มิถุนายน 2560

 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
มิลินทปัญหา - บทที่ ๒ การเกิดใหม่ (ข้อ ๑.- ข้อ๕. )














มิลินทปัญหา - บทที่ ๒ การเกิดใหม่ (ข้อ ๑.- ข้อ๕ )

     ๑.  "พระคุณเจ้านาคเสน ผู้ทีเกิดใหม่ เป็นคนเดิมหรือคนอื่น"
          "เป็นคนเดิมก็ไม่ใช่ เป็นคนอื่นก็ไม่ใช่"
          "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่างประกอบ"
          "นมสดหนึ่งเหยื่อกต่อมาเป็นนมเปรี้ยว แล้วเป็นเนยสด จากเนยสดกลายเป็นเนยใส จะกล่าวว่า เนยใส เนยสด และนมเปรี้ยวเป็นนมสดก็ไม่ถูกต้อง แต่ว่าทั้งหมดนั้นเริ่มมาจากนมสด เพราะฉะนั้นจะกล่าวอย่างไรก็ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง"
     ๒.  "ผู้ที่จะไปเกิดอีกย่อมรู้หรือไม่ว่า ตัวเองจะไม่เกิดอีก"
          "ขอถวายพระพร ท่านผู้นั้นย่อมรู้"
         "รู้ได้อย่างไรหรือ พระคุณเจ้า"
         "รู้ได้โดยรู้ว่าเหตุและปัจจัยของการเกิดของตนเองได้ระงับดับสิ้นไปแล้ว เปรียบเหมือนชาวนาที่ไม่ไถ ไม่หว่านหรือไม่เก็บเกี่ยวพืชผล ย่อมรู้ว่าจะไม่มีอะไรมาเติมยุ้งฉางของตนให้เต็ม"
     ๓. "พระคุณเจ้านาคเสน ผู้มีญาณเกิดขึ้นแล้ว ชื่อว่ามีปัญญาเกิดขึ้นแล้วด้วยหรือไม่"
         "ถูกต้องแล้ว ขอถวายพระพร"
         "ญาณกับปัญญาเป็นสิ่งเดียวกันหรือ"
         "ถูกต้องแล้ว ขอถวายพระพร"
         "ถ้าเช่นนั้น ผู้ที่มีญาณและปัญญา อาจเขลาในสิ่งใดบ้างหรือไม่"
         "ยังเขลาได้ในสิ่งที่ไม่ได้เรียนรู้มา แต่ไม่เขลาในกิจที่ปัญญาได้ทำไว้แล้ว ได้แก่การรู้ว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวใช่ตน"
         "ณ จุดนั้น อะไรเกิดขึ้นกับความหลงของเขา"
         "ทันทีที่ญาณเกิดขึ้น ความหลงจะดับไปเปรียบกับเมื่อแสงสว่างปรากฎ ความมืดย่อมสิ้นไป"
         "แล้วเกิดอะไรขึ้นกับปัญญา"
         "เมื่อปัญญาทำกิจของตนสำเร็จแล้วก็ย่อมดับไป แต่ความเข้าใจเรื่องความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา ไม่หายไปด้วย"
         "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่าง"
         "เปรียบเหมือนผู้ที่ต้องการจะเขียนหนังสือในตอนกลางคืนต้องจุดตะเกียงก่อนแล้วจึงเขียน เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็ดับตะเกียง แต่ถึงแม้ตะเกียงจะดับไปแล้ว ตัวหนังสือที่เขียนไว้ก็ยังอยู่"
      ๔."ท่านผู้ที่จะไม่เกิดในภพใหม่ต่อไปอีกแล้ว ยังเสวยทุกขเวทนาใด ๆบ้างหรือไม่"
         "ขอถวายพระพร ท่านยังเสวยทุกขเวทนาทางกาย แต่ไม่เสวยทุกขเวทนาทางใจ"
         "เพราะเหตุใดท่านผู้เสวยทุกขเวทนาอยุ่ จึงไม่ปรินพพานเสียเล่า จะได้พ้นจากทุกข์ที่ยังมี"
         "ท่านผู้เป็นพระอรหันต์ไม่ได้ชอบหรือชังการมีชีวิตอยู่ ท่านไม่เขย่าต้นไม้เพื่อให้ผลไม้ที่ยังไม่สุกร่วงหล่นจากต้น แต่ท่านรอคอยให้ผลไม้สุกงอมก่อน ผลไม้ก็จะร่วงหล่นเอง ดังที่พระอัครสาวกสารีบุตรกล่าวไว้
                              "เราเป็นผู้มีสติสัมปชัญญาะจักละทิ้งร่างกายนี้ไป ไม่ยินดีต่อความตายและชีวิต รอรอยเวลาตายอยู่ เหมือนลูกจ้างรอให้หมดเวลาทำงานฉะนั้น"
     ๕. "สุขเวทนาเป็นกุศล เป็นอกุศล หรือว่าเป็นอัพยากตะ(ไม่ใช่ทั้งกุศลทั้งอกุศล)"
         "เป็นกุศลก็มี เป็นอกุศลก็มี เป็นอพยากตะก็มี"
         "พระคุณเจ้านาคเสน แต่ว่าถ้าเป็นกุศลย่อมไม่เป็นทุกข์ และสิ่งที่เป็นทุกข์ไม่เป็นกุศล ก็ไม่อาจมีสถานที่ว่าเป็นกุศลด้วยเป็นทุกข์ด้วย"
         "ขอถวายพระพร มหาบพิตรจะว่าอย่างไร ถ้าคนผู้หนึ่งกำก้อนเหล็กร้อนไว้ในมือข้างหนึ่ง และกำก้อนน้ำแข็งไว้ในมืออีกข้างหนึ่ง ทั้งสองสิ่งนั้นทำให้เจ็บได้หรือไม่"
         "เจ็บได้ทั้งคู่อย่างแน่นอน"
        "ดังนั้น สมมติฐานของพระองค์ก็ผิดพลาด ถ้าความร้อนทำให้เจ็บ ทั้งสองสิ่งก็ไม่ใช่ของร้อน และถ้าความเย็นทำให้เจ็บ ทั้งสองสิ่งก็ได้เย็นเฉียบทั้งคู่ ถ้าอย่างนั้นความเจ็บปวดก็ไม่ได้มาจากความร้อนหรือความเย็น"
       "ข้าพเจ้าไม่อาจได้แย้งได้ ขออาราธนาพระคุณเจ้าอธิบายความด้วยเถิด"
        ด้วยเหตุดังนี้ เพราะเถระจึงกล่าวอภิธรรมต่อพระเจ้ามิลินท์ "มีโสมนัส๖ อย่างที่อาศัยเรือนและโสมนัส๖ อย่างที่อาศัยเนกขัมมะ มีโทมนัส๖ อย่างที่อาศัยเรือนและโทมนัส๖ อย่างที่อาศัยเนกขัมมะ มีอุเบกขา๖ อย่างที่อาศัยเรือนและอุเบกขา๖ อย่างที่อาศัยเนกขัมมะ รวมเป็นเวทนา ๓๖ และมีเวทนาที่เป็นอดีต ๓๖ และเวทนาที่เป็นปัจจุบัน๓๖ และเวทนาที่เป็นอนาคตอีก๓๖ รวมเป็นเวทนา ๑๐๘"

ที่มา: หนังสือมิลินทปัญหา - กษัตริย์กรีกถาม พระเถระตอบ โดย นวพร เรืองสกุลถอดความเป็นภาษาไทย




Create Date : 14 มิถุนายน 2560
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 10:13:27 น.
Counter : 642 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ineverdie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments