-----------1000 จุด +/- ไม่เล่นรายวันก็คงต้องดูวันนี้ ขาย7700หมดหรือยัง-----
แรงขายหมดหรือยัง ??? จากคนยุคแรก การที่จะรู้ว่าแรงขายหมดหรือยัง 1 เฝ้าดูกระดาน เปิดดู ราคาบิด ออฟเฟอร์ 3ช่วงราคาและดู จำนวนที่ใส่บิด และออฟเฟอร์ เมื่อราคาเริ่มต่ำกว่าราคาวันวาน ตัวเลขเริ่มเป็น สีแดง ในทริกเกอร์ แสดงการ จับคู่ เห็นอักษร S (Sell) นำหน้าชื่อหุ้นที่เราดู และแสดงรายละเอียดว่า ราคาจับคู่สุดท้ายเป็นเท่าไร (สำหรับการศึกษาจากของจริงวันนี้ เปิดกราฟ ตัวที่ท่านจะทดลองดู เพื่อหาแรงขายว่าหมดหรือยัง ไปด้วยกับกับการดู ราคา 5ช่วงราคาของหุ้น หรือ ฟิวเจอร์ ไปด้วย ตั้งระยะเวลา 2นาที ใส่ MACD และ Volume ไว้ด้วย) คราวนี้ นั่งเฝ้า จอสักชั่วโมงหรือ ครึ่งชั่วโมง
จงสังเกตต่อไปนี้ เมื่อมีแรงซื้อ แท่งเทียนจะขึ้นมาเขียว และถ้าราคาสูงขึ้นไปจากต้นนาทีนั้น แท่งเทียนจะยาวขึ้นไป มากตามจำนวน ราคาที่สูงขึ้น และจำนวนวอลุมที่จับคู่ จะไปแสดงในช่อง Volume ของกราฟ ด้วย (กราฟแท่งยาว แสดงวอลุม ที่มาก ทำให้เราไม่ต้องเอาใจใส่ตัวเลขมากนัก นี่คือข้อดีของกราฟ ไม่ต้องจด ไม่ต้อง จำเช่นคนยุคก่อน) ถ้าภายใน2นาทีนั้น มีแรงขาย แท่งเทียนจะถูกกด ให้ต่ำลงมา เกิด ใส้เทียน ด้านบน เราจึงเรียกใส้เทียนด้านบนว่า " แรงขาย " ถ้าแท่งเทียน เป็นสีแดง แปลว่า ราคาเปิดต้นนาทีของช่วงนั้น ถูกขายจนราคาต่ำลง แล้วต่ำลงไปเรื่อยๆๆตามราคาที่ลดลง แต่ถ้าภายใน 2นาทีนั้น มีแรงซื้อกลับเข้ามา แท่งเทียนจะหดสั้นขึ้นมา จึงเกิด ใส้เทียนด้านล่าง เราเรียก ใส้เทียนด้านล่างนี้ว่า " แรงซื้อ"
ดังนั้น คนยุคก่อนเขานั่งดู แรงขาย ราคาที่ต่ำลง ไปที่ละขั้น จน เริ่ม มีแรงอัด บิด เข้ามา หรือ คนขายจำนวนใหญ่ๆๆ เริ่มลดลง หรือ ความถี่ในการขายเริ่มลดลง หรือเริ่มมีการซื้อสวนขึ้นไป เมื่อแรงขายหยุด สำหรับคนยุคใหม่ เราอาศัยกราฟ
กราฟทุก2นาที แท่งแดงจากแท่งยาว เส้นวอลุม แท่งยาว เริ่มสั้นลง ทั้งสองอย่าง จนกระทั่ง ใส้ด้านล่าง เริ่มมี ยิ่งมีใส้ด้านบน และแท่งสั้นเป็นแค่เส้น (ภาพรวม 2นาที เป็นกากะบาด ) ( ตรงกากะบาดนี้แหละ คือจุดที่แรงขายแรงซื้อกำลังประลองกำลังกัน และเริ่ม จะเท่ากัน ถ้าเล่นกันไวไว ตรงนี้จะเห็นชัดในกราฟ วันมากกว่า ว่าเป็นจุดเปลี่ยน ทิศทาง หรือจุดให้เฝ้าเป็นพิเศษ ว่าวันต่อไป จะเปลี่ยนทิศทางไหม )
