Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 

Backpacker Hiso 8 : Osaka




B a c k p a c k e r   H i s o : O s a k a  



มันมาอีกแล้วครับ มันกลับมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกแล้ว สำหรับ Series backpacker hiso นี้ นี่ตอนที่ 8 แล้วครับ

ไปเที่ยว Osaka กันดีกว่าครับ

Osaka City เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นครับ รองจาก Tokyo และ Yokohama ตามลำดับ แม้ว่าจะใหญ่เป็นอันดับ 3 แต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญอันดับสองของประเทศญี่ปุ่นเลยครับ เมือง Osakaนี้อันที่จริงเป็น prefecture น่ะครับ โดยมีเมือง Osaka เป็นเมืองหลวงของ Prefecture อีกทีครับ ชื่อเดิมนี่ล่ะครับ

Osaka Prefectureนั้นมีขนาดเล็กเป็นที่สองของญี่ปุ่นครับ ตั้งอยู่ในเขตที่ราบ (มั้ง) กลาง ๆ ประเทศ เรียกแถบนี้ว่า Kansai หรือเรียก Kinki region ก็ได้ครับ เนื่องจากมันไม่มีคำที่พอจะเทียบกับการจัดระบบแบ่งเขตปกครองแบบไทยได้ ทำให้คนไทยใจซื่ออย่างผมงงมาก ๆ (เข้ากับ slogan ของผมเปี๊ยบล่ะครับ) ดอกไม้ประจำถิ่นคือ Primrose ครับ ส่วนต้นไม้จะเป็นต้นแป๊ะก๊วย และเค้าจะมีเทศกาลชมดอกบ๊วย (Ume) กันไม่ยักฮิตซากุระ (Sakura) เพราะว่าอะไรนะเหรอครับ... อิ อิ ตอบง่าย เพราะอะไรไม่รู้ไงครับ กร๊ากก 5 5 5 มันคงมีต้นบ๊วยเยอะละมังครับ

การเดินทางใน Osaka ก็สะดวกเช่นเดียวกันกับทุก ๆ เมืองในญี่ปุ่นล่ะครับ มีรถไฟไปถึง ตรงไหนรถไฟไม่ถึงก็มีรถไฟใต้ดิน รถบัสไปถึงครับ ถ้าหากไม่มี JR Rail Pass ก็สามารถซื้อ Osaka Day Pass ได้ในราคา 2,000 Y โดยนอกจากจะขึ้นรถอะไรก็ได้ กี่รอบก็ได้แล้ว ยังเป็นบัตรผ่านเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งเช่น ปราสาท Osaka ฟรี และยังมีส่วนลดใน Osaka Aquarium และภัตตาคารด้วย

เช่นเคยนะครับ กระทู้นี้เป็นบันทึกเรื่องที่เดินทาง ไม่ใช่กระทู้นำเที่ยวครับ ผู้ปกครองควรพิจารณา (PARENTAL ADVISORY) ห้ามนำไปใช้อ้างอิงเด็ดขาด ครับผม

ผมเดินทางจาก Sapporo - Osaka ด้วยเครื่องบินภายในประเทศสายการบิน Pikachu-ANA ครับ น่ารักจริง ๆ คนญี่ปุ่น


คนญี่ปุ่นเค้านิยมการ์ตูนมากครับ ที่ Aomori ก็มีรถลอดใต้ดินไปยังเกาะ Hokkaido โดยเป็นรถไฟ Doraemon ครับ ส่วน Pikachu นี่ก็ฮิตไม่แพ้กัน แถม Hiso กว่าด้วย ได้เป็นลายเครื่องบินเลยครับ บ้านเราก็คงเป็นแนวไทยลายกนกทำนองนี้น่ะครับ คงไม่มีโอกาสได้มีน้องปังปอนด์หรือน้องจ้าบนปีกเครื่องบินหรอกครับ





นอกจากจะเป็นเครื่องบินลายปิกะจุ๊ (อย่าผันเสียงให้มันลามกนักนะครับ อิ อิ ของไทยแค่เจ้าจุ๊ หรือเจ้าจำปีของเพศชายอย่างเดียวของญี่ปุ่นเค้าจัดให้ครบชุดทั้งสองเพศ เป็นแพ็คคู่ อิ อิ 5 5 5) ภายในการตกแต่งทุกอย่างเท่าที่ทำได้ก็เป็นลายการ์ตูนหมดครับ เช่น แก้วน้ำ ผ้าม่าน หรือแม้แต่คุณ Flight attendant ครับ (รู้สึกว่าผมจะชอบไปยุ่งกับคุณ Flight attendant เป็นพิเศษนะครับ อิ อิ ของมันเจริญตานี่นะ)


อ่า เค้าไม่ได้แต่ง costume เป็นตัวสัตว์ประหลาดโปเกหรอกนะครับ (อ่า ไม่ได้ว่าเค้านาครับ ก็ โปเก (poke') - pocket, mon - monster สัตว์ประหลาดครับ) เค้าใส่ชุดปกตินี่ล่ะ แต่ว่าคาดผ้ากันเปื้อนลาย poke เฉย ๆ ครับ


แม้แต่แก้วน้ำยังเป็นลายปิกะจุ๊เลยครับ อยากจะเก็บลงมาอยู่หรอก เผอิญมันเป็นแก้วกระดาษน่ะครับ ไม่สะดวกในการขนย้ายสำหรับ backpacker น่ะครับ





อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นดาราดังไปถึง America แต่ว่า เครื่องบินปิกะจุ๊นี้ก็มี (ให้เห็น) แค่สายการบินภายในประเทศครับ ชตช คงไม่ get มังครับ

อะ นอกเรื่องเชียว ถ้าหากว่าเดินทางจาก ตปท มา (ต่างประเทศ) ก็มาลงที่สนามบินนานาชาติที่ Osaka ได้ครับ Osaka เป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งที่มี 2 สนามบินครับ คือสนามบิน Osaka Itami Airport ซึ่งเก่ากว่า และรองรับ domestic flight อยู่ใกล้ ๆ เมืองนี่ล่ะครับ และ สนามบิน Osaka Kansai Airport เป็นสนามบินใหม่กว่า ใหญ่กว่า สร้างบนเกาะถมขึ้น เพื่อรองรับ International flight เป็นหลัก อยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง และมี domestic flgiht บ้างพอสังเขปเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ชตช ที่บินมาต่อเครื่องไปเมืองอื่น

สำหรับท่านที่มาลง Tokyo Narita ก็เดินทางมายัง Osaka ด้วยรถไฟได้ครับ มี shinkansen มาเป็นระยะ ๆ ล่ะครับ รถบัสก็มีแต่จะช้า และเสียเวลา หรือว่า ถ้าอยากเดินทางด้วยเครื่องบินจาก Tokyo มายัง Osaka ก็มีครับ แม้ว่าเวลาที่ใช้ใน
การเดินทางอาจจะสั้นกว่ามาก แต่รวมเวลา check in, landing, baggage claim และเดินทางไปยังสถานีรถไฟแล้ว อาจจะใช้เวลาไม่ต่างกันกับการเดินทางด้วยรถไฟมากนัก นอกจากนี้ อาจจะมีเที่ยวบินไม่มากเท่ากับรถไฟด้วย จึงไม่เป็นที่นิยมครับ (ที่สำคัญคือมันน่าจะแพงกว่านั่นแหละ 5 5 5)


เครื่องบินปิกะจุ๊ที่มองผ่านหน้าต่างสนามบินครับ ฝนตกตลอดเลยแฮะ




ระหว่างบินทัศนวิสัยค่อนข้างดีครับ (คือมีฝนตกหนักแต่ว่าไม่มีตกหลุมอากาศเลย) บนฟ้าพอเข้าเขตเมือง Osaka (ผมไปลงที่ Osaka Itami Airport จะผ่านเมืองครับ ถ้าไปลง Osaka Kansai Airport อาจจะเห็นไม่ชัดเท่า...มั๊ง) มองลงไปจะเห็นสิ่งก่อสร้างที่เป็น Hilight ของการเที่ยวเมืองนี้ด้วยครับ



Bird eye view ของ Osaka Jo และอาคารแวดล้อมครับ เห็นว่าบริเวณสวนรอบ ๆ Osaka Jo หรือ ปราสาท Osaka นั้นใหญ่มาก เดินกันขาขวิดล่ะครับ





จากนั้นก็ต่อรถบัสหรือ monorail เข้ามาในตัว Osaka Loop Line มันจะไปจอดที่ Osaka eki น่ะครับ ที่นี่จะมีรถไฟไปยัง Universal Studios Japan - USJ ด้วย สนมั้ยครับ สนม๊ายยย

ต้องระวังนิดหน่อยนะครับ สำหรับผู้นั่งรถหน้าตาแบบนี้แต่ว่าไม่ได้ไปลงที่ USJ นะครับ เพราะว่า รถ JR นั้น มันจะต้องลงที่สถานีก่อนจะแยกเข้า USJ ครับ ไม่งั้น จะไปสุดทางที่สถานีเลย USJ ออกไป นั่นเหมาะจะไปเที่ยวแถว ๆ อ่าวครับ ถ้าจะนั่ง Osaka Loop Line เนี่ย ต้องลงก่อนนะครับ


