เก็บราสเบอร์รี่ป่ามาทำแยมกันดีกว่า
ไม่ได้เข้าบล็อกหลายวัน เพื่อนๆ ลืมกันหรือยังเอ่ย แอบไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านข้างๆ สโลวีเนียมาค่ะ วันนี้พอจะว่างมาเข้า blog เลยมาชวนเพื่อนๆ ไปเก็บราสเบอร์รี่ป่ากัน ที่ๆ ไปเก็บนี่อยู่บนเขาแอลป์ ที่ทุกปีครอบครัวเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ ณ เมืองเล็กๆ ชื่อว่า Vinadio อยู่ในจังหวัด Cuneo แคว้น Piemonte ทางฝั่งตะวันตกของอิตาลีติดกับพรมแดนประเทศฝรั่งเศส เมือง Vinadio ที่มีโบสถ์ Sant'Anna ที่มีชื่อเสียงและชาวคริสต์ให้ความนับถือมากในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่ที่ระดับสูงสุดในยุโรป นอกจากนั้นที่นั้นยังมีการจัดคอนเสริต์ดนตรีกลางแจ้งท่ามกลางขุนเขา ที่เรียกว่า Concerto di Ferragosto a Sant'Anna di Vinadio อีกด้วย รูปเมือง Vinadio อยู่ด้านหลัง ด้านหน้าลูกชายค่ะ รูปนี้ถ่ายปีกว่าๆ มาแล้ว ที่นั่นประมาณในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม จะมีผลไม้ป่าจำพวกเบอร์รี่ ทั้งสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ ออกผลผลิตเต็มป่าไปหมด เรียกว่าเดินไปเก็บผลเบอร์รี่ กินกันไป ตลอดทางเพลิดเพลินทีเดียว แต่วันนี้จะมาชวนเก็บแต่ลูกราสเบอร์รี่ก่อน ซึ่งเป็นผลไม้ที่ครอบครัวชอบเก็บและชอบกินที่สุด และก็เอามาทำแยมใส่กระปุกกินกันทุกปีเลย มาดูกันดีกว่าว่าพวกเราไปเก็บราสเบอร์รี่ยังไง ก่อนอื่นก็ควรจะรู้ก่อนว่าต้นราสเบอร์รี่ นี่มันหน้าตาเป็นอย่างไรนะคะ หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ ลูกแดงๆ เต็มต้น เด็ดกินกันมันเลย ต้นราสเบอร์รี่ป่า จะชอบภูมิอากาศแบบภูเขา ที่มีแสงแดดเข้าถึง และน้ำพอเพียง ขึ้นได้เกือบทุกที่ เต็มไปหมดเลย ตามซอกหินนี่ก็มีเยอะนักแล ต้นนี้พยายามปลูกเองค่ะ ในสวนหน้าบ้าน เดี๋ยวรอบหน้าไปจะไปดูว่ามันออกลูกบ้างหรือปล่าว แท่น แทน นี่ค่ะ คนเก็บราสเบอร์รี่ป่า สองคนตายายกำลังเก็บอย่างขะมักเขม้น ตาก้มๆ เงยๆ เก็บใหญ่เลย ยายก็เก็บไม่ไล่ไม่เลิก หน้าตาของราสเบอร์รี่ที่เก็บได้ เอาไปชั่งดูหน่อยซิ ได้เป็นกิโลๆ เลยค่ะ บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมราสเบอร์รี่ป่าที่เก็บได้ถึงลูกเล็กจัง ไม่เหมือนที่เคยเห็นในตลาดที่มาจากฟาร์ม เป็นเพราะราสเบอร์รี่ป่า เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ได้ดิน น้ำ ปุ๋ย แสงแดด จากธรรมชาติตามมีตามเกิด ไม่เหมือนกับราสเบอร์รี่จากฟาร์มที่ได้รับการดูแลใส่ปุ๋ย รดน้ำอย่างดี และบางทีอาจจะมีการฉีดสารป้องกันแมลงต่างๆ ทำให้ผลผลิตออกมาสวยงามดูดีด้วย ตอนซื้อต้องเลือกดีๆ หน่อยนะคะ แต่จริงๆ ฉันก็ชอบกินทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะ แต่รู้สึกว่าราสเบอร์รี่ป่ามีรสชาดหอมหวานกลมกล่อมดีกว่าแบบปลูกในฟาร์ม และก็ราคาแพงกว่าด้วย ถ้าสังเกตในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อิตาลี ราคาแยมราสเบอร์รี่ป่า(wild raspberry)นี่จะราคาสูงกว่าแยมราสเบอร์รี่ปกติมาก แยมปกติกระปุกละ 2-3 ยูโร แยมราสเบอร์รี่ป่านี้กระปุกละ 5 ยูโรแน่ะค่ะ หน้าตาราสเบอร์รี่จากฟาร์มเพื่อเปรียบเทียบ วันหลังหากมีโอกาสไปเที่ยวฟาร์มราสเบอร์รี่และสตอร์เบอร์รี่แถวๆ สโลวีเนียจะเก็บภาพมาฝากบ้างดีกว่า การเก็บผลไม้จากฟาร์มก็สนุกไปอีกแบบนึง แต่ง่ายไปแล้วเสียตังค์ ของป่าฟรีค่ะ อิอิ พอเก็บเสร็จก็เอามากินกัน บางส่วนที่เหลือก็ต้องเอามาทำแยมทันที เพราะราสเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ต้องกินสดๆ เก็บไว้ได้ไม่เกินสองวันก็เน่าแล้ว ภาพนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ได้ถ่ายขั้นตอนการทำมา แต่ขอบอกว่าการทำแยมผลไม้นั้นง่ายมากๆ เพียงแค่มี ผลไม้ ในที่นี้คือราสเบอร์รี่ ผงเพคติน(pectin.