้ทำรุนแรงเหลือเกิน เกินใจของคนจะทน...”

ขึ้นนำปุ๊บ โค้ชต้อม วิธวราศักดิ์ อุปถัมภ์นรากรก็ปรับทีมปั๊บ ส่งกิตติพงษ์ มูลพงค์ลงมาแทนอิสระพงษ์ พร้อม ๆ กับส่งเดชา เพชรตะกั่วลงมาแทนกานูเตด้วย โดยให้เดชาลงมาเล่นแบ็กซ้าย แล้วดันออตตาราขึ้นไปเล่นตัวรุกแทน

แม้จะโดนนำไปในเกมที่แสนบีบหัวใจแบบนี้ แต่เสือสามย่านก็ยังไว้ลายเสืออยู่ดี แค่ 6 นาทีเท่านั้น อดิศักดิ์ กานู (ไม่เต้) เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาไปที่เสาสอง ตรงจุดนั้นดาวซัลโวดิวิชัน 1 ฤดูกาลที่แล้วอย่างชัยณรงค์ ทาทองร้องตะโกนบอกว่า “มาตามนัด” จากนั้นก็เสือกหัวโหม่งเข้าประตูไปอย่างหมดจด

1-1 แล้ว!

พอได้ บีบี-ซียูก็ทำท่าว่าจะได้ติด ๆ อึดใจต่อมา กานูไม่เต้หลุดไปทางด้านขวา พยายามจะยิงแต่ลูกก็ไปกั๊ก ๆ อยู่หน้าประตู เพื่อนจะซ้ำก็เข้าผิดจังหวะซะอีก

เกมแลกกันสนุกเลย นาทีที่ 74 กิตติพงษ์ได้ลองทักทายเอ็นกูลูบ้าง แต่ผู้รักษาประตูชาวแคเมอรูนเซฟได้ด้วยขา

ถัดมา เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองตัดสินใจโยนไพ่ใบสุดท้ายเลย ส่งกิตติศักดิ์ ปิ่นทองลงมาแทนอิศวะ

นาทีที่ 76 ออตตารามารับใบเหลืองไป ข้อหาที่คุณชัยยะพิพากษาก็คือ “ท้องเสีย”

ก็ “ขี้พุ่ง” ไง :-p

สองนาทีถัดมาจากจังหวะโต้กลับ อูวานากาได้ลูก พาเข้าไป...พาเข้าไป สับเท้า หนึ่ง สอง สามฉึก...ไปทำไมไม่รู้ พอจะส่งก็ไม่ตรงเพื่อนซะอีก

นักเตะเจ้าบ้านเห็นทีมเยือนโต้กลับแล้วทำได้เท่านี้ก็เลยสอนว่า “การโต้กลับที่ดีนั้นเป็นอย่างไร?”

จากการลุยขึ้นมาทางขวา บุกไปกิ๊กกั๊กอยู่หน้าปากประตูเสือสามย่าน เอ็นกูลูหลุดตำแหน่งไปแล้ว แต่ลูกยิงจั๋ง ๆ ลูกนั้นก็ไม่อาจผ่านไปตุงตาข่ายได้อยู่ดีเพราะเวทมนตร์ของนักเตะเลือดสตูลอย่างอดุลย์ หมื่นสมาน

หากเพียงแต่คุณชัยยะเห็นว่าการใช้ “มือ” นั้นมันผิดกติกา จึงชูใบแดงไล่กัปตันทีมจ้าวเสน่ห์ของทีมเยือนไปอาบน้ำ ปะแป้ง ใส่น้ำหอมก่อนเพื่อน ๆ ซะเลย

“กำลังจะโหม่ง แทนที่จะโดนหัว มันกลับไปโดนมือครับ” บังดุลสารภาพ "สงสัยรีเฟล็กซ์ตัวเองจะไวมากไปหน่อย...จะบอกว่าตกใจได้มั้ยอ่ะ”

อดิศักดิ์ ศรีกำปังไม่ยอมตกใจไปกับบังดุลด้วยหรอก หยิบลูกมาตั้ง ย่องถอยหลัง ซัด

แล้วนั่นก็คือประตูชัยที่ช่วยให้ปตท.ระยองเอาชนะบีบี-ซียูไป 2-1 เก็บสามแต้ม รักษาโอกาสขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกเอาไว้ต่อไป

อิศวะ กองกลางจอมเก๋าของเสือสามย่าน

เชียร์กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับถือว่า "พอได้"

ลูกฟรีคิกที่กลายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0

บรรยากาศชื่นมื่นหลังได้ประตูของกองเชียร์ "พลังเพลิง"

เจย์ แฮร์ริสวางบอลยาว

แผงรับเสือสามย่านผนึกกำลังอย่างหนาแน่น ขนาดดาวซัลโวอย่างบี้ยังลงไปช่วยเลย

ของสมนาคุณนัดนี้ของกัปตันอดุลย์

ประตูชัยของปตท.ระยองโดยอดิศักดิ์ ศรีกำปัง

“เป้าหมายของเรายังเหมือนเดิมตามนโยบายของผู้ใหญ่ เพียงแต่ตอนนี้เส้นทางจะเหนื่อยหน่อย ต้องว่ากันเป็นแม็ทช์ ๆ ไป” วิธวราศักดิ์ที่หลังแข่งไม่กี่วันก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นอดีตเฮดโค้ชปตท.ระยองเผย “เกมนี้ต้องให้เครดิตนักฟุตบอลที่มีความอดทน มีความมุ่งมั่น ช่วยกันเล่น โอกาสเราเปิดไม่บ่อยมาก แต่สามารถเก็บโอกาสได้”

