Blog ของชัชชมนต์ คนดีค่ะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
เฮ้อ…นี่เหรอ (ว่าที่) มหาบัณฑิต

ก่อนจะอ่านเรื่องราวจนจบ (หรือเปล่า) ฉันขออธิบาย (หรือจะเรียกว่าสารภาพ) ว่า เนื้อหาในกลุ่ม ‘คนชอบ (เมาท์)’ จะเข้าสู่โหมดซีเรียสค่ะ ผิดกับกลุ่มอื่นในบล็อกนี้ และออกจะเป็นการบ่นนั่นบ่นนี่ ด้วยเรื่องส่วนตัว เรื่องที่พบเจอ หรือประเด็นสังคม เรียกว่าเป็นไดอารี่สำหรับบ่น หรือโวยวายกันเลยทีเดียว

ไม่ว่ากันนะคะ ถ้าจะพบเจอเรื่องเครียดๆในบล็อกของฉันบ้าง


เรื่องบ่นครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ฉันเพิ่งพบที่ออฟฟิศเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาค่ะ ในเช้าอันแสนรื่นรมย์ ฉันกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะทำงาน (ที่รกมาก ยังดีอยู่หรอกที่ยังไม่มีหนูหรือแมลงสาปวิ่งพล่าน) ฉันโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อน (เอ๊ะ…ไม่ทำงานหรือไงยะ เอิ่ม…ฉันทำงานไปพร้อมกันได้ค่ะ)

แล้วอยู่ดีๆ เอกสารขนาด A4 ชุดบางๆ ก็ทิ่มพรวดมาที่หน้าของฉัน ขาดอีกนิดเดียวก็จะเข้าปากเข้าจมูกแล้ว ได้ยินเสียงแว่วจากผู้ชายคนหนึ่งว่า

“ช่วยตอบแบบสอบถามด้วยครับ เดี๋ยวมาเก็บนะครับ”

เกลียดมือของตัวเองนัก ที่รับเอกสารฉบับนั้นมาโดยสัญชาติญาณ ฉันเงยหน้าดูนิดหนึ่ง ไม่ทันได้เห็นหน้าของผู้ชายคนนั้นที่เดินหันหลังให้ฉันไปแล้ว เพื่อจะรีบไปส่งเอกสารให้คนอื่นต่อ หากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเขา เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว และกางเกงสีดำ ทำให้คาดเดาได้ว่าเขาคือแมจเซนเจอร์

ฉันไม่ใช่คนชอบดูถูก ไม่ได้นึกรังเกียจคนที่ทำอาชีพต่างไปจากฉัน แต่…แบบนี้ไม่ปลื้มนะคะ

หากจะส่งเอกสาร วางไว้ในกระบะเอกสารไม่ได้เหรอ มากไปหรือเปล่าที่เอาเอกสารมาทิ่มหน้าฉัน มันเป็นเอกสารที่ฉันจำเป็นต้องได้รับบัดเดี๋ยวนั้นเลยเหรอ มันสำคัญกับฉันขนาดไหนเชียว

ฉันยังคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ แต่สามารถมองเอกสารแวบหนึ่ง แบบสอบถามอะไรสักอย่าง จากนักศึกษาปริญญาโท บลาๆๆ

เหวี่ยงค่ะ เหวี่ยงจริงๆนะ เรื่องของเรื่องคือ ฉันวาดมือจะไปวางเอกสารบนโต๊ะ หากมันเลยลงไปที่พื้น ซึ่งฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่อยากให้ใครต่อใครเห็นว่าฉันปรี๊ดแตก (ตอนนั้นยังไม่ปรี๊ดค่ะ รออีกหน่อย) เลยจะก้มลงไปเก็บ (ทั้งๆที่คุยโทรศัพท์อยู่) สายโทรศัพท์เลยไปปัดถ้วยกาแฟตกพื้น โชคดีอยู่หน่อยตรงที่มันเป็นถ้วยกาแฟกระดาษอย่างที่มีฝามีรูให้จิบกาแฟเล็กๆ กาแฟเลยหกรดพื้นพรมเพียงเล็กน้อย