รถไฟที่ไปยังสถานี Universal City Eki สีสันบรรเจิดมั้ยครับ มีรุ่นที่เป็นSpiderman แล้วก็รุ่นไดโนเสาร์ (Jurassic Park) (อันนี้เคยเห็น เก่าแล้วครับ งวดนี้มาไม่เห็นแล้ว) แล้วก็รุ่นที่มีนกหัวขวานตัวป่วนน่ะครับ ชื่ออะไรหว่า...Woody มั้งครับ






ถ้าไปเที่ยวที่ Osaka สถานที่ที่พลาดไม่ได้ ก็ต้องเป็น ปราสาทโอซากา (Osaka Jo) ครับ

ปราสาทตั้งอยู่ที่นั่นแหละครับ อ่า ก็แถว ๆ กลาง ๆ เมืองนั่นแหละครับ เราจะไปเที่ยวที่ปราสาทเนี่ย ต้องนั่งรถไปลงที่สถานีชื่อ Osakajo Koen eki ครับ สถานีนี้เป็นของ JR ด้วย ถ้าอยากไปรถใต้ดินก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มจากตั๋ว JR ปกติ เพราะว่าเท่าที่ทราบ JR ไม่มีรถใต้ดินนะครับ (ถ้าไม่พูกต้องแก้ให้ด้วยครับ) ทายสิว่าผมจะไปยังไงล่ะ 5 5 5 (งกแบบนี้ ไป JR แหงม ๆ คร๊าบบบ)

เมื่อลงสถานีแล้ว ก็เดินเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะเจอกับสะพาน ข้ามคูรอบปราสาทเข้าไปยังด้านหน้าที่เป็นศาลาเอนกประสงค์ ชื่อ Osaka Jo Hall ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้รู้หรอกครับ ว่าไว้ทำเผือ (แปลว่าทำอะไร) ก็ ว่าไปเรื่อยว่า เอนกประสงค์ซะงั้น เหอ เหอ

เมื่อเดินออกจากสถานีก็เห็นปราสาทรำไร ๆ แล้วล่ะครับ แต่กว่าจะเข้าถึงปราสาทนั้นแสนจะยากเย็นเหมือนอยู่ California (อีกแล้ว)

ใครไม่รู้เรื่องว่าเหมือน California ตรงไหน ให้ไปหาอ่านในกระทู้Backpacker hiso นะครับ แสดงว่าไม่เคยอ่านแน่ ๆ

เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ต้องเดินอ้อมไปเล็กน้อย (จริงอ่ะ...) กว่าจะถึงทางเข้าตัวปราสาทได้ครับ วันที่ไปพอดีฝนตก สีสันของปราสาทเลยออกจะดูหม่น ๆ ไปนิดครับ (ถ่ายรูปไม่ดีโทษฝนไว้ก่อน 5 5 5)


คูน้ำรอบ ๆ ปราสาท กว้างมากพอควรครับ และน้ำค่อนข้างสะอาดดี ถ้าเล็งดี ๆ จะพบว่ามีเรือนำเที่ยวด้วยล่ะครับ โดยเค้าจะใช้เวลาราว ๆ 2 ชั่วโมง วน ๆ ในคูน้ำรอบ ๆ ปราสาท และไปยังสระน้ำขนาดย่อม ๆ ไกลออกไปหน่อยนึง ไม่ได้ไปเล่าไม่ถูกเหมือนกันครับ





ปราสาทนี้ เดิมถูกทำลายไปหลายรอบแล้วครับ งวดหลังที่สร้างใหม่เนี่ย เพิ่งไม่นานนี้เอง เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแล้ว แต่เดิมนั้น ปราสาทเป็นที่อยู่โชกุน แล้วก็มีการแย่งอำนาจ ได้เป็นปราสาทจักรพรรดิ ชื่อ Hideyoshi อะไรนี่ล่ะครับ กาลต่อมาองค์จักรพรรดิก็ถูกยึดอำนาจ กลายเป็นปราสาทโชกุนใหม่ ทำนองนี้ล่ะครับรายละเอียด โปรดติดตามได้ที่ web google นะครับ 5 5 5 (search ได้เองตามใจชอบ)

สมัยที่ยุคศักดินายังเรืองอำนาจ (โหย สำนวนกรู เอ๊ย สำนวนผม...)ตัวปราสาทได้รับการสร้างในเขตรั้วรอบขอบชิด ภายในค่อนข้างกว้าง เหมือนเป็นเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งครับ

รอบ ๆ ปราสาทนั้นมีทั้งสวนสาธารณะ (สมัยก่อนคงเป็นสวนส่วนตัวนั่นแหละ ใครจะกล้ามาเดินในสวนล่ะคับ โธ่ ๆ หัวหายหมดสิ)ขนาดใหญ่มาก เดินกันหลายเหนื่อยกว่าจะทั่วครับ


แม้ว่าวันนี้ฝนจะตก แต่ว่าการออกกำลังนั้นทำให้คุณดูดีได้ทุกวัน ก็เลยเจอคนมาขี่จักรยานท่ามกลางสายฝนปรอย ๆ พอเย็นสบาย แถมมีคนมาวิ่งออกกำลังด้วยครับก่อนออกมาคงจะฝนไม่ตกละมั้ง





เมื่อเดินมาเรื่อย ๆ ก็จะพบสะพานหน้าตาญี่ปุ่น (วะ!!! คุณครับ ก็เที่ยวญี่ปุ่นนะจะให้สะพานทรงไทยเรอะ) สะพานนี้มีชื่อด้วยครับ ทำนองสะพานข้ามไปสวรรค์อะไรเทือก ๆ นี้ล่ะ ผมอ่าน ๆ เอาจากป้ายน่ะครับ มีประกาศไว้ว่าสะพานนี้ชื่อสะพานสวรรค์ -Kokuraku Bashi (Kokuraku = Paradise, Bashi = สะพาน ) นัยว่า ปราสาทชั้นเหมือนสวรรค์นะ จะบอกให้ อะไรแบบนั้นครับ

เดิมตัวสะพานเป็นไม้ครับ ก็ หลังจากเกิดสงคราม เผา ๆ ทำลายกันไป ล่าสุดก็เลยกลายมาเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแล้ว ถ้าไปก็ลองไปอ่าน ๆ ดูแล้วกันครับ มีคำบรรยายอยู่ ผมจำไม่ได้แล้วล่ะ กะว่าจะ"เที่ยวไปงงไป" เท่านั้นไม่ได้ "เที่ยวเอาเรื่อง" หรือว่า "เที่ยวนี้กรูรู้หมด" แหะ แหะ


ปราสาทมุมนี้ถ่ายจากสะพานที่ว่าครับ จะเห็นว่าปราสาทนั้นสีเขียว และประดับด้วยโลหะสีทอง ถ้าไปยืนดูตัวเป็น ๆ (ฮั่นแน่...ศัพท์วัยรุ่น) ก็จะเห็นสีทองอย่างแรงครับ ทองมาก ๆ ถ่ายรูปมาแล้วไม่ทองอย่างของจริงครับ





หากมีเวลาก็เข้าไปเที่ยวในปราสาทนะครับ เสียเงินเพิ่มราว 500-600 Y นี่ล่ะครับ (อ่านแล้วก็เข้าใจทันทีว่าผมไม่ได้เข้าไป เก็บเงินทำไมล่ะเออ) เมื่อเข้าไปแล้วก็จะได้เดินไปในตัวปราสาทครับ มีหลาย ๆ ชั้นทั้งแนวราบและแนวดิ่ง แนวราบคือมีตัวปราสาท พิพิธภัณฑ์ (เกลี่ยดคำนี้จริง ๆ พิมพ์ยาก ยกแคร่ซ้าย ยกแคร่ขวาอยู่นั่นแล้ว) และสวน ส่วนแนวดิ่ง คือ ภายในปราสาทเอง มีหลาย ๆ ชั้นครับแต่ละชั้น โดยเดิมเล่ากันว่า จะมีสวนภายในปราสาทด้วย คนภายในจะรู้สึกเหมือนอยู่ด้านนอกเลยครับ

ปัจจุบันในปราสาทก็จะคล้าย ๆ กัน เป็นแบบแผนเดียวกันทั่วประเทศ คือต้องอุทิศให้การอยู่กิน ของใช้ของท่านโชกุนและชีวิตของนางกำนัลและคนในปราสาทสักชั้นหนึ่ง ชั้นอื่น ๆ ก็ตามชอบ อาจจะเป็นประวัติเมือง ประวัติของปราสาท มีของเก่า เช่น ถ้าปราสาทเคยถูกเผา ทำลายและได้รับการสร้างใหม่ก็ต้องมีเศษอิฐ ปูน ไม้มาวาง ๆ ทำนองว่าของเดิมน่ะ เป็นแบบนี้แหละท่านผู้ชม ทำนองนี้ล่ะคร๊าบบ

