Group Blog All Blog
|
มิลินทปัญหา - บทที่ ๑ อัตตา (ข้อ ๑๐.- ข้อ.๑๕.) มิลินทปัญหา - บทที่ ๑ อัตตา (ข้อ ๑๐.- ข้อ.๑๕) ๑๐."ศรัทธามีอะไรเป็นลักษณะ" "ผ่องใสอย่างหนึ่ง และให้เแล่นไปด้วยดี อีกอย่างหนึ่ง" "ศรัทธาเมื่อเกิดขึ้นย่อมข่มนิวรณ์ทั้งหลายได้ จิตปราศจากนิวรณ์จะผ่องใส สงบไม่ขุ่นมัว ดั้งนั้นศรัทธามีลักษณะให้ดวงจิตผ่องใสเช่นนี้ ส่วนการแล่นไปด้วยดีนั้นคือ เมื่อผู้บำเพ็ญสมาธิรับรู้ว่าจิตของผู้อื่นพ้นจากกิเลสอาสวะแล้ว ย่อมเกิดความคิดที่จะทำความเพียรเพื่อบรรลุธรรม(มรรค) ที่ตนยังไม่บรรลุ เพื่อได้ธรรม(ผล) ที่ตนยังไม่ได้ และเพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ตนยังไม่แจ้ง ดังที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ "คนข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา ข้ามอรรณพได้ด้วยความไม่ประมาท ล่วง ทุกข์ได้ด้วยความเพียร บริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา" ๑๓."พระคุณเจ้า วิริยะมีอะไรเป็นลักษณะ "อุปถัมภ์ค้ำจุนไว้ ขอถวายพระพร เพื่อที่ว่ากุศลธรรมทั้งปวงที่วิริยะค้ำจุนไว้แล้วนั้นจะไม่เสื่อมไป" "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่าง" "ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนว่า เมื่อกองทัพเล็กพ่ายแพ้กองทัพใหญ่ พระราชาจะทรงหาทุกวิถีทางที่จะเสริมกำลังทัพของพระองค์ จนตีกองทัพใหญ่ได้ ดังนั้นการเสริมกำลังหรือค้ำจุนไว้เป็นลักษณะของวิริยะ ดังที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ "ภิกษุมีความเพียร ละอกุศล บำเพ็ญกุศล ละธรรมที่มีโทษ บำเพ็ญธรรมที่ไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดได้" ๑๒."พระคุณเจ้านาคเสน สติมีอะไรเป็นลักษณะ" "ความไม่เลอะเลือนอย่างหนึ่งและการชักชวนให้ถือเอาอีกอย่างหนึ่ง เมื่อสติเกิดขึ้นในใจของสมณะผู้ใด ผู้นั้นย่อมไม่สับสนธรรมที่เป็นกุศล ธรรมที่เป็นอกุศล ธรรมที่ปราศจากโทษ ธรรมที่เป็นโทษ ธรรมที่ไม่สำคัญ ธรรมที่สำคัญ ธรรมที่ดำ ธรรมที่ขาว และอื่น ๆในทำนองเดียวกัน ขณะที่คิดว่า 'นี้คืออิทธิบาท ๔ นี้คือสัมมัปทาน๔ นี้คืออิทธิบาท๔ นี้คืออินทรีย์๕ นี้คือพละ๕ นี้คือโพชฌงค์๗ นี้คืออริยมรรคมีองค์แปด นี้คือสมถะ นี้คือวิปัสสนา นี้คือวิชชา นี้คือวิมุตติ' ดังนั้นผู้นั้นจึงเจริญในธรรมที่พึงเจริญ และหลีกจากธรรมที่พึงหลีก" "อาราธนาพระคุณเจ้า แสดงตัวอย่างประกอบ" "เปรียบเหมือนขุนคลังของพระราชาผู้ทูลเจ้านายให้ทรงระลึกถึงขนาดของรี้พลและพระราชทรัพย์ในท้องพระคลัง" "สติมีการชักชวนให้ถือเอาเป็นลักษณะคืออย่างไร" "เมื่อสติเกิดขึ้น ย่อมแยกแยะธรรมทั้งหลายที่ดีและเลวได้ว่า 'ธรรมเหล่านี้เป็นคุณ ธรรมเหล่านี้เป็นโทษ' ผู้บำเพ็ญเพียรย่อมขจัดอกุศลในตน และรักษาธรรมที่เป็นกุศล" "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่างประกอบ" "เปรียบเหมือนเสนาบดีของพระราชาที่ทูลแนะนำให้ถือเอาการกระทำที่ถูกต้อง ดังที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ "ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวสติแลว่ามีประโยชน์ในที่ทั้งปวง" ๑๓."พระคุณเจ้านาคเสน สมาธิมีอะไรเป็นลักษณะ" "ความเป็นประธาน ขอถวายพระพร เพราะกุศลธรรมทั้งปวงมีสมาธิเป็นประธานจึงน้อมไปสู่สมาธิ พาไปสู่สมาธิ "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่างประกอบ" "เปรียบเหมือนจันทันของเรือนหลังหนึ่งล้วนน้อมไปสู่ นำไปสู่ไม้อกไก่ซึ่งเป็นส่วนสูงสุดของหลังคา ฉันใด กุศลธรรมทั้งหลายล้วนน้อมไปสู่ นำไปสู่สมาธิ ฉันนั้น ดังที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิเถิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง" ๑๔."พระคุณเจ้านาคเสน ปัญญามีอะไรเป็นลักษณะ" "ขอถวายพระภร ปัญญามีความส่องสว่างเป็นลักษณะ เมือปัญญาเกิดขึ้นในดวงจิต ย่อมกำจัดความมืดคืออวิชชา ย่อมทำความสว่างให้เกิดขึ้น ทำวิชชาให้ฉายแสง และย่อมทำอริยสัจทั้งหลายให้ปรากฎ ผู้บำเพ็ญสมาธิจึงรับรู้ด้วยปัญญาอันแจ่มชัดในความไม่เที่ยงและทุกข์ และเป็นอนัตตาของสิ่งทั้งปวง" "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่างประกอบ" "ขอถวายพระพร เหมือนประทีปส่องห้องที่มืดให้สว่างขึ้นจนอาจเห็นสิ่งต่าง ๆในห้องนั้นได้" ๑๕."พระคุณเจ้านาคเสน ธรรมทั้งหลายอันมีลักษณะต่าง ๆกันนี้ ทำให้สำเร็จประโยชน์อย่างเดียวกันหรือ" "ขอถวายพระพร ธรรมทั้งหล่ายหล่านี้ล้วนกำจัดกิเลสทั้งหลายได้ ประดุจดังส่วนต่างๆ ของกองทัพ เช่น ทัพช้าง ทัพม้า ทัพรถและกองทัพพลธนู นำไปสู่ผลสำเร็จเดียวกัน คือชนะกองทัพฝ่ายอื่นได้" "พระคุณเจ้านาคเสน คำตอบของท่านหลักแหลมนัก" ที่มา: หนังสือมิลินทปัญหา - กษัตริย์กรีกถาม พระเถระตอบ โดย นวพร เรืองสกุลถอดความเป็นภาษาไทย |
Ineverdie
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Link |