Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
ลับแลพิศวาส 4-3 จบตอน

ช่วงของการเตรียมงานแต่งงานทัดเทวาคึกคักเป็นพิเศษบริเวณตึกใหญ่โดยรอบนั้นถูกจัดเตรียมสำหรับงานเลี้ยงกลางแจ้งจึงมีการตัดแต่งต้นไม้และประดับประดาด้วยดอกไม้สดมีซุ้มประตูโค้งประดับดอกไม้เป็นพุ่มพวงระย้าซึ่งเป็นจุดเด่นของสถานที่ถัดจากนั้นเป็นทางเดินที่ทำจากแผ่นหินถูกตกแต่งด้วยกระถางไม้ดอกนานาพันธุ์ทั้งสองข้างทางความเย็นของอากาศทำให้ดอกไม้เมืองหนาวเหล่านั้นบานสะพรั่งได้นานจึงคล้ายกับเดินอยู่บนสะพานดอกไม้ที่งดงามตระการตาที่สุดปลายทางเดินนั้นคือเวทียกพื้นเตี้ยใช้สำหรับจัดพิธีฉลองแต่งงานที่ว่างสองฝั่งนั้นจัดเตรียมโต๊ะอาหารแบบกลมวางดอกไม้และเชิงเทียนดูหรูหราแค่นึกภาพบรรยากาศยามค่ำอากาศเย็นสดชื่นอาหารเลิศรสภายใต้แสงเทียนวับแวมนั้นแล้วก็สัมผัสได้ถึงความสุขสงบสวยงามดั่งภาพฝัน

ทั้งคนสวนคนรับใช้ชายหญิงที่มีนับสิบคนและชายร่างกำยำที่คอยตรวจตราความปลอดภัยและดูแลความเรียบร้อยดูราวกับจะมีงานฉลองประจำปีสาวๆที่มาช่วยงานต่างวี้ดว้ายซุบซิบชวนกันมองคนที่หน้าตาดี กลายเป็นว่าบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความสุขและตื่นใจ

วันสุรีย์ไม่ได้อยู่ร่วมในบรรยากาศนั้นหล่อนถูกขังอยู่บนห้องนอนของเอื้องอรุณราวกับนักโทษในยามกลางคืนก็นอนที่พื้นหน้าเตียง ช่วงกลางวันนั้นถ้าคุณเอื้องอยู่ที่ห้องหล่อนก็มีหน้าที่คอยรับใช้ทั่วไปแต่หากเอื้องอรุณและมารดาลงไปต้อนรับแขกที่ทยอยมาแวะเยี่ยมเยียนพบหน้าบ่าวสาวและญาติผู้ใหญ่รวมไปถึงรับประทานอาหารร่วมกับฝ่ายของทัดเทวาวันสุรีย์จะถูกขังไว้ในห้องอย่างโดดเดี่ยว

“ปิดล็อกห้องไว้เถอะจ้ะเอากุญแจมาคล้องไว้ช่วงนี้แขกไปใครมามากไม่รู้จะมีคนแอบเล็ดรอดปลอมตัวเข้ามาหรือเปล่า” คุณนายบอกกับคนรับใช้

“ต้องขอโทษด้วยนะจ้ะที่ทำให้เสียเวลาฉันมันคนกรุงอยู่อย่างระแวงระวังมาเสียเคยตัวคนแถวนี้จิตใจดีซื่อตรงแต่มันอดไม่ได้จริงๆไม่อย่างนั้นฉันคงนอนไม่หลับกลัวใครมันแอบเข้ามาซ่อนตอนกลางคืนออกมาขโมยของฆ่าเจ้าทรัพย์”

คนที่นี่คงชินเสียแล้วกับความประหลาดของเจ้านายจึงปฏิบัติตามคำสั่งอย่างดีวันสุรีย์ได้แต่นอนร้องไห้เบื่อขึ้นมาหล่อนก็ลากเก้าอี้ที่โต๊ะเครื่องแป้งไปนั่งเกยคางที่ขอบหน้าต่างด้านหลังห้องซึ่งเป็นด้านที่ติดกับป่าทึบมองออกไปเห็นเพียง “ผาสิงห์” เป็นทิวทัศน์คุณสายบัวไม่อนุญาตให้หล่อนโผล่หน้าออกไปทางฝั่งที่กำลังจัดงานเพราะหน้าต่างบานนั้นตรงกับลานกว้างที่ใช้จัดงานพอดิบพอดีท่านกลัวว่าจะมีคนเห็นและเกิดสงสัยขึ้นมา

สิ่งเดียวที่ทำให้วันสุรีย์มีความสุขคือทุกเย็นคุณนายจะเรียกหล่อนเข้าไปบอกเล่าเกี่ยวกับอาการของยายแววและให้ใช้โทรศัพท์ของบ้านทัดเทวาที่อยู่ด้านนอกพูดคุยกับยายแววได้ครู่หนึ่งเสียงแจ่มใสของยายเป็นดั่งยาทิพย์ที่ต่อชีวิตของวันสุรีย์ไปอีกวัน

