|
เขาหงอนนาค จ.กระบี่
เขาหงอนนาค หรือเขาหางนาค จ.กระบี่ ทริปนี้จริงๆ แล้วเป็นทริปต่อจากที่ไปเดินเขาหลวง ผาเหยียบเมฆ จ.นครศรีธรรมราช แล้วลางานต่ออีก 3 วันมาต่อที่กระบี่ โดยมาเที่ยวกัน 2 คนกะพี่แมน(ผู้ร่วมทริปเขาหลวง) ขับรถจากนครศรีธรรมราช มากระบี่กัน 2 คน (พี่แมนขับ ป้าตานั่งเม้าท์ ) นัดเจ้าหน้าที่ไว้บ่ายๆ แต่มาถึงจริงๆ ก็เกือบสี่โมงเย็นล่ะ ทางขึ้นเขาจะอยู่สุดถนนทางไปหาดทับแขก จะเจอหน่วยย่อยของอุทยานฯ
 พี่แมน บอกว่าเดินสบายๆ ใช้เวลาแค่สองวันก็พอ ไม่ต้องเตรียมของกินไปเยอะ ทาน 2 มื้อก็พอ (เย็นกะเช้า)
 แต่พอเดินมาได้สักระยะ ..มันเริ่มร้อน หมดแรง ทางดิ่งขึ้น ๆ ...ขนาดเจ้าหน้าที่ที่มาด้วย ยังนั่งพักหอบกันตลอดเลย... ระหว่างทางไม่มีอะไรให้ถ่ายรูปเลยอ่ะ เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งทนดูสภาพป้าตาไม่ไหว เลยบอกว่าจะแบกเป้ให้ แต่พอถึงบนยอดเขาแล้ว..วิวสวยมากเลย เห็นท้องทะเล เห็นตัวเมืองกระบี่ไกลๆ ยามค่ำคืนก็วิวงาม ลมเย็น เราสองคนผูกเปลนอนกัน ส่วนเจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวผมหาที่นอนกันเอง...รู้สึกผิดจัง 
 
ข้างบนมีบ่อน้ำซึม น้ำซับตามธรรมชาติ มี 2 บ่อ เอาไว้ดื่ม กับอาบน้ำ แต่..เราไม่อาบหรอก เพราะพออาบน้ำแล้ว เดินขึ้นไปยอดตรงจุดที่เรานอนกัน ก็หอบหลายอยู่ เหงื่อก็ออกมาอีกนั่นแหละ...เลยไม่อาบ
 
 
เดินมาก็หลายหอบล่ะ ...ถึงจุดหมายปลายทางบนยอดสักที หาทำเลผูกเปล นอนดูดาวดีกว่า....แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าพี่ๆ ไปดูน้องส้มตกกันตรงหน้าผาโน่นนะ...ผมสองคนจะทำอาหารไว้รอ
 
 วิวด้านที่ดูพระอาทิตย์ตก จะเห็นวิวของอ่าวนาง อ่าวนพรัตน์ เห็นไกลไปถึงเกาะปู้น กลางทะเล
 ยามเย็นพระจันทน์บนฟ้าก็ยังอยู่...กลับมากินอาหารเย็นที่น้องๆ เจ้าหน้าที่ทำไว้รอ...คือ มาม่าใส่ไข่นั่นเอง มีลูกชิ้นปิ้งที่แวะซื้อก่อนขึ้นมา...อาย่อยมากๆ (ไม่รู้หิวหรือป่าวนะ) แล้วก็ไปนอนดูดาวบนดิน บนโขดหิน ดูวิวในตัวเมืองกระบี่ 
 
 เช้าไม่อยากจะลุกเลย แต่ก็โดนปลุกให้มาดูพระอาทิตย์ขึ้น ..ไม่ต้องเดินไกลอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง
 
 
ภาพต่อไปนี้กล้าคิด แต่ไม่ต้องทำก็ได้...ถ้าจะทำต้องไม่ประมาท มีสติ อย่าหวั่นไหว อย่าท้อแท้ อย่าเศร้า อย่าหงอยเหงา อย่าทำเป็นเล่น  แล้วก็ ...อย่าขาสั่น
 
