ตามที่ “บันเทิงเดลินิวส์”นำเสนอข่าวออกไป กรณีพิพาทระหว่างพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ กับทางบริษัทผลิตภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ฯ นั้น ล่าสุด ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีข่าวการต่อสัญญากับพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์ “เคลียร์ เมน”กับ ณเดชน์ ว่า

...ทางบริษัทไม่มีนโยบายที่จะถอนหรือยกเลิกการโฆษณาในรายการที่มี ณเดชน์ เป็นผู้แสดง โดยบริษัทได้ดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ การตัดสินใจซื้อโฆษณาแต่ละครั้งทางเอเจนซี่จะเป็นผู้พิจารณาจากเรตติ้งและความน่าสนใจของรายการเป็นหลัก ทั้งนี้การปฏิบัติต่อพรีเซ็นเตอร์ของ      ยูนิฯจะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งเราจะปฏิบัติตามสัญญาอย่างครบถ้วน จนกว่าสัญญาจะหมดลง ส่วนการพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนงานในอนาคตว่ามีความเหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์หรือไม่ และการพิจารณาต่อสัญญาไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัทเพียงฝ่ายเดียว  แต่ต้องขึ้นกับความเห็นชอบของทุกฝ่าย คือ พรีเซ็นเตอร์ ลูกค้า และ เอเจนซี่

นอกจากนี้ด้านผู้จัดการที่ดูแลพระเอกหนุ่มคนดัง เอ-ศุภชัย เปิดเผยกับเดลินิวส์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวต่ออีกว่า “ณเดชน์ได้ไปถ่ายแบบกับนิตยสารลิปส์จริง โดยภาพดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อโปรโมตหนังเรื่อง “คู่กรรม” แต่พอไปถึงปุ๊บทางนิตยสารได้บอกว่าเขาตกลงขายโฆษณากับลูกค้าในทำนองจะไทร์อิน ซึ่งตนได้บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าเป็นภาพนิ่งแล้วมีสินค้าอยู่แบบเห็นชัด ๆ ไม่ได้ เพราะจะมีค่าใช้จ่ายนะ ซึ่งเอได้บอกคุณแม่ณเดชน์ให้ช่วยดูแลให้ด้วย หากมีการปฏิบัตินอกเหนือจากนี้ ซึ่งเวลาถ่ายทำจริง ช่างภาพกลับจะถ่าย ซึ่งตามหลักจะทำไม่ได้เพราะในซีนนั้นจะมีนางเอกคือ น้องริชชี่-อมราวดี อยู่ด้วย มันจึงผิดข้อตกลงที่บอกไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไข ซึ่งเอคิดว่าทางเขาคงหวังดีกับลูกค้า และน่าจะเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า”

แล้วช่อดอกไม้ที่บอกว่าส่งกลับล่ะ?! “กระเช้าดอกไม้ได้ส่งมาจริง เพราะลูกค้าส่งมาขอโทษ โดยเขาได้ติดต่อผ่านมาทางเอ เอก็บอกต่อไปยังคุณแม่ของน้อง แม่ก็งง และบอกว่าไม่เป็นไรลูก เรื่องเล็กน้อย ดอกไม้ยังอยู่กับเอเลย” ได้คุยกับทางลูกค้ารึยัง? “คุยแล้วครับ เค้าบอกไม่ได้มีปัญหาอะไร เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะผลิตภัณฑ์ในเครือเท่านั้น เราเองต้องรักลูกค้าสิครับ เพราะเขาให้งานพวกเรา ซึ่งก็เคลียร์กันแล้ว”

อย่างไรก็ตามนักปั้นมือทองกล่าวตบท้ายว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่และไม่ได้ก่อความเสียหายอะไร เหมือนลิ้นกับฟัน ปัญหามันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ อยู่แล้วครับ ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า.