Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
จิตของคุณมีกิเลสมากน้อยแค่ไหน ?


อุปกิเลส 16 เป็นธรรมเครื่องเศร้าหมอง, เป็นสิ่งที่ทำให้จิตขุ่นมัว รับคุณธรรมได้ยาก ดุจผ้าเปรอะเปื้อนสกปรก ย้อมไม่ได้ดี การมีกิเลสเหล่านี้ บางคนนึกว่ามันเล็กน้อย นิดหน่อย แต่แท้ที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้แหล่ะที่ทำให้จิตใจเราขุ่นมัว

ดังนั้นเราต้องพิจารณาจิต ตามรู้ ตามดูจิตอยู่ตลอดเวลา ทั้งเมื่ออยู่ในอิริยาบถตามปกติ และขณะตั้งใจปฏิบัติ เมื่อเราตั้งใจพิจารณา ตามดูจิตแล้ว เราจะมองเห็นอาการของจิตต่าง ๆ ทำให้เข้าใจจริตนิสัยของตัวเองมากขึ้น เมื่อเราเข้าใจตัวเอง ยอมรับตัวเองตามความเป็นจริง ก็จะเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงพัฒนาตนเอง คือเมื่อรู้สึกตัวแล้ว ก็จะไม่หลงไปตามอารมณ์

จิตเดิมแท้ของเราทุกคนเป็นประภัสสร บริสุทธิ์ผ่องใสโดยธรรมชาติแต่กิเลสเป็นอาคันตุกะที่จรเข้ามาครอบงำจิต ทำให้จิตเศร้าหมอง กิเลสหรืออกุศลมูล อันได้แก่ ราคะ โทสะ โมหะ เมื่อมีเหตุปัจจัยประสมประสานกันแล้วก่อตัวขึ้นมาเป็นอุปนิสัยต่าง ๆ มี 16 ลักษณะ เรียกว่า อุปกิเลส 16

มาลองพิจารณาดูว่าในอุปกิเลสทั้ง 16 ตัวคุณมีอยู่กี่ข้อ ?

๑. อภิชฌมวิสมโลภะ คือ ความละโมภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไม่รู้จักพอ เห็นแก่ได้จนลืมตัว

๒. พยาบาท คือ ความคิดร้าย มุ่งจะทำร้ายเขา ใครพูดไม่ถูกใจก็คิดตำหนิเขา คิดจะทำร้ายฆ่าเขาก็มี บางครั้งทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ ก็หันมาตำหนิตัวเอง ทำร้ายตัวเอง จนฆ่าตัวตายก็มีซึ่งเป็นเพราะอำนาจพยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

๓. โกธะ คือ ความโกรธ มีอะไรมากระทบก็โกรธ เป็นลักษณะโกรธง่าย แต่เมื่อหายแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่ผูกใจเจ็บ ไม่พยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

๔. อุปนาหะ คือ การผูกโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้เกิดความโกรธแล้วจะผูกใจเจ็บ เก็บไว้ ไม่ปล่อย ไม่ลืม เป็นทุกข์อยู่อย่างนั้น กระทบอารมณ์เมื่อไร ก็เอาเรื่องเก่ามาคิดรวมกันคิดทวนเรื่องในอดีตว่าเขาเคยทำไม่ดีกับเราขนาดไหน เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

๕. มักขะ คือ การลบหลู่คุณท่าน ปิดบังความดีของผู้อื่น ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เช่น เขาให้ของแก่เรา แทนที่จะขอบคุณกลับนึกตำหนิเขาว่า เอาของไม่ดีมาให้ หรือเมื่อมีใครพูดถึงความดีของเขา เราทนไม่ได้ เราไม่ชอบ จึงยกเรื่องที่ไม่ดีของเขามาพูด เพื่อปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนดีถึงขนาดนั้น เป็นต้น

๖. ปลาสะ คือ การตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน แต่ชอบยกตัวเองดีกว่าเขา มักแสดงให้เขาเห็นว่าเราคิดเก่งกว่า รู้ดีกว่า ถ้าให้เราทำ เราจะทำให้ดีกว่าเขาได้

๗. อิสสา คือ ความริษยา เห็นเขาได้ดี ทนไม่ได้ เมื่อเห็นเขาได้ดีมากกว่าเรา เขาได้รับความรักความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารู้สึกน้อยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมีมากกว่าเขาอยู่แล้ว หรือเรากับเขาต่างก็ได้รับเท่ากัน แต่เราก็ยังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ทนไม่ได้ก็มี

๘. มัจฉริยะ คือ ความตระหนี่ ขี้เหนียว เสียดายของ ยึดในสิ่งของที่เราครอบครองอยู่อย่างเหนียวแน่น อยากแต่จะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้ใคร

๙. มายา คือ เจ้าเล่ห์หลอกลวง ไม่จริงใจ พยายามแสดงบทบาทตัวเองเกินความจริง หรือจริงๆ แล้วเรามีน้อยแต่พยายามแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจว่ามั่งมี เช่น ด้วยการแต่งตัว กินอยู่อย่างหรูหรา หรือบางกรณี ใจเราคิดตำหนิติเตียนเขา แต่กลับแสดงออกด้วยการพูดชื่นชมอย่างมาก หรือบางทีเราไม่ได้มีความรู้มาก แต่ของคุยแสดงว่ารู้มาก เป็นต้น