สำหรับปราสาทนั้น ภายในจะมีบ่อน้ำด้วยครับ ว่ากันว่า (ใครไม่รู้บอกเชื่อหูไว้หูนะครับ - PA)ไว้ใช้เป็นทางหนี ตามปกติ จะไม่มีใครออกมานอกปราสาทได้ ภายในเหมือนเป็นเมืองเล็ก ๆ มีสวน มีดินมีบ่อน้ำด้วยน่ะครับ

สำหรับสิ่งมีชีวิตประดับยอดปราสาทนี่ ถ้าเล็งไม่ผิดน่าจะเป็นปลาทองครับ


ปราสาทโอซากาในสายฝน ดูเหงา ๆ เซ็ง ๆ คงรู้ว่าจะมีคนไทยเอาไปนินทาได้เป็นเรื่องเป็นราว 5 5 5 เลยเซ็งล่วงหน้าซะเลยครับยอดปราสาทเป็นปลาทองครับ ถ้าวันที่แดดดี ๆ จะเห็นสะท้อนแสงสวยทีเดียวครับถ้าหากมีเวลามากลางคืนก็จะต้องแสงเป็นประกายแวววาวทีเดียวครับ แม้ว่าจะไม่มาดูใกล้ ๆ ก็เห็นได้จากระยะไกลเลยล่ะครับ





เมื่อเดินดูจนหนำใจ และเมื่อยได้ที่แล้วก็ย้ายร่างกลับไปยังสถานีรถไฟได้ครับ ไม่ยากเลย ถ้ามารถใต้ดินก็ง่ายอีกครับ ไม่ยากเช่นกัน

จากนั้นเราก็ตัดสินใจกันต่อนะครับว่าจะไปไหนดี สับสน ๆ ที่เที่ยวเยอะไปหมดแบบนี้ คิดยาก ๆ


สถานีรถไฟอะไรไม่รู้ครับ น่าจะเป็นอยู่ในเมืองซะละมังครับ ถ่ายภาพมา เพราะว่าหน้าตามันแปลกโดยแท้ แหะ แหะ งงมั้ยครับ อิ อิ





ลำดับต่อไป ขอเชิญชิม เอ๊ย ชม Osaka Dome เลยครับ

อันว่าเมืองญี่ปุ่นนั้นเค้าสนับสนุนการกีฬากันเป็นอันมากครับ พบว่าเกือบทุกเมืองใหญ่ ๆ ต้องมีสนามกีฬาหน้าตาดี ๆ ไว้อวดเมืองข้าง ๆ เสมอ ๆ เมืองนี้สนามกีฬานั้นหน้าตาคล้าย ๆ กะหรี่ปั๊บ (ไม่ใช่หน้าตาเห็นปั๊บ รู้ว่าเป็น...นะครับ เฮ้อ) อ่า เอาเป็นขนมปั้นสิบ หรือว่าหอยกาบก็ได้เอ๊า คือว่า เป็นโดมปิด หลังคากลม ๆ ขอบมันก็ม้วน ๆ แบบภาพนี่ล่ะครับ

โดมนั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ JR นักครับ สามารถนั่งรถไฟ Osaka Loop Line มาลงที่สถานี Tennoji eki แล้วก็ง่าย ๆ ครับ ตรงไปหานายสถานี แล้วพูดภาษาอังกฤษไปว่า Osaka Dome ท่านนายสถานีก็จะชี้ทางสว่างให้ทันทีครับ (อาจจะพร้อมด่าในใจว่า ไอ้บ้าเอ๊ย ก็เดินไปหน้าสถานีก็เห็นแล้วโดมใหญ่ขนาดทิ่มตาบอดขนาดนั้น เฮ้อ พวกคนต่างชาติเนี่ย blar blar blar... 5 5 5) พร้อมกับทำหน้าขรึม ๆ ไปพลาง

เมื่อเราออกจากสถานีแล้ว เพียงแค่มองไปซ้าย ๆ ขวา ๆ ก็จะเจอทันทีครับ Osaka Dome นั้นเห็นได้ไปหลายช่วงตึก เมื่อเดินไปดูก็จะพบอาคารขนาดใหญ่มากทีเดียว หน้าตาไม่ค่อยสวยแล้วครับเพราะเริ่ม ๆ เก่าแล้ว ตัวกุ๊นขอบที่เป็นกลม ๆ นั่นเป็นทางเดินรอบ ๆ โดมได้ครับ ภายในเป็นสนามกีฬาในร่ม หลัก ๆ ก็ไว้แข่งเบสบอลกัน แถวนี้ถ้าใครอยากพัก Youth Hostels ก็มีนะครับด้านหลังเนี่ยแหละ ราคาไม่แพงมากนัก (แต่ว่าพักโรงแรมพวก Business Hotel ถูกกว่าจมครับ)


Osaka Dome ในสายฝน (อีกเช่นเคย) ข้าง ๆ ขนาบไปได้ถังแก๊ซยักษ์ หรือถังน้ำมันนี่ล่ะครับ




Osaka Dome นี้นั้นเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่มากขนาด 3 เหนื่อยครับ (เหนื่อย = หน่วยวัดระยะทาง โดยอาศัยเทียบจากกำลังกายของผู้เดินวัดเป็นสำคัญ) เดินรอบ ๆ ได้ เข้าไปก็ได้ ในวันที่มีการแข่งขันนะครับ ถ้าไม่แข่งขันก็มีให้ไปเที่ยวเล่นในศูนย์สันทนาการของโดมได้ครับ (อันนี้ผมอ่านมานะ ไม่รู้อยู่ไหน เดินวนจนตับแลบแล้วก็ไม่เจอครับ เฮ้อ เป็นอันตรายต่อตับเราซะจริง)


เดินจนจะหมดแรง ไม่รู้จะถ่ายภาพอะไรก็เลยได้ภาพนี้มาครับ เดินใต้โดมอยู่ ที่เห็นเป็นบันไดที่อยู่ที่รั้ว ไม่รู้ว่าขึ้นไปไหนครับ เหนื่อยแล้วความอยากรู้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ





สำหรับ Osaka นั้นยังมี Tourist spots อีกแยะครับ เช่นอาจจะไปแถว ๆ สถานีรถไฟ Osaka eki ก็จะมีสวนสาธารณะเรียกว่า Osaka Business Park ก็จะมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ใกล้ ๆ กับปราสาทโอซากานั่นล่ะครับ เห็นเป็นวิวสระน้ำ และตึกสูง ๆ สามารถนั่งชมบรรยากาศเมืองได้สบายใจ (strongly recommended)

หรือว่าจะไปเที่ยว Den Den Town ซึ่งเป็นย่านขายข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ราคาถูกมาก (เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ) และที่สำคัญ สามารถต่อรองกันได้ครับ สามารถซื้อ Notebook ได้ในราคาที่จัดว่าถูกเลยล่ะครับ (recommended)

(o_O "!)

ตกใจมั้ยครับ!!! ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ ญี่ปุ่นต่อราคาได้!!! อันว่าเมือง Osaka นั้นเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายมาแต่ไหนแต่ไรครับ ชาวญี่ปุ่นเมืองอื่น ๆ เองก็จะแอบนินทานิด ๆ ว่า แหม คนโอซากาเนี่ย คิดอะไรก็เป็นเงินไปหมดเลย ว๊าา แย่จัง (เอียงหัว เอานิ้วชี้จิ้มบริเวณทัดดอกไม้ทั้งสองข้างไปด้วยจะได้บรรยากาศครับ... โปรดวาดภาพ (ในใจ) ตาม)

Osaka Aquarium หรือเค้าเรียกว่า ใครอยู่กัน Kaiyukan เป็น aquarium ที่ใหญ่ติดอันดับโลกครับ มี Theme ตามทฤษฎี Gia คือว่าโลกเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ อยู่รวมกับสิ่งมีชีวิตบนโลกแบบพึ่งพาอาศัยอะไรทำนองนี้ล่ะครับ ภายในมีปลาฉลามวาฬใน tank กลาง ใหญ่มาก สูง 8 ชั้นเท่ากับความสูงตึกล่ะครับ ก็สวยครับ น่าเที่ยว (ใช้เวลา 1 วัน) มีโชว์ปลาโลมาและแมวน้ำเป็นมาตรฐาน (ไม่ได้แปลว่าสวยครับ หมายถึงว่า ทุก aquarium ต้องมีโชว์นี้อยู่แล้ว) ด้วย สัตว์น้ำอื่น ๆ ก็เช่นพวกนากทะเล โลมา อะไรทำนองนี้น่ะครับ นอกจากนี้ ยังมีท่อใส่ แนวดิ่งให้เห็นปลาว่ายขึ้น ว่ายลงระหว่างชั้นด้วยครับ

ถ้าไปย่านริมอ่าวก็จะเป็น World Trade Center และวิวเมือง สำหรับอันนี้ควรจะอยู่ช่วงกลางคืนครับ เพราะว่าจะเห็นเมืองเป็นแสงสีระยิบระยับงดงามมาก จัดเป็น Night view ที่สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยครับ (strongly recomment)

โอย ที่เที่ยวแยะครับ ไปไม่หมดหรอกครับ วันเดียวน่ะ


ฝาท่อระบายน้ำครับ ทุกเมืองก็ต่างกันหมด มีเรื่องราว มีภาพลักษณ์เมืองแฝงอยู่ทุกฝา (ฟังเหมือนชิงโชคฝาน้ำอัดลมแฮะ...)