ถ้าแรงซื้อ เริ่ม จะกระตุก แท่งเขียวให้เกิดขึ้นได้ นี่แหละ คนยุคใหม่ ใช้เป็นจุดบอกว่าแรงขาย สู้แรงซื้อไม่ได้แล้ว นี่คือ หลักการพื้นฐานของแท่งเทียน เมื่อท่านนำไปอ่านในกราฟ เดย์ ท่านจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า วันไหน ตลาด แรงขายเริ่มน้อย หรือ หมด หรือเปลี่ยนแล้ว
แต่ยังไม่ใช่การเข้าซื้อนะครับ จากแท่งเทียน คนสมัยก่อนได้พัฒนาต่อไป ว่าจากการเฝ้าดู บางวัน ไม่นาน หุ้นตัวนั้น ก็กลับเป็นขาขึ้น บางวัน ก็หยุดนานกว่าจะมีคนมาเริ่ม ซื้อให้มากขึ้นจนเป็นขาขึ้น
ดังนั้น จากการสังเกต เขาจึง ไปพัฒนา เอาราคาห้าวันมาหาค่าเฉลี่ย แล้วเขียนกราฟใหม่ ก็จะได้กราฟ แท่งเทียน วิ่งบน เส้น 5วัน เมื่อขาขึ้น หรือวิ่งใต้เส้น 5วันเมื่อขาลง
เนื่องจากแท่งเมียนในเดย์กราฟ คือ แท่งละ 1วัน ดังนั้นก่อนจะข้ามเส้น เฉลี่ย5วันได้ การเปลี่ยนทิศทางนี้ จึงอาจจะต้องใช้เวลา 1/2/3/4/5 ...-7 ขึ้นกับ พลังในการทำให้เปลี่ยนแปลง 1 วอลุม 2 ความยาวของแท่งที่กลับทิศ 3 อารมณ์ ของคนส่วนใหญ่ในตลาด 4 ความต้องการของคนบางกลุ่มที่มีอำนาจ ในตลาด 5 อื่นๆๆ เช่นข่าว แท่นเจาะ ไฟไหม้ ดังนั้น เมื่อเรา มีจุดสังเกตวันแรกของการเริ่มต้น คือ แท่งสั้นลงของแท่งแดง (กากะบาด ถ้ามี) ตลาดกำลังจะเปลี่ยนเป็น ขึ้น แท่งสั้นลงของแท่งเขียว (กากะบาดถ้ามี) ตลาดกำลังจะเปลี่ยนเป็น ลง
คราวนี้ มาติดตามต่อไป พอนาที่ที่เห็นกากะบาด ในกราฟ 2นาที เราจะเริ่มระวัง ดูต่อไปว่า ตลาดจะเปลี่ยนทิศไหม หมดแรงขายหรือยังถ้าเดิม เป็นแท่งแดง การจะเปลี่ยนเราทราบแล้วว่า แท่งเทียนจะต้องทับ เส้นเฉลี่ย 5วัน (ในกราฟ 2นาที ผมไม่ทราบว่ามันเป็นเส้น เฉลี่ยของเวลาเท่าไร ใครเก่ง กราฟตอบด้วย ???) เมื่อทับเส้นเฉลี่ยแล้วข้ามไปอีกด้าน นั่นคือ การเปลี่ยนทิศทางเริ่มจะสำเร็จแล้ว ดังนั้น อินดี้แรก ที่ สากลรู้จัก ต่อจากการคิดค้น แท่งเทียน ก็คือ เส้ค่าเฉลี่ย 5วันนั่นเอง
จากนั้น เพื่อให้มั่นใจขึ้นอาจจะใจเย็นรอ อีกสักพัก ว่าเปลี่ยนทิศทางจริง (แต่ในคนเล่นฟิวเจอร์ อาจจะต้องคิดไวทำไวกว่าคนทั่วไป ในการเล่นรอบถ้าเล่นเดย์เทรด ???) การพัฒนามาใส่ เส้นต่าเฉลี่ย 10และ 20ก็ตามมา
แล้วMACD ก็เกิดขึ้น
ผมจะแสดง เพียง อินดี้ เหล่านี้ ส่วนท่านจะหาอินดี้อะไรมาเพื่อใช้ช่วยท่านติดสินใจ เพื่อเข้าซื้อ ว่าหมดแรงขายแล้ว ก็ต้องอ่านและทดลองก่อนนะครับ
