|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
..กระถินกลิ่นขี้ควาย..บทที่ 17
บทที่ 17
วันรุ่งขึ้น..ต่อหน้าต่อตาถิ่น..กระต๊อบเล้าเป็ดถูกรื้อ
ไม้ยังพอใช้ได้.. ตาทองใบบอกกับตาฉาย ผมอยากได้ห้องส้วมชั่วคราวใกล้บ้าน เมื่อเย็นวานคุณบุญศรีหายไปนานนึกเป็นห่วง
ไม่อยู่บ้านหลายวัน.. ยายบุญศรีเสริม กลับมานึกหวาดๆ เหมือนกันทั้งที่เมื่อก่อนไม่คิดอะไร
ผมอดนั่งชมวิวเลย ถิ่นติดตลกแต่ใจเป็นทุกข์ที่เห็นตาฉายใช้จอบเขี่ยเศษกระต๊อบที่เกลื่อนอยู่..ถ้าพิจารณาดีๆ จะเห็นร่องรอยบางอย่าง
ก็ยังอยู่นี่!.. ต๋องโผล่มาเมื่อไหร่ไม่รู้ ส้วมส่วนตัวของนายยังอยู่ไม่ได้รื้อทิ้งสักหน่อย.. กระแทกไหล่ถิ่น ห่วงที่นั่งชมวิวแต่ตาอยู่ที่กระต๊อบ..รู้นะคิดอะไรอยู่
เออ..เราก้อ.. ถิ่นยอมรับแก้เก้อ ตามตายายกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวคงต้องเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ แล้ว
ถิ่นนั่งคิดตลอดทาง..ป๋องไปอยู่ที่ไหน มีชีวิตอย่างไร รู้หรือไม่ว่าเขาไม่ได้คิดทอดทิ้งแต่เหตุการณ์บังคับให้เป็นไป..ถึงอย่างไรก็สบายใจอย่างหนึ่ง ตาฉายไม่ได้เอ๋ยถึงป๋องหรือระแวงสงสัยแต่อย่างใด..เถอะ ลูกผู้ชาย แข็งแกร่งอย่างป๋องคงเอาตัวรอดได้
ป๋องมันหนีไปไหน.. ต๋องกระซิบข้างหูถิ่น เจอเบาะแสบ้างไหม?.. ปุ๊บปั๊บงับหู ฮะ..ฮะ..
ทำเสียงหนวกหูอะไรนายต๋อง!.. ยายบุญศรีนั่งสัปหงกอยู่อีกข้างประตูรถ ใส่ร้ายอะไรถิ่นอีก..เรื่องผ่านมานานแล้วเขาจะไปรู้อะไร
แม่ได้ยินหรือ ผมอุตส่าห์กระซิบ
ป๊อก!.. จ้อยที่นั่งติดกับต๋องทะลึ่งเขกหัวพี่ชาย เราจะนอนเหมือนกัน
ไอ้นายเล็กตายไปแล้ว ลูกเมียมันคงหนีกลับบ้าน..เรื่องจบ.. ตาทองใบเอี้ยวตัวจากเบาะหน้า ป๋องมันจะมาหาเรื่องใส่ตัวทำไม..หึ?..นายต๋อง
นี่แน่.. ถิ่นทำกิริยาที่ไม่เคยคิดจะทำ
แนะ.. จมูกต๋องชนแก้มถิ่น มีหยิกด้วย
สองปีผ่านไป
ชีวิตของถิ่นยังเหมือนเดิม แต่งานมากขึ้นทั้งงานไม่เต็มใจและงานที่ทำให้สุขใจ..สวนกุหลาบขยายกว้าง ว่างปุ๊บถิ่นจะเข้าไปชื่นชม เฝ้าดูตั้งแต่เป็นตุ่มเล็ก แรกแย้ม และผลิบาน ที่ชอบมากคือพันธุ์คอนฟิเด้นซ์สีชมพูอ่อนเกือบขาว อีกพันธุ์สีปูนรูปร่างสวยงามมากกว่าทุกพันธุ์ กาโวแดงเข้ม ดัลลัสแดงสด เหลือง เหลืองจำปา แต่ที่หอมมากที่สุดคือไอเฟลทาวเวอร์สีชมพู กลิ่นคล้ายดอกสายหยุดที่ยายซื้อมาปลูกคลุมหลังคาส้วมชั่วคราวที่ไม่ได้รื้อออกอย่างตั้งใจแต่แรก
