Photobucket - Video and Image Hosting
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
The 2nd IVF, The Arrival of The White Stork

หายหน้าหายตา ทิ้งบล็อคร้างมาเป็นอาทิตย์ ๆ คราวนี้กลับมาปัดฝุ่นนิด ๆ แล้วอาจจะหายไปอีกหน่อย ขึ้นอยู่กับสังขารตัวเองง่ะ

ฉันเริ่มทำเด็กหลอดแก้วครั้งที่ 2 หลังจากฮอร์โมนเป็นปกติ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพักประมาณ 3 เดือน คราวนี้ฉันไม่หวังอะไรมาก เพราะหากไม่ใช่ครั้งแรกแล้วสำเร็จเลย ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ 2 หรือครั้ง 10 สำหรับฉันมันก็ค่าไม่ต่างกันเท่าไร

คุณหมอu/sมดลูกก่อนเริ่มทำการรักษา ดูจากสภาพมดลูก หมอบอกได้ว่าฮอร์โมนเป็นปกติแล้ว ฉันถามหมอว่ารู้ได้อย่างไร หมอว่าสภาพในมดลูกมันไม่เหมือนกัน คราวที่แล้วหมอเจอถุงน้ำเล็ก ๆ เพราะฮอร์โมนฉันเสียสมดุลจากการทำเด็กหลอดแก้วครั้งแรก คราวนี้ถุงน้ำนั้นหายไปแล้ว

หมอเริ่มฉีดยาตัวเดิม 300 IU 2 วันแรก แล้วหลังจากนั้น 150 IU ควบคู่ไปกับการพ่นจมูกเช้า-กลางวัน-เย็น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คราวนี้ไม่ต้องพ่นจมูกเตรียมตัวกันเป็นชาติเหมือนคราวก่อน เพราะหมอใช้วิธีshortกับฉัน พอถึงวันที่ 6 หมอ u/s ก็พบว่ามีไข่ 3 ใบ และ 2 ใบมีขนาด 20 mm. แล้ว หมอว่าร่างกายของฉันตอบสนองต่อยาดีมาก (ก็มันเที่ยวที่สองแล้วนี่นา) หมอฉีดยาให้ฉันอีก 1 เข็มเป็นวันที่ 7 แล้วตกเย็นก็มาฉีดยาให้ไข่ตกเลย หลังจากนั้น 2 วัน หมอก็นัดฉันเก็บไข่

การฉีดยาคราวนี้ฉันไม่ค่อยเจ็บ นวด ๆ ไปเดี๋ยวก็หาย แถมไปสายอย่างสบายใจ ไม่รีบแหกขี้ตาตื่นไปแต่เช้า คาดว่าตัวเองคงจะเลิกเห่อแล้ว

ก่อนหน้าวันเก็บไข่ พยาบาลให้งดอาหาร+น้ำหลังเที่ยงคืน เพราะจะใช้ยาสลบ ห้ามแต่งหน้าทาเล็บ เพื่อต้องการดูสีหน้าสีเล็บเผื่อมีside effectจากตัวยา

Photobucket

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ราว ๆ 8.45 น.ฉันขอร้องหมอไว้แต่แรกแล้วว่า คราวนี้ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายฉันให้แน่ใจว่าฉันหมดสติไปก่อนนะ ขั้นแรกพยาบาลเจาะให้น้ำเกลือที่แขนข้างขวา จากนั้นก็ค่อย ๆ ฉีดน้ำสีเหลืองลงไปผสมกับน้ำเกลือ ตัวยาค่อย ๆ ซึมเข้าไปในกระแสเลือดอย่างช้า ๆ (คลีนิคของฉันไม่ให้ดมยา) คุณหมอก็เริ่มล้างช่องคลอดอย่างรวดเร็ว แล้วฉันก็ผ่อนคลาย ไม่เกร็ง ทำใจสบาย ๆ จากนั้นไม่นานฉันก็รู้สึกตัวก็พบว่าหมอเก็บไข่ฉันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยาในถุงน้ำเกลือยังไม่หมดเลย 5555 ฉันรู้สึกตัวเร็วมาก ดูนาฬิกานับเวลาตั้งแต่ออกไปขึ้นเขียง ยันเดินกลับมานอนพักต่อที่เตียง แต่ครึ่งชั่วโมงนิดหน่อย

เที่ยวนี้ฉันรู้สึกตัวเร็วมาก ๆ แต่เวลาเดินยังโคลง ๆ อยู่ มึน ๆ หัวอยู่ จึงนอนพักต่อ แต่ไม่หลับ แต่ก็ไม่เจ็บ....