ฉันต้องเสียเวลาเอากระดาษทิชชู่มาเช็ดพรมอีก ปากก็ขอโทษขอโพยคนที่ปลายสายว่าขอเช็ดพื้นพรมนิดนึงนะคะ

จนเสร็จสิ้นภารกิจถึงได้หยิบแบบสอบถามมาดู (เปื้อนกาแฟไปนิดนึงแล้ว) แบบสอบถามของนักศึกษาปริญญาโท เรื่องอะไรไม่อยากอ่านแล้ว เพราะรู้สึกว่าถูกคุกคามจัง เขาส่งแบบสอบถามกันแบบนี้เหรอ ว่าแต่คุณน้องเจ้าของแบบสอบถามเนี่ยเป็นใครมาจากไหนกัน อยู่ดีๆ ไม่รู้จักกันมาก่อนก็เอาแบบสอบถามให้แมซเซนเจอร์มาทิ่มหน้าคนตอบ

ฉันเปิดระบบค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของออฟฟิศ ค้นเจอชื่อเธอ เอาล่ะ อย่างน้อยๆเธอคนนี้ก็เป็นพนักงานบริษัทเดียวกับฉัน ไม่ได้มาจากภายนอกบริษัท ซึ่งมันจะยิ่งไปกันใหญ่ ให้สงสัยต่อไปได้อีกว่าแล้วเข้ามาแจกแบบสอบถามในบริษัทของฉันได้อย่างไรกัน

ฉันเห็นว่าว่าที่มหาบัณฑิตคนนี้ไม่มีมารยาทเอามากๆค่ะ หากจะให้ใครตอบแบบสอบถามอันเนื่องมาจากการศึกษาของเธอ เธอน่าจะติดต่อมาสักหน่อยดีไหม โทรมาคุยก็ได้ค่ะ ถ้าจะให้เป็นงานเป็นการกว่านั้น น่าจะมีจดหมายนำจากหลักสูตร จากมหาวิทยาลัยด้วยนะ แล้วค่อยให้ใครมาส่งแบบสอบถามก็ได้ค่ะ แต่ช่วยอย่าเอามาทิ่มหน้า

ทำไมไม่เหมือนเมื่อฉันทำสำรวจสมัยเมื่อเรียนปริญญาตรี และปริญญาโทเลยนะ จะไปเก็บแบบสอบถามจากใคร ก็ไปด้วยตนเอง มีจดหมายนำจากคณะ ไปพูดคุยอธิบายให้คนตอบแบบสอบถามเข้าใจก่อน ถามความคิดเห็นก่อนว่าเต็มใจหรือไม่อย่างไร ไม่ใช่มาเหวี่ยงๆใส่ แล้วถ้าใครไม่ตอบ เธอจะคิดว่าคนๆนั้นเป็นแล้งน้ำใจหรือเปล่านะ

ชักจะเหวี่ยงขึ้นเรื่อยๆค่ะ เลยไม่ตอบ ปรี๊ดพอที่จะใช้ดินสอเขียนลงไปบนหน้ากระดาษใบแรกว่า “ไม่ตอบค่ะ เพราะส่งแบบสอบถามได้ไม่มีมารยาท” ประมาณนี้ค่ะ (จำไม่ได้ถนัด เพราะลบไปแล้ว) เขียนไปเสร็จ ก็เริ่มหายโกรธ มาคิดได้ว่า เอ๊ะ แล้วฉันจะไปโกรธให้มันได้อะไรขึ้นมาเนี่ย ไม่ตอบเสียก็สิ้นเรื่อง เลยลบทิ้ง บอกสั้นว่า “ไม่สะดวกที่จะตอบค่ะ”

แหม…แต่มันยังคาใจแฮะ เห็นว่าน้องที่นั่งโต๊ะติดกันก็ได้แบบสอบถามเหมือนกัน ถามน้องไปว่า ตอบให้เขามั้ย น้องตอบกลับมาว่า “ตอบไม่ได้ค่ะพี่ แบบสอบถามอะไรก็ไม่รู้ เรื่องเกี่ยวกับ…” ตอนท้ายเป็นชื่อตำแหน่งงานหนึ่ง ซึ่งพวกเราไม่เคยข้องแวะด้วย