เนื่องจากว่าผมเพิ่งลงเครื่องมา จึงไม่มีเวลามากนัก (แถมยังนั่งรถหลงไปโผล่หน้า USJ อีก ช้ำใจจริง) สุดท้ายความมืดก็มาเยือน อ่า ไม่ได้เล่นหนังผีนะครับ อย่าคิดมาก เราไปเที่ยวย่าน Nanba (เวลาอ่าน อ่าน นัม-บะ นะครับ) ย่านนี้เป็นแห่งที่ ต้อง มาครับ เพราะว่าต้องมาถ่ายรูปกับป้ายโฆษณา กูลิโกะ (คนละอันกับ กูลิโกะเกมกึ๋ยส์ นะครับ) ว่ากันว่าป้ายนี้ ดังพอ ๆ กับป้าย Coke หน้า Piccadelli Station ที่อังกฤษล่ะครับ ผมไม่เคยไป ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ถ้าใครอยากทราบ ยินดีนะครับ ส่งตั๋วเครื่องบินมาได้เลย เดี๋ยวผมไปแล้วจะมาเที่ยวไปงงไปให้อ่านกันครับ 5 5 5

นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นบริเวณที่ขาย Tako Yaki หรือ ลูกชิ้นหมึกย่างแบบญี่ปุ่นที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยครับ ใครมาไม่ได้กินล่ะก็ เจ็บใจแน่ ๆ


ร้านนี้ขาย Ikayaki ครับ คือทำจากหมึก squid เสียบไม้ย่าง ไม่ได้ทำเป็นก้อนเหมือนกับที่ทำจากหมึกยักษ์หรือ octopus ครับ (Ika - หมึก squid จำพวกหมึกหอม หมึกกระดอง หมึกกล้วย น่ะครับส่วน Tako - หมึกยักษ์ octopus) มีคุณหมึกหนวดกระดิก ดุ๊กดิ๊ก ๆได้ด้วยนะครับ ไม่ใช่ขี้ ๆ เลย





ย่าน Nanba นี้เป็นย่านการค้าครับ ร้านค้าเยอะมาก และเป็นย่านที่คนนิยมมาเดินอย่างรุนแรง คนเบียดเสียดเยียดยัดกันมากครับ

การเดินทางมาย่านนี้ไม่ยากครับ เพียงแค่ย้ายร่างไปขึ้นรถ JR ให้สำเร็จ ลงจาก Loop ที่สถานี Shin Imamiya ให้ได้แล้วก็รอรถไฟสาย Nanba line ซึ่งเดี๋ยวก็มาครับ นั่งไปลงสุดสาย เดินนิดหน่อย ก็มาถึงย่านโลกียะแห่งนี้แล้ว

สำหรับท่านที่ต้องการของกินที่ไม่ใช่อาหารปาก แต่เป็นอาหารกายที่นี่ก็มีครับ ลองสอดส่ายสายตา ดูตามซอยเล็กซอยน้อยที่แยก ๆ ไป ก็จะเจอร้านพรรค์นี้ กระหึ่มครับ เพียบ ๆ ๆ

เอาเป็นว่าเราไปหาอะไรรองท้องกันดีไหมครับ ร้านค้าแถวนี้นั้นอร่อยและราคาไม่แพงถึงขั้นอิ๊บอ๋ายนะครับ รสชาติอาหารส่วนใหญ่จะรสดีท่านที่ต้องการประหยัดให้หาร้าน ramen ครับ แบบกดตั๋วจะถูกอย่างแรง แต่ว่า ถ้าจะเที่ยวให้สนุกและ hiso ก็ไปหาอาหารกินตามร้านหรู ๆ ที่ขาย ๆ กันข้างทางครับ


ร้านนี้ขาย Kimji ramen ครับ รสชาติจัดจ้าน เหมาะกับลิ้นชาวไทย ที่หน้าร้านมีคุณมังกร ขยับหนวด ขยับขาได้ดุ๊ก ๆ ดิ๊ก ๆ เป็นสำคัญ





ก่อนจะรับประทานเข้าไป ก็ต้องทำงานก่อนใช่ไหมครับ งานที่ว่าคือ เก็บภาพนั่นเอง 5 5 5 เดี๋ยวจะไม่ครบตามที่ควรจะเที่ยวใครต่อใครจะหาว่า ไม่ได้เที่ยวไป แล้วยังจะมาทำงงไปอีกดังนั้น หน้าที่อันยิ่งใหญ่ก็ต้องมาพร้อมกับอาหารจานใหญ่ ๆ ด้วยนาครับ

แต่น แตน แต๊นนนนนน นี่คือ hilight ของย่าน Nanba ครับ มันคือปู Kani ครับ ปูยักษ์ตัวนี้มีอายุมากว่า 30 ปีแล้วมั้งครับ แน่นอนว่าถ้าเป็น display ย่านนี้ ต้องขยับได้ น้องปูนี่ก็ขยับขาได้ไปมา น่าเอ็นดูเช่นกันครับ ว่าแต่ สนใจอยากชิมคุณปูมั้ยครับ ฮิ๊ววว


Display ปูยักษ์นี้เป็นที่นิยมถ่ายภาพกันมาก ถ้ามาไม่ได้ถ่ายรูปนี้ เหมือนมาไม่ถึงครับ





ขณะที่นั่งกินอย่างมีความสุขเล็ก ๆ ตามประสา หู radar ของผมก็เงี่ยฟังคำโฆษณา เรียกคนเข้าร้านไปพลาง

"อะโน ปูของเรานั้นสดใหม่นะคะ มาจาก Hokkaido สด ๆ ใหม่ ๆ ทุกวันค่า~"

โอว พระเจ้าจอร์ช มันยอดชั่ว นี่กรูนั่งเครื่องบินจาก Hokkaido มากินปูที่ Osaka T___T โอวว แม่เจ้า....กิ๊ซซซ

ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาดูดเนื้อปูรสชาติดีไปอย่างเจ็บใจตะหงิด ๆ ครับ หงิ หงิ


ปูที่ว่าครับ มีขายทั้งเป็นเนื้อปู sushi sashimiและเป็นปูเผาครับ ขอบอกว่าเนื้อร่อนหวาน อร่อยม๊ากกกกก จริง ๆ ครับ ยิ้มทั้งน้ำตาของแท้ งือ งือ ออ สนนราคาของปูราว ๆ 500 Y ก็อร่อยได้แล้วครับ จะได้ปูมา 1/4 ตัว (ปูตัวใหญ่ครับ)





หล้งน้ำตาแห้งแล้ว (5 5 5 เร็วมากครับ) ก็ได้เวลาไปทำงานต่อแล้ว เราจะเดินพลางก็เริ่มหิวตะหงิด ๆ พลาง (อ้าว เพิ่งกินอิ่มชัด ๆ)

นั่นไง สิ่งที่เรารอคอย Takoyaki อาหารชื่อดังของที่นี่ไงครับ

ท่านที่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาญี่ปุ่นโปรดระวังนะครับ สนนราคาทั่วไปของ Takoyaki จะราคาราว ๆ 8 ลูก 400-600 Y ครับ ถ้าหากทำจากหมึกยักษ์แท้ ๆ นะครับ บางร้านก็จะขายราคาถูกกว่าเช่น 8 ลูก 280-300 Y ขอให้นึกเอะใจไว้ด้วยว่า มันเป็น Kombu หรือบุก Konyukku หรือว่า ทำจากอย่างอื่นหรือไม่ เพราะว่าถ้าทำจากหมึกยักษ์จริง ๆ ไม่น่าจะได้ราคานี้ครับ ของถูกไม่น่าจะมีดี ของฟรีไม่มีในโลกครับ


Takoyaki รสชาติดี อันนี้ทำจาก Kombu ครับ รสอร่อยไม่แพ้กัน ใส่ปลาคัตทสึโอะ (ไอ้ที่คล้าย ๆ ขี้เลื่อยน่ะครับ) หลาย ๆ เอ๊ย เยอะ ๆ ก็หอมอร่อยครับ





