Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
17 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

๐ ... จันทร์ครึ่งดวง ... ๐ ( บทที่ 18 )



บทที่ 18




เณรอยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ อยากให้กันขับรถช้าลงอีก...ตลาดกำลังใกล้เข้ามา..กระเพาะเขาก็แสบหิว..หิวข้าวจากโรงงาน


“กันครับ..”
เสียงเณรอ่อนนุ่มกว่าทุกครั้ง “ผมคิดถึงกันนะ” ขยับวงแขนแน่นขึ้น

“ดีใจจัง..” กันชะลอความเร็วเหมือนรู้ใจ “คิดถึงเณรเหมือนกัน”

“จอดหน้าตลาดหน่อยครับ..” เณรเสียวแปลบที่หัวใจ “ผมจะไปเอาเป้..ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว” ใจจริงไม่อยากโกหก..เขาซุกหน้าเข้าท้ายทอย เผยอริมฝีปากประทับ ลิ้มรสต้นคอกัน สูดลมหายใจลึกเป็นครั้งสุดท้าย “เดี๋ยวมานะ” แข็งใจ..ไม่แม้จะเหลียวมองกัน..วิ่งเข้าตลาดไป

“อึ๊..เด็กดื้อ” กันตะโกนล้อเลียน..เขาจะรู้ไหมว่ากำลังกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายกับความรักความปรารถนาดีระหว่างเขาสองคน



ยี่สิบนาทีต่อมา ไม่มีวี่แววเณรออกมาจากตลาด กันเลี้ยวรถเข้าไปตาม นึกตำหนิตัวเองที่ไม่พาเณรเข้ามาตั้งแต่แรก

“อ้าว!” กันตกใจ วันนี้ร้านก๋วยเตี๋ยวหยุดขาย..แล้วเณรไปไหน? ความรู้สึกหนึ่งพุ่งขึ้นมา แทบไม่มีแรงประคองรถ...เมื่อได้สติเขาขับรถไปจนทะลุตลาดอีกด้านหนึ่ง ขับเลี้ยวไปหน้าโรงหนังเก่า เลยซอยมอมแมมที่เณรเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น..ขับไปขับมาวนอยู่อย่างนั้นเหมือนคนบ้า..ไม่ผิดหรอกที่จะบ้าถ้าคนรักตกเหวหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้...



เณรเดินร้องไห้มาครึ่งทางจนน้ำตาหยุดไหล เขาป้ายคราบน้ำตา กลั้นใจทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลังมุ่งหน้าไปโรงงาน

“เฮ้ย!..กลับมาได้ไง?” เพื่อนคนงานเดินสวนออกมาจากก้นซอย

“ประตูปิดแล้วมั้ง” อีกคนคล้ายจะหวังดี

เณรวิ่งตื๋อ..เขาจะทำอย่างไร จะทนได้หรือถ้าไม่ได้กินข้าวกินน้ำ..กินยา

“พี่ๆ..” เณรตบประตู..จากรอยแตกของไม้เขาเห็นคนคุมงานกำลังเดินเข้าตัวโรงงาน

“ปิดแล้วโว้ย!” เสียงตะโกนตอบ

“ผมเณรครับ!” ถึงจะตายก็ต้องเข้าให้ได้

“เณร!..ปิดแล้ว กลับไปนอนบ้านไป๊” ยืนลังเล เสียงอ่อนลงเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

“ผมหิวข้าว ขอข้าวกินหน่อย”

“หมดแล้ว” ก้มหน้าเบือนหนี

“ขอน้ำกินหน่อยก็ได้ครับ ผมกำลังจะตาย” ไม่ใช่อ้อนแต่เณรกำลังเป็นอย่างนั้นจริงๆ สองวันที่ผ่านมาเขาถูกอัดยาจนร่างกายขาดไม่ได้

“รอเดี๋ยว..” คนคุมอดไม่ได้ที่จะเมตตา..ภาพที่เห็นจากมือถือเหมือนฟ้องว่าเณรเป็นเด็กมั่วซั่ว แต่ลึกๆ เขาไม่ถึงกับเชื่อสนิทใจ ภาพนั้นอาจมาจากฤทธิ์ยาหรือคนงานแสบๆ ที่ตั้งใจกำจัดเณร “เอ้า!..” แง้มประตูยื่นแก้วน้ำให้