หลังคาครัวคลุมด้วยเถาเล็บมือนางดอกสลับแดง ชมพูเข้ม ชมพูอ่อน ขาว..ระเบียงชั้นล่างคลุมด้วยซุ้มกระดังงา ยายหวังว่าสักวันจะเลื้อยคลุมขึ้นไปถึงระเบียงชั้นบน..ยังมีดอกพังพวยม่วงขาวชมพูที่ปลูกไว้ริมถนนเข้าบ้านอีก แรกๆ ต๋อง ทุย จ้อย อาสาดูแลรดน้ำ ต่อมาทำเฉยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของถิ่นคนเดียว
หน้าที่ๆ ไม่เต็มใจอย่างหนึ่งคือการดูแลไอ้บอน..ไอ้บอนเป็นลูกหมาตัวใหญ่ที่ต๋องรบเร้าให้ยายซื้อให้ มันบอนสมชื่อ ต้องนอนบนเตียงกับเจ้านายที่ก้าวหน้ามีห้องส่วนตัว บางคืนต๋องรำคาญไม่ให้เข้าห้องมันร้องอาละวาดทั้งคืน..ที่สำคัญถิ่นมีหน้าที่ต้มเศษเนื้อคลุกข้าวให้เจ้าบอนกิน
ข้อดีในการเลี้ยงเจ้าบอนคือการได้แอบกินเศษเนื้อต้ม..ถิ่นใส่มะนาวน้ำปลาพริกขี้หนูป่นลงไป..อาหารว่างชั้นหนึ่งเชียวละ อีกอย่างคือตอนอาบน้ำ ได้ว่ายน้ำฟัดเล่นกับเจ้าบอน ด้วยเหตุผลนี้บางทีเจ้าบอนทำงี๊ดๆ จะมั่วขึ้นนอนเตียงถิ่นซะงั้น ถึงถิ่นจะปล่อยให้บอนทำตามใจก็คงไม่สำเร็จเพราะเตียงถิ่นมีผู้เคร่งขรึมนอนอยู่ด้วย..นายทุย
เพราะหลายๆ อย่างที่เพิ่มมาในชีวิต ถิ่นจึงลืมปัญหาที่ครั้งหนึ่งเคยหนักอก..ชาติกำเนิด อนาคต การศึกษา และเพื่อนร่วมชะตากรรมบางคน..ทุกวันนี้ถิ่นแทบจะเหมือนหนุ่มลูกทุ่งเพื่อนบ้านทั่วไป ผิวคล้ำ ตัวใหญ่ มีมัดกล้ามแม้จะไม่ใหญ่นัก..ต๋องไม่กล้าลวนลามอีกแม้ถิ่นจะแกล้งเริ่มก่อน..ก็ดีแต่บางทีถิ่นรู้สึกขาดความอบอุ่นเหมือนกัน
พี่เบิ้มถูกปลดจากพลทหารเข้าสมัครเรียนโรงเรียนนายสิบทหารเรือ พาเมียมาอยู่บ้านที่ตาใบต่อเพิ่มให้ติดกับครัว..พี่ริดได้รับกระบี่เรียบร้อยเป็นเรืออากาศตรีโก้หรู พี่ตั้มยังเรียนไม่จบกับสาขาช่างกลตีกัน ได้แผลกลับบ้านมาบ่อยๆ..ต๋องเริ่มติดสาวและร่ำๆ จะไปอยู่หอพัก เรียนที่กรุงเทพฯ..แปลกใจมากกับทุยผู้เคร่งขรึมกลับอยากเรียนช่างกลเหมือนกันแต่สาขาคอมพิวเตอร์..จ้อยขี้ฟ้องยังอยู่โรงเรียนวัดสำราญศีลตามเดิม
ถิ่นรู้เห็นทุกอย่างเกี่ยวกับทุกชีวิตที่บ้านไร่คุณทนายทองใบ รับรู้ภาระที่นับวันมีมากขึ้นของตายาย เขาจึงไม่ปริปากแม้สักน้อยเรื่องความต้องการของเขา ก้มหน้าก้มตาทำงานใช้ชีวิตไปวันๆ เหมือนเมื่อครั้งเป็นแม่ดอกกระถินของนายต๋อง
ความจริงก้นบึ้งของใจถิ่นยังจำได้ทุกอย่างที่ผ่านมา..บางวันเช่นวันนี้หลังเสร็จงานประจำวันช่วงเช้าถิ่นข้ามคูหลังเล้าหมูมานั่งมองท้องนา
เอ๊ะ!.. ถิ่นอุทานพร้อมลางสังหรณ์บางอย่าง สายแล้วพระท่านยังบิณฑบาตอยู่อีก
