Derivatives THAI & Overseas Trading Group //// " THAI TRADER CLUB "

<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
22 กันยายน 2553
 

------สั้นๆๆเฟดจะซื้อพันธบัตร์มากขึ้น เฟดเริ่มมองเงินฝืด(Deflation)----จบแถลงการณ์ดาวลงมา+7

(Deflation)เงินฝืดดีไหม เอามาใช้ทำอะไรได้บ้าง
เคยเจอกระทู้เงินฝืดเงินเฟ้อ แต่หาคนอธิบายแบบชาวบ้านไม่ได้ เลยลองมานั่งคิดและนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ให้มันอิงกับหลักทางเศรษฐศาสตร์ที่เราไม่เคยเรียนมาเลยดู
ในชีวิตประจำวัน เงิน เราพูดถึงค่า5สตางค์ 10สตางค์ 25สตางค์ 50สตางค์ 1บาท เริ่มกลายเป็นของไม่มีค่าในสายตาของธนาคาร ไม่รับฝากแล้วใช่ไหม??(ในสมัยเด็กๆๆ จากไปโรงเรียนได้เงินไปโรงเรียนจำไม่ค่อยได้ว่าได้วันละเท่าไร แต่น่าจะทันก๋วยเตี๋ยวชามละสลึง เก็บเงินใส่กระปุ๊กออมสินเป็นเหรียญ ธนาคารออมสินแจกให้ฟรี ไม่ได้เข้าไปนานแล้วไม่รู้ธนาคารออมสินยังส่งเสริมเด็กหัดออมอีกไหม ตอนประถมปลายจำได้ว่าก๋วยเตี๋ยวชามละบาท ตอนเข้ากทมมามัธยมปลาย มศ.4/5 อำนวยศิลป์ยังได้ขึ้นรถเมล์ราคา50สตางค์เสาร์อาทิตย์ ยังชอบนั่งรอบเมืองเวียนซ้าย กลับมาที่เดิมไม่ต้องกลัวหลง)
จากค่าเงินที่สัมพันธ์กับราคาซื้อของได้แบบนั้น สมัยนี้ผมจึงเรียกสมัยนั้นว่าเงินฝืด(ไม่ค่อยมีเงินใช้ ไม่ค่อยมีรายได้ ของจึงราคาถูกทองบาทละ500-700 ที่ไร่ละ300)
เมื่อประเทศเจริญขึ้นอะไรก็เกือบจะคล้ายๆๆเดิม แต่แบ๊งค์ มาแทนที่เหรียญ ตัวเลขที่มากขึ้นทำให้สดวกในการจ่ายครั้งละมากๆๆ พกพาไม่หนักถ้าต้องจ่ายจำนวนมากๆๆ ทำให้ค่านิยมของคนเปลี่ยนไป ถือสิ่งใหม่ๆๆก๋วยเตี๋ยวชามละ5เพิ่มเป็น8 10เพิ่มเป็น12 ขยับไปเรื่อยๆๆทุกครั้งที่ ข้าราชการได้เพิ่มเงินเดือน ค่าจ้างขั้นต่ำได้เพิ่ม จากเงินเดือนหมอจบให้ 2700บาท เงินเดือนพลตำรวจ600 จนมายุคนี้ ลุกไปสมัครงานขอเงินเดือน 12000 ปรากฏว่าเดินทางสี่ต่อ ค่ารถไปกลับวันละ240บาท ค่าเดินทางกินเงินเดือนไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ตัวเลขที่เปลี่ยนไป ค่าจริงไม่ได้เปลี่ยนไป เงินฝืดเงินเฟ้อจึงเป็นเรื่องแต่ละกระเป๋า
ทางเศรษฐศาสตร์ เลยต้องหาตัวเลขที่เป็นดัชนีชี้ว่าเงินเฟ้อหรือฝืดอยู่ตรงไหนให้ใก้ลเคียงเงินในกระเป๋าทุกคนก็เอาราคาสินค้า มาทำดัชนี ผู้บริโภค
