Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
ลับแลพิศวาส 3-4

คืนอันแสนวุ่นวายนั้นผ่านพ้นไปได้ เมื่อวันสุรีย์ตั้งสติออกไปตามเพื่อนบ้านเรียกรถหน่วยกู้ภัยมารับตัวเอื้องอรุณส่งโรงพยาบาล นายแพทย์วิสุทธิ์ส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลจากโรงพยาบาลของท่านมาช่วยดูแลท่านนายพันและยายแววให้เป็นการชั่วคราว วันสุรีย์และคุณนายสายบัวรีบรุดไปเฝ้าดูอาการของเอื้องอรุณที่โรงพยาบาล

แพทย์สรุปว่าเอื้องอรุณกินยานอนหลับเกินขนาดร่วมกับเหล้าเบียร์แต่ก็ล้างท้องได้ทันและพ้นขีดอันตราย ถึงอย่างนั้นหล่อนยังต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล คุณนายสายบัวและวันสุรีย์ต้องคอยผลัดกันเฝ้าดูเพราะเกรงว่าหล่อนรู้สึกตัวขึ้นมาจะทำร้ายตัวเองอีก

“เอื้องไม่อยากตื่น อยากตายไปเสียให้พ้นๆ แม่บังคับเอื้องทำไม”

“เอื้องจะตายคนเดียวงั้นหรือ เอื้องคิดว่าเอื้องจะได้ตายคนเดียวจริงๆหรือ” คุณนายสายบัวที่สงบสติได้แล้วพูดกับบุตรสาว “หลังจากเอื้องตาย แม่และพ่อก็คงตายตามไปด้วย เอื้องจะทิ้งปัญหาไว้หนีไปตายอย่างเห็นแก่ตัวได้อย่างไร แม่ยังไม่คิดจะฆ่าตัวตายเลย”

วันสุรีย์ที่นั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยถึงกับผงะไปเมื่อได้ฟัง คุณนายสายบัวจากที่ร่ำไห้เสียใจในคืนแรกกลับกลายเป็นเคร่งขรึมและโกรธจัดในวันนี้

“เอื้องใช้ไม่ได้เลย ไม่เป็นนักสู้เหมือนพ่อ ดูแต่พ่อสิ จนอยู่ในสภาพนั้นแล้วพ่อยังไม่ยอมตาย”

เอื้องอรุณเบือนหน้าไปอีกทางหล่อนสะอื้นฮักอีกด้วยเรื่องที่เป็นจุดอ่อนในใจ นับตั้งแต่บิดาป่วยอยู่ในสภาพนั้นเอื้องอรุณไม่เคยย่างกรายเข้าไปพบท่านอีกเลย วันสุรีย์เข้าใจดีว่าหล่อนรับไม่ได้อย่างแรงที่บิดาซึ่งเคยแข็งแกร่งเป็นแบบอย่างในใจต้องกลายสภาพเป็นคนพิการเช่นนั้น เมื่อรับไม่ได้เอื้องอรุณก็ผละหนีจากโลกแห่งความเป็นจริงหลอกตนเองว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น

“พ่ออาจจะอยากตายแต่ทำไม่ได้มากกว่ามั้งคะ” หล่อนเถียงมารดา คุณนายสายบัวเป็นฝ่ายสะอึกไปบ้างหล่อนเม้มปากแน่นตวาดเอาอย่างฉุนเฉียว

“นี่เอื้องกำลังว่าแม่ใช่ไหมที่ปล่อยให้ท่านทรมาน เอื้องคิดว่าแม่อยากทำหรือ จะให้แม่ทำยังไงเราก็มีกันอยู่เท่านี้ครอบครัวเราเหลือกันเพียงห้าชีวิต จะให้ตายๆกันไปหมดเลยไหมจะได้ให้วันซื้อยาฆ่าแมลงมากรอกปากให้ตายกันหมด”

“แม่บังคับให้พ่ออยู่ในสภาพนั้น แม่ยังจะบังคับเอื้องให้อยู่ในสภาพตายทั้งเป็นเหมือนพ่อ”

“แค่แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รู้จักคนหนึ่ง มันไม่ถึงกับตายหรอกลูกเอ๋ย เอื้องมีคนรักอยู่แล้วหรือไง ถึงได้ขัดใจขนาดนี้ถึงขนาดอยู่ในโลกนี้ไม่ได้อีก ความรักอะไรมันยิ่งใหญ่ถึงปานนั้น ทำให้เอื้องลืมความรักของพ่อแม่ได้ เอื้องช่วยบอกแม่ทีเถอะแม่สัญญาว่าจะรับฟัง”