ฉันเลยไปคุยกับหลายๆคนที่ได้แบบสอบถามนี้ (ว่างจริงจริ๊ง เย้ย…ไม่ใช่ค่ะ พอเดินผ่านโต๊ะทำงานของพรรคพวกแล้วเห็นแบบสอบถาม ก็อดถามไม่ได้) ได้ความรู้ใหม่มาจากน้องคนหนึ่ง เขาเล่าว่า เดี๋ยวนี้เกิดอาชีพใหม่ในออฟฟิศของเรา นั่นคือ แมซเซนเจอร์บางคนจะมีงานเสริมเป็นการแจกแบบสอบถามให้นิสิต นักศึกษาปริญญาโท จะคิดค่าจ้างชุดละกี่บาทก็ว่ากันไป ตอนแรกๆ ก็เป็นลักษณะงานช่วยเหลือกันค่ะ ไหนๆต้องเอาเอกสารไปส่งอยู่แล้ว ก็พ่วงแบบสอบถามไปด้วย หลังๆชักเป็นเชิงพาณิชย์ แมซเซนเจอร์เสนอเลยว่าถ้าต้องการให้ส่งแบบสอบถามแล้วเก็บมาให้ ก็มีบริการให้

มิน่าล่ะ แมซเซนเจอร์ถึงได้ขยันขันแข็งนัก มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มใจเสียจนน่าตกใจ ไม่ได้สนใจเลยว่าจะคุกคามผู้ถูกคัดเลือกให้ตอบแบบสอบถามอย่างไรบ้าง

เวรกรรม คุณน้องเจ้าของแบบสอบถามเธอคัดเลือกตัวอย่างแบบไหนกันล่ะเนี่ย เธอรู้หรือไม่ว่า ‘การสุ่มตัวอย่าง’ มีความสำคัญกับการวิจัยมากเพียงใด ผลการวิจัยน่าเชื่อถือเพียงไหน ก็มาจากการสุ่มตัวอย่างว่า สามารถได้ตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของประชากรอย่างแท้จริงหรือไม่

เธอเล่นให้แมซเซนเจอร์สุ่มให้เหรอ ส่งไปไหนก็ไปที่นั่นแหละ ฉันของเรียกวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบนี้ว่า ‘Messenger Sampling’

มาไล่เรียงรายละเอียดในแบบสอบถามแล้วยิ่งเวียนหัว ขอยาดมโดยด่วน เธอส่งแบบตัวอย่างมากถึง 400 ชุด ทั้งที่ถ้าเธอเลือกตัวอย่างมาอย่างดี ไม่จำเป็นต้องแจกแบบสอบถามมากขนาดนี้เลยค่ะ เหอะ…ส่งมั่วส่งซั่วด้วย ฉันได้มาสองชุดค่ะ คนแจกคงสักแต่ว่าแจก ส่งให้พ้นๆมือ ไม่ได้ดูเลยสักนิดว่ามีสองชุดติดกัน

อ่านแบบสอบถามแล้วยิ่งเครียดค่ะ มันต้องเป็นภาษาเทพอย่างแน่นอน อ่านไม่รู้เรื่องเลยสักนิด เธอถามอะไรของเธอก็ไม่ทราบ ยากกว่าข้อสอบเอนทรานซ์เสียอีก อ้อ…อ่านที่คำถามเหนือหัวกระดาษสิ เธอถามว่า เราเคยเกี่ยวข้องกับอาชีพของเธอหรือเปล่า เพราะไม่เกี่ยวนี่เอง ถึงได้อ่านไม่รู้เรื่อง จบแบบสอบถามได้เลยค่ะ

แล้วที่ส่งแบบสอบถามมาที่ฝ่ายของฉันอย่างมากมาย (ตามที่ฉันเห็นตามโต๊ะทำงาน) ก็ได้กระดาษเปล่าไปสินะ แต่ที่แย่กว่านั้นคือ หากมีใครอยากช่วยคุณน้องปริญญาโทโอ้มายกอร์ดมากๆ แล้วทู่ซี้ตอบลงไป จะได้ผลการวิจัยหน้าตาแบบไหนกันล่ะเนี่ย