เดินไปเดินมาสักพักในบริวเวณนี้ ก็จะได้ฤกษ์มาถ่ายรูปกับคุณกูลิโกะสักที (อันที่จริงเค้าก็อยู่ตรงข้ามร้านปูยักษ์นั่นละครับ งือ ๆ ปู Hokkaido ฝากไว้ก่อนเหอะ) คุณเค้ายืนเขย่งเก็งกอยมานานแล้วครับ มีการประดับสี ประดับไฟในเวลากลางคืนสวยงามมาก แน่นอนว่าไม่ควรมาตอนกลางวันเด็ดขาดครับ ถ้ามาทัวร์ก็อาจจะไม่ได้มาถ่ายภาพแบบนี้หรอกครับ (แน่ะ มีการเกทับซะงั้น ->โปรดสังเกต เกทับ นั้นมีความหมายต่างจาก เกย์ทับ อย่างชัดเจนกรุณาเข้าใจตรงกันครับ)

ว่ากันตามจริงแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเพียงป้ายโฆษณาเท่านั้น แต่ว่าเมื่อเปิดไฟแล้วจะสวยมากครับ ผมนั่งน้ำตาไหล (ตอนกินปูน่ะ) ดูไปด้วยความตื่นเต้น 5 นาทีผ่านไป ไฟจึงจะเริ่มกลับมาเหมือน ๆ เดิมครับ สวยมาก ๆ ทีเดียว

นอกจากนี้ คุณกูลิโกะยังเป็นศิลปะ Pop art ไปแล้วครับ เทียบชั้นได้กับซุปกระป๋อง Campbell เลยล่ะครับ

ป้ายนี้ นักท่องเที่ยวต้องเข้าคิวรอถ่ายภาพกันเลยครับ ผมไปในช่วงวันธรรมดา ก็ยังมีคนแยะมาก ต้องรอจนคนว่างจึงจะได้มีโอกาสได้ไปถ่ายภาพคู่กับคุณกูลิโกะเค้าเนี่ย


คำถามครับ :- คุณกูลิโกะ ยกขาข้างไหน และชูมือข้างไหนครับ คิดก่อนสิครับ หยุด scroll down เลย นั่น ๆ แล้วอย่าแอบมองนะครับ


ได้คำตอบมั้ยครับ ลองดูภาพเฉลยสิครับ

















ป้ายโฆษณาที่ดังอันดับต้น ๆ ของโลกครับ ยืนยงมาหลายสิบปีแล้วด้วยคำตอบ คุณเค้ายกเท้าซ้ายและชูมือสองข้างครับ ตอบถูกบ้างไหมครับ





บางคนเค้าก็เรียกย่านนี้ว่า Dotonbori นะครับ เพราะว่าแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางย่านนี้ชื่อ Dotonbori River ครับ บ้างก็เรียกย่านนี้ว่า Shinsaibashi ตามชื่อถนนครับ สำหรับเวลาเราไปถามทาง จะถามเค้าว่าไป Nanba, Dotonbori หรือว่า Shinsaibashi (อันหลังสุดนี่เป็นชื่อถนนครับ) เค้าก็ชี้ไปทางเดียวกันหมดล่ะครับ

เดินไปอีกสักหน่อย เลาะตามแม่น้ำไปนะครับ ก็จะมีชิงช้าสวรรค์แต่ว่า มันฝังตัวอยู่ในอาคารครับ สามารถนั่งเป็นคู่ ๆ โดยหันหน้าไปทางเดียว และสามารถมองไปได้ไกลพอควรครับ

สนนราคานี่ไม่ทราบจริง ๆ ครับ เข้าใจว่าไม่แพงมากเกินกระเป๋าคนhiso กรอด (เสียงกัดฟัน) อย่างผมแน่ ๆ แต่ว่า หิวแล้วเราไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วก็กลับไปนอนดีกว่าครับ



ตึกที่ว่าไว้นั่งชมเมืองครับ เห็นเมืองไม่แยะหรอกครับ เหมาะกับคู่รักมากกว่าจะชมเมืองจริง ๆ จัง ๆ






อาหารการกินของย่านนี้จัดว่า ถูกสุดในเมืองแล้วครับ เพราะว่า คติของคนย่านนี้ก็คือ อร่อยและถูก (แม้ว่าจะถูกของเค้านะครับ ไม่ใช่ถูกของเรา) อาหารที่หากินที่อื่น ๆ ไม่ได้นอกเหนือจาก Takoyaki แล้ว (อนึ่ง ปูนั่นไม่นับครับ อ่าไม่ใช่เพราะว่า มันมาจาก Hokkaido (- ชิ ชิ -) อย่างเดียวแต่เผอิญว่าที่นี่เป็นเมืองท่าค้าขายก็เลยมีจะกิน เอ๊ย มีให้กินน่ะครับ) ก็ยังมี Kitsune udon เป็นเส้น udon กินกับเต้าหู้แผ่น ๆ ทอดครับ Osaka sushi หรือ Hako sushi เป็น sushi ที่ต่างจากของเมืองอื่นคือ เค้าไม่ได้ปั้นเป็นคำ ๆ แต่ว่าเค้าทำเหมือนแท่งข้าวจัดวางหน้า sushi ลงไป แล้วเอามีดตัดเป็นชิ้นพอดีคำแทนครับ ราคาก็แพงไม่น้อยเหมือนกันครับ set ละ 800-1,000 Y ก็มีราว ๆ 8-10 คำ แล้วแต่ว่าหน้าเป็นหน้าอะไร ปลาไหลก็แพงหน่อย ทำนองนี้ล่ะครับ

อย่ากระนั้นเลย เรามากินของแพง ๆ ให้มันจะใจกันดีกว่าครับ


นี่ก็อาหารชุดครับ ที่เห็นหมดนี้ราคา 2,800 Y มั้งครับ แบบว่ากินไปหลายอย่าง เริ่มมึนกับราคา แรก ๆ ก็แตกเป็นเงินไทย หลังจากกินปูเริ่มปลงชีวิต อะไรเป็น Hilight กินให้หมด อย่าคิดมาก 5 5 5 5 5 5





สำหรับที่เที่ยวอื่น ๆ เช่น Den Den town ซึ่ง den - ไฟฟ้า จึงกลายเป็นเมืองไฟฟ้า ขายเครื่องไฟฟ้าต่าง ๆ น่ะครับ Den Den Townเป็นย่านขายของบนถนน Nihonbashi ครับจะอยู่บริเวณไม่ไกลจาก Shinsaibashi นัก ก็ใกล้ ๆ กันนั่นแหละเอาจริง ๆ ก็เดินมาได้ แถวนี้ ร้านค้าบางร้านจะไม่คิดภาษี 5% ให้ แต่ว่า จะต้องแสดง passport ด้วย ลองเลือก ๆ ดูล่ะครับ ทั่ว ๆ ไปก็คล้าย ๆ กับบ้านเรา คือ ร้านใกล้ ๆ กัน ราคาก็ไม่แตกต่างกันมากนัก

หอคอย Osaka หรือ Osaka Tower ก็เป็นจุดน่าสนใจเช่นกันครับ อยู่บริเวณใกล้ ๆ Den Den Town หรือว่า ใกล้ ๆ ShinImamiya eki ซึ่งเป็นสถานี JR ครับ เดินไปได้เลยล่ะ

หอคอยนี้หน้าตาคงต้องคอยต่อไปครับ เพราะว่า หน้าตาไม่สวยเอาซะเลย เช่นเดียวกันกับเมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่น หอคอยมีไว้ส่งแพร่สัญญานภาพโทรทัศน์ครับ


สำหรับ Osaka ก็คงจบแค่นี้ล่ะครับ ที่เที่ยวอื่น ๆ อีกมากมายก็ยังไม่ได้ไป เฮ้อ ต้องหาทางมาเที่ยวซ่อมซะแล้ว

ต้องขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอด ขอโทษด้วยครับที่มันยาวและมีภาพเยอะ ทำให้โหลดช้าสักเล็กน้อยนะครับ แต่ว่า ไม่อยากให้มันมีหลาย blog เกินไปน่ะครับ


หอคอยโอซากา Osaka Tower ครับ หน้าตารับไม่ได้เลย แต่ว่าก็เป็น landmark สำคัญเวลาหลงได้ครับ





โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ









l Sapporo l Onuma l Hakodate l Furano l Biei l Asahidake l Otaru l สมุดเยี่ยม l









 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2548
77 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2549 23:24:45 น.
Counter : 4600 Pageviews.

 

ชอบมาก..วิวสวย อาหารน่ากิน..

 

โดย: รักเด็กข้างบ้าน 9 พฤศจิกายน 2548 0:49:24 น.  

 

แวะมางง ด้วยคนง่ะ

 

โดย: malijauna 9 พฤศจิกายน 2548 0:56:48 น.  

 

ภาพแรกๆ น่ารักจัง เรือบินปิ๊กะจุ๊ อิอิ


 

โดย: มรกตนาคสวาท 9 พฤศจิกายน 2548 1:01:07 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วยคนค๊า

 

โดย: yadegari 9 พฤศจิกายน 2548 1:50:49 น.  

 

มา blog นี้ตอนดึก ๆ แล้วหิวดีจังเลยค่ะ

Sashimi ข้างบนหน้าตา grand เริ่ดหรูไฮโซมากค่ะ สมกับเป็น

 

โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.201.216 9 พฤศจิกายน 2548 1:55:04 น.  