“ขอบ..ขอบคุณครับ..” เณรดื่มน้ำอย่างกระหาย รวดเดียวหมดแก้ว “ขออีกได้มั้ย?” ยกมือไหว้ประลกๆ

“นี่!..” คนคุมหยิบยาเม็ดหนึ่งใส่ปากเณร ถึงอย่างไรเขาก็มีส่วนยัดเยียดสิ่งเลวร้ายให้ “เข้าไปกินเองแล้วกัน”

“ขอบคุณครับ” เณรโผเข้ากอดคนคุม แล้ววิ่งเข้าโรงงาน



ก่อนนอน เณรนึกถึงกัน นึกถึงสัมผัสสุดท้ายก่อนจาก...แล้วกันก็มาหา พาไปบ้านอาบน้ำให้เหมือนเณรเป็นเด็กเล็กๆ ทาแป้งทายาทำแผลให้ทั้งที่หน้าผากและขมับ เณรออกปากขอซุกอกแนบริมฝีปากซอนหากลิ่นเนื้อที่เร้ารึง..เณรเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเคลือบแคลง..เขาเป็นหนุ่มแล้วหรือ..เขากำลังพากันไปไหนสักแห่งที่ไม่เคยไป..มันเต็มไปด้วยความสุข..สุข..จนเปี่ยมล้นออกมา



“เฮ้ย! ไอ้บ้า!” เสียงตะคอกทำให้เณรตื่น...ฟ้าเพิ่งจะสาง

“กันหรือ?” เณรเผลอตัวร้องถาม

“กูเองไม่ใช่กันอะไรของมึง..” ไอ้คู่อริโผล่มาแต่เช้ามืด “ไอ้ลามกเสือกนอนแก้ผ้า” มองท่อนล่างของเณร

“เฮ้ย!” เณรรีบดึงผ้าปิด..เขานอนดิ้นอีกแล้ว

“จะปิดทำไม?” กระชากผ้าออก

“อะไรวะ!” เณรยื้อกลับ

“ทำเป็นไม่เคย” สาวผ้าเข้ามาจนประชิด นั่งลงบนตัวเณร

“เคยอะไร” เณรเด้งตัวให้ไอ้บ้าหล่นจากท้องน้อย เกร็งตัวขึ้นเหวี่ยงกำปั้นใส่

“มีเด้ง..ฮะ..ฮะ..ทำลีลา..ฮะ..ฮะ..” กระแทกบั้นท้ายกดเณรแน่นกับพื้น มือหนึ่งรวบข้อมือทั้งสองอีกมือหนึ่งล้วงมือถือออกมากด ยื่นให้เณรดู “เคยอย่างนี้ไงไอ้ตุ๊ด!”

“โอ๊ะ!..” เณรตกใจกับภาพที่เห็น..มันไม่ใช่แค่นั่งทับแต่ไอ้บ้ากำลังทำกับเขาอย่างที่ชายวิปริตบ้านกล้วยไม้ทำ..ใกล้ๆ กันเม่ากำลังร้องโหวกเหวกมาที่เณร แต่มือถือถูกปิดเสียง

“ไง?” ดึงเสื้อเณรออก

“อึ๊!” มือเณรหลุดจากอุ้งมือไอ้บ้า รั้วหมัดเดาสุ่มไปข้างหน้า ดิ้นสุดชีวิตให้พ้นจากการถูกทับ

“หรือจะให้รุมหลายๆ คน?” จ่อมือถือใส่หน้าเณร..ภาพไอ้บ้ากำลังถอนตัวออก อีกคนหนึ่งลงแทนที่อย่างเมามัน

“ไม่เชื่อ!..ไม่จริง!..” เณรไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง..ทำไมเขาจำเหตุการณ์นี้ไม่ได้เลย ซ้ำร้ายในภาพเขากลับนอนเฉยไม่ต่อสู้ป้องกันตัวอย่างเดี๋ยวนี้ “อึ้บ! โอ๊ย!” รวบรวมกำลังครั้งสุดท้ายแอ่นดิ้นจนร่างบึกที่สาละวนร่นกางเกงตัวเองหล่นลงนอนตะแคงบนพื้น...อะไรอย่างหนึ่งร่วงจากกระเป๋าเสื้อของมัน

