พฤศจิกายน 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
 
 
Make IT easy: ตอน คอนเซปท์ ERP และ SAP เข้าใจง่าย
บทความขนาดสั้นตอนนี้ เหมาะสำหรับ คนทั่วไป เข้าใจง่าย (กล่าวคือ ไม่เหมาะกับคนทำงานในวงการนี้อยู่แล้ว) 

บทความนี้เกิดจากการที่นันทน์ไปตอบคำถามไว้ในกระทู้หนึ่ง เลยอยากเอามาเรียบเรียงใหม่เก็บไว้ในบล็อกตัวเอง สิ่งที่เล่าส่วนใหญ่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์ทำงานส่วนตัวอันน้อยนิดนะคะ หากผิดถูกอย่างไร บอกกล่าวกันได้ค่ะ ยินดีรับฟังค่ะ

หากสนใจเรื่องราวของอาชีพที่ปรึกษาเชิงธุรกิจและไอทีในภาพกว้าง ขอเชิญอ่าน อาชีพ ที่ปรีกษา คือ อะไร โดยภาพรวม


[ Image courtesy of jannoon028 at FreeDigitalPhotos.net ]


หลายต่อหลายครั้งที่คนทำงานในวงการธุรกิจจะได้ยินคำว่า 'ERP' กับ 'SAP' อยู่บ่อยครั้งว่าดีอย่างนู้น แย่อย่างนี้ บริษัทมีแนวโน้มจะเอามาใช้เร็วๆนี้บ้างหล่ะ แล้วเกิดความสงสัยจริงๆว่ามันคืออะไรกันแน่หนอ เอามาใช้แล้วจะตกงานจริงมั้ย ?  วันนี้นันทน์จะมาไขข้อสงสัยให้คุณฟังค่ะ


ลองจินตนาการดูว่า ในองค์กรที่มีแผนกมากมายทีเพื่อทำหน้าที่หลากหลายแตกต่างกัน อันมีจุดประสงค์เพื่อที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้นั้น 

'งาน' ในแต่ละชนิดในหน้าที่ก็มีความต้องการ 'โปรแกรม' ที่จะมารองรับการทำงานแตกต่างกันนี้ด้วย 
ยกตัวอย่าง ดังนี้ 

- แผนกบัญชีการเงิน ต้องการโปรแกรมสำหรับ ลงบันทึกบัญชีแต่ละวัน, ปิดงบปลายเดือน, งบดุล, งบกำไรขาดทุน, งบเพื่อการวิเคราะห์สำหรับผู้บริหาร ฯลฯ

- แผนกสินค้าคงคลัง ต้องการโปรแกรมสำหรับ บันทึกสินค้าคงคลัง, เบิกสต๊อค, จัดการ warehouse ฯลฯ

- แผนกจัดซื้อ ต้องการโปรแกรมสำหรับ ออกใบสั่งซื้อ (Purchase Order), การเปรียบเทียบราคาของวัตถุดิบ ฯลฯ

- แผนกขายและกระจายสินค้า ต้องการโปรแกรมสำหรับ เปิดใบ sale order, เปิดบิล, รายงานยอดขายแต่ละเดือน, กระบวนการจัดส่งสินค้า ฯลฯ

- แผนก production ต้องการโปรแกรมสำหรับ วางแผนการผลิต, ออกใบสั่งผลิต, คำนวณสูตรผลิต, คำนวณต้นทุนการผลิต ฯลฯ

- แผนกและงานอื่นๆ เช่น QC, ซ่อมบำรุง ฯลฯ



มันจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับองค์กร หากข้อมูลทุกอย่างในโปรแกรมนั้น 

'เชื่อมโยงกัน' 'ข้อมูลชุดเดียวกัน' 'ทันต่อความต้องการ' 

เพื่อได้ข้อมูลที่จะนำไปต่อยอดและวางแผนสำหรับตัดสินใจ รวมถึงควบคุมระบบการทำงานของพนักงาน 



ยิ่งขนาดองค์กรใหญ่เท่าไหร่ยิ่งมีงานที่หลากหลายและซับซ้อนขึ้น จึงจำเป็นต้องมีระบบไอทีที่รองรับการทำงานเหล่านี้ 
ระบบโปรแกรม 'เกือบสำเร็จรูป' ขนาดใหญ่นี้ จึงเรียกว่า ERP (Enterprise Resource Planning)




[ Image from Wikipedia.com]