“เธออดทนแค่ไม่นานก็จะได้กลับไปอยู่กับยายแล้ว มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นาไม่ต้องทำอะไรก็มีข้าวกินอิ่มหนำห้องพักกว้างขวางมีห้องน้ำในตัวสบายกว่าอยู่ที่บ้านด้วยซ้ำ”

คุณสายบัวพูดกับวันสุรีย์อย่างผู้ใหญ่ที่มีเมตตาแต่วันสุรีย์เกลียดชังจับใจทำได้แค่ก้มหน้านิ่งไม่ต่อคำ ท่านก็ช่างพูดออกมาได้ไม่อายปากหล่อนใช้ชีวิตเหมือนนักโทษรอวันประหารจะมีความสุขได้อย่างไร

เช้าวันแต่งงานเป็นวันที่วันสุรีย์ทรมานที่สุดห้องของเอื้องอรุณเต็มไปด้วยสาวๆที่มาช่วยแต่งตัวเจ้าสาวทั้งเพื่อนเจ้าสาวที่เป็นคนของทัดเทวาก็มาอยู่เตรียมตัวกันอย่างคึกคักวันสุรีย์ถูกขังอยู่ที่ห้องของคุณนายสายบัวบางเวลาที่ท่านเข้ามาหล่อนก็ต้องเข้าไปซ่อนในช่องลับของตู้เสื้อผ้าอย่างน่าอเนจอนาถยังดีที่ห้องคุณสายบัวนี้ไม่ใคร่มีคนจึงพอมีจังหวะให้หล่อนออกไปเข้าห้องน้ำได้บ้างหาไม่แล้วคงทรมานยิ่งกว่านี้

พิธีช่วงเช้าเป็นการทำพิธีทางศาสนาและมอบของรับไหว้จากผู้ใหญ่ตามด้วยสวมแหวนแต่งงานถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกันจากนั้นญาติผู้ใหญ่และบ่าวสาวทำพิธีส่งตัวเข้าหอให้ครบขั้นตอนก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับงานฉลองช่วงค่ำ

เอื้องอรุณผิวขาวจัดหล่อนอยู่ในชุดไทยประยุกต์สีเขียวและเครื่องประดับเป็นทองคำเหลืองอร่ามนับว่าขับผิวให้งดงามเปล่งปลั่งได้ดีวันสุรีย์เห็นเมื่อคืนก่อนหน้านี้แล้วตอนที่หล่อนลองชุดและเลือกเครื่องประดับกับคุณสายบัวหล่อนห่อตัวซ่อนอยู่ในตู้ที่เปิดแง้มไว้ให้มีอากาศหายใจจึงได้ยินเสียงพูดคุยลอยเข้ามาเป็นครั้งคราวเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆทั้งกระซิบกระซาบชื่นชมเจ้าสาวทำให้หัวใจของวันสุรีย์ห่อเหี่ยวลงไปอีกน่าอดสูใจจริงๆ ที่สองแม่ลูกตีหน้าชื่นหลอกคนอื่นได้เป็นจริงจังขนาดนี้

“เจ้าบ่าวหล่อมาก” สาวคนหนึ่งลากแขนเพื่อนมาคุยที่หน้าตู้เสื้อผ้าซึ่งเป็นมุมที่ห่างจากความชุลมุนวุ่นวายทำให้วันสุรีย์ที่นั่งกอดเข่าอยู่ข้างในพลอยได้ยินไปด้วย

“ตางี้คมกริบหล่อเหมือนดารา”

“ฉันเห็นแค่ไกลๆ” เพื่อนสาวของหล่อนเสียงอ่อยด้วยความเสียดาย “รู้แต่ว่าสูงใหญ่เหมือนพวกฝรั่งนายแบบ”

“โอยไม่ใช่เลยไม่กล้องแกล้งแบบนั้นกล้ามงี้แข็งแรงเป็นมัดทั้งแขนขา น่ากัดเป็นบ้า”หล่อนหัวเราะคิกตามด้วยเสียงตีแขนกันอยู่เผียะๆ

“เสียดายนะ...ฉันว่าดูเหมือนแกจะเมาๆพิกล”

“สงสัยจะกลุ้มใจที่ได้เมียหน้าเหมือนแกงจืดไม่ได้ปรุงรส” คราวนี้ทั้งสองสาวหัวเราะประสานเสียงกันครืนใหญ่

“เจ้าสาวทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลก” หล่อนลดเสียงลงเหลือแค่กระซิบ “แบบนี้รับรองคืนนี้ตอนส่งตัวเข้าหอจริงๆมีคนรอเสียบเพียบ” พวกหล่อนหัวเราะคิกคักอีก เสียงหัวเราะนั้นลอยห่างออกไปแต่วันสุรีย์ถึงกับถอนใจยาวอย่างเหนื่อยหนักเมื่อไรเรื่องบ้าๆนี้จะผ่านพ้นไปเสียที

