ไทยลีก ดิวิชัน 1
3 เม.ย.53 สนามฟุตบอลกรมศุลกากร
สุวรรณภูมิ-ศุลกากร 1-1 จุฬา ยูไนเต็ด

“จุฬา ยูไนเต็ดปีนี้จะตกชั้นอีกหรือเปล่า?” ตั่วเฮียของผมเกริ่นขึ้นบนรถ ขณะเดินทางไปเช็งเม้ง

แม้จะไม่ค่อยได้ตามไปเชียร์ถึงขอบสนาม (ทั้ง ๆ ที่เป็นอาจารย์อยู่ที่วิดวะ จุฬาฯ) แต่พี่ชายคนโตของผมก็ติดตามผลงานของ “เสือสามย่าน” อยู่ตลอด ด้วยความผูกพันที่ใช้ชีวิตในรั้วจามจุรีมานานกว่า 20 ปี (อาจจะขาดไปบ้างช่วงที่ได้ทุนไปต่อโทที่ญี่ปุ่น)

“ดูแล้วอาการน่าเป็นห่วงนะ” แกเสริมต่ออีกนิดนึงเพื่อยืนยันว่าตระหนกต่อสถานการณ์บ้านเมือง...เอ้ย! สถานการณ์ของทีมจริง ๆ

เพราะต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่กว่า ๆ ผมจึงยังรู้สึกง่วง ๆ แต่ไม่ถึงกับงง ๆ หรอกนะตอนที่ตอบไปว่า “รออีกแป๊บ เดี๋ยวถ้าจูนเครื่องติดแล้ว จะไปยาว ๆ”

ตอบเสร็จ ผมก็ถือวิสาสะหลับต่อ (-.-)Zzz...

ในห้วงภวังค์นั้น ผมรู้สึกตัวลอยไปตามการขับเคลื่อนของรถกระบะ ช่วงเวลาหนึ่ง มโนภาพของผมย้อนภาพกลับไปถึงผลการแข่งขันเมื่อวานนี้...

อีก 20 นาทีจะ 4 โมงเย็น โต ชัยอนันต์ สร้อยจำปา ท่านผู้จัดการทั่วไปของจุฬา ยูไนเต็ดเหยียบคันเร่งพารถฮอนด้า แจ๊สบึ่งไปบนเส้นทางซอยลาดกระบัง 54 ด้านที่มาจากถนนบางนา-ตราด

รถญี่ปุ่นสีขาวพุ่งเข้าสู่บริเวณสนามเอาใกล้ ๆ เวลาคิกออฟ

“พี่เอาธงนี่ไปให้บังดุลก่อน” เจ้าของรถแจ๊สฝากฝังผมเพื่อจะได้จอดรถให้เข้าที่เข้าทาง

“ธง” ที่ว่าคือของที่ระลึกที่กัปตันทีมทั้งสองใช้แลกกันตอนเสี่ยงแดนนั่นเอง

เสื้อแข่งเหย้า-เยือนของสุวรรณภูมิ-ศุลกากร

เสื้อลำลองดีไซน์เรียบ ๆ สำหรับแฟน ๆ สิงห์นายด่าน

กองเชียร์กลุ่มกำลังเหมาะของทีมเจ้าบ้าน

หลังจากแพ้มา 2 นัดรวด นี่คือเกมที่จุฬา ยูไนเต็ดต้องกลับมาให้ได้ ตามโปรแกรมเดิมแล้วแม็ทช์นี้จะระเบิดศึกขึ้นที่สนามจุ๊บ แต่ด้วยเหตุการณ์ผิดปรกติบางอย่างทำให้ต้องย้ายวิก เปลี่ยนเจ้าบ้านกันแบบกะทันหันประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนแข่งเท่านั้น -*-

จากที่หวังชนะเป็นครั้งแรก เลยต้องปรับเป้าหมายไว้แค่ “พอใจแล้วแหละหากจะได้แต้มแรกกลับบ้าน”...ขอบคุณนะ (ผมปล่อยวลีสั้น ๆ วลีหลังให้ลอยไปตามสายลม “ผ่านฟ้า” ผ่านทะเล หรืออาจจะล่องลอยข้ามประเทศก็ไม่รู้ได้...เพื่อฝากถึงใครสักคนส์)