วันต่อมาฉันไปทานข้าวกลางวันกับเพื่อนที่อยู่หน่วยงานอื่น คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนวกเข้ามาเรื่องแบบสอบถามนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้ เลยได้ความว่ากระทั่งเขา ซึ่งควรจะรู้เรื่องพอจะตอบแบบสอบถามนี้ ยังมึนค่ะ อ่านแบบสอบถามไม่รู้เรื่องเลย ฉันคิดว่าเธอแปลมาจากแบบสอบถามภาษาอังกฤษ พอแปลได้ไม่ดี คนตอบแบบสอบถามก็แย่ไปสิคะ

โอ้…ซับนรกก็ไม่บอก

ฉันอยากติดต่อไปที่คณะของคุณน้องคนนี้จริงๆ อยากถามอาจารย์ของเธอว่านักศึกษาแบบนี้น่ะเหรอ จะให้จบเป็นมหาบัณฑิต หรือว่าอาจารย์ไม่ได้สอนลูกศิษย์ว่ามารยาทในการส่งแบบสอบถามเป็นอย่างไร การกำหนดกลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสมทำอย่างไร การสุ่มตัวอย่างที่ดีเป็นอย่างไร การตั้งคำถามที่ดีเป็นอย่างไร

เมาท์ความคิดนี้กับน้องที่ออฟฟิศ เขามองหน้าฉันอย่างเสียวสยอง แล้วบอกว่า “โชคดีที่ผมเรียนจบแล้ว ถ้าเจอคนอย่างพี่ ผมแย่แน่เลย”

ด้วยความที่ฉันจบสถิติมาด้วยแหละ (คืนครูไปเกือบหมด แต่ยังพอคุ้ยหาความรู้ได้อยู่) เลยทนไม่ได้กับแบบสอบถามแย่ๆ แต่แย่ขนาดนี้เพิ่งเจอครั้งแรกค่ะ

แต่ฉันก็ไม่ทำ ได้แต่คิด ไม่กล้าพอหรอกค่ะ ฉันถูกทักท้วงว่า “เป็นผู้พิพากษาเหรอ ถึงได้จะตัดสินว่าเขาไม่ควรจบ” แหม…ไม่ใช่ผู้พิพากษา เป็นอัยการ ขอเสนอคดีนี้ต่อศาล ก็ได้ไม่ใช่หรือคะ

อย่าเลยค่ะ อย่าไปยุ่งกับเขา เดี๋ยวจะเกิดความแค้นฝังหุ่นชั่วชีวิต ถ้าเขาเรียนไม่จบปริญญาโททั้งที่เหลืออีกนิดเดียว แล้วเอาเข้าจริงผลการวิจัยนั่น ก็แค่ทำส่งพอให้เรียนจบ ได้ปริญญาโท ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนไม่ใช่เหรอ

เอ๊ะ…หรือฉันมองแคบไป นี่เป็นปัญหาระดับประเทศนะ มหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐ กลับมีมหาบัณฑิตด้อยคุณภาพ แล้วประเทศของเราจะพัฒนาไปทิศทางใด

หรือฉันควรโทรไปคุยกับคุณน้องเจ้าของแบบสอบถาม แนะนำว่าเธอควรทำวิจัยอย่างไร แต่เธอจะฟังเหรอ คนอยากจะรีบเรียนให้จบๆ เจ๊ที่ไหนก็ไม่รู้มาบอกว่า “อย่างนี้ไม่ได้นะคะน้อง ไม่ถูกต้อง” โรคจิตหรือเปล่าเนี่ย

บ้าไปแล้วค่ะ ว่ากันตามจริงแล้ว จบปริญญาโทมาหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกค่ะ ที่ผ่านมาฉันเห็นคนจบปริญญาโทมากมาย ที่…ไม่ได้มีดีกว่าคนจบแค่ปริญญาตรี หรือน้อยกว่านั้นเลย นั่นเพราะฝ่ายหลังมีประสบการณ์ สามารถใช้งานได้จริง ไม่ได้มีแค่ปริญญาที่เป็นกระดาษใบเดียว

สรุปว่า…ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย (แล้วจะเขียนทำไมยะ) และฉันจะไม่ให้ค่า หรือตีราคาใคร ด้วยปริญญาของเขาค่ะ ขอเจอตัวจริง เห็นสติปัญญาความสามารถที่แท้จริงของเขาดีกว่า



Create Date : 07 ธันวาคม 2552
Last Update : 7 ธันวาคม 2552 14:42:32 น. 11 comments
Counter : 2094 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ..