ตอนบ่ายถึงเย็นเป็นเวลาที่วันสุรีย์พอจะมีอิสระบ้างเอื้องอรุณและคุณสายบัวขึ้นมาพักบนห้อง ส่วนคนอื่นๆนั้นก็แยกย้ายกันไปจึงไม่มีใครเข้ามารบกวนเป็นโอกาสให้วันสุรีย์ได้ออกมาเดินยืดเส้นสายสูดอากาศบริสุทธิ์

“มันเมามาอีกแล้ว” เอื้องอรุณบอกอย่างชิงชังขณะที่วันสุรีย์ช่วยหล่อนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายส่วนคุณนายนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจึงงีบหลับด้วยความอ่อนเพลียเสียที่ห้องข้างๆ

“สะอิดสะเอียนจริงลมหายใจก็มีกลิ่นเหล้าคลุ้งมานั่งอยู่ใกล้ๆแทบจะอาเจียน”

“งานเรียบร้อยดีใช่ไหมคะ” วันสุรีย์ชวนคุย

“ก็ดี ผ่านไปอย่างแกนๆไอ้หมอนั่นมันคงไม่ค่อยพอใจเหมือนกันแต่ทำอะไรไม่ได้ ดีแล้วอะไรๆมันจะได้ง่ายขึ้น”

วันสุรีย์ก็หวังให้เป็นอย่างนั้นเช่นกันยิ่งฝ่ายนั้นทนไม่ได้มากเท่าไรการแต่งงานบ้าๆนี้คงจบเร็วขึ้นกว่าที่คิด

ตอนเย็นเอื้องอรุณแต่งชุดออกงานกลางคืนไปร่วมงานที่จัดกลางลานกว้างตามกำหนดการคราวนี้วันสุรีย์อดใจไม่ได้ต้องแอบมองผ่านช่องหน้าต่างห้องนอนของเอื้องอรุณอยู่บนชั้นสองและปิดไฟมืดมิดหากหล่อนจะโผล่หน้าออกไปดูสักครู่ก็ไม่เป็นไรคนจากที่แจ้งมองขึ้นมาจะเห็นอะไรนอกจากความมืด

เสียงเพลงอ่อนหวานบรรเลงจากวงดนตรีที่จ้างมาเล่นสดๆมีทั้งเครื่องสายอย่างไวโอลินแชลโล่รวมไปถึงแกรนด์เปียโนหลังใหญ่คนเล่นก็แต่งกายอย่างเรียบหรูดูเป็นงานที่มีระดับเกินกว่าจะเป็นงานฉลองแบบชาวบ้านทั่วไปคู่บ่าวสาวเดินผ่านซุ้มดอกไม้สดทั้งสองข้างของทางเดินมีเด็กสาวแต่งกายสวยงามโปรยกลีบดอกกุหลาบจากกระเช้าให้ตลอดทางเป็นภาพสวยงามชวนฝันเหมือนเจ้าชายเจ้าหญิง

วันสุรีย์เพิ่งเคยเห็นเจ้าบ่าวเป็นครั้งแรกร่างสูงที่เดินเนิบช้านั้นเห็นหน้าไม่ชัดเพราะไกลเกินไปแต่เรือนร่างสูงแกร่งเกินค่ามาตรฐานชายไทยนั้นโดดเด่นกว่าใครในบริเวณนั้นหล่อนอดมองดูอย่างทึ่งแกมสงสัยไม่ได้ผู้ชายฐานะดีแถมยังรูปร่างหน้าตาดีตามคำบอกของสาวๆที่ได้เห็นตัวจริงชัดๆเขามีคุณสมบัติเพียบพร้อมจนสมบูรณ์แบบเช่นนี้คงมีสาวๆรอคิวอยู่มากแต่กลับจำต้องเข้าพิธีแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักตามคำสั่งบิดา เขาคงหงุดหงิดพิลึก

จู่ๆคำพูดคะนองปากของเอื้องอรุณก็แวบเข้ามาในหัวทำเอาวันสุรีย์ถึงกับหน้าเรื่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“...ได้ยินคนเรียกกันว่าคุณใหญ่คงชื่อใหญ่มั้งมันตัวใหญ่สมชื่อนะ อย่างอื่นก็คงจะใหญ่ด้วยระวังตัวไว้ก็แล้วกันจะฉีกขาดยับเยิน”

ให้เข้มแข็งอย่างไรวันสุรีย์ก็อดกลัวจนตัวสั่นไม่ได้เมื่อนึกว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับหล่อน ได้แต่ภาวนาว่าเรื่องที่คิดไว้จะไม่เกิดขึ้นคุณใหญ่คนนั้นอาจจะไม่พอใจที่จะร่วมหอกับเจ้าสาวแปลกหน้าหรือไม่เขาก็อาจจะฉลองจนเมามายทำอะไรอย่างว่าไม่ไหววันสุรีย์ก็เท่ากับเลื่อนเวลาเข้าสู่แท่นประหารไปได้อีกระยะหนึ่ง




Create Date : 28 มกราคม 2558
Last Update : 28 มกราคม 2558 20:18:21 น. 0 comments
Counter : 514 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.