การย้ายสนามมีผลต่อการเขียนสกู๊ปหลังเกมของผมด้วยนะ ตอนแรกวางธีมไว้ประมาณ

“Bienvenido a estadio de Chula”

“ยินดีต้อนรับสู่สนามจุ๊บ”

(แต่ แฮ่ม! ข้างบนนั่นมันภาษาสเปนน่ะ คิดว่าจะถามเจ้าอารอนสักหน่อยว่าภาษาโปรตุกีสเขียนว่าไง)

แน่นอนพระเอกของธีมนี้คงเป็นใครไม่ได้ นอกจากยอดโค้ชชาวบราซิลของสุวรรณภูมิ-ศุลกากรและอดีตโค้ชขวัญใจชาว Pink Panther...โชเซ เฟรเฮยรา (เฟร์เรยราก็พอมั้ง ไม่ต้องพยายามโปรตุกีสจ๋าขนาดนั้นก็ได้เนอะ)

พอเปลี่ยนสนามก็เลยต้องเปลี่ยนธีม...เอาล่ะ ขอเริ่มเรื่องแบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วนะ...

นักเตะทั้ง 2 ทีมเดินลงสู่สนาม

11 ตัวจริงของจุฬา ยูไนเต็ดเปลี่ยนจากนัดที่แล้ว 2 ตำแหน่ง

ขุนพลผู้เล่นทั้ง 2 ทีมทักทายกัน

บังดุลย์และมาซาโอะ คิบะแลกเปลี่ยนธงที่ระลึก

ทีมเยือนจากสามย่านวันนี้ “อากู๋” เอ้ย! อาจารย์...ชนะ ยอดปรางค์ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการเปิด “แบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์” เป็นครั้งแรก...

เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์

เอ้ย!

เบิร์ด พรชัย แมคอินไตย์

เอ้ย!

เบิร์ด ธงไชย จันทร์อินทร์

เอ้ย!

เบิร์ด พรชัย จันทร์อินทร์

เอ้ย!

ถูกแล้ว!

ตึ่ง โป๊ะ!

“เจ้าเบิร์ด” พรชัย จันทร์อินทร์ ผู้รักษาประตูหนุ่มที่ย้ายมาจากปตท.ได้โอกาสโชว์ฝีมือเป็นครั้งแรกของฤดูกาลในนัดนี้ เขาเฝ้าเสาอยู่ข้างหลังแผงรับที่ปรับเปลี่ยนจากแม็ทช์เยือนเกาะลอย 1 ตำแหน่งเพราะ “เจ้าเชียร์” นันทพล พิบูลย์พลติดภารกิจจับใบดำ ใบแดง ยอดโค้ชเลือดสุพรรณฯจึงส่งไมตรี กุหลาบขาวลงจับคู่กับอภิวัฒน์ งั่วลำหินแทน ด้านขวาเป็นประสิทธิ์ เทาดี ส่วนด้านซ้าย “บังดุล” อดุลย์ หมื่นสมานสวมปลอกแขนกัปตันทีมรับผิดชอบพื้นที่ไป

แดนกลางและแนวรุกใช้ชุดเดิมจากนัดก่อนล้วน ๆ วัฒนศัพท์ เจริญศรีเล่นรับ, ภาณุวัฒน์ ญาณอัมพรพิพัฒน์เล่นรุก, อดิศักดิ์ กานูเลื้อยทางขวา, ศรันย์ สมิงชัยขึ้นทางซ้าย ใช้อารอนจับคู่กับ “เจ้าบี้” ชัยณรงค์ ทาทองล่าประตู

