Group Blog
 
 
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 มกราคม 2548
 
All Blogs
 
6. ว้าวตื่นเต้นจัง ได้นั่งรถเมล์แล้ว

ตอนที่ 6 : ว้าวตื่นเต้นจัง ได้นั่งรถเมล์แล้ว

Sun 18-Aug-2002

ย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่แล้วครับ ลุงเค้าเพิ่ง มาถีบลง พร้อมข้าวของเมื่อเช้านี่เอง บ้านที่อยู่เป็นแบบยูนิต มีสองห้องนอน หนึ่งห้องรับแขก หนึ่งห้องครัว ห้องน้ำกับ ห้องส้วมแยกกัน

แต่แหม ผมละอึ้ง ก็บ้านนี้น่ะมันไม่มีล็อคประตูน่ะสิ ไม่มีที่ห้องนอนผมยังพอทำใจได้ แต่ห้องน้ำ กับห้องส้วมก็ยังไม่มีด้วยนี่สิ ทำใจไม่ได้จริงๆตอนนั้น

คิดดูนะ เกิดนั่งขี้อยู่ดีๆ แล้วมีคนเปิดผลัวะเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงละก็ ได้มีอายกันมั่ง -_-'' (แต่หลังๆก็ชักชินแล้วล่ะ)

อ้อ อีกอย่างนึงนะ ห้องน้ำที่นี่ ไม่ว่าที่ไหน เค้าไม่มีที่ฉีดน้ำ หรือไม่มีอ่างน้ำให้ล้างก้นอะ ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดเอา ผมละทำใจไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ (วันนี้ที่คุณกำลังอ่านอยู่นี่แหละ) ผมก็เลยต้องใช้เทคนิคพิเศษส่วนตัว เพื่อจะได้ใช้น้ำล้างปิดท้ายด้วย ไม่งั้น ผมรู้สึกเหมือนแบกถังส้วมติดตัวไปด้วยยังไงยังงั้นเลย ไม่รู้ฝรั่งมันทำใจได้ไง


ผมมีอีกเรื่องนึงที่อยากจะเตือนคนที่กำลังจะมาก็คือ ก๊อกน้ำ บ้านที่ออสเตรเลีย โดยเฉพาะฝั่งใต้ของประเทศ จะมีก๊อกน้ำเย็นและน้ำร้อนทุกบ้าน เน้นว่า น้ำร้อน ไม่ใช่น้ำอุ่น ดังนั้นถ้าพลาดมีโดนลวก ซึ่งบางบ้านน้ำร้อนเย็นรวมก๊อกกัน สามารถปรับเป็นน้ำอุ่นได้ บางบ้านก็แยกก๊อกน้ำร้อนอันนึง น้ำเย็นอันนึง แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม โอกาสที่ เปิดน้ำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดูดีๆก่อน แล้วเจอน้ำร้อนมีสูงมาก แม้แต่คนที่อยู่ที่นี่นานแล้ว ก็ยังโดนน้ำร้อนลวกอยู่เนืองๆ ดังนั้นต้องระวังเรื่องนี้ให้มากหน่อย ถ้าไม่อยากเสียโฉม...

กลับมาเรื่องบ้านต่อ เจ้าของบ้าน เป็นผู้หญิงคนไทย อายุก็ เข้าวัย ได้รับส่วนลด ครึ่งราคาแล้วล่ะ (เกิน 60) แหม ป้านะป้า พอลุงมาส่ง แล้วฝากฝังเรื่อง หัดภาษา ป้าก็โม้ใหญ่เลยว่า ป้ามาอยู่นี่สามสิบกว่าปีแล้ว สปีคอิงลิชกับหลานตลอด เราก็แอบดีใจ

ลุงก็โล่งใจว่าหลานจะได้ฝึก... แต่พอลุงกลับ เท่านั้นแหละ ป้าก็ถาม มาจากอุดรใช่มั้ย งั้นก็เว่าลาวเป็นน่ะสิ ว่าแล้วก็เริ่ม "เว่าลาว" เลยอะ ฉอดๆๆๆ ไทยปนลาว ไอ้เราก็เลยต้องลาวๆไทยๆตามไป

พอป้านึกครึ้มอกครึ้มใจก็บอก เออนี่เธอ ลุงเธอบอกให้ชั้นสปีคอิงลิชกับเธอนะ เธอจะมามัวพูดไทยอยู่ทำไม (เอ๊า ก็ป้าไม่ใช้เร้อที่พาพูดน่ะ) ว่าแล้ว ป้าก็สปีคอิงลิชด้วย ผมก็คิด เออ ค่อยยังชั่วหน่อย... แล้วก็สปีคอิงลิช กันได้อยู่สัก 10 นาที นับประโยคแล้วประมาณ 5 ประโยค ประโยคละ สี่คำครึ่ง...