เอื้องอรุณปิดหน้าร้องไห้หนักอยู่ครู่หนึ่งเมื่อหล่อนรวบรวมสติได้ก็เริ่มเปิดปากถึงสิ่งที่อึดอัดคับใจ เรื่องที่หล่อนบอกออกมานั้นทำให้วันสุรีย์และคุณนายสายบัวถึงกับพูดไม่ออก ต่างก็นิ่งอั้นด้วยความรันทดเวทนา

เอื้องอรุณคบหาเพื่อนมากมายทั้งหญิงชาย หล่อนใจกว้างจ่ายเงินได้ไม่อั้นจึงเป็นคนดังที่ใครๆก็สนใจ ประกอบกับเป็นคนเข้าสังคมเก่งช่างพูดกล้าได้กล้าเสียไม่เรื่องมากเหมือนผู้หญิง จึงทำให้มีเพื่อนผู้ชายมากมาย งานเลี้ยงปาร์ตี้ครั้งใดแทบจะขาดหล่อนไปไม่ได้ เมื่อบิดาป่วยหนักเอื้องอรุณใช้การเข้าสังคมและสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนเป็นการหลีกหนีความจริง ตลอดจนครั้งที่รู้ความจริงจากมารดาเรื่องสถานะทางการเงินเข้าขั้นวิกฤตของครอบครัว หล่อนก็ยังใช้วิธีเดิมคือสนุกไปกับสิ่งลวงตาคือเพื่อนฝูงที่รายล้อมราวกับเป็นบริวารที่ซื่อสัตย์ เหล้ายาบุหรี่ 
แต่คืนนั้นเหตุการณ์ไม่ได้ผ่านเลยไปเหมือนทุกครั้ง ในผับชื่อดังที่มีนักเที่ยวมากหน้าหลายตา เอื้องอรุณที่รูปร่างหน้าตาดีสวมเสื้อผ้าและใช้ของมียี่ห้อสะดุดตากลุ่มวายร้ายเข้าอย่างจัง หล่อนถูกล่อลวงแยกไปจากกลุ่มเพื่อน ชายสามคนพาหล่อนไปยังโรงแรมม่านรูดปลดทรัพย์ทั้งหมดไปไม่พอยังขืนใจหล่อน ที่เลวร้ายกว่านั้นคือเอื้องอรุณไม่ได้หมดสติไปเสียทีเดียว ขณะที่พวกมันทำการย่ำยีหล่อนนั้นหญิงสาวรับรู้อย่างเลือนรางแต่ไม่อาจขัดขืนได้ตลอดคืนที่หล่อนจมอยู่ในนรกที่อยากตายให้พ้นๆไปก็ทำไม่ได้ ตราบกระทั่งสายของอีกวันเมื่อกลุ่มเพื่อนสนิทของหล่อนตามมาพบและช่วยเหลือพวกมันก็จากไปแล้ว

“ถ้าแม่ยังยืนยันจะให้เอื้องแต่งงาน ก็เท่ากับส่งเอื้องกลับไปลงนรกนั่นอีก” ดวงตาแดงก่ำของเอื้องอรุณวาบแสงอย่างเจ็บช้ำ หล่อนเค้นเสียงอย่างชิงชัง

“ทำไมเอื้องไม่บอกแม่” คุณนายสายบัวเสียงแห้งเจ็บปวดจนอกแทบแตกสลาย “คุณพ่อยังมีเพื่อนมีลูกน้องที่เราพอจะขอความช่วยเหลือได้”

“แล้วจะทำอะไรคะ จับพวกมันมาให้เป็นข่าวครึกโครมเพื่อให้คนรู้เรื่องนี้มากขึ้น ให้เอื้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอีกตลอดชีวิตหรือแม่”

“บางทีถ้าเอื้องได้ระบายออกมาบ้างก็ไม่ต้องเอาแต่คิดแค้นอยู่คนเดียว ถ้าคนที่มันทำกับเราถูกลงโทษ เราก็ยังมีศรัทธาในการมีชีวิตอยู่ คนผิดได้รับโทษไม่ใช่ลอยหน้าอย่างสบายใจ แล้วเป็นเราที่ต้องหลบหน้าผู้คน” 