ทางด้านเจ้าบ้าน โชเซ เฟร์เรยรามาในสูตรพิมพ์นิยม 4-2-3-1 ที่เขาใช้สมัยคุมทัพเสือสามย่านอยู่ มีอนุรักษ์ ชมพูพฤกษ์เป็นด่านสุดท้าย แผงรับไล่จากขวามาซ้ายประกอบด้วยนิพนธ์ พันธุ์พร้อม, ประธาน แม้นศิริ, มาซาโอะ คิบะ กัปตันทีมและกรกช วิริยอุดมศิริ

มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คนใช้สามารถ เพชรหนูจับคู่กับเมธี ทวีกุลกาญจน์ มีฟาบริซิโอ โมเรยรารับบทบาทเดินเกมแบบเดียวกับเนโตที่เล่นกับจุฬา ยูไนเต็ดสมัยโชเซยังคุมทีม ริมเส้นใช้วาลเลซ โรดริเกซอยู่ทางขวา “จอมโจ๊กเกอร์” โชคลาภ นิลแสงวันนี้ลงตัวจริงเล่นด้านซ้าย ศูนย์หน้าห้อยดาวเตะร่างยักษ์ เปาโล โรแบร์โตไว้คนเดียว

ความพ่ายแพ้ 2 นัดรวดทำให้อดุลย์ กัปตันทีมจุฬา ยูไนเต็ดซีเรียสไม่น้อย ไม่ได้ด้วยเกมในสนามก็ต้องเอากันด้วยความเชื่อ

มีคนแอบเมาท์มาว่า

บังดุลย์ “สงสัยต้องเปลี่ยนปลอกแขนกัปตันทีมแล้ว ปลอกไหนที่ใส่แพ้ก็จะไม่ใส่อีก”

“ใช่พี่ ผมว่าควรเปลี่ยนจริง ๆ” ประสิทธิ์ แบ็กขวาจอมยียวนเห็นด้วย

“เปลี่ยนปลอกแขนใช่ไหม?” บิ๊กบังถาม

“เปลี่ยนตัวกัปตันทีมนี่แหละพี่” เจ้าต๋อยแซว

วันนี้ที่ต้นแขนของบิ๊กบังจึงเป็นปลอกแขนสีชมพูกลมกลืนไปกับสีเสื้อ

11 นักเตะของสุวรรณภูมิ-ศุลกากร

สาวก Pink Panther ยกพลมาเชียร์ทีมรักถึงสุวรรณภูมิ

เปิดฉากมาแค่ 5 นาที เจ้าบ้านทักทายก่อนเลย วาลเลซ ดาวเตะบราซิลกระชากเข้าไปยิงทางกราบขวาแต่ลูกหนังพุ่งหลุดเสาสองออกไป

สุวรรณภูมิ-ศุลกากรอาศัยเปาโล โรแบร์โตใช้ความใหญ่พักบอลในแดนหน้า โดยมีฟาบริซิโอทำเกม สลับกับการใช้ความคล่องของนักเตะริมเส้นทั้งสองข้างโจมตีแผงรับทีมเยือน

“เล็ก (ไมตรี) ติดเบอร์ 35 (เปาโล โรแบร์โต) ไว้เลย อย่าให้เขาพลิกได้” โค้ชชนะต้องออกมาสั่งการที่ริมสนาม

นาทีที่ 12 โชคลาภ ดาวเตะขวัญใจกองเชียร์ “สิงห์นายด่าน” อาศัยความไวหลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนจะถูกเจ้าเบิร์ด พรชัยสกัดล้มลงในเขตโทษ

“ปรี๊ด!” คุณชาญยุทธ พงศ์พนมเวชเป่านกหวีดพลางชี้นิ้วไปที่จุดโทษทันที

ผมไม่เห็นท่านท้าวมลีวราชในสนามฟุตบอลชูใบเหลืองนะ แต่ในใบรายงานการตัดสินของกรรมการที่ 4 ระบุว่าผู้รักษาประตูของเสือสามย่านเป็นคนแรกที่เป็นไข้เหลืองในเกมนี้

“จังหวะนั้นผมตั้งใจเล่นบอลนะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรคู่แข่ง มันเป็นจังหวะที่เค้าแตะบอลไปแล้วด้วย ก็ยอมรับว่าโดน” ผู้รักษาประตูหนุ่มสารภาพ