บทความชวนให้ทดลอง ของจริงเพื่อความเข้าใจ แท่งเทียน และการหาจุด หมดแรงขายหมดแรงซื้อ เพื่อให้ท่านเข้าออกตลาดอย่างมีหลักการ นี้เพียงจุดเริ่มต้น ท่านยังต้องสร้างระบบให้คลุม ครบ 5เรื่อง ที่มีอิทธิพล กับตลาด ข้างบนด้วย
2 ดูยอดการซื้อขาย ของต่างชาติ สิ้นวัน ถ้าเราคิดว่าต่างชาติ ขายแล้วดัชนี จะต้องลง
3 ในช่วงเวลานี้ เราเชื่อหรือป่าว ว่าเงินไหลออกเพราะต่างชาติขาย เพราะเศรษฐกิจเมกา มีตัวเลขบางตัวบ่งว่าเริ่มฟื้น เงินจะไหลออกไป เล่นตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (หรือ ตลาดไทย จะให้ผลตอบแทนอะไรที่ ลดลง เช่นเขาว่า ราคาแบงค์ สูงไป??) ถ้าเราทราบมาก่อนว่า ตอนเงินไหลเข้า มันเข้าอินเดียจาการ์ต้าด้วย เราต้องสนใจหาข้อมูลก่อนเปิดตลาดที่ประเทศย่านเอเซียก่อนด้วย
แต่จากกราฟ ตัวอย่าง ช่วงรอยต่อ จากลงเป็นขึ้น มิใช่การพลิกฟ้าด้วยฝ่ามือ จะเห็นการ วุ่นวาย ระหว่างแท่งแดงแท่งเขียว การปีนขึ้นบนเส้น ฉลี่ย 5วัน การตัดกันของเส้น 5วันกับ 10วัน การตัดกันของเส้น 10วันกับ 20วัน กว่าจะพาแท่งเทียนไปเดิน บนเส้น เฉลี่ย 5วัน และเรียง 5/10/20 ได้สวยงามเป็นขาขึ้นเต็มตัว MACD ก็ตัดไวไปก่อนเพื่อน
พอช่วงจะลง 6/7/8/9/10 ก็ไม่เรียงลำดับเช่น ตอนขึ้น MACD ตัดได้ พอดีเหตการณ์ แต่ก็ยังไวกว่า 8/9 มายืนยันความแน่นอน
ดังนั้น การเล่นกับตลาดนี้ ในแต่ละช่วงเวลา ท่านต้องประยุกต์ ใหม่หมด ในยุคสมัยนี้
เพื่อให้ระบบของท่านสู้กับมืออาชีพจากทั่วโลกได้
เพื่อเงิน รายได้ และความอยู่รอดของท่าน
เมื่อหมดแรงขาย
จุดเข้าซื้อ ถ้า ซื้อแล้วไม่ไปดังคิด ท่านต้องฝึก การ Cut loss ด้วยนะครับ สำหรับฟิวเจอร์ และออปชั่น ถ้าการปล่อยให้ผิดทางจะก่อให้เกิด ความเสียหาย และนั่นแปลว่าระบบคิดท่านยังผิด วิธีหรือผิดจังหวะ หรือ เพราะมีอะไรลวงตาท่านอยู่ ตัด แล้วพิจารณาใหม่
ปล หนักวิชาการ เพราะถึงเวลาที่ท่านต้องใช้กราฟกันแล้ว เพราะมันเป็นอาวุธของคนเล่นในตลาดนี้ ทุกๆๆอย่าง
ถ้าท่านยังไม่มีอาวุธ โปรดพิจารณาตัวเองด้วย
Create Date : 24 มกราคม 2554 |
|
64 comments |
Last Update : 24 มกราคม 2554 6:35:50 น. |
Counter : 3082 Pageviews. |
|
|
|
เริ่มเช้านี้ด้วยการเด้งของทองจากต่ำสุด วันศุกร์ ที่ 1341