ครั้งหนึ่ง...เหล่าบุปผาชนทั่วโลกได้นัดรวมตัวกันที่นี่
เพื่อประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม
ครั้งหนึ่ง...มหาราชแห่งราชวงศ์มัลละ
ได้สถาปนาเมืองกาฐมัณฑุ บัคตาปูร์ และลลิตปูร์
ครั้งหนึ่ง...เมื่อ 2550 ปีล่วงมาแล้ว
มหาบุรุษแห่งศากยะวงศ์ได้ถือประสูติขึ้น ณ ลุมพินีวัน
เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่.... เนปาล
เนปาลเมืองเล็กๆ ซุกซ่อนตัวท่ามกลางยอดเขาสูงเสียดฟ้า
อย่างอบอุ่นและเงียบสงบมานานแสนนาน
เนปาลเมืองที่เชื่อมอารยะธรรมเอเซียใต้
ให้หลอมรวมกับเอเซียตะวันออกได้อย่างกลมกลืน
เนปาลเมืองที่พุทธกับฮินดูไหลกลืนกันเป็นหนึ่งเดียว
ท่ามกลางกระแสธารแห่งกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนไม่สิ้นสุด
เนปาลเมืองในฝันของนักผจญภัย
ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องเดินเท้าพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์
เนปาลเมืองในฝันของนักท่องเที่ยว
ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมาเห็นหิมาลัย
เนปาลเมืองในฝันของนักประวัติศาสตร์
ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมาให้เห็นเมืองโบราณบัคตาปูร์และปาทัน
เนปาลเมืองในฝันของนักแสวงบุญ
ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมากราบลุมพินีสถาน
เนปาล...เมืองในฝัน..ของผม
ในที่สุดผมก็ได้มาถึงเนปาล
หลังจากเงื้อง่าตั้งท่ามาหลายครั้งหลายหน
จดๆ จ้องๆ รอดูว่าเค้าประท้วงกันปฎิวัติอะไรกันหรือเปล่า
พอดีช่วงนี้จังหวะน่าจะดี
ดูเหมือนปัญหาการเมืองเนปาลจะค่อนข้างสงบหน่อย
เลยได้ฤกษ์แพ๊กกระเป๋าโดดขึ้นเครื่องบินมากาฐมัณฑุนี่ละ
แต่เมืองในฝันกับเมืองในความเป็นจริง
มันก็ไม่เหมือนกันสักเท่าไหร่นักหรอก
กาฐมัณฑุ วุ่นวายสับสน
เต็มไปด้วยผู้คนทั้งรถทั้งลาทั้งวัวสารพัดสัตว์
และสิ่งที่ตามมาคือเรื่องของความสกปรก
พระราชวังเดิมที่จตุรัสหนุมานโดก้าในกาฐมัณฑุ
เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่และสวยงาม
ลวดลายสลักไม้ตามกรอบประตูหน้าต่างละเอียดอ่อนช้อยจริงๆ
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ ความสกปรกและผู้คน
ทั้งขอทานทั้งคนจรจัดพ่อค้าแม่ขายวุ่นวายสับสน
รถมอเตอร์ไซค์รถยนต์แย่งเบียดตรอกซอกเล็กซอยน้อย
ไม่มีที่จะให้คนเดินได้อย่างมีความสุข
วันนั้นวันแรกที่ไปถึงเนปาลด้วยแหละมั้ง
เลยคงเกิด culture shock เล็กๆ มึนกับปริมาณผู้คน
และการรุมทึ้งขอเงินและตื้อให้ซื้อของ
มึนกับการเดินหลบกองอุจจาระที่เรี่ยราดตามถนนหนทาง
มึนกับการเดินหลบฝูงนกพิราบที่คอยจ้องจะอึใส่หัว
มึนเสียงแตรที่รถแต่ละคันไม่รู้จะขยันบีบกันไปให้ใครฟัง
มึนจนเรียกว่า... ไม่รู้จะวางขาวางก้น
มึนจนไม่รู้ว่าจะไปยืนตรงไหนดีเลยก็ว่าได้แหละ