Photobucket

พยาบาลเอาชาเขียว และขนมมาให้ฉันกิน เหมือนทุกครั้ง

วันนี้ตาอ้วนรีดเชื้อเข้าห้องแลป แถมบอกฉันหน้าระรื่นด้วยว่าดื่มกาแฟดำก่อนรีดเชื้อด้วยนะ น่าร๊าก....

จากนั้นหมอก็เรียกฉันคุย บอกว่าเก็บไข่ฉันได้หมด 4 ใบ (ใบที่ 4 มันปุดขึ้นมาหลังจากฉีดยาเข็มที่ 6 เสร็จ) ซึ่งหมอบอกว่าเที่ยวนี้อาจจะต้องมีการแช่แข็งตัวอ่อน แล้วฉันก็ไปถามราคากับแคชเชียร์ว่าค่าใช้จ่ายจะตกประมาณเท่าไร เพราะวันที่เก็บไข่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน มาจ่ายวันที่ใส่ตัวอ่อนเลย หมอให้ยาปฎิชีวนะมากิน 5 วัน กันการติดเชื้อ

วันพุธที่ 20 กุมภา ฉันก็เตรียมดื่มน้ำไปจากบ้าน 750 CC แล้วอั้นฉี่เพื่อช่วยในการใส่ตัวอ่อนง่ายขึ้น หลังจากเปลี่ยนจากกางเกงมานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่แล้ว ก็ไปนอนรอบนเขียง คุณหมอไม่พูดพล่ามทำเพลง เพราะมีคนไข้รอขี้นเขียงอีกมาก บอกฉันว่าเที่ยวนี้จะใส่ตัวอ่อนกลับคืน 3 ตัว

ทำไมละคะหมอ แล้วตัวอ่อนอีกตัวล่ะ

เดี๋ยวหมอค่อยอธิบายตอนหลัง คุณหมอว่า

ตอนที่ฉันนอนรอหมอ ฉันเห็นพยาบาลเข็นโต๊ะที่วางสำลี และผ้าก๊อซมาด้วย

ไอ้สำลีนั้น เอาไว้ซับเลือดเหรอคะ...ฉันเริ่มปอดแหกขี้นมาทันที เอ...หรือคราวก่อนตรูก็เลือดออก แต่ไม่ได้สังเกตหว่า

ขั้นตอนการใส่ตัวอ่อนกลับ หมอไม่ใช้ยาอะไรทั้งสิ้น เริ่มล้างช่องคลอดแล้วสอดเครื่องมือเครื่องไม้เข้าไป ฉันรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ จุก ๆ มันก็เป็นความรู้สึกเจ็บแบบเดิม ๆ นั่นแหล่ะ เที่ยวนี้ฉันทนได้ แถมยังชวนพยาบาลคุยด้วย

ฉันอั้นฉี่เก่งไหมคะ

นี่คือปลายเข็มเหรอคะ ตัวอ่อนอยู่ไหนคะ มองไม่เห็นใช่มั้ยคะ

อุ๊ย ๆ เจ็บ ๆ พยาบาลบอกให้ฉันทนหน่อย เพราะเดี๋ยวหมอจะ tsumande(摘む)ซึ่งหมายถึงหนีบ หยิก บิด เข้าที่ผนังมดลูกฉัน ซึ่งจนแล้วจนรอดฉันก็ไม่รู้ว่าหมอทำเพื่ออะไร รู้แต่ว่าคราวก่อนไม่ใช่แบบนี้

พอใส่ตัวอ่อนเสร็จคุณหมอก็ให้พยาบาลสวนฉี่ออกให้ฉัน แล้วก็เข็นฉันมานอนพักที่เตียงให้นอนเฉย ๆ 1 ชั่วโมง พอครบกำหนดหมอก็เรียกฉันกับตาอ้วนไปอธิบาย พร้อมให้กระดาษข้อมูลมาแผ่นหนึ่งประกอบคำอธิบาย

บนกระดาษเขียนปริมาณเชื้อ อัตราการเคลื่อนไหว ใช้เชื้อสด หรือแช่แข็ง ใช้วิธีอะไร ตัวอ่อนที่ใส่กลับที่กี่ตัว เกรดอะไร ฯลฯ

คุณหมอบอกว่าได้ไข่ 4 ใบ แต่ได้ตัวอ่อน 3 ตัว เพราะไข่ 1 ใบใช้ไม่ได้เนื่องจากอร่อยเกิน เชื้อเลยรุมเร้าเข้าไปเจาะเสียหลายตัว ส่วนตัวอ่อนที่ได้ 3 ตัวนั้น