 

(เฮ้อ! เผลอกดพลาดไปค่ะ ขอโทษที เอาใหม่นะ)

มา blog นี้ตอนดึก ๆ แล้วหิวดีจังเลยค่ะ

Sashimi ข้างบนหน้าตา grand เริ่ดหรูไฮโซมากค่ะ สมกับเป็น erai backackaa อิ อิ อยากทานสด ๆ อร่อย ๆ ถูก ๆ ที่เมืองไทยหาไม่ได้หรอกค่ะ ชอบของแท้ของจริงมากกว่า ต้องอดใจไว้ เก็บเงินไว้ไปทานให้ถึงที่

ดูสิ Salmon ชั้นไขมันเป็นริ้วสวยเชียว

 

โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.201.216 9 พฤศจิกายน 2548 2:01:28 น.  

 

เครื่องบินน่ารักจังคะ

 

โดย: Angel Tanya 9 พฤศจิกายน 2548 5:07:40 น.  

 

ชอบๆๆๆๆๆๆ..

ชอบไปหมดเลยอ่ะ...

ตั้งแต่เรือบินโปเกม่อน..

รถไฟลายไอ้แมงมุม..

ปราสาทกลางธรรมชาติ..

และที่สุดของทีสุด...อาหารยุ่น...เห็นแล้วน้ำลายยืด..

 

โดย: กุมภีน 9 พฤศจิกายน 2548 6:44:58 น.  

 

เดินสวนกันบ้างไหมเนี่ย วันไปโอซาก้าโจก็เจอคนไทยหลายคน(เเต่ไม่ได้ทักหรอกใคร)

 

โดย: Hana* 9 พฤศจิกายน 2548 6:54:48 น.  

 

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ...พลาดได้ไงนะ ฮิๆ ยังไม่เคยไปปราสาทนั่นเลยค่ะ ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยวแถบนั้นอีกเหมือนกันค่ะ

รถไฟลายสไปเดอร์เดอร์แมนสวยดีค่ะ จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อครั้งที่ไปคราวที่แล้วแปะเป็นลายอะไรค่ะ หรือลายเดียวกันหว่า ความจำสั้นซะงั้น

ที่โอซาก้าโอโคโนมิยาคิ และทาโกะอร่อยมากเลย อยากกินอีก แต่ตอนนี้เห็นซาชิมิแล้วหิวๆ เลย

 

โดย: jan_tanoshii 9 พฤศจิกายน 2548 10:00:54 น.  

 

อยากไปบ้างจัง แต่ยังไม่มีโอกาสเลยอ่ะ ว่าจะไปๆก็ไม่ได้ไปซ้ากที อือๆ ตอนนี้เที่ยวเมืองไทยไปก่อนดีก่า

 

โดย: หลานยายจุล 9 พฤศจิกายน 2548 11:09:51 น.  

 

เป็นอีกหนึ่งทริปที่น่าไปมั่ก ๆ ค่ะ มีแต่ของน่าตื่นตา ตื่นใจ ไปซะหมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ รึว่า บรรยากาศ ที่เก็บมาฝากัน แต่ที่น่าสนใจสุด คือ อาหาร อิอิ คือ เห็นแล้วหิว จิง ๆ ค่ะ ก้อดันเปิด มาดูกระทู้ตอนเที่ยงนี่ ค่ะ เห็นจะไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ ต้องขอตัวไปทานข้าวก่อน ดีก่า ช่างเป็นมื้อเที่ยงที่ มีความสุขซะจิง ๆ

 

โดย: NinG_CDC 9 พฤศจิกายน 2548 12:01:00 น.  

 

แวะมาอ่านอัพเดท และขอบคุณที่แวะไปอ่านอีกที่บล๊อคนะ

แหมอยากนั่งเครื่องปิกะจุ๊ด้วยคนนนนน ท่าทางจะน่าเก็บของบนเครื่องมาเป็นของที่ระลึกเสียให้หมด

ฝาท่อเนี่ยถ้าไม่บอก นึกว่าเหรียญกษาปโบราณ อิจฉาเจงๆ เลย คราวหน้าช่วยหนีบติดจักกะรุ้ เอ้ย จักกะแร้ ไปด้วยคนนะคะ ตัวไม่หนักเท่าไรหรอก อิอิ

 

โดย: nuyo (CooKiiE ) 9 พฤศจิกายน 2548 13:07:06 น.  

 




ชอบคับ ชอบ U เขียน …อ่านไปก้อสนุกไป ขำไป…คนเดียว

ตัวอย่างที่ขำ
“เค้าจะมีเทศกาลชมดอกบ๊วย (Ume) กัน ไม่ยักฮิต ซากุระ (Sakura) เพราะว่าอะไรนะเหรอครับ... อิ อิ ตอบง่าย เพราะอะไร ไม่รู้ไงครับ กร๊ากก 5555555..”

“เครื่องบินภายในประเทศสายการบิน Pikachu-ANA ครับ น่ารักจริงๆคนญี่ปุ่น อิ อิ ของไทยแค่เจ้าจุ๊ หรือเจ้าจำปีของเพศชายอย่างเดียว ของญี่ปุ่นเค้าจัดให้ครบชุดทั้งสองเพศ เป็นแพ็คคู่ ปิกะจุ๊ อิ อิ อิ อิ”

“..Osaka Dome นี้นั้นเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่มากขนาด 3 เหนื่อยครับ (เหนื่อย = หน่วยวัดระยะทาง โดยอาศัยเทียบจากกำลังกายของผู้เดินวัดเป็นสำคัญ) “

“Osaka Aquarium หรือเค้าเรียกว่า ใครอยู่กัน Kaiyukan เป็น aquarium ที่ใหญ่ติดอันดับโลกครับ… มีโชว์ปลาโลมาและแมวน้ำเป็นมาตรฐาน (ไม่ได้แปลว่าสวยครับ หมายถึงว่า ทุก aquarium ต้องมีโชว์นี้….) ด้วย”

“..ขณะที่นั่งกินอย่างมีความสุขเล็กๆตามประสา หู radar ของผมก็เงี่ยฟังคำโฆษณาเรียกคนเข้าร้านไปพลาง "อะโน ปูของเรานั้นสดใหม่นะคะ มาจาก Hokkaido สดๆ ใหม่ๆ ทุกวันค่า~ " โอว พระเจ้าจอร์ช มันยอดชั่ว นี่กรูนั่งเครื่องบินจาก Hokkaido มากินปูที่ Osaka T___T โอวว แม่เจ้า....กิ๊ซซซ”

ขำ กร๊ากกกกก 5555555

เอ่อ รถไฟเขามีรูปสวย….ถ้าเป็นรถไฟเมืองไทย คงจะไม่เห็นทั้งSpider Man , Jurassic Park , และนกหัวขวาน แต่คงเป็นพวก Samsung , Durex ,หรือไม่ก้อคงจะเป็น ไทยประกัน

ปราสาทโอซาก้า ผมเคยไปเหยียบมาน่ะ บริเวณห้องข้างในที่โชกุนนั่ง พื้นไม้เขาจะทำให้มีเสียงเมื่อมีคนบังเอิญเหยียบ เพื่อป้องกันคนลอบทำร้ายโชกุน

Blogเรื่องนี้ยาวดี เพื่อเป็นการให้เข้าไคล!!!! เลยอ่านไปงงไป …อ่านซะสองรอบเลย

 

โดย: yyswim 9 พฤศจิกายน 2548 14:48:04 น.  

 





บรรเจิดมากกกกกกค่ะ
ยิ่งภาพของ กอ อิ นอ กิน


 

โดย: หนี่หนีหนี้ 9 พฤศจิกายน 2548 15:28:12 น.  

 

****ชอบเครื่องบินปิกัจจูกับรถไฟสไปเดอร์แมนอ่ะก่ะ แต่ว่าเครื่องบินเนี่ยน่าจะเป็นรูปดอกอร์บอลนะ จะได้รูปสึกเหมื่อนบินได้แบบตอนที่โงกุนเปลี่ยนร่างเป็นเซ้นไซซ่า 555

****ชอบปราสาทโอซากามากเลยก่ะ อยากไปเที่ยวจัง อยากได้เป็นฉากในนิยายจริง ๆ แล้วก็ฝาท่อระบายน้ำ ฮึ...ฮึ...อยากจะจิกกลับบ้านสักอันหนึ่งจัง 555

 

โดย: TopFee (TopFee ) 9 พฤศจิกายน 2548 17:03:34 น.  