"เห้ย เธอ ชั้นว่า เราไปเที่ยวไชน่าทาวน์กันเถอะ เธอไปช่วยชั้นถือของหน่อยสิ" ป้าเค้าว่างั้น ผมก็ "ไปสิป้า ผมก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน ยังไม่ได้เห็นอะไรเลย แล้วจะไปกันยังไงล่ะ" ... "ตามชั้นมาเหอะน่าเดี๋ยวรู้เอง"

เป็นอันว่า เราก็ไปรอรถเมล์กันที่ป้ายรถเมล์ หน้าบ้านนั่นแหละ แต่รถเมล์ที่นี่ ก็ดี๊ดีนะครับ ผมว่า มันตรงเวลาดีจัง แบบมีคลาดเคลื่อนบ้าง แต่ก็ไม่กี่นาที พอกะได้ว่า ตอนไหนจะมา

รถเมล์ที่นี่ จะต้องจ่ายเงินตอนขึ้น เลยนะครับ ไม่ใช่ขึ้นไปนั่ง แล้วค่อยมีคน มาเก็บ เหมือนบ้านเรา คนเค้าไม่เยอะมาก เค้าเลยทำได้ บางคนใช้ตั๋ว แบบหลายเที่ยว บางคนก็จ่ายเงินเลย มันก็ดีที่ว่า จะได้ ไม่ต้องใช้คนทำงานบนรถหลายคน

แต่ก็ อย่างว่า คนโกงมันก็มีจนได้ โกงยังไง ไว้จะบอกทีหลัง (ผมก็ทำบางที อิอิ สารภาพ)

อ้อ ผมจะยังไม่พูดถึงรถเมล์มากนักนะครับ เอาไว้จะเล่าให้ฟังอีกทีนึงแบบละเอียด รวมทั้งรูปด้วย เพราะตอนนี้ผมต้องการเล่า แค่เรื่องไปซื้อของ ที่เยาวราช นิดหน่อย เท่านั้นเองครับ

ด้วยความที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ มันใช้ตั๋ว Off peak ได้ ป้าเค้าก็บอกคนขับว่า two off peak แล้วก็ชี้มาที่ผม พร้อมบอกคนขับว่า "he is student, he forget card" คนขับก็เลยเอาตั๋วให้ ราคาคนละ $2.30

พอมานั่งแล้ว ป้าเค้าก็บอกว่า "นี่เธอรู้ไหม จริงๆเธอต้องจ่าย $4.60 นะ แต่ว่าเนี่ย ชั้นโกหกมันว่า เธอเป็นนักเรียน แล้วเธอลืมบัตร นี่ถ้ามีคนมาตรวจ เธอโดนจับโดนปรับ $150 นะเนี่ย นั่น ดูป้ายเตือนสิ" ผมก็ "เอ๊า...ป้า... แล้วไปโกงเค้าทำไมล่ะ ทำไมไม่จ่ายเค้าไปตามราคา แบบนี้เกิดเค้าตรวจผมก็แย่สิ" เค้าก็เลยหัวเราะ "เออ ช่างเหอะน่า มากะชั้น กลัวอะไร" (น่านนนนนนน)

ก็เป็นอันว่า ผมรอดมาได้ถึงเยาวราช เอ๊ย ไชน่าทาวน์ โดยไม่โดนอินสเปคเตอร์ตรวจ

วันอาทิตย์ที่นี่น่าเบื่อจริงๆเลยครับ ร้านรวงก็ปิดซะส่วนมาก เยาวราชก็เยาวราชเหอะ เปิดอยู่ไม่กี่ร้านเอง แต่ที่นี่มีร้านคนไทย หรือคนจีนที่พูดไทยได้หลายร้านเหมือนกันนะครับ

สิ่งที่เราช็อบกันวันนั้นก็คือ อาหาร ตระกูลมาม่า ผัก ไก่ หมู และเนื้อต่างๆ แต่ผมเห็นราคาแล้ว กลืนน้ำลายเอื้อกๆ ก็จะไม่ให้กลืนได้ไง แต่ละอย่าง เวลาผมดูราคา สมองมันสั่งให้แปลงเป็นเงินไทย ตลอด มาม่า ห่อละ 12 บาท ผักกำละ 30 บาท โกกิ ซองละ 50 บาท อะไรงี้ เห็นแล้วลมจะใส่...