ตัวที่หนึ่ง เกรด 1-2 แบ่งได้ 6 เซล
ตัวที่สอง เกรด 1-2 แบ่งได้ 4 เซล
ตัวที่สาม เกรด 2 แบ่งได้ 4 เซล

ผนังมดลูกหนา 11.6 mm. หมอว่าหนาพอ ๆ กับคราวก่อน

หมอคะ เที่ยวนี้ตัวอ่อนไม่ค่อยดีใช่มั้ยคะ ฉันใจแป้ว น้ำตาพาลจะหยด เพราะเที่ยวที่แล้วได้เกรด 1 ยังไม่สำเร็จเลย

ไม่เกี่ยว เที่ยวนี้เลี้ยงไว้ข้างนอกแค่ 2 วัน ตัวอ่อนจึงยังแบ่งได้ไม่ถึง 8 เซลเหมือนคราวที่แล้วที่เลี้ยงไว้ 3 วัน

ฟังแล้วยิ่งพาลจะเป็นลมหนักกว่าเดิม ทำไมไม่เลี้ยงไว้ให้ครบ 3 วันก่อนเล่า คุณหมอที่รัก

จริง ๆ จะเลี้ยงไว้ 2 หรือ 3 วันมันก็ไม่ได้ต่างอะไรเท่าไรหรอก ถึงหมอจะพูดแบบนี้ แต่ความรู้สึกหนูมันต่างมาก ๆ เลย

ก่อนกลับบ้าน พยาบาลฉีดฮอร์โมน HCG ให้ฉัน แล้วอีก 2 วันให้หลัง หมอก็นัดมาฉีดฮอร์โมน HCG อีกรอบ หลังจากใส่ตัวอ่อนครบ 1 อาทิตย์ก็มาฉีด outai hormone (黄体ホルモン - progesterone) ส่วนยากินก็เริ่มกินprogesteroneตั้งแต่วันที่ใส่ตัวอ่อนเลย กินครั้งละ 2 เม็ดจิ๋ว ๆ วันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น พยาบาลบอกว่าหลังจากกลับบ้านไปแล้ว 1 ชั่วโมงให้หลัง ดึงผ้าก็อซออกจากช่องคลอดด้วย หวาย....หมอเอาผ้าก็อซขนาดยาวเกือบ ๆ 1 ฟุด อุดเข้าไปข้างใน น่ากลัวมั่ก ๆ

จากวันที่ใส่ตัวอ่อนเป็นต้นมา มหากาพย์ของการใช้ชีวิตแบบเจ้าหญิงของฉันก็เริ่มขึ้น ตั้งแต่วันพุธ - อาทิตย์ ฉันใช้เวลาอยู่บนเตียงวันละ 22 ชั่วโมง แม้กระทั่งกิน ฉันก็กินบนเตียง เพราะตาอ้วนยกมาเสริฟให้ถึงที่ น้ำก็สองวันอาบที ลุกไปฉี่เท่านั้น อึไม่ต้องพูดถึง เพราะเกิดอาการท้องผูกอย่างรุนแรง งานบ้านไม่จับไม่ทำ ตาอ้วนทำทุกอย่าง ก่อนไปทำงานก็จะทำกับข้าว หุงหาข้าวหาปลาไว้ให้ ซักผ้า ถูบ้าน กินเสร็จจานชามฉันก็ทิ้งไว้ในอ่าง รอตาอ้วนกลับมาล้างตอนดึก ตาอ้วนเป็นคนไปจ่ายตลาด เอาของเข้าตู้เย็น....หากเอาฉี่ฉันไปเทได้ พี่แกคงทำให้ด้วย

วันธรรมดา หากหิวน้ำหิวข้าวเวลาที่ตาอ้วนไปทำงาน ฉันก็จะลุกไปเอาเอง ห้องครัวห่างจากห้องนอน 5 ก้าว เวลาปลดทุกข์ก็แสนง่าย ห้องน้ำอยู่ห่างห้องนอน 5 ก้าวเหมือนกัน วันเสาร์-อาทิตย์ เวลาจะกินน้ำ ตาอ้วนก็ลุกไปเอามาให้ ไม่ต้องขยับตัวเลย

วัน ๆ ฉันก็จ่อมอยู่บนเตียง ดูละครไทยทางyoutube จบไปหลายซีรีส์ แต่DVD Full Houseซีรีส์เกาหลีที่เจ๊หลิงให้ยืมนี่ ตาอ้วนสั่งห้ามดูล่วงหน้า ต้องรอพี่แกมาดูพร้อม ๆ กัน