๑๐. สาเถยยะ คือ การโอ้อวด หลอกลวงเขา ชอบอวดว่าดีกว่าเขา เก่งกว่าเขา พยายามแสดงให้เขาเห็น เพื่อให้เขาเกิดอิจฉาเรา เมื่อได้โอ้อวดแล้วมีความสุข

๑๑. ถัมภะ คือ ความดื้อ ความกระด้าง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ใครแนะนำอะไรให้ก็ไม่ยอมรับฟัง

๑๒. สารัมภะ คือ การแข่งดี มุ่งแต่จะเองชนะเขาอยู่ตลอด จะพูดจะทำอะไรต้องเหนือกว่าเขาตลอด เช่นเมื่อพูดเถียงกันก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อเอาชนะให้ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วตัวเองผิด ก็ไม่ยอมแพ้

๑๓. มานะ คือ ความถือตัว ทะนงตน

๑๔. อติมานะ คือ การดูหมิ่นท่าน ความถือตัวว่าเราดียิ่งกว่าเขา ทำให้ดูถูกดูหมิ่นคนอื่น

๑๕. มทะ คือ ความัวเมา หลงว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่แก่ ยังไม่ตาย หลงในอำนาจ หลงในตำแหน่ง คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปแล้วทำอะไรเกินเหตุ

๑๖. ปมาทะ คือ ความประมาท เลินเล่อ ไม่คิดให้รอบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา





ข้อมูลอ้างอิงจาก //www.kanlayanatam.com



Create Date : 27 มิถุนายน 2551
Last Update : 27 มิถุนายน 2551 9:58:01 น. 29 comments
Counter : 737 Pageviews.

 
ทุกคนมีกิเลส ไม่มีกิเลสคงอยู่ในโลกนี้ได้ยาก

กิเลสมากน้อยใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่าสามารถควบคุมกิเลสให้อยู่ในขอบเขตที่ถูกต้องได้ขนาดไหน

ขอบคุณที่นำธรรมมาฝาก จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:10:40:42 น.  

 
คงต้องค่อยๆ ละไปอ่ะค่ะ บางทีการเจอประสบการณ์จริงที่มากระทบแล้วเราตอบสนองกับมันอย่างไร น่าจะตอบโจทก์ได้อ่ะค่ะว่า เรายังมีกิเลสอีกมากแค่ไหน

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นี้ค่ะ


โดย: little bear june วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:12:29:39 น.  

 
กิเลสเยอะ พยาบาทสูง มารยาสาไถ อิอิ เนี่ยะตรงตัวสุดๆแระค่ะ

ตอนนี้กะลังขัดเกลาจิตใจตัวเองอยู่ค่ะไม่รู้จะได้ผลป่าว


โดย: OyK_MiXeR วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:16:31:10 น.  

 
บางข้อก็มีค่ะ อย่างโกรธานี่ ก็ใช่ บางครั้งมีเรื่องที่ทำให้โกรธ

พอหายก็จบ ไม่ให้อยู่กับจิตนาน ๆ


โดย: วันวานที่ผ่านมา วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:18:04:01 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: TonYaa วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:21:16:51 น.  

 
ขอบคุณที่เก็บมาฝากเพื่อนๆนะคะ ขอบคุณที่ไปชิมอาหารที่บล็อคนะคะ


โดย: Smallvillain วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:22:06:52 น.  

 
มาทำความรู้จักกิเลสแห่งความหมองมัวทั้ง 16 ข้อ

มีบ้าง บางข้อเยอะ อิอิ

บางข้อ ไม่มี ค่อยยังชั่วหน่อย 555


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:13:18:47 น.  

 


มาแจ้งข่าวว่า

ป้ากุ๊กไก่ / ยายกุ๊กไก่ กลับมาเปิดบ้านแล้วในชื่อล๊อกอิน ร่มไม้เย็น

และประเดิมบล็อกแรกด้วย ………บ้านใหม่ – ชื่อใหม่………..ค่ะ

มีเวลาแวะไปทักทายกันบ้างนะคะ

ขออภัยที่มาแจ้งช้า เพราะต้องรอให้ทีมงานคืนบล็อกเดิมเสียก่อน

จึงจะอาศัยเดินตามรอยลิงค์มาได้

ร่มไม้เย็น …….. ข อ แ อ ด บ ล็ อ ก ……… นะคะ





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:13:30:53 น.  

 
กิเลสมีหลายอย่างจริงๆๆครับ ตามไม่ทันเลย


โดย: walkerahead (Walkerahead ) วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:13:48:45 น.  

 
ถ้าคนเราไม่มีกิเลส อะไร ๆ ก็คงจะดีขึ้นเยอะเนาะ ประเทศชาติจะได้เจริญ ๆ ไม่ตัองมานั่งเถียงกันเหมือนพวกคนใหญ่คนโต ที่ดูแลเราอยู่เนาะ




โดย: Jing jang ja วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:14:51:14 น.  