 
จบทริปนี้ก็เสีย...รองเท้าไปอีกหนึ่งคู่ (ก็ใครเขาให้ใส่รองเท้าวิ่ง ไปเดินเขาล่ะแกร...  ) ...แต่ได้เห็นความงามของเมืองไทยอีกที่ๆหนึ่งอยู่ใกล้ๆ เรา ไปกระบี่หลายครั้งก็ไปเที่ยวแต่ทะเล...กิน...ไม่เคยรู้เลยมามีเขาหางนาค วิวสวยๆ แบบนี้
 
แต่เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ....เราจะต้องเดินทางค้นหา...ที่เที่ยวใหม่ๆ (ของตัวเองนะ..) ต่อไป...สู้ไปต่อ ป้าตา
ขออภัย..รูปบางรูปอาจทำกรอบบ้างไม่ทำบ้าง ...หรือมีชื่อบ้าง เพราะไปจิ๊กเค้ามาอ่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะ...ป้าตา โดนคนเดียว
 บอกเล่าเรื่องราว รายละเอียดสถานที่อาจไม่ค่อยรู้เรื่อง...เพราะตอนนี้เบลอฤทธิ์ยา
เมื่อไหร่จะหายเนี่ย....เบื่อ เซ็งแล้วนะ
| Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551 |
|
14 comments |
| Last Update : 19 พฤศจิกายน 2551 10:04:01 น. |
| Counter : 5335 Pageviews. |
|
 |
|
) นัดเจ้าหน้าที่ไว้บ่ายๆ แต่มาถึงจริงๆ ก็เกือบสี่โมงเย็นล่ะ ทางขึ้นเขาจะอยู่สุดถนนทางไปหาดทับแขก จะเจอหน่วยย่อยของอุทยานฯ 
พี่แมน บอกว่าเดินสบายๆ ใช้เวลาแค่สองวันก็พอ ไม่ต้องเตรียมของกินไปเยอะ ทาน 2 มื้อก็พอ (เย็นกะเช้า) 
แต่พอเดินมาได้สักระยะ ..มันเริ่มร้อน หมดแรง ทางดิ่งขึ้น ๆ ...ขนาดเจ้าหน้าที่ที่มาด้วย ยังนั่งพักหอบกันตลอดเลย... ระหว่างทางไม่มีอะไรให้ถ่ายรูปเลยอ่ะ
เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งทนดูสภาพป้าตาไม่ไหว เลยบอกว่าจะแบกเป้ให้
แต่พอถึงบนยอดเขาแล้ว..วิวสวยมากเลย เห็นท้องทะเล เห็นตัวเมืองกระบี่ไกลๆ ยามค่ำคืนก็วิวงาม ลมเย็น เราสองคนผูกเปลนอนกัน ส่วนเจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวผมหาที่นอนกันเอง...รู้สึกผิดจัง 
วิวด้านที่ดูพระอาทิตย์ตก จะเห็นวิวของอ่าวนาง อ่าวนพรัตน์ เห็นไกลไปถึงเกาะปู้น กลางทะเล 
ยามเย็นพระจันทน์บนฟ้าก็ยังอยู่...กลับมากินอาหารเย็นที่น้องๆ เจ้าหน้าที่ทำไว้รอ...คือ มาม่าใส่ไข่นั่นเอง มีลูกชิ้นปิ้งที่แวะซื้อก่อนขึ้นมา...อาย่อยมากๆ (ไม่รู้หิวหรือป่าวนะ
เช้าไม่อยากจะลุกเลย แต่ก็โดนปลุกให้มาดูพระอาทิตย์ขึ้น ..ไม่ต้องเดินไกลอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง
แล้วก็ ...อย่าขาสั่น
) ...แต่ได้เห็นความงามของเมืองไทยอีกที่ๆหนึ่งอยู่ใกล้ๆ เรา ไปกระบี่หลายครั้งก็ไปเที่ยวแต่ทะเล...กิน...ไม่เคยรู้เลยมามีเขาหางนาค วิวสวยๆ แบบนี้
บอกเล่าเรื่องราว รายละเอียดสถานที่อาจไม่ค่อยรู้เรื่อง...เพราะตอนนี้เบลอฤทธิ์ยา
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [
หวาดเสียวอ่ะป้าตา
ใครไปยืนอยู่ตรงชะง่อนน่ะจ๊ะ
แต่ว่าวิวสวยดีนะคะ
พี่ตาสบายดีนะ