ถ้าราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆ แสดงว่าคนมีเงินซื้อ มีรายได้ดี เศรฐกิจประเทศดี
ให้เป็นตัวชี้เงินเฟ้อ
แต่ถ้าคนไม่มีเงิน คนขายหรือห้างก็ต้องลดราคาลงมาเพื่อให้มีคนอยากซื้อ เมื่อหมดคนชั้นกลางรายได้ขนาดนั้นซื้อไม่ได้ ราคาก็ต้องลดลงมาอีก
นั้นตัวชี้เงินฝืดมาเยือน
เมื่อเราอยู่ในประเทศเรา บาทก็มีค่าเป็นบาท เราไม่รู้สึกถึงการแข็งหรืออ่อน เราอยากรับเงินมากมาก และจ่ายน้อยๆเท่านั้น
ดังนั้นความรู้สึกเงินฝืดของเรา คือหาได้ยาก และของก็ยังแพงจนเราซื้อไม่ได้
หรือ คนอีกระดับ อยู่กทมลำบากค่าเดินทางกินหมด พอออกมาอยู่ต่างจังหวัด ขี่จักร์ยานได้มอเตอร์ไซด์ได้ รายจ่ายเขาลด นั่นคือรายได้เขาเหลือเก็บมากขึ้น เงินเขาหายฝืดละ โดยไม่ได้เกี่ยวรายได้เพิ่มเลย
นั่นคือเบสิค จากชีวิตจริง ของแต่ละคนที่มีทั้งเงินฝืดและเฟ้อ คละเคล้ากัน
แต่เมื่อเป็นเศรษฐศาสตร์
เงินฝืด คือ ปริมาณเงินที่มีในระบบ มันลดลงไป และเงินมันไหลไปมาในตลาดอื่นได้ด้วย
และเงินเป็นเช่นดังหุ้น ในปัจจุบัน มีราคาค่างวดขึ้นลง เพราะคนเราสามารถนำมันออกไปนอกประเทศ หรือเปลี่ยนค่าจากบาทเป็นบาท กลายเป็นหุ้นปั่นได้จังหวะกลับมาบาทเพิ่มขึ้น หรือผิดจังหวะ บาทหดเล็กลงได้นั่นเอง
และจากเงินดังเช่นหุ้น เมื่อเงินมีปริมาณน้อยลงในระบบ คนย่อมต้องการค่าจะเริ่มสูงขึ้น
ในภาวะเงินฝืดสมัยสงครามโลก เงินหายาก ทุกคนเลฃยพยายามเก็บ เงินจึงแพงในสมัยนั้น
ดังนั้นการบริหารจัดการเงินเข้าระบบหรือออกจากระบบก็เป็นวิธีทางเศรษฐศาสตร์ วิธีหนึ่ง ที่เปลี่ยนค่าเงินได้
ดังนั้น การดูดเงินออกจากระบบเพื่อให้เงินฝืด เป็นการเพิ่มมูลค่าของเงินให้สูงขึ้นได้อีกทาง แต่นั้นก็ต้องจัดการราคาสินค้า ไม่ให้ลดลงต่ำเกินไป จนกระทบการจัดเก็บรายได้ หรือภาษีเข้ารัฐ
ตอนเฟดจะออกพันธบัตร์ เอาเงินมาใช้ในงบประมาณเกินดุล ไม่พิมพ์ ดอลล่าร์เองอีก พอจะเข้าใจ
แต่พอถึงตอนนี้ เฟดจะซื้อ พันธบัตร์ เป็น งง ครับ
WASHINGTON (MarketWatch) – The Federal Reserve on Tuesday said it was worried that deflation might hit the U.S. and that it was prepared to take more extraordinary measures to pump up the weak economy if the recovery doesn’t pick up speed.