 
อืมมมม....


เราเองก็ยังละกิเลสบางอย่างไม่ได้


เฮ้ออออ


โดย: ฝนซาฟ้าใส วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:16:20:48 น.  

 
พี่เนี๊ย ธรรมะดีจัง
หนูก้อว่าดี
เพราะเหมือนเป็นการเผื่อแผ่บุญให้กัน


โดย: แนน (idol_nan ) วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:16:34:37 น.  

 
อ่านแล้วสำรวจตัวเองอยู่พักใหญ่
ส่วนใหญ่จะละได้หมดแล้ว
แต่ยังมีโทสะอยู่บ้าง
ทำไงดีเอ่ย ลูกสามคนกำลังเข้าใกล้วัยรุ่น
มีเรื่องให้


ปล.หัวใจสีชมพู เหมือนสายฝนแห่งรัก พร่างพรูลงมา พาชื่นฉ่ำหัวใจดีจังค่ะ


โดย: นวลกนก วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:20:36:59 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่ไปให้ข้อมูลเรื่องผักชะอมเพิ่มเติมค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:7:38:08 น.  

 
ทำไงดีค่ะ ดิฉันมีเกือบทุกข้อ ไม่ดีเลยเนอะ

แต่ดีใจที่ไม่มีความพยาบาทค่ะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่บล๊อกค่ะ


โดย: jiney (สวยตลอดกาล ) วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:9:16:22 น.  

 


ขอให้มีความสุขกับวันพักผ่อนวันนี้นะคะ


โดย: เนระพูสี วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:10:16:16 น.  

 
คิดดี ทำดี พูดดี ย่อมมีสิ่งดีดี เข้ามาหานะค่ะ
มีความสุขวันหยุดค่ะ พักผ่อนอย่างมีความสุขนะค่ะ ขอบคุณที่ทักทายกันค่ะ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:12:09:51 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า







** ขอให้มีความสุขและสนุกกับวันแรกของการทำงานนะจ้า **



คนที่มีกเลสเนี่ยถือว่ามีกรรมมากเลยอะ ..


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:2:02:56 น.  

 
กิเลส หรือคะ มีเยอะไปหมดเลย
แต่ไม่พยายามตามใจมัน ซึ่งยากมาก


โดย: แมงหวี่ (แมงหวี่@93 ) วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:15:38:52 น.  

 
อนุโมทนาด้วยคะ
ทุกวันนี้ กิเลสก็มีมากเหมือนกันคะ
พยายามใช้สติตามรู้ จะได้ไม่หลงไปกับมัน

แต่ก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้างคะ



ปล.หอบบุญจากการสวดมนต์ ฟังธรรม นั่งสมาธิ และตักบาตร(เมื่อวันเสาร์มาฝากคะ)


โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:16:49:41 น.  

 

กิเลสของโบเกิดขึ้นบางโอกาส แต่โชคดีที่มีสติช่วยฉุดไว้บ้าง


โดย: โบ (bowkavi ) วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:19:36:57 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปให้คำแนะนำดี ๆ ที่ blog ค่ะ


โดย: Paulo วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:22:18:37 น.  

 
ผมมีเกือบทุกตัว
ว่างๆต้องหาแหล่ง
บำบัดหน่อยแล้ว
ขอบคุณที่เยี่ยมบล็อกครับ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:23:40:07 น.  

 

สวัสดีค่ะ เอาดอกไม้มาฝาก ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: ธิธารา วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:53:06 น.  

 


เข้ามารับเนื้อธรรมค่ะ

ธรรมใดๆก็ไม่ให้ผลหากคนไม่ทำ

มีความสุขนะคะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:06:31 น.  

 


เข้ามารับเนื้อธรรมค่ะ

ธรรมใดๆก็ไม่ให้ผลหากคนไม่ทำ

มีความสุขนะคะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:06:34 น.  

 
สวัสดีครับ
ความพอใจที่จะนับถือ หรือนำมาเป็นต้นแบบไม่ใช่สิ่งผิด อีกคนก็มีสิทธิ์คิดได้
ต่างก็มีความคิด เมื่อสองคนต่างความคิดก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน พยายามทำสิ่งที่ตัวคิดว่าดีกว่า แข่งกัน แล้วคนในพื้นที่ก็เป็นคนตัดสินใจจะให้ใครมาบริหาร คนที่พร้อมจะมาทำงานให้บ้านให้เมืองน่าสรรเสริญครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:14:17 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
ขอเขียนต่างๆของคุณ
ขวัญจะนำไปปฎิบัติตามอย่างสม่ำเสมอค่ะ
ขอบคุณมากสำหรับข้อเขียนดีๆแบบนี้


โดย: ขวัญ (toyor ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:09:34 น.  

 
สาธุค่ะคุณ VICT



โดย: oor_dt วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:23:45:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

VICT
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add VICT's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.