สารธรรมชาติสกัดจากผลไม้ที่ช่วยให้แยมจับตัวกันเป็นเหมือนเจลลี่) น้ำตาล น้ำมะนาว สัดส่วนก็ใส่ตามประเภทเพคตินที่ซื้อมา แค่นี้ก็สามารถทำแยมอร่อยๆ ได้แล้วค่ะ ปีที่แล้วถ้าจำไม่ผิดพวกเราทำแยมราสเบอร์รี่ได้ประมาณ 12 กระปุก แจกเค้าไปก็เยอะ แล้วก็เก็บไว้กินเอง ภาพข้างบนเป็นภาพจากปีที่แล้ว ยกเว้นภาพข้างล่างนี้คือแยมกระปุกสุดท้ายจากปีที่แล้วค่ะ ตักเอามาชิมกันหน่อยซิ ชัดๆ ภาพแยมราสเบอร์รี่ น่ากินไม๊คะ ไว้เดี๋ยวรอบหน้าไปเที่ยวบ้านบนเขาอีก จะไปเก็บราสเบอร์รี่มาทำแยมล็อตใหม่ ไปด้วยกันไม๊คะ แล้วทำแยมกัน ไม่ต้องไปซื้อเค้าทำเองอร่อยกว่า
Create Date : 23 มีนาคม 2555
Last Update : 23 มีนาคม 2555 16:45:03 น.
26 comments
Counter : 7560 Pageviews.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:6:43:44 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:9:59:09 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:16:58:33 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:17:23:02 น.
โดย: bear hunt วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:17:59:59 น.
โดย: bear hunt วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:18:34:23 น.
โดย: diamondsky วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:22:43:42 น.
โดย: ratone วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:22:56:11 น.
โดย: Settembre IP: 78.134.64.194 วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:23:56:05 น.
โดย: วันสดใส วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:1:39:23 น.
โดย: Mameepee วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:13:56:18 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:16:03:04 น.
โดย: วันสดใส วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:7:37:57 น.
โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:18:07:54 น.
โดย: pantawan วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:23:22:22 น.
โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:8:03:38 น.
โดย: diamondsky วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:22:36:44 น.
โดย: นุท (chay_tbh ) วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:23:51:50 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:5:54:15 น.
โดย: Mameepee วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:12:26:30 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:13:31:56 น.
โดย: เรณู ศรีจันทร์ IP: 1.0.141.21 วันที่: 2 มิถุนายน 2556 เวลา:20:17:51 น.
โดย: Dublina วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:4:25:07 น.
Location :
Trieste Italy
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [? ]
There are people we wonder about but don't make attempts to contact. Perhaps we're afraid of empty conversations with someone or perhaps we're curious about someone whose life we watched for awhile from afar. Sometimes it's just been too long and sometimes we can't even articulate the need to know whatever happened to them. Where are they? Did they make it? Are they happy? Are they passionate about something in their lives? Are they anything like the people we once knew? ---Anon---
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31