the Fed said inflation was at levels somewhat below those that are consistent with stable prices.

The U.S. economy grew at a 1.6% rate in the second quarter

that job growth has been anemic

The leading option for the Fed is to buy more Treasurys.

นั่นคือ ตลาดพันธบัตรจะรุ่งต่อแน่













จบภาคเฟด ต่อด้วยการต่อสู้ค่าเงินเอเซีย ที่เห็นจากข้างบนแล้วว่า ดอลล่าร์กำลังลงมาทดสอบต่ำเดิม

เนื่องจากสายแล้ว จึงขอใส่กราฟตลาดค่าเงินญี่ปุ่น เพียง อันเดียวจาก //www.fxstreet.com/rates-charts/currency-charts/


ซึ่งเป็นกราฟที่ชัดเจนกว่าเวบอื่น  ว่า วันวานได้มีการ โจมตีค่าเงินเยน ตอนช่วง บ่ายสามที่ได้เห็น และบอกไว้ในบล๊อกวันวานแล้ว


จากกราฟ มันแสดงถึง ยกนี้นักรบซามูไร ทำท่าจะสู้ไม่ได้ แล้วละ โปรดติตามกันอย่างใก้ลชิด


เพราะนี่คือการต่อสู้อันเป็นอันตรายต่อประเทศชาติด้วย คงจำได้เรื่องการต่อสู้ค่าเงิน ก่อนต้มยำกุ้ง แม้ว่าครั้งนี้ธนาคารประเทศไทยจะใช้มาตราการไม่สู้ ก็ดีแล้ว  แต่ค่าเงินที่แข็งเรื่อยๆๆจะเป็นปัญหากับการส่งออกในทุกประเทศแน่นอน






จากที่ดันขึ้นไป ได้แล้ว หลังประกาศต่อสู้




 

Create Date : 22 กันยายน 2553
3 comments
Last Update : 22 กันยายน 2553 8:07:39 น.
Counter : 1976 Pageviews.

 
 
 
 
ถามไปแล้ว ว่าเฟดจะซื้อพันธบัตรทำไม
ย้อนไปบล๊อก
หัวข้อที่ 5th ทิศทางตลาดไทย จาก กราฟ ข้อมูล และข่าว
เรื่องการประมูลพันธ์บัตร์ ระยะกลาง 2ปี 5ปี 7ปี ของเมกา วันจันทร์ อังคาร พุธ นี้ เมือ่ 23พย 2552
ได้พูดถึงเรื่องการเปิดประมูลพันธบัตรของเมกาไว้แล้วว่าไม่สามารถ เอาเงินดอลล่าร์ ที่พิมพ์เพิ่ม อัดฉีดไฟแนนซ์ หรือ กองทุนต่างๆๆไปกลับได้
จึงดูดเงินออกจากระบบด้วย การขายพันธบัตร์
เพื่อ ลดเงินเฟ้อที่จะเกิด ทำให้เกิด เงินฝืด ที่เฟดเพิ่งยอมรับและเอ่ยเมื่อคืน
ดังนั้นการแก้เงินฝืด ก็คือการอัดเงินกลับด้วยวิธีเดิม ย้อนกลับ จากการดูดออก โดย
ซื้อพันธบัตรนั่นเอง
ทำไมละ
ด้วยการออกพันธบัตรมากมาก ก่อให้เกิด ตัวเลขหนี้ ของรัฐบาลสูงขึ้น
การซื้อพันธบัตรนั่นกลับจะทำให้ตัวลเขหนี้ลดลง
แต่เราไม่ทราบว่าคนที่ ซื้อพันธบัตรไว้ จากรัฐบาลตอนขายนั่นแบบเดียวกับไทยไหม
คือคนแก่เงินเยอะเงินเย็น
ถ้ารัฐบาลซื้อพันธบัตรคืนคือเอาเงินไปให้คนรวย หรือคนไม่จำเป็นใช้เงิน
เงินย่อมไม่เข้ามาในระบบปกติแน่นอน
ถ้าเป็นคนไทยก็จะเอาเงินเย็นไปซื้อทองหรือ ฝากธนาคารต่อ เพราะธนาคารกำลังขึ้นดอกเบี้ย มากขึ้น
แต่ของเมกา ดอกเบี้ยก็ลดลงนี่นะ
เขาหวังว่าเงินจะไหลไปจ้างงานหรือ หมุนระบบให้เดินไวขึ้นได้เหรอ
ต้องติดตามดูต่อไปซิครับ อีกหลายเดือน
 
 

โดย: หมอสัจจะ วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:9:04:25 น.  

 
 
 
12.45
อินเดียทำไฮแล้วติดลบแล้ว

เยนมีต่อสู้ นิเคอิ มีลบ
 
 

โดย: หมอสัจจะ วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:12:46:32 น.  

 
 
 
อินเดีย ขึ้นไปทดสอบ2หมื่แล้ว ลงแล้ว
//portal.settrade.com/actions/customization/IPO/webboard/pre_board.jsp?content=qa.jsp&tid=24144
 
 

โดย: หมอสัจจะ วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:15:09:49 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หมอสัจจะ
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [?]




[Add หมอสัจจะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com