 

ชอบ ๆ ๆ ๆ เป็นประเทศที่อยากไปอ่ะคับ :)

ชอบทุกอย่างเรยยอ่า น่ารักก น่าไป T_T



ยิ่งภาพชุดปลาดิบอ่า .. ยั่วน้ำลายชะมัดเร้ยยย ฮี่ ๆ ๆเหงแว๊บบบ ต้อง Asahi อ่าคิดถึงที่ซู้ดดดด :P


ปล. ภาพสวยคับ :) ไว้ตามมาเที่ยวอีกนะคับบ ชอบ ๆ ๆตามมาทริปน่าสนใจแบบนี้ :)

 

โดย: eZii 9 พฤศจิกายน 2548 17:30:49 น.  

 

ได้ความรู้ดีจัง
ขอบคุณหลายๆ
แต่ฟังเรื่องราคาแล้วคงกินม่ายไหว
ไอ้เรามันแค่โลโซ

 

โดย: Bee1st IP: 60.49.95.18 9 พฤศจิกายน 2548 18:18:13 น.  

 

มาขอตามไปเที่ยวด้วยคนอ่าค่ะ

แต่แหม ..... ภาพไหน ๆ ก็ไม่สะดุดตาเท่าภาพปลาดิบ - -" สดซะจนน้ำลายจะไหล ดีนะคะ ไม่ทานปลาดิบ ไม่งั้นสงสัยจอคอมส์จะมีรอยแหว่ง หุหุ

 

โดย: @ - ENYA - @ 9 พฤศจิกายน 2548 19:16:37 น.  

 

แวะมาอ่านและดูรูปค่ะ อยากบอกว่าติดตามเสมอค่ะ..



 

โดย: srisawat IP: 125.25.2.35 10 พฤศจิกายน 2548 5:00:06 น.  

 

แวะมาเยี่ยมดูเมืองสวิไลส์ของโอซากา เก็บภาพบรรยากาสมาฝากฝีมือการถ่ายภาพมืออาชีพนะค่ะ

 

โดย: erina IP: 60.43.122.91 10 พฤศจิกายน 2548 10:11:46 น.  

 

สวยน่าไปจริง..
ของก็น่าอร่อย ปูเผาน่าทานมากครับ

 

โดย: เงือกลม 10 พฤศจิกายน 2548 13:24:14 น.  

 

โหย อิจฉาตาร้อนตั้งแต่รูปแรกเลยล่ะค่ะ ถ้าลูกชายเห็น คงไม่ยอมลงจากเครื่องบินแน่ๆ

 

โดย: Second impact 10 พฤศจิกายน 2548 17:01:10 น.  

 

ปราสาทโอซาก้าทูน่าเคยไปค่ะๆๆ โอว..เห็นภาพสวยๆ แล้วอยากกลับไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกจังเลยๆ
ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะคะ

 

โดย: ทูน่าค่ะ 10 พฤศจิกายน 2548 17:52:06 น.  

 

แวะมา เพราะ คิดถึง


ปล. หนูป่วยอีกแย้ว

ขี้มูกเขียวเชียวแหละ แหวะ ><

 

โดย: ช้อนชาสีน้ำเงิน (ช้อนชาสีน้ำเงิน ) 10 พฤศจิกายน 2548 19:23:47 น.  

 

อยากนั่งเครื่องบินจัง น่านั่งๆ ปราสาทด้วยค่ะ อยากไปจัง ทำงัยดีหน่อ ไม่มีโอกาสไปอ่ะ แงๆ

 

โดย: goddess_piggy 10 พฤศจิกายน 2548 21:49:03 น.  

 

มาสมัครเป็นลูกทัวร์ด้วยครับ

 

โดย: kaazanova 10 พฤศจิกายน 2548 22:03:52 น.  

 

โอย..น้ำลายไหล อยากไปเที่ยวมั่งจัง อยากได้ปิ้กาจู้มาให้หลานชาย
คุณดอนฯ อย่ามัวงง ระวังโดนเกทับเด๊อค่ะ

 

โดย: เฉลียงหน้าบ้าน (เฉลียงหน้าบ้าน ) 12 พฤศจิกายน 2548 12:43:24 น.  

 

อาหารญี่ปุ่นเห็นแล้วน้ำลายสอ

โดยเฉพาะอธิบายทาโกยากิ กะไอ้ที่คล้ายๆ ขี้เลื่อยเห็นภาพเจ้าขี้เลื่อยขึ้นมาทันที

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันคะ

 

โดย: นู๋ส้มจุก 12 พฤศจิกายน 2548 20:33:25 น.  

 

อยากไปยี่ปุ่นมากๆ
สัญญากับตัวเองไว้เลยว่าชาตินี้ต้องไปให้ได้ อยากไป osaka กับ tokyo
แต่..เพิ่งอยู่ม.ปลายเองอ่ะ
กว่าจะทำงานเก็บตังไป
เมื่อไหร่วะ!

 

โดย: myfiction (myfiction ) 13 พฤศจิกายน 2548 15:05:08 น.  

 

****แวะมาเที่ยวค่ะ
มาเที่ยวที่นี้ก็เหมื่อนกับได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นครึ่งนึงแล้งก่ะ

 

โดย: TopFee (TopFee ) 14 พฤศจิกายน 2548 23:54:33 น.  

 

ดีจัง
แอบมีหลายอย่างสีสดใส

ปล. เราเข้ามาเป็นคนที่ 22202 อ่ะค่ะ
อีก 20 คน จาเป็นคนที่ 22222
อิอิ

 

โดย: fakeplasticgirl 15 พฤศจิกายน 2548 2:39:17 น.  

 

แวะมาเยี่ยมอีกครั้งค่ะ
จำได้ว่าตอนไปโอซาก้าไปเจอขนมชนิดหนึ่ง เป็นปูสีแดงตัวเล็กๆ เค้าเอามาอบจนกรอบเคลือบน้ำตาลหวานๆ แปลกดีค่ะ พวกเราตั้งชื่อกันเองว่าปูโอซาก้า อิอิ

 

โดย: ทูน่าค่ะ 15 พฤศจิกายน 2548 16:28:36 น.  

 

แวะ มา งง...

 

โดย: กุมภีน 15 พฤศจิกายน 2548 17:44:38 น.  

 

Blog. สวยง่า...
Tokyo ก็สวยง่ะคั้บบบบ...

 

โดย: artt (~o Fly'in to the Moon o~ ) 15 พฤศจิกายน 2548 17:48:05 น.  

 

คุณ dont' ถ่ายรูปสวยมากเลยค่ะ ชอบทุกภาพเลย
โดยเฉพาะปิกะจุ๊แอร์ไลน์ กับฝาครอบท่ออ่ะนะ
ทาโกะยากิสีสวยน่ากินจังเลยค่ะ เสียแต่ว่าไม่ชอบกิน
คนญี่ปุ่นนี่ก็ช่างคิดไปด๊ายยยนะ ชอบทำไรแปลกๆ (แต่ดูดี)

 

โดย: JC_Inlove 15 พฤศจิกายน 2548 22:24:25 น.  

 

****แวะมาเที่ยวค่ะ มีข่าวมาบอก (บุญ) สนใจอยากร่วมทำบุญกับเด็กพิการไหมค่ะ (เด็กปัญญา) สนใจสามารถไปดูรายละเอียดได้ที่บล็อก อากาศที่บนสูง //hiair.bloggang.com ของคุณล่วงหน้าเลยนะค่ะ

 

โดย: TopFee (TopFee ) 15 พฤศจิกายน 2548 22:50:32 น.  

 

อยากไปจัง

 

โดย: ตี๋สีชมพู 15 พฤศจิกายน 2548 23:16:02 น.  

 

โอยยย โดนยั่วน้ำลายกลางดึก

สักวันต้องไปให้ได้เลย

 

โดย: to be continued 16 พฤศจิกายน 2548 1:53:47 น.  

 

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ.........

 

โดย: เต้าหู้หิมะ (เต้าหู้หิมะ ) 16 พฤศจิกายน 2548 11:43:24 น.  

 

วิวสวย เล่าได้ละเอียดดีมาก อยากไปเที่ยวด้วยจังเลย ขอเก็บตังค์ก่อนนะ สุขสันต์หลังวันลอยกระทงค่ะ

 

โดย: ซออู้ 17 พฤศจิกายน 2548 19:52:19 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วย...สนุกจังค่ะ

แอบใช้โค้ดจากบล๊อกคุณมานาน
เลยแวะมาขอบคุณและขอแอดบล๊อกด้วยค่ะ
ฝากขอบคุณเจ้าของคำสั่งทุกท่านผ่านตรงนี้ด้วยนะคะ

 

โดย: กี๋พกแป้ง 17 พฤศจิกายน 2548 20:39:54 น.  

 

บันทึกยาวสุดๆ ลงชื่อไว้ก่อนเดี๋ยวคอยมาอ่าน

 

โดย: หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy ) 18 พฤศจิกายน 2548 21:07:12 น.  

 

:)

ผมชอบบรรยากาศ
ที่คุณสัมผัสและถ่ายทอดออกมานะครับ


:)

 

โดย: ปิศาจสุรา (อะไรดี ) 19 พฤศจิกายน 2548 14:12:43 น.  