แวะมาทักทาย และชวนไปเที่ยวAirport Linkค่ะ



สบายดีนะค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:15:17:46 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณคนผ่านทางมาเจอ

ลูกสาวน่ารักเชียวค่ะ (ใช่มั้ยคะ)


โดย: ชัชชมนต์ IP: 202.93.63.238 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:7:40:28 น.  

 
ได้ระบายอารมณ์คงจะดีขึ้นเน้อ




จริงๆ ก็ชอบตอบแบบสอบถามสำหรับคนทำวิจัยมหาบัณฑิตนะ เพราะรู้ว่าตอนเก็บข้อมูลมันสาหัสขนาดไหน แต่บางทีก็รู้สึกว่าแบบสอบถามสมัยนี้มันแปร่งๆ ใช้วัดผลอะไรได้บ้างก็ไม่รู้ ภาษาก็เมพขิงๆ วัยรุ่นอย่างเราได้แต่เง็ง



โดย: O-HO วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:22:11:28 น.  

 
สมัยนี้ การศึกษา กลายเป็นเรื่องพาณิชย์สุดๆ แข่งกันแย่งลูกค้า (นักศึกษา) คุณภาพก็เลยเป็นสิ่งที่...

นอกจากคุณภาพวิชาการด้อยลงแล้ว คุณธรรมจริยธรรมก็น้อยลง นักศึกษาหลายคนที่จะทำอะไรสักอย่างให้คณะ ถามขึ้นมาก่อนเลยว่า ตัวเขาจะได้อะไร ลืมเรื่องจิตอาสาไปเลย เฮ้อ

เศร้าอ่ะค่ะพี่ ปล่อยอย่างนี้ต่อไปแย่แน่ๆ

ปล อ่าน หลอนรักฯ จบแล้วค่า ฮา คลายเครียดดีแท้ อิอิ



โดย: bookmark IP: 118.173.198.196 วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:21:04:56 น.  

 
ดีจ้า พี่อ้อ คุณนี

555 มาโหมดระบายอารมณ์ผสมเหวี่ยงจริงๆด้วยค่ะ

ดีใจที่คุณนีอ่านหลอนรักฯ แล้วคลายเครียดจ้า


โดย: ชัชชมนต์ IP: 203.209.96.201 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:23:58:35 น.  

 
คุณธรรมและศีลธรรมหาได้จากใจครับ


โดย: แวะมา IP: 125.25.103.57 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:21:48:55 น.  

 


โดย: ณ มน วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:11:17:39 น.  

 
พี่พลขา

ขอให้ปี 2010 ที่จะมาถึงนี้ เป็นปีแห่งความสดใส เต็มไปด้วยรอยยิ้มและสีสัน ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทอง ความสำเร็จ และความสุขนะคะ

ที่สำคัญ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ เป็นที่รักของทุกคนตลอดไป...

สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ ^^

Photobucket


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:16:15:13 น.  

 
ขอบคุณน้องนะ และน้องโน้ตมากๆค่ะ


โดย: ชัชชมนต์ IP: 202.93.63.238 วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:12:07:14 น.  

 
ปีน้องเสือนี้ขอให้พี่พลมีความสุขมากๆ นะคะ เจอแต่สิ่งดีๆ คนน่ารักๆ การงานรุ่งเรือง ออร่ากระชุ่มกระชวย สุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ


โดย: bookmark วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:13:16:47 น.  

 
Happy New Year นะคะพี่พล
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
มีสุขภาพแข็งแรง และที่สำคัญขอให้เจอคนที่ใฃ่เร็วๆนะจ๊ะ


โดย: แมวเหมียวก้อย (neko-koy ) วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:18:13:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชัชชมนต์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ

ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ

งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ

Friends' blogs
[Add ชัชชมนต์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.