“วันนี้เราเปิดแลกเพราะต้องการ 3 แต้ม เพื่อจะหนีอันดับ 3-6 ไป เกมนี้เป็นเกมที่มัน บรรยากาศฟุตบอลไทยเป็นบรรยากาศที่สนุกดี น้อง ๆ ทุกคนรู้ว่าวันนี้เราแลกนะ ได้แต้ม ไม่ได้แต้มมันก็ต้องเสี่ยงกัน” ซิโก้ เฮดโค้ชทีมเยือนให้ความเห็น

“วันนี้ในครึ่งแรกเราทำได้ดี จังหวะเสียประตูต้องยอมรับว่าผู้เล่นทางฝั่งขวาของเค้าสร้างปัญหาให้เรามาก ก็ต้องยอมรับว่าปตท.เล่นดี” พี่บิ๊ก ผู้จัดการทีมเสือสามย่านคอมเมนท์

เป็นอันว่า “สี่แม็ทช์อันตราย” (เยือนบียู, เหย้าชัยนาท, เหย้าสงขลา, เยือนปตท.ระยอง ทีมลุ้นเลื่อนชั้นทั้งนั้น) ของบีบี-ซียูจบลงด้วยผลลัพธ์เพียงแค่ 2 แต้มจากการเสมอ “แข้งเทพ” และ “วัวชนแดนใต้” ได้เท่านั้น หรือว่า “เสือสามย่าน” ตัวนี้จะค่อย ๆ ย่องถอยหลังให้มันสมใจคอลัมนู้ด เอ้ย! นิสต์คนนั้น?

“เราตั้งเป้าไว้ 4 แม็ทช์นี้ เราต้องการแชร์แต้มกับทุกทีมนะเพื่อรักษาระยะห่างไว้ แต่ได้มาแค่ 2 มันจะทำยังไงได้ล่ะ ฟุตบอลนอกบ้านโอกาสพลาดก็มีสูง ไม่เป็นไร ต้องลุยต่อแม็ทช์หน้า เล่นในบ้านเราด้วย” ซิโก้ยังมองโลกในแง่ดี “เรามองเป้าหมายหลักคือการเลื่อนชั้น ถ้าทุกคนช่วยกัน ไม่ท้อ ไม่อะไร เราก็มีโอกาสลุ้น เรามีต้นทุนที่เก็บไว้ได้แล้ว ตอนนี้ต้นทุนมันน้อยลงมาหน่อย แต่ทุกคนต้องช่วยกัน”

“สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือการมุ่งหน้าเก็บชัยชนะให้มากที่สุดแล้วขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ เรื่องตัวแปรอื่น ๆ ไม่ต้องไปพูดถึงเพราะเราควบคุมอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้มันขึ้นกับเราเอง ถ้าเราทำได้ เราได้ขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกแน่นอน เหลืออีก 8 แม็ทช์ เราไม่มีเวลามาคิดเรื่องนอกสนามแล้ว ต้องปลุกเร้านักเตะให้พวกเค้าเอา 24 แต้มที่เหลือให้ได้” พี่บิ๊กช่วยเสริม

ซิโก้ให้สัมภาษณ์กับทีวี "ช่องหนึ่ง"

ขุนพลเสือสามย่านขอบคุณแฟน ๆ ที่มาให้กำลังใจ

หลังจบเกม กลุ่มกองเชียร์ “พิงค์ พาวเวอร์” มาให้กำลังใจกับเหล่านักเตะหน้าห้องพัก พอส่งขุนพลเสือสามย่านขึ้นรถไปหมดแล้ว ก็ได้ฤกษ์เดินทางกลับ

ไม่ได้นัดกันไว้ แต่ทุกคนรู้ว่าอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เราจะมาพบกันที่สนามกีฬากองทัพบกเพื่อให้กำลังใจทีม “เล็ก ๆ” กองเชียร์น้อย ๆ ทีมนี้ด้วยกันต่อไป

ไม่ว่าจะยังไง ผมเชื่อว่าไทยพรีเมียร์ลีกยังมีพื้นที่ให้กับทุกทีม ไม่ว่าจะมีกองเชียร์น้อยหรือกองเชียร์เยอะ เพราะฟุตบอลตัดสินกันที่ผลงานล้วน ๆ

หรือถ้าจะมีอะไรที่ใช้ตัดสินแฟนบอล ความรักเกมลูกหนังและความรักต่อทีมโปรดของพวกเค้าต่างหากที่ใช้ตัดสิน

ไม่มียาใดจะรักษาหัวใจบอบช้ำของเหล่านักเตะทีมรักได้ดีเท่ากับกำลังใจของแฟนบอลหรอกน่า

Create Date : 09 ตุลาคม 2554
Last Update : 9 ตุลาคม 2554 12:41:27 น.		1 comments
Counter : 1474 Pageviews.
Share Tweet