|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
...ช้างเผือกแห่งเมียนมาร์...
ตื่นแต่เช้ามืดมาขึ้นเครื่องบินลำเดิมอีกแล้ว ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑะเลย์-ไฮโฮ-ย่างกุ้ง คราวนี้ขึ้นที่มัณฑะเลย์มาแวะไฮโฮที่รัฐฉาน แล้วค่อยบินต่อมาย่างกุ้งอีกที กลับมาย่างกุ้งคราวนี้ไฮไลท์อยู่ที่ "พิพิธภัณฑ์" เสียดายอยู่หน่อยตรงที่เค้าห้ามถ่ายรูปด้านในอะ แหะๆ เลยอดได้รูปมาฝากเพื่อนๆ กันเลย
ประวัติศาสตร์พม่ายาวนานนับพันๆปี ตั้งแต่เมืองแปรของพวกพยู อาณาจักรพุกามที่ยิ่งใหญ่ จนแตกลงมาเป็น ตองอูของพม่า หงสาของมอญ รวบรวมมอญได้ตั้งหงสาเป็นราชธานี แล้วย้ายมาอังวะ อมรปุระ จนมาสิ้นสุดที่ มัณฑะเลย์ อังกฤษก็ย้ายเมืองหลวงมาที่..ย่างกุ้ง นี่ละ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพม่า... คงมีอะไรน่าตื่นตื่นใจอยู่ไม่น้อย

แต่............. พอเข้ามาในพิพิธภัณฑ์..ก็ใจหาย... ของที่เอามาโชว์ไม่มีอะไรมากอย่างที่คิด สภาพไม่ต่างอะไรกับห้องเก็บของเสียด้วยซ้ำ
ห้องที่เด่นและสำคัญที่สุดคือ.. ห้องเก็บ "พระที่นั่งสิงหนาทราชบัลลังก์" ราชบัลลังก์องค์สุดท้ายที่พระเจ้าสีป้อเคยประทับ ราชบัลลังก์ที่ต้องฝังคนทั้งเป็นไว้ใต้ฐานถึง 200 คน ราชบัลลังก์ที่ประดับประดาด้วยทองดำ ทับทิม และอัญมณีมูลค่ามหาศาล
เวลานี้... ราชบัลลังก์ที่เห้นในพิพิธภัณฑ์ เหลือเพียงแค่โครงไม้ปิดทอง... เท่านั้น !!

อังกฤษยึดเอาราชบัลลังก์นับ 10 องค์จากมัณฑะเลย์ พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติมากมาย..ไปไว้ที่ British Museum
เมื่อคืนเอกราชให้พม่า.. ชาวพม่าเรียกร้องขอคืนสมบัติเหล่านี้ อังกฤษจึงส่งคืนราชบัลลังก์องค์ที่สำคัญที่สุด "สิงหนาถ" แต่ก็เลาะเอาทองคำ ทับทิม เพชรพลอยทั้งหมดที่หุ้มออกจากบัลลังก์ออกไปหมด ส่งคืนมาแค่...โครงไม้แกะลายปิดทองเท่านั้น
สมบัติที่แสดงในพิพิธภัณฑ์ที่เป็นของเด่นๆ ที่อังกฤษส่งคืนมาให้เหลือเพียงไม่กี่ชิ้น เครื่องราชูปโภคทองคำประดับทับทิม ลวดลยวิจิตรงดงาม โถน้ำจันทน์ แกะสลักจากก้อนอัมพันมหญ่กว่าลูกบอลเสียอีก เก้าอี้งาช้าง ที่ต้องใช้งาช้างนิบสิบกิ่งมาแกะฉลุลายโปร่งงามมากๆ เห็นแล้วทึ่งในฝีมือช่างสกุลพม่าเลย... วิจิตรพิศดารจริงๆ
แต่ก็มีให้ดูไม่มาก.. ถ้าอยากดูมากกว่านี้ ... British Museum ครับท่าน

บางที...นี่อาจเป็นเรื่องของ "ผลกรรม" หรือกรรมตามสนอง พม่าปล้นกรุงศรีฯ เผาลอกเอาทองคำไปมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ทองคำหุ้มองค์พระศรีสรรเพ็ชญ์ดาญา ที่ต้องสุมไฟเผาอยู่ถึงสามวันสามคืนจึงลอกเอาทองไปหมดองค์
แค่ 50 กว่าปีหลังจากนั้น... กรรมก็สนองคืนพม่า ฝรั่งหัวขาวเข้าปล้นเมืองขนสมบัติมหาศาลทำลายปราสาทราชวัง เหมือนที่อยุธยา...เคยโดนเผาเมื่อกว่า 50 ปีก่อน
นี่ยังดี..ที่อังกฤษมันไม่ใจดำขนาดเผาชเวดากองหลอมเอาทองไปด้วยนะเนี๊ยะ