“ถุงยา!..” เณรอุทานตามสิ่งที่เห็น..เขาเคยเห็นถุงอย่างนี้เรียงอัดในกล่องที่พวกเขานำไปส่ง

“ยาอะไร?..” ไอ้ขี้ขโมยรีบตะครุบถุงยาใส่กระเป๋าเสื้อ ดึงกางเกงขึ้นใส่ตามเดิม..ยาอีกสองสามถุงหล่นลงมา “ไอ้ห่ะ..ชิบ!” รีบโกยใส่กระเป๋ากางเกง นึกด่าตัวเองที่ตั้งใจปีนเข้าโรงงานแต่เช้ามืดเพื่อขโมยยากลับเสียเรื่องเพราะตัณหาที่เกิดขึ้น

“ขโมย!” เณรสรุปสั้นๆ

“อย่าปากโป้ง..” หัวขโมยบ้ากามโถมลงทับเณรทั้งตัว ปากชนปากเหมือนจะแสดงบทพิศวาส เอื้อมมือล้วงเข้าไปในเป้ที่ใช้หนุนนอน “ไม่งั้นกูกัดลิ้นมึงขาดแน่..” พูดจบควานงับลิ้นเณร

“อึ๊!..อึ๊ด!..” ยิ่งดิ้นลิ้นยิ่งถูกกัดแน่น

“ฮะ..ฮะ..” ปล่อยลิ้นเณรเป็นอิสระผละลุกขึ้นยืนน้ำลายยืดเป็นทางชี้หน้า “เตรียมตัวรับให้ดี” พูดทิ้งไว้เป็นนัยๆ แล้วผลุนผันออกไป

“โอย..โอย..” เณรร้องคราง..เขาไม่ได้เจ็บปวดอะไรแค่ชาลิ้น ที่ร้องเพราะเริ่มเหนื่อยกับชีวิตที่มีสิ่งเลวร้ายเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ใช่เขาจะไม่รู้สึกชั่วดีแม้บางขณะจะหลุดจากความรู้สึกทั้งมวล ซึ่งอาจเป็นเพราะยาหรือเพราะความผิดปกติของสมองที่นับวันจะยิ่งกำเริบขึ้น..เขากำลังจะเป็นเหมือนเม่า พี่สาวที่น่าสงสาร

เณรเริ่มแน่ใจแล้วว่าเม่าถูกไอ้พวกเพื่อนเมายารุมขืนใจ ส่วนที่เขาทำอะไรกับเม่านั้นไม่แน่ใจเพราะไม่ได้เห็นกับตา ที่ได้เห็นในมือถือคือเขาและเม่าถูกทำร้ายพร้อมๆ กัน



กำลังทำงานกันอยู่ มีเสียงเอะอะขึ้นที่ห้องเก็บของ เก็บยา...สักพักเถ้าแก่ หัวหน้าและคนคุมงานเข้ามาในโรงงานเดินมองพนักงานทีละคนๆ หยุดที่ไอ้คนขี้ขโมยไม่เลยมาที่เณร แล้วหันกลับไป

“มีของหาย..” หัวหน้ายืนพูดบนโต๊ะ “หายไปจากห่อ..” มองกราดไปทั่วห้อง “ไม่ได้หายทั้งห่อ..แสดงว่าคนที่ขโมยไม่ได้มุ่งงานใหญ่ คงแค่เอาไปใช้เองหรือเพื่อผลประโยชน์เล็กน้อยซึ่งคงไม่ใช่คนนอก และคนๆ นั้นก็โง่มาก” หัวหน้ามองไปที่คนคุม

“ใครคนหนึ่งในนี้..” คนคุมรับช่วงเค้นหาต่อ เขาเองก็หนาวๆ ร้อนๆ ไม่พ้นข่ายต้องสงสัยเหมือนกัน รู้ดีว่าโทษที่ได้รับแม้ไม่ถึงตายก็สาหัสสากรรจ์ “ใครเป็นขโมยรับมาดีๆ โทษหนักจะได้เบา”