ส่วน SAP เป็นเพียง ERP ยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งที่นิยมใช้กันทั่วโลก สัญชาติเยอรมัน ณ ตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด มีราคาสูงมาก และระบบค่อนข้างซับซ้อน หากแต่ครอบคลุมการทำงาน 

ส่วนยี่ห้ออื่นในตลาดก็มีอีกหลากหลาย


เพิ่มเติม: 
คุณ Squadron ได้แนะนำข้อมูลเชิงละเอียดน่าสนใจทีเดียวค่ะ ในกระทู้ที่นันทน์เข้าไปตอบ 

ลองดูแบบละเอียดเลยครับ โพสต์ไว้นานมากแล้ว 

//topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2006/05/B4384178/B4384178.html


โอกาสหน้า หากมีเวลาจะมาอธิบายในเชิงลึกเพิ่มเติมค่ะ

วนานันทน์
(๒๓.๑๑.๒๐๑๒)




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2555 1:38:15 น.
Counter : 4456 Pageviews.

21 comments
  
โอ้ววววววววววววววววววววววววววววว
เก็บความรู้ค่ะ
เกือบได้มีโอกาสได้ใช้ SAP
แต่ที่บริษัทเปลี่ยนใจไปใช้อันอื่นแทนค่ะ
โดย: Close To Heaven วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:25:10 น.
  
^
ดีใจนะคะ ที่อ่านรู้เรื่อง ฮาาาาาาาาาา
โดย: เจ้าบ้าน (eat pray love ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:26:08 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์


เป็นความรู้ใหม่ของพี่ก๋าเลยครับ แหะๆๆๆ
การค้าที่บ้านพี่ก๋าเป็นแบบครอบครัวจีนโบราณเลยครับ
ระบบเดียวก็คือ เถ้าแก่ใหญ่สุดครับ 555


พี่ก๋าก็จบครุศาสตร์ครับ
แต่เป็นด้านสถาปัตยกรรม

จบแล้วมาเป็นพ่อค้าครับ 555
ไม่ได้ตรงสาขาที่เรียนมาเลย


ปล. ที่เชียงใหม่มีหอศิลป์ที่ีใหญ่มาก
แต่เชื่อมั้ยครับ
ว่าคนเดินดูเหมือนผีหลอกครับ 555

ช่วงที่ยังไม่มีลูกและโสด
พี่ก๋าไปเดินดูบ่อยมากครับ

ไม่ค่อยมีใครสนใจไปเดินดูเลย
ตอนนี้สถานการณ์ก็น่าจะยังเป็นเหมือนเดิมนี่ล่ะครับ

เราไม่ค่อยสอนให้คนเดินเข้าหอศิลป์
พ่อแม่ส่วนใหญ่พาลูกเดินห้างครับ 555









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:5:53:06 น.
  


อรุณสวัสดิ์กับเช้าวันศุกร์

จงยิ้มกับทุกอย่างในสายตา...แม้นมันอาจเกะกะ
รกหูรกตาบ้าง เราก็ยิ้มให้มันไปสักครั้ง ไม่เหนื่อยแก้มเท่าไหร่หรอก...เน๊อะ

ยินดีที่ได้ทักทายกันครับ
โดย: พันคม วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:7:53:45 น.
  
ทักทายค่ะคุณนันทน์

เข้ามาอ่านค่ะ แต่สว.หยั่งป้าคงเอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้วค่ะ
เพราะถ้าเป็นมะพร้าวก็เลยแกงไปนานแล้ว

ในองค์กรใหญ่ๆโปรแกรมที่คุณนันทน์พูดถึงคงมีส่วนสำคัญมากทีเดียว
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:10:38 น.
  
ขอบคุณค่ะ แวะมาเก็บความรู้
โดย: never the last วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:00:45 น.
  
สวัสดีค่ะคุณนันทน์ ขอบคุณที่แวะไปเที่ยวที่บล็อกด้วยกันนะค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:51:00 น.
  
แวะมาเยี่ยมยามค่ำ...สวัสดีครับ
โดย: **mp5** วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:19:49 น.
  
อยากเขียนSAPเป็น คงจะเงินดีมาก :)
โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:20:06 น.
  
มาทักทายครับ
โดย: story_dnp วันที่: 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:47:00 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:05:32 น.
  