เลยไม่ได้อิ่มเอมกับลายละเอียดความงดงาม
และเรื่องราวของพระราชวังกาฐมัณฑุอย่างที่หวังไว้แต่แรก
แม้แต่บ้านเทพธิดากุมารี
ที่เคยใฝ่ฝันว่าอยากเห็นนักอยากเห็นหนา
พอไปถึงจริง...ก็นะ..นี่เหรอ...เออสวยดีนะ
พิราบเยอะจัง ยืนตรงไหนดีละเนี๊ยะ จะโดนอึนกมั้ย
คิดไปคิด...มึน...ไม่ได้อะไรเท่าไหร่เลย เห้อ
มาตั้งตัวได้อีกที...ก็ที่พระราชวังเมืองบัคตาปูร์นั่นละ
ค่อยโล่งตาโล่งใจเดินไปถ่ายรูปไปได้อย่างมีความสุขหน่อย
แถมเมืองบัคตาปูร์นี่อาจจะคุ้นตาจากหนังเรื่อง Little Buddha
ด้วยก็ได้มั้งเลยเดินไปไหนมาไหนได้อย่างคุ้นเคยหน่อย
แถมเมืองก็สะอาดกว่า เป็นระเบียบกว่าหน่อย
บัคตาปูร์เมืองหลวงแห่งที่ 2 ของเนปาลเมื่อ 400 ปีที่แล้ว
สถาปัตยกรรมที่เลื่องชื่อที่แบบว่าต้องไปดูให้ได้
คงหนีไม่พ้น.. พระราชวัง 55 พระแกล คือ วังที่มีหน้าต่าง 55 บาน
แต่โชคไม่เข้าข้างผมเท่าไหร่ .. เค้าปิดซ่อมซะงั้น เห้อ
พอวันต่อมา...ไปต่อที่เมือง ลลิตปูร์
หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า เมืองปาทัน
เมืองมรดกอีกแห่งหนึ่งของเนปาล
พอมาถึงปาทันนี่...ลูกทัวร์เริ่มมึนอีกครั้ง
ไม่ใช่มึนผู้คนหรือรถลาเหมือนครั้งแรก
แต่มึนว่าไปมาสองพระราชวังแล้ว
จนมาถึงที่นี่...พระราชวังปาทันเมืองที่สาม
ไหงหน้าตาเมือง พระราชวัง สถาปัตยกรรม ..มันเหมือนกันไปหมด
พระราชวังทั้ง 3 เมืองจริงๆ แล้วก็เป็นศิลปะรุ่นราวคราวเดียวกัน
เรื่องเล่าว่า พระราชาแห่งราชวงศ์มัลละสร้างเมืองกาฐมัณฑุขึ้นมา
แล้วมีโอรส 3 พระองค์... พระราชาจึงทรงโปรดให้
โอรสองค์โตครองเมืองหลวงกาฐมัณฑุ
โอรสองค์รองไปสร้างเมืองใหม่ที่บัคตาปูร์
โอรสองค์สุดท้องไปสร้างเมืองอีกเมืองที่ลลิตปูร์
ทั้งสามเมืองไม่เคยรบราฆ่าฟันแก่งแย่งชิงดีกัน
แต่ทว่า...ทั้งสามเมืองกลับแข่งกันด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลป์
นี่คงเป็นคำตอบว่าทำไม เมือง 3 เมืองของเนปาลถึงงดงามวิจิตรตระกาลตาขนาดนี้
ปราสาทราชวังวัดวิหารส่วนมากก็เป็นรูปแบบของชาวเนวารี
ชนพื้นเมืองดั้งเดิมของเนปาล
บางปราสาทบางอาคารก็เป็นแบบที่รับมาจากสิกขิม
มีทั้งวิหารพระศิวะ พระอุมา พระกฤษณะ พระพิฆคเณศวร ของชาวฮินดู
รวมทั้งวัดและวิหารของศาสนาพุทธ
ที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัวจนแทบจะแยกไม่ออก
และอาจเป็นเพราะพื้นที่ที่อยู่ระหว่างจีนตอนใต้
แถบธิเบตกับอินเดียตอนเหนือและสิกขิมทางตะวันออก
ศิลปะสถาปัตยกรรมเลยถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน
จนบางครั้งอาจเผลอไปว่าได้ไปเที่ยว จีนธิเบต กับ อินเดีย ไปพร้อมกันๆ
หรือบางคนอาจคิดไปไกลว่ามาเนปาล
เหมือนได้เที่ยว จีน ธิเบต อินเดีย สิกขิม
เลยไปจนถึง บาหลีกับเขมร ได้ในเวลาเดียวกัน
อยากเที่ยวมั่ง อากาศดี๊ดี