Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
12 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

๐ ... จันทร์ครึ่งดวง ... ๐ ( บทที่ 17 )




บทที่ 17




“เม่า!..” เณรสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย..เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงงานไม่ได้ไปไหน ไม่มีเม่าไม่มีเกียงไม่มีใครทั้งนั้นนอกจากเขาและแสงสว่างรำไรใกล้เช้า


“เฮ้อ!..”
เณรอุทานโล่งอก ฝันเมื่อคืนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย เขาดีใจที่มันเป็นแค่ความฝัน

จากกระงกเงามัวๆ ในห้องน้ำเณรเห็นเบ้าตาที่เขียวช้ำ รอยห้อเลือดตรงกกหูและหน้าผากซ้ายบวมปูด เขาเอะใจยกแขนขึ้นดู มันเต็มไปด้วยรอยถลอกและเลือดแห้งกรัง ถลกขากางเกงขึ้นก็พบรอยแผลคล้ายกัน น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร นอกจากแห่งหนึ่งที่ปวดหน่วงระบมอยู่หนึบๆ

เมื่อไม่เจ็บปวดอะไรเณรก็เลิกสนใจตัวเอง..รอยช้ำเลือดและบวมอาจเกิดจากเขานอนดิ้นไปโดนเครื่องจักรเพราะฝันร้ายเมื่อคืนก็ได้



เช้านี้ คนงานมาทำงานครบตามปกติ ไอ้วายร้ายยิ้มให้เณรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งทำให้แน่ใจว่าเมื่อคืนเขาฝันไปแน่ๆ

“ไง!..บายดีพวก?” ยักคิ้วให้ แววตาเย้ยหยันชอบกล..อาจเพราะอิจฉาที่เณรได้รับสิทธิ์พิเศษบางอย่าง

เณรก้มหน้าก้มตาทำงานไม่สนใจเสียงซุบซิบหัวเราะเบาๆ จากกลุ่มที่เขม่นเขา

“มันว่ะ!” เสียงหนึ่งแทรกขึ้น

“เฮ้ยเณร!..ดูอะไรมั้ย?” ไอ้ตัวการชูมือถือมาทางเณร

“อึ๊..” เณรส่ายหน้าปฏิเสธ..เขาเคยนึกอยากลองดูเหมือนกันว่าเป็นอย่างไร บางทีที่เห็นเพื่อนๆ เล่นเกมส์

“ถ้าไม่ดู ฟังเสียงละกัน” เดินมาใกล้ จงใจให้ได้ยินเสียงเอะอะประหลาดๆ ในมือถือ

“อึ๊..” เณรอยากกลั้นใจปิดหูปิดตาอย่างที่เคยทำแต่กำลังทำงานอยู่กลัวพลั้งพลาดเกิดอันตรายอีก

“เณรอย่าทำ..โธ่เณร..” เสียงเม่าดังเข้าหู..เณรสะดุ้งหันไปมองทันที

“สะดิ้งนัก..ไม่ให้ดูโว้ย!” ไอ้นั่นปิดมือถือทันทีเหมือนกัน

“ขอดูหน่อย” เณรไม่เข้าใจว่าเม่าเกี่ยวอะไรด้วยกับคนพวกนี้..เขาพลาดอะไรไปหรือ?

“ไม่!” ห้วนๆ แล้วเดินกลับไปทำงาน

“ไม่ให้ดูก็ไม่ดู” เณรนึกในใจ คงไม่ใช่เม่า อาจเป็นเสียงใครคนหนึ่งที่บังเอิญเสียงคล้ายมาหลอกอำ หมู่นี้มีหลายคนไม่ชอบหน้าเขาอย่างไม่มีสาเหตุ



หลังจากกินข้าวกลางวัน เพื่อนคนงานพวกเดิมรวมกลุ่มกันหัวเราะกับมือถือเครื่องนั้นอีก คราวนี้เปิดเสียงเบาๆ จงใจไม่ให้เณรได้ยิน..เสียงเฮดังขึ้นเรื่อยๆ จนคนคุมเข้ามาดู

“เฮ้ย!..” เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกับหันมาทางเณร แล้วหันกลับไปคว้ามือถือดูอย่างจริงๆ จังๆ สักครู่ยัดมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงเดินมาที่เณร

“ครับ..” รีบรับคำทั้งที่ยังไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากคนคุม..เณรรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจากสายตาและท่าทีที่เปลี่ยนไป

“วันนี้ติดรถไปส่งของนะเรา..เตรียมตัวเลย” ไม่มีอะไรนอกจากเรื่องงาน

“แต่..” เณรอยากขอผัดผ่อนเพราะมือยังเจ็บกลัวทำงานพลาด กลับไม่พูดอะไร



ทุกที เณรนั่งด้านหน้าและมีเพื่อนไปอีกหลายคน วันนี้นั่งท้ายรถเพียงคนเดียว ของที่ส่งหนักกว่าทุกครั้ง ไม่มีการส่งเป็นทอดๆ อย่างเก่า

กำลังส่งห่อที่สี่หรือห้ามีคนโผล่มาจากไหนไม่รู้ตรงดิ่งมา เณรเฉลียวใจรีบเดินหนีแล้วเปลี่ยนเป็นวิ่ง วิ่งไปที่รถ..แต่รถหายไป!