ขณะที่พูดปลอบใจบุตรสาวหล่อนก็เจ็บแปลบอยู่ในอกราวกับเข็มเล่มเล็กสักพันเล่มคอยทิ่มแทงทำร้าย เอื้องอรุณถูกคนรังแกก็เท่ากับหล่อนถูกหยาม ยิ่งคิดใจก็ยิ่งทุกข์หนักได้แต่โทษฟ้าโทษดินที่ไร้ความปราณีกำหนดให้ชีวิตที่เคยสูงส่งให้ตกอับโชคร้ายถึงเพียงนี้

“เอื้องอยากลืม คิดเสียว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเอื้อง มันจะดีขึ้นเอง แต่เอื้องจะไม่มีวันให้ผู้ชายคนไหนมาแตะต้องเอื้องเป็นอันขาดบอกตรงๆขยะแขยงมันทุเรศเกินทน”

เมื่อหล่อนยืนกรานเช่นนั้นมารดาก็จนปัญญา ประสบการณ์เลวร้ายทำให้เอื้องอรุณรังเกียจสัมผัสของผู้ชาย หล่อนปฏิเสธการแต่งงานหัวเด็ดตีนขาด เลือกที่จะกดดันให้ตนเองลืมโดยไม่คิดเยียวยาจิตใจ

“แม่เข้าใจเอื้อง แต่ไม่คิดว่านี่คือทางออกที่ดี” การหลอกตัวเองไม่ยอมรับความจริงจะเป็นทางออกได้อย่างไร นอกจากนั่งๆนอนๆอยู่โลกสมมติที่สร้างขึ้นเอื้องอรุณจะใช้ชีวิตอย่างไรได้
“แม่จะบังคับเอื้องแต่งงานให้ได้ใช่ไหม เพราะอยากได้เงินมาปลดหนี้ แม่ไม่สนใจว่าเอื้องจะเป็นยังไงจะต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าตกนรกไปอีกกี่สิบปี อีกชั่วชีวิตของเอื้องนะ” 

หล่อนทุ่มตัวซุกหน้าร้องไห้กับหมอนโดยมีมารดายืนมองและร้องไห้ไปด้วยกัน คุณนายสายบัวทั้งอ่อนใจทั้งกลัดกลุ้มแต่สุดท้ายหล่อนก็ไม่บังคับบุตรสาวอีก พวกหล่อนเหลือกันเพียงสองคนแม่ลูกแล้ว ท่านนายพันนั้นแม้จะยังชีวิตอยู่แต่ก็เหมือนไม่มี หากเอื้องอรุณเป็นอะไรไปอีกหล่อนจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร

ในที่สุดเอื้องอรุณก็แข็งแรงพอและกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ นายบุญรัตน์ยังคงติดต่อมาอีกหลายครั้งด้วยเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เขาทิ้งไว้ให้ใช้ คุณนายสายบัวก็ไม่อาจให้คำตอบได้ แต่หล่อนก็ไม่ยอมปฏิเสธให้เด็ดขาด วันสุรีย์ไม่เข้าใจว่านางคิดอะไรอยู่จึงได้แต่บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ สัปดาห์แรกหล่อนอ้างว่ายังไม่ได้ตัดสินใจเพราะเอื้องอรุณป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล สัปดาห์ที่สองหล่อนอ้างว่าท่านนายพันอาการไม่ดีจึงยังให้คำตอบไม่ได้  ยิ่งล่วงเข้าสัปดาห์ที่สามความกลัดกลุ้มเรื่องหนี้สินก็วนกลับมากดดันหนักเข้าจนอยู่ไม่เป็นสุข

เช้าวันหนึ่งเมื่อคุณสายบัวเดินใช้ความคิดอยู่ในสวนสวยภายในรั้วรอบขอบชิดของบ้าน จู่ๆก็มีของประหลาดลอยข้ามรั้วเข้ามาถูกหัวไหล่หล่อนอย่างถนัดถนี่ มันเป็นลูกแมวที่เพิ่งตาย ถูกผ่าท้องตามยาวทั้งเลือดสดๆและเครื่องในไหลทะลัก เสื้อของหล่อนชุ่มไปด้วยเลือด กลิ่นฉุนคาวลอยเข้าจมูก หล่อนสะบัดตัวอย่างแรงมองเห็นซากสัตว์จ้องมองด้วยดวงตาโปนแทบถลนดูน่าสยองขวัญ 