ตอนนั่งรถกลับมา ผมก็เลยถือโอกาส นั่งชมวิวมาตามทาง ก็เห็นอะไรสวยๆ หลายอย่าง สถานที่สวยๆหลายที่ เช่น South Bank Park Lands , Queen Street Mall , Casino , Quay Central , จุดเชื่อม Pacific Highway กับซิตี้ แล้วก็เห็นเรือ City Cat เป็นครั้งแรกด้วย

กลับมาถึงบ้าน บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยผม ก็ข้าวของมันแพงๆๆๆ จังเลยอะไรๆก็แพง แบบนี้มีหวังอดตายแน่ แต่ก็ โชคดีเป็นของผม ที่ป้าเค้าใจดี คิดค่าเช่า แค่ $80 ต่อสัปดาห์ พร้อมอาหาร 3 มื้อ (ความจริง จะกิน ตอนไหนก็ได้ กินอะไรก็ได้ในบ้าน นอกจากอ่างล้างจานกับชักโครก) เพียงแต่ ต้องทำกินเอง (แต่เอาเข้าจริง ด้วยความที่ ผมตื่นสายน่ะนะ พอป้าเค้าหุงข้าว ทำกับข้าว เค้าก็ทำเผื่อ แล้วเอาใส่กล่อง ไว้ให้ไป โรงเรียนเรียบร้อย ดังนั้น ผมเลยได้มี ข้าวกล่อง ไปกินที่โรงเรียนทู้กวัน โดยไม่ต้อง ทำเองเลย จนใครๆคิดว่าผมอยู่โฮมสเตย์ อิอิ (เลิ้ศเลิศ ป้าเนี่ย ไหว้งามๆ ธุค้าบบบ)


อ้อ ลืมพูดถึงไปนิดนึง ค่ารถเมล์ที่นี่ มาตอนแรก อยากเดินไปเรียนจริงๆถ้าเดินไหว ก็ระยะทางแค่สักจากหมอชิต มาประตูน้ำ ค่ารถ $2.80 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 70 บาท(ตอนนั้น) พยายามจะไม่คิดแล้วนะ แต่มันก็อดคิดไม่ได้ เพราะเงินที่ใช้ตอนนั้น มันเป็นเงินที่ ที่บ้านให้มาตั้งตัว ยังไม่ใช่เงินที่ได้จากการทำงาน ทุกดอลทุกเซนต์ จึงมาจากเงินบาทแท้ๆ

อย่างไรก็ตาม ขอบคุณพระเจ้า ที่พอมาถึงปุ๊บ อีกสามวันต่อมา ผมก็ได้งานที่ร้านอาหารไทยแห่งนึง ด้วยความช่วยเหลือแนะนำ จากพี่สาวใจดี ที่เมล์มาให้คำแนะนำ ที่ผมพูดถึงในตอนแรกนั่นแหละครับ

-----------------------------------------------
อ่านเรื่องเล่า พร้อมภาพประกอบ ได้จาก
//dosday.com
เรื่องเล่าจากไดอารี่ชาวบ้านไกลของนายดอส
-----------------------------------------------



Create Date : 24 มกราคม 2548
Last Update : 15 กันยายน 2548 23:30:58 น. 2 comments
Counter : 514 Pageviews.

 
จะมาอ่านบ่อยๆค่ะ


โดย: ปุ้ม หญิง วันที่: 24 มกราคม 2548 เวลา:10:12:52 น.  

 

มาเยี่ยมนะคะ






คลิกที่นี้เลยค่ะ





โดย: รักดี วันที่: 24 มกราคม 2548 เวลา:17:40:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอส
Location :
Brisbane QLD Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดอส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.