หม่าม้าก็ขยันมาเยี่ยม แบกเอากับข้าวกับปลาที่ป่าป๊าทำมาให้ สตูว์เนื้ออร่อยจนฉันแทบจะเลียจานเลย เวลาหม่าม้ามาที ฉันก็ลุกจากเตียงไปนั่งคุยด้วย พอหม่าม้ากลับฉันก็คลานขึ้นเตียงเหมือนเดิม สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันไม่ออกจากบ้านไปไหน นอกจากไปคลีนิคหมอเท่านั้น ซึ่งก็แสนใกล้ ปกติใช้เวลาเดิน 2 นาที แต่พอใส่ตัวอ่อนก็พยายามทำตัวเหมือนทากน้อย คลานทีละกระดึ๊บ ๆ ก็ 5 นาที พอฉีดยา u/s เสร็จ ฉันก็รับกลับบ้าน ไม่เถลไถลที่ไหน มานอนบ่มไขมันบนเตียงอีก นอนไปนอนมากตูดเริ่มบาน กระดูกก้นกบปวดหนึบ ๆ แต่ก็ไม่ท้อถอย ยังคงนอนมาราธอนเหมือนเดิม

วันพุธที่ 5 มีนาคม เป็นวันที่คุณหมอนัดฉันฟังผล ฉันเป็นกังวลมาก ๆ ว่าจะออกหัวหรือก้อย อาการต่าง ๆ ที่มีก็เจ็บหน้าอก (เจ็บยาวนาน มาร่วมอาทิตย์กว่า) ในปากขม ๆ และท้องผูก (เวลาอึ ก็เลือดไหล เพราะเบ่งมากไปหน่อย) ฉันวัดอุณหภูมิร่างกายตัวเองทุกวัน นับจากวันที่ใส่ตัวอ่อนมันก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ บางวันสูงถึง 37.04 บางวันก็ตกลงมาหน่อย ยั่วให้เราประสาทเสียเล่น ฉันบอกหมอว่าขอเลิกวัดอุณจะได้ไหม เพราะมันทำให้ฉันเครียด หมอว่าขอให้วัดต่อไปเท่าที่เราจะทำได้ แต่พยาบาลกระซิบว่า หากมันทำให้ฉันเครียดปางตายก็เลิกวัดเถอะ

วันศุกร์ที่ 29 กุมภา อุณฉัน 36.93 องศาเซลเซียส

วันเสาร์ที่ 1 มีนา อุณ ฉัน36.93 องศาเซลเซียส

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนา อุณฉัน 36.84 องศาเซลเซียส

วันจันทร์ที่ 3 มีนา อุณฉัน 36.84 องศาเซลเซียส (งานนี้สงสัยกินแห้วอีกแน่ ๆ ฉันเป็นกังวล วิตกจริตขนาดหากว่างเป็นต้องคว้าปรอทมาอมใต้ลิ้นทันที วันละ 5-6 รอบ เริ่มถอดใจแล้ว คุยกับตาอ้วนว่าคราวหน้าพยายามกันใหม่นะ)

วันอังคารที่ 4 มินา อุณฉันเด้งขึ้นไปที่ 36.91 องศาเซลเซียส (ปกติฉันตั้งเวลาตื่นขึ้นมาวัดตอน 6:30 น.ทุกเช้า) ทนไม่ไหวแล้ว ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย คว้าเอาที่ตรวจฉี่ที่เจ๊หลิงให้มา ตรวจให้มันรู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่มานั่งประสาทเสียแบบนี้

Photobucket

(รูปซ้าย)

ผลออกมาขึ้น 2 ขีด อย่างเห็นชัดภายใน 10 วินาที ไม่ต้องรอให้ขีดการเทสต์สมบูรณ์ขี้นด้วยซ้ำไป เท่านั้นแหล่ะ ฉันรีบเปิดไฟปลุกตาอ้วน งัวเงียขี้ตาขึ้นมาทันที พร้อมกับเอากล่องที่มีคำอธิบายวิธีใช้ test stick นี้ให้ตาอ้วนอ่านด้วย

เฮ้ย.....ฉันท้องแล้ว!!!!!

ดีใจจนหัวใจแทบระเบิดออกมาเต้นข้างนอก โทรไปหาเจ๊หลิง ถามเจ๊ว่าไอ้ผลเทสต์แบบนี้มันเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน เจ๊บอกว่า ฉันท้องแล้วหล่ะ....