 

สงสัยจะเก็บตังค์ไม่อยู่ ไม่ได้ไป ตปท กับเขา เลยแวะมาจดรายละเอียดที่น่าสนใจค่ะ จะเอาไปฝากเด็กในปกครอง นี่ได้ตั้งหลายหน้าแน่ะ ขอบคุณที่ให้คัดลอกนะคะ

 

โดย: ซออู้ 19 พฤศจิกายน 2548 22:56:49 น.  

 

ยาวๆๆแต่ชอบน่าสนใจแอดไว้ก่องจะมาอ่านละเอียดอีกรอบค๊า

 

โดย: เนเวอร์แลนด์ (เนเวอร์แลนด์ ) 20 พฤศจิกายน 2548 19:28:58 น.  

 

เรื่องสนุกดีคร้าบ รูปสวยด้วยยย อิจฉาาาาาาา

 

โดย: Due_n 20 พฤศจิกายน 2548 20:30:22 น.  

 

 

โดย: zMee 20 พฤศจิกายน 2548 20:31:44 น.  

 

มีงอนจนต้องตามมาตอบ blog คริคริคริ

 

โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน 21 พฤศจิกายน 2548 1:33:06 น.  

 

เห็นแล้วอยากไปจังเลยค่ะ

มีความสุขมากๆวันจันทร์นะค่ะ

 

โดย: Star in the Sky 21 พฤศจิกายน 2548 11:02:51 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องเก่า ๆ ที่คุณเขียนไว้ ได้ข้อมูลไปหลายอย่าง ดีมาก ๆ เลยค่ะ

 

โดย: ซออู้ 21 พฤศจิกายน 2548 18:15:24 น.  

 


มาอ่านโอซาก้าอีกรอบ ค้าบ

 

โดย: yyswim 22 พฤศจิกายน 2548 1:03:50 น.  

 

แวะมา งง ครับ

 

โดย: White_Cloud 23 พฤศจิกายน 2548 15:35:49 น.  

 

จ๊ะเอ๊...รอติดตามตอนต่อไปค่า (รอมาหลายเพลาแล้วเด้อ)
สงสัยช่วงนี้งานยุ่ง อย่างไรก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

 

โดย: jan_tanoshii 25 พฤศจิกายน 2548 14:51:02 น.  

 

อยากกินโอโคโนมิยากิ

อยากกินทาโกะยากิ

อยากกินซาชิมิ

อยากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


อยากกินไปหมดเลย

ฮื้อๆๆๆๆๆ พี่ด้อนใจร้าย

เอารูปมายั่วกัน

 

โดย: Bird (House Of FlyingBird ) 25 พฤศจิกายน 2548 17:56:21 น.  

 

เข้ามาทักทายรอบดึกค่ะ
หลับฝันดีนะค่ะ

 

โดย: NinG_CDC 25 พฤศจิกายน 2548 23:58:13 น.  

 

แวะมาเที่ยวโอซาก้าแบบประหยัดครับ

 

โดย: kaman 26 พฤศจิกายน 2548 10:50:05 น.  

 

เปลี่ยนหัวบล๊อกจากภาพที่สิงคโปร์มาเป็นภาพที่ญี่ปุ่นแล้วอินเทรน สมกับกำลังเล่าเรื่องแบ๊คแพคเกอร์ไฮโซในญี่ปุ่น

ภาพทางซ้ายจากอาซาฮีดาเกะ ทางขวาเป็นวิวท๊อปฮิตจากฮาโกดาเตะ ทั้ง ๆ ที่เป็นภาพจากคนละมุมของเกาะฮอกไกโดแต่สองภาพนี้มองแล้วองค์ประกอบของภาพมีบางอย่างคล้ายกันและมีความสมดุล ถ้าเป็นโปสสะก๊าดที่จัดเข้าอัลบั้มก็จัดเข้าเซตคู่กันได้เลยนะเนี่ย

 

โดย: เชอรี่ IP: 220.107.131.227 27 พฤศจิกายน 2548 0:02:29 น.  

 

อยากเห็นรถรางลายโดราเอมอนจังครับ...

 

โดย: Hematite 27 พฤศจิกายน 2548 19:56:08 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค้าบ

อ้อ มาบอกว่า ผมโหวตให้Blogนี้ ยอดเยี่ยมทางด้านท่องเที่ยวต่างประเทศค้าบ

 

โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 10:58:05 น.  

 

ตามพี่dont มาเที่ยวโอซาก้าค่ะ...
แหม๋น่าเจ็บใจเรื่องปูนะค่ะ...เนี่ย

ทาโกะ เป็นอะไรที่ชอบกินมากๆเลยอ่ะค่ะ
ที่นี่อร่อยที่สุดในญีป่นหรอค่ะ... หึหึ ต้องไปกินสะแว้ว(ฝัน)!! ฮ่าๆ
เด๋วมาตามไปเที่ยวต่อ.... คุณกูลิโกะนี่ป๊อปมากๆเลย

 

โดย: MeTaBoLism 10 ธันวาคม 2548 21:04:47 น.  

 

รออ่านงงที่ฮิโรชิมาอยู่น๊า

 

โดย: โลมาหิมะ IP: 133.87.1.154 19 ธันวาคม 2548 20:49:18 น.  

 

น่ากิน น่ากิน น่ากิน
อยากไป อยากไป อยากไป
อยากไปกินปูกับซูชิ

 

โดย: sahachai IP: 58.8.243.49 25 ธันวาคม 2548 1:09:15 น.  

 

พึ่งกลับมาจากโอซาก้าสวยมากแต่ผมว่าเกียวโตสวยกว่าเยอะเลย ได้อะไรดีดีจากคุณ don't เยอะเลย

 

โดย: ขอบคุณนะครับ IP: 58.64.104.163 30 ธันวาคม 2548 12:33:04 น.  

 

มีสาระมากๆ และยังอ่านเพลินดีด้วยค่ะ

 

โดย: parachute 13 มกราคม 2549 19:21:29 น.  

 

มางงเป็นคนที่ 66 kaaaaaaaaaa
..
...
อ่านไปมากๆเข้า เผื่อจาได้ไปญี่ปุ่นกะเค้าซักที เพี้ยง

 

โดย: แด่ดารา (แด่ดารา ) 28 กุมภาพันธ์ 2549 23:12:51 น.  

 

ชอบมากเลยค่ะ เป็นประโยชน์มากๆ อ่านก็สนุกค่ะ ชอบคำอธิบายและวิธีเลือกใช้คำพูด อ่านแล้วไม่เบื่อเลย

กำลังจะไปญี่ปุ่นค่ะ แล้วจะทำหนังสือจริงๆ เหรอคะ เรื่องญี่ปุ่นรึเปล่า ถ้าใช่จะรีบไปซื้อเลยค่ะ

 

โดย: MimiConcerto 10 มีนาคม 2549 23:37:25 น.  

 

เยี่ยมมากคะ

 

โดย: แอน IP: 61.7.138.75 14 มีนาคม 2549 12:34:53 น.  

 

อยากไปบ้างจังค่ะ เผอิญว่ามีเพื่อนอยู่ที่นั่นด้วย แต่ไม่มีโอกาสไป

 

โดย: prakayrung saisud 1 เมษายน 2549 2:58:05 น.  

 

i like Takoyak very much!!

 

โดย: Baritoreca IP: 58.9.147.77 29 พฤษภาคม 2549 0:58:56 น.  

 

คมบังวะ ฮานาซุมินาซัย ชอบมากคะแต่เคยไปโอซาก้าตอนไปทำงานอยู่
ที่นั่น 2 ปี มีเพื่อนเยอะมากทั้งไทย ญี่ปุ่น
ไว้เล่าให้ฟังใหม่นะคะ ซาโยนาระ

 

โดย: เรนะคุง IP: 124.120.238.37 17 สิงหาคม 2549 21:24:08 น.  

 

ที่เที่ยวในฝันเลยนะเนี่ย อิจฉาๆๆ รูปสวยๆ ครับ

 

โดย: canx 5 กันยายน 2549 21:04:41 น.  

 

ชอบมากๆ

 

โดย: Daw IP: 203.113.22.49 7 ตุลาคม 2549 12:04:07 น.  

 

เยี่ยมมากเลยครับ
อยากไปบ้างจัง แต่ไม่มีใครไปด้วยเลย

 

โดย: บี IP: 124.157.225.127 12 ตุลาคม 2549 15:10:28 น.  

 

เห็นแล้วอยากไปมั่งเลยอ่ะ
ยิ่งเห็นของกิน...เอิ๊กๆ ๆ หิว ๆ ๆ ๆ ๆ

 

โดย: นู๋เฟิน (AraShiteiru ) 15 มีนาคม 2550 12:09:42 น.  

 

ถ่ายรูปสวยจังเลยค่ะ


ชักเกิดกิเลสซะแร้ว...

 

โดย: LeaDGlasS 31 มีนาคม 2551 15:50:47 น.  

 

จ๊าบ

 

โดย: annz kiku 14 สิงหาคม 2551 10:30:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dont wanna no
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add dont wanna no's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.