“ไอ้หะ!..” สองคนกรูมาถึงฉุดกระชากลากไปที่ที่เณรวางห่อของไว้

“จับผมทำไม?” เณรพอรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง

“ทำปากดีนะมึง!..” คนหนึ่งฟาดกำปั้นเข้ากึ่งปากกึ่งจมูก อีกคนก้มลงฉีกห่อของ

“เฮ้ย!..” ร้องเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “ถูกหลอกโว้ย” ในห่อของมีแต่ห่วงโลหะชนิดต่างๆ ยัดอยู่กับกระดาษหนังสือพิมพ์

“อย่าหนีนะมึง” คนที่จับเณรอยู่ก้มลงไปช่วยคุ้ยดูของในห่อ มันมีแค่ห่วงโลหะเท่านั้นจริงๆ

“ไอ้หะนี่หลอกกู..” เท้าลอยเข้าลำตัว เซถลา

“อึ๊..ผมปล่าว..” เณรยกมือปัดป้อง

“อึ๊พ่อมึงนี่ไง!” ง้างเท้าจะอัดอีก..เณรฉวยโอกาสวิ่งหนีอีกครั้ง ถึงจะไปไม่รอดก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เขาวิ่ง วิ่ง สุดชีวิต

“ปล่อยมันไปก่อน”

“ได้ไงวะ!”

แว่วเสียงโต้ตอบข้างหลัง เณรวิ่ง วิ่งแบบที่เขาเคย วิ่งให้ตกขอบโลก..แต่โลกมันกว้างใหญ่นักอย่างไรก็ไม่พ้น..มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งไล่ตามมา

“เณร!..” เสียงเรียกดังขึ้น “เณร!..นี่ผมเอง” มอเตอร์ไซด์คันนั้นพุ่งเลยไปจอดดักข้างหน้า คนขับลงจากรถอ้าแขนตะครุบเณรไว้ทันที

“อึ๊!..” เณรดิ้นฮึดฮัด สักพักได้กลิ่นที่คุ้นเคยจึงลืมตาขึ้น..แปลกใจ!..ดีใจ!

“วิ่งหนีอะไรมา? ผมเรียกยังไม่รู้ตัวเลย” กันกอดร่างสกปรกมอมแมมแน่น

“ช่วยด้วย!..หนีก่อน!..” เณรดิ้นหลุดจากวงแขน กระโดดขึ้นคร่อมหลังรถ “เร็วสิ”

“หนีก็หนี..” กันขึ้นรถ สตาร์เครื่อง “ไม่เห็นมีใคร” ออกรถ

“มี!” เณรกอดเอวรัวหว่างขาตีตัวรถเร่งกัน

โชคดีที่ถนนว่างกันจึงบิดรถพุ่งเอาใจเณร..เขาชินเสียแล้วกับความประหลาดของเด็กหนุ่มคนนี้..แต่ละครั้งที่พบกันมักอยู่ในช่วงวิกฤตเสมอ..เณรหายไปเขาเพียรตามหาจนอ่อนใจ จู่ๆ ก็เจอ

ลมเย็นโกรกสักพักเณรเริ่มสงบ ใจที่แนบติดหลังกันเต้นเบาลง กลิ่นหอมอ่อนๆ กล่อมให้รู้สึกดี..นานมาแล้วที่เณรไม่ได้รู้สึกอย่างนี้ คิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้สัมผัสอีก เขาไม่อายที่จะกอดกันแน่น...ที่จริงเณรยังเป็นเด็กที่ต้องการความอบอุ่นและการดูแลเอาใจใส่จากใครสักคน

“เณร..” กันรู้สึกได้ถึงความว้าเหว่ของเด็กหนุ่ม เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งกุมมือเณรไว้ “อย่าหนีผมไปไหนอีกนะ”

“อือ..ครับ..” เณรรับคำ..เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ความฝันเณรดึงมือออกกลับกุมมือกัน ซุกหน้ากับท้ายทอยและเส้นผมที่หอมชื่นใจ..ไม่อยากตื่นจากฝันเหมือนคืนก่อนๆ

กันชะลอความเร็ว ขับไปเรื่อยๆ จุดหมายปลายทางคือร้านของเขา..พบกันคราวนี้เณรเปลี่ยนไป ไม่เพียงบาดแผลที่มีอยู่ตามร่างกายแต่มีให้เห็นในแววตาคู่ที่เลื่อนลอยนั้น สบตาแวบเดียวกันก็รู้สึกได้ เขาคงต้องเยียวยามากกว่าทุกครั้ง

อากาศเริ่มโพล้เพล้ ไฟตามถนนยังไม่เปิด เณรกอดกันแน่นเหมือนจะไม่ยอมให้จากไปไหน ถึงจะแน่ใจว่าไม่ใช่ความฝันแต่เขารู้ดีว่าความสุขที่กำลังกรุ่นอยู่นี้เป็นเพียงความฝันเท่านั้น ที่ได้พบ ได้กอด ได้ไออุ่นนี้ก็ทำให้เขามีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไปในเส้นทางของเขา..ทางแยกที่ไม่อาจเลี้ยวกลับได้อีก


น้ำตาหยดหนึ่งหล่นลงบนหลังกัน...





 

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553
2 comments
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 13:09:14 น.
Counter : 601 Pageviews.

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับเณรอีกหนอ ?

น่าจะหยุดอยู่กับกันนะเณร จะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆอย่างที่ผ่านมาอีก

อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนไม่โดดเดี่ยวและโดนกระทำอย่างแล้วมา

ฝันร้ายผ่านไปเถอะนะ..


หาจันทร์ครึ่งเติมครึ่งเป็นหนึ่งจันทร์
ในคืนวันโหดร้ายให้เพียงผ่าน
หมายจันทร์ส่องแสงให้ได้พบพาน
ซึ่งสถานสุขสงบจบเรื่องร้าย

ฝากคิดถึงปู่ด้วยนะคะ..

 

โดย: คุณแม่ใจดี 12 กุมภาพันธ์ 2553 15:47:02 น.  

 

whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

 

โดย: da IP: 203.144.144.165 16 กุมภาพันธ์ 2553 0:30:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.