เช้าวันนี้ ก่อนที่จะไปฟังผล ฉันต้องเก็บฉี่แรกของวันไปด้วย ฉันก็เอาที่เทสต์อีก 1 อันที่เหลือเทสต์อีกรอบ (เจ๊ว่าใช้ไปให้หมดเลย เพราะฉันคงไม่ต้องใช้มันอีกแล้ว) ก็ขึ้น 2 ขีดเหมือนเดิม (รูปขวา) แต่คราวนี้ไม่ตื่นเต้นเหมือนเมื่อวานแล้ว

ฉันไปนั่งรอก่อนคลีนิคเปิดทำการราว 45 นาที นั่งอ่านหนังสือไปก็รู้สึกง่วงนอน นั่งโงกหงุบไปราว ๆ เกือบชั่วโมง แล้วพยาบาลก็เรียกฉันเข้าไปในห้อง คุณหมอบอกว่า "ยินดีด้วย ท้องแล้วนะ" คุณหมอยิ้มหน้าบาน ฉันก็ยิ้ม (แต่บานสู้เมื่อวานไม่ได้) แล้วฉันก็คว้ามือคุณหมอซึ่งถือพลาสติก 4 เหลี่ยมขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 นิ้วไว้ในมือขึ้นมาบีบ "ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ๆ" เครื่องในมือหมอ ฉันคิดว่าเป็นที่เทสต์ผลฉี่เหมือนกัน แต่คงจะมีค่าความละเอียดมากกว่าที่ขายในท้องตลาด เพราะฉันเห็นมีตัวอักษร HCG เขียนไว้ แล้วในช่องก็ขึ้นเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดงเข้ม

วันนี้พยาบาลฉีด progesterone ให้ฉันอีก 1 เข็ม แล้วก็ให้progesteroneมากินอีก 1 อาทิตย์ บอกว่าหากกินหมด ก็ไม่ต้องกินแล้ว พร้อมกับนัดว่าพุธหน้าให้มา u/s

ฉันบอกหมอว่าฉันท้องผูกอย่างหนักมาตลอด 1 อาทิตย์ ทนไม่ไหวแล้ว คุณหมอบอกว่าคนท้องกับท้องผูกนี่เป็นของคู่กัน ไม่ต้องเป็นกังวล พร้อมกับสั่งจ่ายยาชนิดหยดผสมกับน้ำ ให้ดื่มก่อนนอน จะช่วยให้อึนิ่มขึ้น

ตอนนี้พ่อแม่ญป และไทยรู้แล้ว กรี๊ดกันบ้านแตก....แต่ฉันก็ยังไม่วางใจ ตราบใดที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนตรวจน้ำคร่ำ และก็ยังไม่คลอดออกมาเป็นตัวเป็นตน เพราะตัวอ่อนที่เกิดจากกระบวนการวิทยาศาสตร์นี้หลุดได้ง่ายมาก ตอนนี้ฉันก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่าเดิม เขียนบล็อคนี้ก็อยู่บนเตียงค่ะ....

ตาอ้วนพร่ำขอบคุณฉันเป็นสิบ ๆ รอบที่ฉันท้องให้เขา ฉันซะอีกควรจะขอบคุณเค้าที่ดูแลฉันอย่างดีมาตลอด 2 อาทิตย์นี้

สุดท้ายก่อนที่ฉันจะหายตัวไปอีกรอบ (เพราะก้นกบเริ่มด้านแล้ว) ฉันขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่กำลังทำการรักษาการมีบุตรยาก และคนที่คิดว่าทำลังจะเริ่มรักษา สิ่งที่ได้จากการรักษาครั้งนี้คือ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น อย่าไปคิดว่าคนนั้นเก็บไข่ได้เยอะ ของเราได้น้อยแล้วจะไม่มีหวัง....ไม่จริงค่ะ อย่าไปเน้นที่ปริมาณ ขอให้ดูที่คุณภาพแทน การที่จะท้องไม่ท้องมันมีปัจจัยหลายอย่างประกอบ ไม่ใช่เป็นเรื่องของไข่ กับเชื้อเพียงอย่างเดียว สภาพร่างกาย และสภาพจิตใจก็สำคัญค่ะ

มีน้องมาถามฉันว่า ควรจะเริ่มทำรอบต่อไปเมื่อไหร่ ฉันก็บอกไปว่าเมื่อตัวเองพร้อม คือ ต้องพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ กำลังทรัพย์ และเวลาที่จะเอาใจใส่ตัวเอง สำคัญที่สุด กำลังใจและความเข้าใจจากสามีค่ะ

ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ


Create Date : 05 มีนาคม 2551
Last Update : 5 มีนาคม 2551 20:40:14 น. 0 comments
Counter : 4087 Pageviews.

fudge-a-mania
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add fudge-a-mania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.