ทุกวันนี้.. ชาวพม่ายากจน ประเทศปิดตัวจากโลกภายนอก สมชายไกด์พม่า ชอบถามอยู่บ่อยๆ ว่า.. "เป้นไงพม่า ..เจริญกว่าลาว กว่าเขมรไหม?"
จริงๆ พม่าเจริญกว่าลาวกว่าเขมรเยอะ และจริงๆ แล้ว... พม่า...สมควรจะเจริญกว่าไทยด้วยซ้ำ
พม่า... มีบ่อน้ำมัน 4 บ่อใหญ่.. ที่ ปตท ขอไปร่วมทุน พม่า... มีเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จีนยังต้องมาขอซื้อ พม่า... มีเหมืองทับทิมที่ยังมีเม็ดใหญ่ๆ และงามกว่าทับทิมเมืองจันทน์หลายเท่า พม่า... มีเหมืองหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก พม่า... มีป่าไม้สัก..ที่กว้างใหญ่มากมายที่สุดในโลก
พม่า... ยังมีทรัพยากรมากมายมหาศาล ที่มีค่ามากกว่าทองคำหุ้มมหาเจดีย์ชเวดากอง
แต่ชาวพม่า..น้อยคนจะได้รับผลประโยชน์ของทรัพยากรมหาศาลพวกนี้ นอกจาก... รัฐบาลทหารพม่าเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เมื่อสามสี่ปีก่อน... รัฐบาลพม่าได้พบ หินอ่อนขนาดราว 70 ตัน จึงนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก รัฐบาลพม่าถือว่าเป็นเรื่องมงคลที่ได้พระพุทธรูปหินอ่อนองค์นี้มา และหลังจากนั้นอีกหนึ่งปี.. พม่า..ก็ได้พบ "ช้างเผือก" อีกหนึ่งเชือก ชาวพม่าดีใจเฉลิมฉลองสมโภชช้างเผือกใหม่เชือกนี้กันเอิกเกริก
ทุกวันนี้ชาวพม่าเชื่อกันว่า เพราะพระหินอ่อนและช้างเผือกเชือกนี้ ทำให้ชีวิตความเป็นอยุ่ชาวพม่าดีขึ้น พบบ่อน้ำมันใหม่ๆ พบเหมืองทับทิมใหม่ๆ นี่ละ.. เค้าถึงเรียก ช้างเผือกคู่บ้านคู่เมือง
พวกผมได้มีโอกาสเข้าไปดูพระหินอ่อนองค์มหึมา พร้อมกับ "ช้างเผือก" ... ที่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นช้างเผือกจริงๆ กับเค้าเลย บอกตรงๆ... เห็นแล้วต้องยอมรับ.. ว่าทำไม คนโบราณแถบนี้ ถึงต้องยกทัพตีบ้าน ตีเมือง เพื่อแลกกับ ช้างเผือก

ช้างเผือกที่เห็นมีสามเชือก ช้างพลายเผือกเชือกเอกอยู่ตรงกลาง ขนาบช้างพังสีดอตัวเมียสีขาวอมชมพู
ช้างพลายเผือกไม่ได้สีขาวอมชมพูเหมือนช้างพังสองตัวนั่น แต่มีสีออกเทาอ่อนๆ .. ว่ากันว่า ช้างเชือกนี้เปลี่ยนสีได้วันละ 7 สี !!! อะไรจะเป็นช้างมหัศจรรย์ขนาดนั้น ลองไปดูที่รูป.. ถึงเข้าใจว่า ช้างเชือกนี้ตอนเช้าสีผิวจะอ่อนๆ แล้วจะค่อยๆ เข้มขึ้นจนออกแดง เหมือนคนแพ้แดด ตกเย็นๆ ก็ออกเป็นสีคล้ำออกดำ พอได้อาบน้ำเล่นน้ำตัวเย็นหน่อย ก็สดชื่นสีกลับมาผ่องใหม่ เดาเอาเองว่า.. เซลล์สีผิวคงไวต่อแสงมากกว่าปรกติ
เห้อ.. เห็นแล้วบอกตรงๆ .. อยากเอามาถวายในหลวง ให้เป็นช้างคู่บุญคู่บารมีประดับพระเกียรติจริงๆ
*** จบแล้วอ่ะคับ อิอิ ***
Create Date : 22 มิถุนายน 2548 |
Last Update : 22 มิถุนายน 2548 10:24:16 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1414 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ~nawo~ วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:10:52:37 น. |
|
|
|
โดย: rebel (rebel ) วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:15:06:56 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:45:25 น. |
|
|
|
โดย: น้ำ IP: 210.86.128.54 วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:20:15 น. |
|
|
|
โดย: เด็กชายก้อง วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:23:08:37 น. |
|
|
|
โดย: namit วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:11:26:36 น. |
|
|
|
โดย: ลำพูริมน้ำ วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:23:24:18 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 สิงหาคม 2548 เวลา:8:59:47 น. |
|
|
|
โดย: Teeb on mobile IP: 203.170.228.177 วันที่: 11 สิงหาคม 2548 เวลา:10:32:29 น. |
|
|
|
โดย: namit วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:12:00:36 น. |
|
|
|
โดย: Ayutthaya IP: 203.113.15.234 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:20:19:54 น. |
|
|
|
โดย: moae IP: 202.151.7.108 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:12:50:57 น. |
|
|
|
โดย: ramu IP: 124.157.163.158 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:14:52:59 น. |
|
|
|
โดย: เม้น อ่านยากจัง IP: 202.90.118.236 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:35:05 น. |
|
|
|
โดย: ทหารม้าคับ IP: 125.27.123.13 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:20:53 น. |
|
|
|
โดย: teerarod IP: 125.25.43.42 วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:0:14:04 น. |
|
|
|
โดย: grippini วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:18:28:18 น. |
|
|
|
โดย: gclub-royal IP: 117.47.102.55 วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:23:43:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สวยจัง เห็นแล้วอยากไป๊ อยากไปอ่ะ
อ่านเรื่องช้างเผือกแล้วขนลุกเลยอ่ะค่ะ