พระภิกษุรูปหนึ่งเดินมาตามคันนา รวงข้าวสีทองสะบัดพลิ้วทำให้ไม่ทันสังเกตเห็น จนกระทั่งเข้ามาใกล้..ความคิดที่จะวิ่งไปบ้านเพื่อหาอาหารแห้งมาใส่บาตรคงไม่ทัน นอกจากจะนิมนต์ให้ท่านรอสักครู่..ถิ่นเลือกจะทำเช่นนั้นหากพระท่านตั้งใจมารับบาตร
นิมนต์ครับท่าน.. ถิ่นนั่งพนมมือ ผมไม่ทราบว่าท่านจะมาบิณฑบาตแถบนี้จึงไม่ได้เตรียมอะไรไว้ อย่างไรท่านพักเหนื่อยสักครู่ ผมจะนำอาหารมาใส่บาตรครับ ไม่ทันรอคำตอบถิ่นวิ่งตื๋อไปบ้าน
ยาย..ยาย.. ถิ่นร้องก่อนถึงบ้าน มีพระมาบิณฑบาตหลังไร่ หาอะไรใส่บาตรดีครับ
มาม่าไง.. ต๋องชะโงกมาจากชั้นบน..วิ่งตึงๆ ลงมา เราใส่ด้วยบาตรด้วยคน..ช็อกโกแลทต์เฮอร์ชี่ส์สองแท่ง
ขนมปังเนย.. ยายส่งขนมปังก้อนยาวที่อัดแน่นด้วยลูกเกดให้ถิ่น ยายอยากใส่ด้วยแต่คงวิ่งไปไม่ไหว
น้ำ.. ทุยผู้รอบคอบส่งน้ำชาเขียวโอๆ อะไรสักอย่างให้ ท่านเดินมาไกลคงหิวน้ำ
เฮ้อ!.. ถิ่นยิ้ม รวบรวมทุกอย่างใส่ตะกร้า ทุกคนใจบุญมากครับ
ขณะถิ่นกำลังประเคนน้ำให้พระภิกษุ..ท่านชะงักมือเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงตะโกน
รอก่อน!.. ต๋อง..คู่ปรับหรือคู่บุญไม่แน่ใจวิ่งมาจากบ้าน เราใส่บาตรด้วยคน
ความจริงอาตมา.. พระภิกษุละสายตาจากต๋องมาที่ถิ่น..พูดค่อยๆ ไม่ได้ตั้งใจออกบิณฑบาตเพียงแต่อยากมาเยี่ยมญาติโยมแถวนี้
จริงสิ.. ถิ่นพิจารณาพระภิกษุอีกครั้ง ท่านไม่ได้อุ้มบาตร..ฮะ..ฮะ..ผมก็..ตื่นบุญมากไปหน่อย
ดีแล้วโยม.. เหมือนพระภิกษุจงใจมองถิ่น ตั้งมั่นอยู่ในความดี คิดดีทำดีนั่นละดีที่สุด
ครับท่าน.. อะไรบางอย่างทำให้ถิ่นเงยหน้ามองพระภิกษุอย่างเต็มตา ท่าน!
อาตมา.. พระภิกษุหยิบบางอย่างออกมาจากย่าม ตั้งใจนำมาฝากโยม..ที่วัดมีมาก
ขนุน.. ถิ่นรับถุงใส่ยวงขนุนอย่างงงๆ ขอบคุณมากครับ
ไปก่อนนะ.. เสียงจากความทรงจำ กว่าจะกลับถึงวัดคงเย็น
อ้าว!.. ต๋องวิ่งมาถึงพอดี พระไปเสียแล้ว ถิ่นนึกโล่งใจที่ต๋องมาไม่ทันร่วมบุญกับเขา ไม่แน่ใจว่าถ้ามาทัน ทั้งต๋องและเขาจะได้รับบุญหรือบาปกันแน่
ถิ่นจำไม่ผิด..ถึงจะผอมคล้ำลง ไม่มีผมไม่มีคิ้ว แต่น้ำเสียงและแววตาอย่างนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากป๋อง!
Create Date : 29 มิถุนายน 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 29 มิถุนายน 2557 10:28:00 น. |
Counter : 909 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|