1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
ประโยคโฆษณาี่ความหมายเพี้ยนใน English
ประโยคทั้งหลายต่อไปนี้นี้เอามาจากเว็บรวม joke นะครับ เป็นประโยคสั้นๆ ที่แปะไว้โฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง ตามป้ายรายทางบ้าง แต่เป็นประโยคที่ใช้ผิดไวยากรณ์นิดๆ หน่อยๆ หรือเรียงประโยคไม่เหมาะสมบ้าง ซึ่งทำให้ความหมายเพี้ยนและกลายเป็นตลกไปเลย ลองมาดูกันนะครับ เริ่มเลยนะครับ Illiterate? Write today for free help. คิดว่าน่าจะพอรู้จักคำว่า literature กันมาบ้าง คำๆ นี้เป็นนาม แปลว่า งานประพันธ์ หรือ วรรณคดี ดังนั้นพอกลายมาเป็นคุณศัพท์ ก็คือ literate จึงมีความหมายว่า สามารถอ่านออกเขียนได้ ดังนั้น illiterate ก็คืออ่านเขียนไม่ได้นั่นเอง ไงครับ แปร่งๆ ไหมครับโฆษณาอันนี้ ถ้าคนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แล้วจะไปอ่านเข้าใจแล้วเขียนไปขอความช่วยเหลือได้ยังไง จริงไหม?? Auto Repair Service. Free pick-up and delivery. Try us once, you'll never go anywhere again. อันต่อมานะครับ Auto นี่มาจาก Automobile ซึ่งก็หมายถึงรถยนต์นั่นเอง ซึ่งนี่คือโฆษณาบริการซ่อมรถ เขาต้องการจะบอกว่าไปรับและส่งฟรี ให้ลองบริการเราสักครั้ง แล้วคุณจะไม่ไปซ่อมกับใครอีกเลย ปัญหามันอยู่ตรง you'll never go anywhere again นี่แหละครับ กลายเป็นว่า ลองซ่อมกับเราแล้ว คุณจะไปไหนไม่ได้อีกเลย อ้าว ไปกันใหญ่แล้วนี่ Dog for sale: eats anything and is fond of children. อันนี้ก็ขายสุนัขครับ อ้างว่าหมากินง่าย กินอะไรก็ได้ แถมชอบเด็กด้วย (คำว่า is fond of แปลว่าชอบ) ซึ่งพอเอาคำว่าี้กินได้ทุกอย่างและชอบเด็กมารวมกัน มันเลยหมายความได้อีกอย่างว่าชอบกินเด็ก Now is your chance to have your ears pierced and get an extra pair to take home, too. คำว่า pierce แปลว่าเจาะครับ ส่วน ear pierce แปลว่าต่างหู แต่ในที่นี้ เขาใช้คำในลักษณะ have something done ซึ่งหมายถึงกระทำกริยานั้นๆ กับนามนั้นๆ ซึ่งในที่นี้คือ เอาหูมาเจาะ นั่นเอง คราวนี้เขาคงตั้งใจจะบอกว่าจะให้ต่างหูกลับบ้านฟรีอีกคู่หนึ่ง (extra pair) แต่ปัญหาก็คือ extra pair of what???? ... ประโยคนี้เขาละเว้นนามเอาไว้ ดังนั้นตามไวยากรณ์แล้ว เราจึงต้องเอานามจากประโยคก่อนหน้ามาใส่ ซึ่งก็คือ ears นั่นเอง อ้าว ตายละสิ กลายเป็นเจาะหูแล้วได้หูเพิ่มมาอีกคู่หนึ่งแทนไปเสียแล้ว We do not tear your clothing with machinery. We do it carefully by hand. อันนี้จะเพี้ยนแนวๆ เดียวกัน ประโยคแรกคือ เราไม่ทำให้เสื้อผ้าคุณขาดด้วยเครื่องจักรหรอก ้ประโยคสองมีคำว่า do it ซึ่งแสดงว่า do นั่นแทนกริยาก่อนหน้านี้ ซึ่งก็มีอยู่คำเดียวคือ tear ที่แปลว่าทำให้ฉีกขาด อ้าววว ประโยคที่ต้องการบอกว่าจะใช้มือทำงานอย่างระมัดระวังไม่ให้เสื้อผ้าฉีกขาด กลายมาเป็นประโยคที่หมายความว่าเราฉีกเสื้อผ้าของคุณด้วยมืออย่างระมัดระวังไปเสียนี่ Tired of cleaning yourself? Let me do it. ส่วนประโยคนี้รู้สึกแปลกๆ ไหมครับ "เหนื่อยที่จะทำความสะอาดตัวคุณเองใช่ไหม ให้พวกเราช่วยเถอะ"... นี่ถ้าเปลี่ยนประโยคเป็น by yourself ก็จะมีความหมายว่า "เหนื่อยที่ต้องทำความสะอาดด้วยตัวคุณเองใช่ไหม" เห็นไหมครับว่าความหมายมันโอเคขึ้นเยอะ Used Cars: Why go elsewhere to