ถึงจะไม่ตั้งใจทำฟาวล์ แต่จังหวะที่มีการปะทะกันนั้นน่าจะรุนแรงทีเดียว “โชคลาภ” จึงกลายเป็น “โชคร้าย” เมื่อถูกส่งขึ้นเตียงพยาบาลแล้วก็นำส่งโรงพยาบาลต่อไป

รายงานข่าวในเว็บไซด์สโมสรสุวรรณภูมิ-ศุลกากรบอกว่าดาวเตะสิงห์นายด่านคนนี้ซี่โครงหัก 2 ซี่ ต้องพักยาวตลอดฤดูกาล

โค้ชโชเซส่งสิทธิพงษ์ กัลปพฤกษ์ลงมาแทนดาวเตะผู้บาดเจ็บทันที

มาว่ากันถึงเกมในสนามต่อ วินาทีต่อไป พรชัยต้องเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับนิพนธ์

“มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลมกับสองเรา...”

คอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์มีขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2530 จัดแสดง 2 รอบ แต่ช็อต (ที่จะได้) โชว์แบบเบิร์ด เบิร์ดของผู้รักษาประตูจุฬา ยูไนเต็ดคนใหม่เกิดขึ้นในนาทีที่ 16 ของเกม เขามีโอกาสแค่รอบเดียวเท่านั้นที่จะเซฟลูกจุดโทษนี้ให้ได้

“สิ่งใดในชีวิตคนเรา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป...”

แบ็กขวาสิงห์นายด่านจัดการส่งลูกหนังผ่านมือของพรชัยเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่ผู้รักษาประตูเสือสามย่านพุ่งไปคนละทาง ส่งเจ้าบ้านทะยานขึ้นนำ 1-0

จุฬา ยูไนเต็ดพยายามเดินเกมเพื่อทวงคืน แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดนัก นาที 31 แบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์ครั้งที่ 2 ก็บังเกิดขึ้น แหม! มันช่างตรงกับปี 2531 เลย (แม้ไม่ใช่คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 แต่ขอเอ่ยถึงนิดนึงละกัน) ปีนั้นคอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ดโชว์ “จะบินไปไกลสุดขอบฟ้า” จัดแสดงถึง 14 รอบ หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพี่เบิร์ด คงจำเอฟเฟคท์รูปนกนางนวลที่พี่เบิร์ดใช้เป็นฉากหลังกันได้

“นางนวลเจ้าเอย ทะเลกว้างใหญ่ เห็นเพียงแต่ขอบฟ้าไกล ตัวเจ้าก็ยังคงบินมุ่งไป...”

ลูกปั่นของฟาบริซิโอ โมเรยราลอยละลิ่วกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมเสาสองแบบสุดงดงาม แม้จะเห็นกรอบประตูแค่เพียงขอบฟ้าไกล แต่เจ้าเบิร์ด พรชัยก็ยังคงบินมุ่งไปและปัดลูกออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกเสียงปรบมือจากแฟน ๆ Pink Panther สนั่นหวั่นไหว

ถัดมาอีกไม่กี่นาที อ.ชนะตัดสินใจส่งกิตติศักดิ์ ปิ่นทองลงไปปั้นเกมแทน “หม่ำมิโต (หม่ำน้อย)” ภาณุวัฒน์ที่วันนี้เล่นไม่ค่อยออก

10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในเกมนี้ของจุฬา ยูไนเต็ด เมื่อขุนพลเสือสามย่านเดินเกมรุกอย่างหนัก สร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากมาย พี่แต้ กฤษฎา สัจจกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทีมถึงกับออกมาออกแอคชันบอกให้แฟน ๆ ช่วยส่งเสียงเชียร์ดัง ๆ เร่งเร้านักเตะอีกทางหนึ่งด้วย

นาทีที่ 35 ทีมเยือนได้เตะมุมติด ๆ กันถึง 3 ครั้ง โดยเฉพาะในครั้งที่ 2 นั้น บังดุลแอบลักไก่กะปั่นเสียบคาน ดีที่อนุรักษ์ไหวตัวทันปัดออกหลังได้