เณรเองก็หนาวๆ ร้อนๆ เขารู้ดีว่าใครคือขโมยแต่เป็นอันตรายถ้าพูดออกไป ลิ้นที่ถูกงับเมื่อเช้ายังเฝื่อนๆ อยู่ เขาเหลือบมองไปที่ไอ้หัวขโมย มันกลับส่งยิ้มให้..ไอ้บ้าเอ๊ย..เณรนึกในใจ

“ขำอะไร?..” คนคุมงานเดินมาถึงพอดี “กำลังเครียดกันอยู่”

“ผมรู้ตัวคนขโมย” จ้องมาที่เณร

แม้เณรจะไม่ใช่ขโมยแต่ก็อดสะดุ้งไม่ได้ สายตาทุกคู่หันมามองที่ไอ้บ้าและเขา..มันจะทำอะไรของมัน?

“ไอ้เณรเป็นคนขโมย!” สิ้นเสียง มีเสียงฮือดังขึ้นรอบห้อง..เป็นเรื่องเหลือเชื่อของทุกๆ คน

“เป็นไปได้ไง?..” คนคุมสวนขึ้นทันควัน

“ไม่น่าใช่” หัวหน้างานพึมพำ

“อาเณง!” ไม่เว้นแม้แต่เถ้าแก่

“ใช่แน่ผมยืนยัน..ผมเห็น”

“เณรอยู่ที่โรงงานตลอดเวลา อยู่ในสายตาข้า ทำอะไรข้าต้องรู้” คนคุมเถียงแทนเณรที่ยืนตะลึงกับข้อกล่าวหา

“ตัวติดกันหรือถึงรู้ไปหมด”

“เออ!..” คนคุมตัดสินใจปกป้อง เขาพอจะรู้ต้นเหตุของเรื่องนี้เมื่อคิดประกอบกับการที่เณรถูกประจานจากคลิปโหดที่ไอ้คนนี้เผยแพร่ “เมื่อคืนข้านอนในห้องนี้”

“ฮะ..ฮะ..นอนกับไอ้เณร..ก็ร่วมทำ..” หยุดพูด หน้ากวนตีน “ร่วมคิดกันสิโว้ย”

“เฮ้ย!..พูดงี้ก็สวยซิวะ” กระชากคอ เหวี่ยงหมัดเข้าปากหมา

“แทงใจดำ!” ไอ้หมากุมปากกบเลือดหลบหลังเครื่องตัดท่อโลหะ

“เอาละๆ” หัวหน้าวิ่งมาห้ามเมื่อเห็นเรื่องจะบานปลาย

เณรมองทางโน้นทีทางนี้ที..ยิ่งได้ยินเขายิ่งสับสน ทั้งเรื่องถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยทั้งเรื่องนอนกับคนคุม

“จะให้ดูหลักฐาน” ไอ้บ้าตรงมาที่เป้ของเณร

“เฮ้ย!..อย่านะ” เณรก้มลงกอดเป้ ถึงในนั้นจะมีเพียงเสื้อผ้าและของใช้เก่าๆ แต่ทุกสิ่งมีค่าสำหรับเขา

“เปิดให้มันดู” คนคุมสั่ง

“นี่ไง!..” ไอ้ขโมยตัวจริงแย่งเป้จากเณรเทของออกมา..แน่นอน..ยาถุงหนึ่งร่วงลงมาพร้อมสัมภาระต่างๆ ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน

“ผมไม่รู้เรื่อง” น่าสงสารแพะตัวน้อยที่งกๆ เงิ่นๆ รวบรวมสมบัติ

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ..ภาพเณรน้ำตาร่วงเก็บสิ่งของไร้ค่าทำเอาบรรดาสิงห์สาราสัตว์สะเทือนใจ


แค่ประเดี๋ยวเดียวใจหมาก็กลับมา!






 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2553
2 comments
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 11:38:09 น.
Counter : 527 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 17 กุมภาพันธ์ 2553 11:47:36 น.  

 

เพิ่งจะได้มาอ่านต่อค่ะ

 

โดย: คุณแม่ใจดี 24 กุมภาพันธ์ 2553 7:50:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.