be cheated? Come here first. used cars ก็คือรถที่ใช้แล้ว หรือรถมือสองนั่นเอง แปลง่ายๆ เลยนะครับ "ขายรถมือสอง: ทำไมไปที่อื่นเพื่อให้โดนโกง มาที่นี่ก่อนสิ" เออ มาให้ที่นี่โกงก่อนใช่ไหมเนี่ยยยย Wanted. Man to take care of cow that does not smoke or drink. อันนี้เขาต้องการคนที่ไม่สูบบุหรี่และไม่กินเหล้ามาเลี้ยงวัว ปัญหาคืออันเอา that ไปต่อหลัง cow ทำให้ประโยคกลายเป็นว่าหาคนไปเลี้ยงวัว โดยวัวเนี่ยไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้า Our bikinis are exciting. They are simply the tops. อันนี้ขอยกประโยค simply the best มาให้ดูกัน ถ้ามีคนบอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมัน simply the best นั่นก็หมายความว่า สิ่งนั้นมันดีที่สุดแบบสบายๆ ประมาณว่าดีที่สุดแบบหาคนเทียบไม่ได้นั่นแหละครับ คราวนี้เห็นพวกนักเขียนคอลัมน์กีฬาบางคนชอบแปลว่า ง่ายๆ ดีที่สุด ประมาณชมทีมลิเวอร์พูลยุคเก่าๆ น่ะครับว่าเล่นง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งไม่ใช่ความหมายของคำ simply the best เลยยยย ตอนผมยังเด็กๆ อยู่ก็อ่านหนังสือกีฬาเล่มนั้นแล้วเข้าใจผิดมาตลอด ไม่รู้เดี๋ยวนี้แ้ก้ไขกันบ้างหรือยัง (ตอนนี้ผมซื้ออ่านตอนที่ลิเวอร์พูลชนะอย่างเดียว แหะๆๆ) เอ้า กลับมาที่ประโยคโฆษณาอันสุดท้าย ผิดตรงไหนรู้ไหมครับ??? คนเขียนโฆษณาคงอยากบอกขายบิกินี่มาก เลยพยายามบอกว่ามันเจ๋งสุดๆ โดยแทนที่จะใช้ simply the best เขามาใช้ simply the top แทน ปัญหาคือเขาดันเติม s เข้าไปที่ top ด้วยนี่สิ คราวนี้ top มันเป็นนามที่มาจากคุณศัพท์ ซึ่งมีหมายถึงสูงสุด เจ๋งสุด ประมาณนี้ แต่พอเติม s มันกลายเป็นนาม ที่แปลว่าส่วนบน อ้าวววว บิกินี่ของเขานี่มันน่าตื่นเต้นเพราะว่ามันมีแต่ส่วนบนไม่มีส่วนล่างอย่างนั้นล่ะสิ อืมมม น่าสนเนอะ :-) ........ แหะๆ วันนี้ออกจะใช้ศัพท์ง่ายๆ ไวยากรณ์ก็ไม่ยาก แต่คงพอเห็นหลักการในการเขียนให้ถูกไวยากรณ์ง่ายๆ และเห็นว่าความลื่นไหลของประโยคก็สำคัญอีกด้วย เพราะถ้าเขียนประโยคได้ลื่นไหลต่อเนื่องไปในทางเดียวกัน นอกจากจะช่วยให้ภาษาสละสลวยขึ้น ยังช่วยไม่ให้ความหมายเพี้ยนจากที่ต้องการอีกด้วย หวังว่าคงไม่ง่ายไปจนเบื่อกันเสียก่อนนะครับ
Create Date : 02 สิงหาคม 2550
Last Update : 24 ตุลาคม 2550 22:25:36 น.
3 comments
Counter : 6804 Pageviews.
โดย: โคบาลน้อย วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:22:35:25 น.
โดย: Preconventional Level IP: 124.120.10.60 วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:12:58:15 น.
โดย: กะลา IP: 222.123.228.195 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:11:19:23 น.
Location :
พิษณุโลก Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [? ]
วิศวกรคอมพิวเตอร์โดยปริญญา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นอาจารย์ในที่สุด (แถมเป็นคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเป็นวิทยากรด้านการตลาดออนไลน์ให้กับสถาบันในเครือกรุงเทพธุรกิจและเว็บ exitcorner รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทเอกชน ปัจจุบันผมเขียนบทความใน fan page เป็นประจำ (http://www.facebook.com/dr.ekkasit กับ http://www.facebook.com/InspireRanger)