เห็นคอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์จัดมา 2 ครั้ง 2 ครา “พี่บี้” จึงขอระเบิดคอนเสิร์ต “ฮักมากมาย” บ้างในนาที 41 โดยมีบังดุลรับบท “คุณหนูบอย” ช่วยปั้น ช่วยดันเต็มที่

อดุลย์ หมื่นสมานเปิดคอร์เนอร์จากทางปีกขวาเข้าไป แล้วก็เป็น “เจ้าบี้” ชัยณรงค์ ทาทองที่โฉบเข้าโหม่งตุงตาข่ายตีเสมอได้สำเร็จ 1-1

วินาทีเริ่มเกมนี้

กานูพยายามบล็อกลูกเปิดของกรกช

อดุลย์พยายามช่วยพรชัยอธิบายเรื่องจุดโทษ

เจ้าเบิร์ดดักทางจุดโทษผิดด้าน

โค้ชโชเซส่งสิทธิพงศ์ลงไปแทนโชคลาภที่บาดเจ็บจากการปะทะกับพรชัย

ประสิทธิ์ตั๊นไม่ให้คู่แข่งผ่านง่าย ๆ

เปาโล โรแบร์โตท่ามกลางแผงรับจุฬา ยูไนเต็ด

10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก จุฬา ยูไนเต็ดบุกหนัก

อารอนกระโดดพักบอลโดยมีคิบะตามติด

ก่อนเริ่มเกมครึ่งหลัง แฟน ๆ Pink Panther ร่วมใจกันให้เกียรติอดีตโค้ชยอดขวัญใจ โชเซ เฟร์เรยราด้วยการตะโกนเรียก

“โจเซ ๆ ๆ”

ยอดโค้ชจากแดนแซมบ้าตอบสนองเสียงนั้นเหมือนสมัยยังคุมทีมอยู่ในสนามจุ๊บเปี๊ยบ โบกไม้โบกมือพร้อมกับไหว้งาม ๆ

อ.ชนะกับการแก้เกมในช่วงพักครึ่ง

ทีมงานเสือสามย่านรวมใจกันก่อนเริ่มเกมครึ่งหลัง

เปิดฉากครึ่งหลังมาแค่ 6 นาที แบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์ก็วนมาพบกับแฟน ๆ อีกเป็นหนที่ 3 เมื่อแผงหลังเสือสามย่านเกิดผุพังปล่อยให้วาลเลซหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับเจ้าเบิร์ด

“มีอะไรมันพังไป เชิญเอามาที่เรา หนักเบาเราซ่อมได้...”

ช็อตนี้อดีตผู้รักษาประตูปตท.สามารถบล็อกลูกยิงของดาวเตะแซมบ้าของเจ้าถิ่นได้อย่างเหลือเชื่อ รักษาประตูไม่ให้ต้องถูกเจาะพังเป็นครั้งที่ 2

เมธี มิดฟิลด์ตัวรับหัวทองของสุวรรณภูมิ-ศุลกากรงัดลูกโหดมาหยุดนักเตะเสือสามย่านหลายครั้ง แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าคุณชาญยุทธ ผู้ตัดสินจะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ทุกครั้งไป

พอเป็นแบบนั้นนักเตะหมายเลข 8 ของเจ้าถิ่นจึงกลายเป็นเป้าเสียงโห่ของกองเชียร์ทีมเยือนทุกครั้งที่ได้บอล

เหมือนกลัวเพื่อนโดนโห่คนเดียวจะน้อยใจ นิพนธ์ แบ็กขวาเจ้าถิ่นก็เลยรับอาสาโดนโห่เป็นเพื่อน ด้วยการแกล้งกลิ้งลูกขึ้นหน้าเพื่อกินแดนในจังหวะเตะลูกโทษบริเวณกลางสนาม ครั้นพอแฟน ๆ Pink Panther โห่ แบ็กขวาหมายเลข 7 คนนี้ก็ทำท่าเกาหูยั่วยวนแฟน ๆ ซะอีก...เลยโดนโห่ทุกครั้งที่ได้บอลสิครับพี่น้อง