คุณนายสายบัวหวีดร้องเสียงดังอย่างขวัญเสีย มันกระชากเอาสติของหล่อนให้กระเจิงแทบหลุดลอย วันสุรีย์ทิ้งจานชามที่กำลังเตรียมอาหารเช้าวิ่งออกมาดูจึงได้ช่วยประคองท่านที่แข้งขาอ่อนแรงกลับเข้าบ้าน เมื่อหล่อนนำซากสัตว์ฝังกลบให้เรียบร้อยก็กลับพบว่า ที่รั้วคอนกรีตด้านนอกถูกมือดีฉีดพ่นสีสเปรย์เป็นถ้อยคำหยาบคายและทวงหนี้อย่างหนักเต็มไปหมด วันสุรีย์ไม่มีปัญญาจะลบมันออกมีทางเดียวคือต้องจ้างคนมาทาสีทับเสียใหม่แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีปัญญาจ่ายค่าจ้าง

หลังจากวันนั้นหล่อนสังเกตว่าคุณนายสายบัวค่อนข้างเหม่อลอยและมักพูดอะไรแปลกๆ บางครั้งท่านมองวันสุรีย์แล้วบอก

“วันกับเอื้องนี่รูปร่างพอๆกันเลยนะ อายุต่างกันตั้งสี่ปีแท้ๆ”

“วันสูงกว่าคุณเอื้องสองเซ็นต์ค่ะ” วันสุรีย์ตอบไปเป็นการชวนท่านคุยไปด้วย หล่อนกำลังใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดเช็ดคราบฝุ่นสกปรกตามชั้นวางของในห้องรับแขก เป็นการทำงานตามหน้าที่ประจำวันที่ช่วยไม่ให้คิดฟุ้งซ่านตามเจ้านายได้ดีนัก 

“ผมยาวกว่าเอื้อง แต่ถ้าตัดสั้นก็แทบแยกไม่ออก” คุณนายสายบัวนั้นนั่งอยู่ที่เก้าอี้และมองหล่อนอย่างพินิจปากพึมพำ ตากวาดมองวันสุรีย์ขึ้นลงหลายรอบ

“แยกออกสิคะ คุณเอื้องออกจะขาวผ่อง วันตัวดำปิ๊ดปี๋”

“ไม่สิ ถ้ามองเห็นไม่ชัดอย่างเช่นปิดไฟเสีย ให้วันตัดผมสั้นเคลียบ่าเท่ากับเอื้องก็แทบแยกไม่ออก” ครั้งนี้คุณนายถึงกับเรียกให้เธอลุกขึ้นจับแขนเรียวของวันสุรีย์ลูบไล้ดู 

“อย่างวันนี่เขาเรียกผิวพม่านัยน์ตาแขก ผิวคล้ำนิดๆแต่เนียนสวยตาคมหวาน อกกับสะโพกนี่อวบเกินวัยนะอายุแค่ย่างสิบแปดแต่เป็นสาวเต็มตัว เอื้องเสียอีกที่ไม่ค่อยมีหน้าอก”

วันสุรีย์ไม่เข้าใจว่าท่านหมายถึงอะไร แต่ตลอดวันนั้นคุณนายสายบัวมีท่าทีครุ่นคิดกังวลและคืนนั้นวันสุรีย์ก็เห็นว่าท่านหายเข้าไปในห้องคุณเอื้องตั้งแต่หัวค่ำ ไฟในห้องนอนของคุณเอื้องยังสว่างอยู่จนเกือบเที่ยงคืน คล้ายกับว่าสองแม่ลูกมีเรื่องคุยกันอยู่หลายชั่วโมง

เช้าวันถัดมาบรรยากาศภายในบ้านดูประหลาดมากขึ้นแต่ก็เป็นไปในทางที่ดี คุณนายสายบัวและบุตรสาวลงมารับประทานอาหารพร้อมกันและพูดคุยกันเป็นปกติ สีหน้าของท่านดีขึ้นมากเอื้องอรุณก็มีท่าทีผ่อนคลายทั้งที่ก่อนหน้านี้หล่อนมักอารมณ์เสียและตั้งแง่กับคำพูดของมารดาเสมอ

“วันเอ๊ย โทรนัดคุณบุญรัตน์ให้ฉันด้วย บอกเขาว่าให้มาคุยรายละเอียดกันได้เลย สะดวกเมื่อไรก็นัดมา”




Create Date : 22 มกราคม 2558
Last Update : 22 มกราคม 2558 10:08:10 น. 0 comments
Counter : 611 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.