ที่น้องนันทน์เม้นท์มา
พี่ก๋าเห็นด้วยจริงๆครับ

รวมทั้งโครงการแท๊บเล็ตด้วย

พี่ก๋าเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่ซื้อไอแพด
มาดามมีไอโฟนครับ
แต่ไม่อนุญาตให้หมิงหมิงเล่นตลอดเวลา

เกมส์คอมพี่ก๋าให้เล่น
แต่จำกัดเวลา

ไอแพดไม่ซื้อให้
เพราะคิดว่าอ่านหนังสือดีกว่าครับ

แล้วคนที่อ่านหนังสือให้ฟังก็พ่อแม่นี่ล่ะครับ

ยังไงถ้าเราแบ่งเวลาได้

ลูกก็ได้ใช้เวลากับเราแน่นอน

แต่ถ้าทิ้งเด็กๆว้กับคอมหรือแท๊บเล็ต
พี่ก๋ษสังเกตดูแล้ว
อย่างแรกคือ ปัญหาสายตา
อย่างที่สองคือปัญหาทางอารมณ์ครับ


จะว่าไปพี่ก๋าก็ไม่ชอบนโยบายการศึกษาของรัฐบาลเกือบทุกชุดเลยครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:10:00 น.
  
สวัสดียามค่ำค่ะคุณนันทน์

เป็นความรู้ใหม่ที่น่าสนใจจริง ๆ สำหรับแม่ไก่
เพราะไม่ถนัดกับวิชาการแนว ๆ นี้เลย

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่ไปอ่านเรื่องเล่าถึงพ่อ...ช่วงนั้นเพิ่งเริ่มทำบล็อกใหม่และเพิ่งเสียพ่อไปหมาด ๆ น่ะค่ะ เลยมีไฟในการเขียนได้ยาวหน่อย

มาตอนหลัง ๆ หันไปบ้านิยายเสียเยอะ เลยห่างหายการเขียนเรื่องเล่าไปเสียนาน แหะ ๆ
โดย: แม่ไก่ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:35:37 น.
  
ใช่แล้วล่ะครับ

เด็กเล็กควรดูแลเรื่องอาหาร
พัฒนาการทางอารมณ์
และการเล่นครับ

พี่ก๋าถึงชอบให้ลูกวิ่งเล่น
ให้เค้าเจอธรรมชาติบ้าง

ไม่ใ่ช่นั่งอยู่แต่หน้าจอคอมอย่างเดียวครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:21:57 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2555 เวลา:5:48:35 น.
  
ฝันดีจ้าน้องนันทน์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:15:22 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:29:51 น.
  
การมีลูก
ทำให้ชีวิตพี่ก๋ายิ่งเปลี่ยนไปเลยครับ

วิธีคิดเปลี่ยน
แต่ความเชื่อในสิ่งที่คิดไม่เปลี่ยนครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:30:58 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:14:49 น.
  
พี่ก๋าไม่มีม๊อบเดินผ่านหน้าร้าน
แต่ทุกครั้งทีเ่กิดม๊อบ
นักท่องเที่ยวหดหายครับ

เดือดร้อน ครับ เดือดร้อน

เพราะจ่ายเงินเดือนลูกน้องด้วยอุดมการณ์ไม่ไ่ด้ 555

และคนที่นำประท้วง
ก้ไม่เห็นเดือดร้อนเรื่องการเงินกันสักคน
นักการเมืองก็รวยเอาๆ

ไม่ได้มีอาชีพอะไร
รวยเป็นร้อยล้านเลย 5555

พี่ก๋าล่ะมึนจริงๆครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:20:07 น.
  
โอ๊ย โหย วงการธุรกิจไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ แหะๆ เป็นได้แค่ลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือนดีๆ นี่เอง
ส่วนเรื่องบล็อกกะตะพาบ ค่อยๆ ดู ค่อยๆ สังเกต ค่อยๆ หัด สักวันก็เก่งเองค่ะ
โดย: ประกายพรึก วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:44:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

eat pray love
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



:: ยินดีต้อนรับค่ะ ::
:: รู้อะไร ไม่สู้รู้ 'ใจ' ตัวเอง ::


พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหลายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
(กฤษณาสอนน้องคำฉันท์)
   วันแรกเริ่มของบ้านหลังนี้: ๒๗.๐๙.๒๕๕๕

   มีคนมาเยือนแล้ว
 
   [บทความและรูปภาพใน blog นี้]
   - หากนำไปใช้เพื่อการศึกษา ยินดีค่ะ แต่รบกวนแจ้งกันนิดนึงและให้เครดิตด้วย เพื่อยกระดับการศึกษาไทย
   - หากนำไปใช้เพื่อการค้าหรือผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต จะดำเนินคดีตามกฏหมาย