ยิ่งเกาก็ยิ่งมัน ยิ่งมันก็ยิ่งเกา...เอ้ย! ยิ่งทำท่าเกาก็ยิ่งโดนโห่ ยิ่งโดนโห่ก็ยิ่งทำท่าเกา

ส่วนฝั่งกองเชียร์ของเจ้าบ้านนั้น การเชียร์ของพวกเขาสุภาพดีเหลือเกิน ร้องเพลงเชียร์ของทีมวนไปมา ราวกับเปิดเทปสลับหน้า A และหน้า B ไปมา กองเชียร์คู่แข่งจะโห่นักเตะของตนเองก็ไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาร้องเพลงอย่างเดียว

นาที 57 กัปตันทีมเสือสามย่านได้รับใบเหลืองเมื่อจงใจตัดเกมเมธี

5 นาทีต่อมา โค้ชโชเซส่งจิราวุฒิ สารนันต์ อดีตดาวยิงปตท.ลงมาเสริมเกมรุกแทนวาลเลซ

จุฬา ยูไนเต็ดพยายามโหมบุกในครึ่งหลัง แต่เพราะใส่ไปจนเกือบหมดแม็กแล้วช่วงท้ายครึ่งแรก เกมรุกจึงดูตื้อ ๆ ไป โอกาสใกล้เคียงที่สุดเกิดขึ้นในนาทีที่ 65 เมื่ออารอนพลิกบอลได้ ก่อนจะสับไกยิง ลูกพุ่งไปชนคานแฉลบออกหลังไปแบบน่าได้สกอร์สุด ๆ

3 นาทีต่อมา อ.ชนะส่ง “ไอ้ไม้กวาด” เซบาสเตียนลงมาไล่ล่าบอลในแดนกลางแทนวัฒนศัพท์

12 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมต่างทิ้งไพ่ใบสุดท้าย กะเกทับหมดหน้าตักกันทั้งคู่ เจ้าบ้านส่งนริศ พูนทรัพย์ลงมาแทนสิทธิพงศ์ ส่วนทีมเยือนส่งณัฐพล บานไม่รู้โรยแทน “เจ้าบี้” ชัยณรงค์

นาที 87 เจ้ายักษ์ เปาโล โรแบร์โตได้ใบเหลืองเมื่อตัดฟาวล์ศรันย์ ปีกซ้ายจอมขยันของทีมเยือน

ช่วงทดเวลาเจ็บ คุณชาญยุทธเพิ่งทำสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เมื่อตัดสินใจให้ใบเหลืองแก่เมธี โทษฐานตัดเกมในจังหวะโต้กลับของกิตติศักดิ์

หมดเวลาทั้ง 2 ทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้จึงเสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

กานูเปิดฟรีคิก โดยมีเปาโล โรแบร์โตพยายามขวาง

จังหวะนี้นิพนธ์เปิด ศรันย์กัน

อดุลย์ออกลูกงอนหลังโดนใบเหลือง

อดุลย์เปิดบอลโดยมีตัวสำรองเจ้าบ้านอย่างจิราวุฒิพยายามขวาง

ฮีโรอย่างเจ้าบี้ถูกเปลี่ยนตัวออกโดยมีผู้ช่วยผู้จัดการทีมมารับถึงขอบสนาม

กิตติศักดิ์เปิดฟรีคิกเข้าไปลุ้น

เมธี้ผู้รอดใบเหลืองไปหลายหนพยายามลากบอลหนีศรันย์

นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดขอบคุณแฟน ๆ Pink Panther ที่มาให้กำลังใจ

“จุฬา ยูไนเต็ดมีนักเตะดี ๆ เยอะ พวกเขาเล่นกันได้ดี วันนี้เราพอใจ 1 แต้มนะ แล้วก็คิดว่าจุฬาจะไปได้ถึงจุดที่พวกเขาหวัง ผมเอาใจช่วยนะ” โชเซ เฟร์เรยราแสดงความเห็น

“พอใจในระดับนึง เราเริ่มเล่นได้ดีขึ้น แต่การเล่นนอกบ้าน...ความกดดันมันเยอะ ผมไม่เคยตำหนิผู้ตัดสินนะ แต่ยังแคลงใจจุดโทษอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร เราพอใจใน 1 แต้ม” อ.ชนะ ยอดปรางค์ให้ความเห็น พร้อมกับเสริมต่อว่า “ตอนนี้เรามีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ วันนี้เชียร์ (นันทพล) ไปเกณฑ์ทหาร กลางสัปดาห์ก็เป็นเล็ก (ไมตรี) แต่น่าจะกลับมาทันแม็ทช์หน้า ส่วนต้น (วัฒนศัพท์) ไม่มีแรงเพราะไปเกณฑ์ทหารเพิ่งกลับมาเมื่อวาน แต่ถ้าเราโชคดี ได้ใบอนุญาตของนักเตะบราซิลที่เราเซ็นสัญญามาใหม่ทัน นัดหน้าก็อาจจะได้เฮ”

จุดอ่อนที่เห็นอยู่เต็มไปหมดใน 2 นัดแรกเริ่มถูกแก้ไขไปทีละจุด ๆ กับเกมนี้...อย่างน้อยก็ตรงที่ผู้รักษาประตูแหละน่า เห็นฟอร์มของเจ้าเบิร์ดแบบนี้ ถ้าแม็ทช์ต่อไปมีการขยายรอบ “แบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์” แฟน ๆ ก็คงเต็มใจดู...แต่เอ๊ะ! ถ้าไม่ขยายรอบการแสดงจะดีกว่ามั้ง? เพราะนั่นแสดงว่าแผงหลังสามารถขันน็อตจนแน่นแล้ว

“จังหวะแรกที่ทำเสีย...ยอมรับว่ายังไม่มีสมาธิเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้ว ผมพอใจฟอร์มตนเองครับ ครึ่งหลังพอได้รับบอลมากขึ้น มันก็มั่นใจขึ้น” พรชัยเผยความรู้สึก

“แบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์” อาจจะไม่ค่อยมีใครอยากให้จัดแสดงบ่อย ๆ แต่กับ “แบบบี้ บี้ โชว์” นี่สิ เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากดู...ในที่สุดชัยณรงค์ ทาทอง ศูนย์หน้าความหวังใหม่ของทีมก็คลำเป้าเจอในที่สุด

“เสียดาย...โดยเฉพาะในครึ่งแรก มันน่าได้หลายครั้ง แต่ครึ่งหลังเราแผ่วไปพอสมควร แต่วันนี้ได้เห็นความตั้งใจของน้อง ๆ ทำให้ผมคิดว่า 1 แต้มในวันนี้ก็น่าพอใจนะ หลังจากผิดหวังมา 2 แม็ทช์ นัดนี้เราเริ่มต้นด้วยการมีแต้ม ผมว่าต่อไปอีก 20 กว่านัดที่เหลือ เราจะดีขึ้นเรื่อย ๆ” บังดุลย์แสดงความเห็น

คุณหนูบอย...เอ้ย! บังดุลย์ว่าโอเค มันก็คงจะโอเคนั่นแหละ...ถ้ามองว่านี่เป็นแม็ทช์เยือนด้วย ประตูในช่วง 4 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจากใจ “พี่บี้” จึงมีค่ามากมาย อย่างน้อยก็ทำให้แฟน ๆ สามารถมองโลกในแง่ดีไได้ว่า

“ไม่เห็นต้อง Sad อะไร อะไรมากมาย ไม่กลัวอยู่แล้ว ยังไง ยังไง ไม่ตาย ตะโกนคำนี้ไปเลยให้ดังๆ…It’s alright…” (^-^)

Create Date : 04 เมษายน 2553
Last Update : 5 เมษายน 2553 1:33:44 น.		0 comments
Counter : 1407 Pageviews.
Share Tweet