หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
12 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
ความแค้นเป็นดังของหวาน...บทที่ 1 เรื่องมันเริ่มในคืนฤดูหนาวที่…ร้อนอบอ้าว


โยทะกานั่งวาดแบบงานส่งอาจารย์อยู่ หนังสือวิชา construction วางอยู่เกลื่อนกลาดเต็มห้อง
หล่อนยังคิดงานไม่ค่อยออก วันนี้แม้จะอยู่ในฤดูหนาวแต่อากาศกลับอบอ้าว ร้อนแบบแปลกๆ...
ร่างบางเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม


พี่ชายยังไม่กลับ สงสัยวันนี้คงค้างกับ ” ลูกค้า “
หล่อนชินเสียแล้ว หล่อนกับพี่ชาย ปฐมพงษ์หรือหม่อนจะไม่ก้าวก่ายชีวิตของกันและกัน
พี่ชายหล่อนใช้ชีวิตกลางคืนส่วนหล่อนใช้ชีวิตกลางวัน


เสียงโทรศัพท์ในห้องกรีดดังขึ้น ร่างบางเดินเกาหัวแกรกๆไปรับสาย
ข่าวสาสน์ที่ปลายสายส่งมาทำให้หล่อนหน้าซีดเผือก ปฐมพงษ์ประสบอุบัติเหตุ!
ทางเดินไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลขาวโพลนราวกับเป็นการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด
โยทะการีบเดินจนหอบ หน้าห้องไอซียู
ปณตเพื่อนร่วมชั้นที่มีอาชีพเดียวกับพี่ชายยืนกระวนกระวายอยู่


“ พี่หม่อนอยู่ในห้องไอซียูอยู่ หมอกำลังช่วยชีวิต “
ลำคอหล่อนแห้งผาก หัวใจตีบตัน
“ พี่หม่อน ขับรถออกไปกับลูกค้า แล้วรถเกิดไปประสานงากับรถบรรทุก “
เพื่อนบอกเบาๆ หญิงสาวตัวสั่นเทาภาวนาขอให้พี่ชายอย่าเป็นอะไร


เสียงฝีเท้าเดินเร่งรีบเข้ามา
เสียงเอะอะมาจากที่ไกลๆ หล่อนเห็นชายสีกาวน์สีขาวไหวๆ
โยทะกานั่งอยู่หน้าห้องไอซียูนานเท่าใดก็ไม่รู้
จนกระทั่งหมอผ่าตัดออกมา


“ คนไข้ปลอดภัยครับ แต่ต้องรอดูอาการข้างเคียงก่อน อุบัติเหตุอาจจะมีผลกระทบกระเทือนถึงสมอง “
หล่อนยิ้มทั้งน้ำตาพี่ชายปลอดภัยแล้ว หล่อนเชื่อว่าพี่ชายหล่อนจะหายดี


ในช่วงเวลาแห่งความยินดีนั้นร่างบางได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังสัตว์บาดเจ็บ จริงสินะ ที่นี่คือโรงพยาบาล มีทั้งคนเจ็บ คนตาย
พี่ชายหล่อนรอด แต่อาจจะมีคนไข้คนอื่นที่ไม่รอด โชคมันไม่ได้มีกันทุกคน


++++++++++++++


“ อะไรนะคะ “
โยทะการ้องเสียงหลง ส่ายหัวไม่เชื่อกับคำพูดของคนตรงหน้า
“ ก็ไหนหมอบอกว่าพี่ชายหนูปลอดภัย “
“ ครับ ปลอดภัยแต่ผลกระทบทางสมองนั้นค่อนข้างหนัก “
นายแพทย์ชราขยับแว่นอย่างอึดอัดใจ


“ หมอหมายความว่ายังไงคะ...”
“ หมอหมายถึง พี่ชายคุณอาจประสบภาวะที่เรียกว่าสมองตาย
เป็นเจ้าชายนิทรา “


โยทะการู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกเป็นสีซีเปีย ทุกสิ่งเคลื่อนไหวแบบสโลวโมชั่น
คำว่าเจ้าชายนิทราวนเวียนอยู่ในหัวหล่อน นิทรา...ไม่ตื่น...สมองตาย
“ มีทางรักษาไหมคะหมอ “
หล่อนถามเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ


“ ปัจจุบันยังครับ ทำได้แค่ประคองอาการ “
เด็กสาวออกมาจากห้องหมอ น้ำตาไหลพราก
พี่ชายจะหลับ ไม่ตื่น เหมือนตายทั้งเป็น พี่ชายจะไม่ตื่นขึ้นมาหยอกล้อ
กวนประสาทหล่อนอีกแล้ว พี่ชาย...


โยทะกาขึ้นลิฟท์กดเลือกชั้นอย่างเลื่อนลอย
มีบรุษพยาบาลเข็นเตียงคนไข้สีขาวมีผ้าคลุมหน้าเข้ามา

ชายตัวสูงสวมเสื้อกาวน์ขาวยืนอยู่ข้างหล่อน
ไหล่หนาของชายคนนั้นสั่นไหวราวกับสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง
ลิฟท์มาถึงชั้นล่าง หล่อนเดินไปอีกทาง
ขณะที่เขาไปทางตรงกันข้าม แต่ทุกทางจะกลับไปพบกันที่ทางออก


++++++++++++++++

“ ไหม แกจะเอายังไงต่อล่ะ “
ปณตมาเยี่ยมพี่ชายหล่อนในห้องพัก โยทะกาแทบจะมากินนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชาย
ที่นอนนิ่งท่ามกลางเครื่องมือช่วยชีวิตระโยงระยาง แต่ไม่ไหวติง


“ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างสูง “
โยทะกานิ่งเงียบ หล่อนยังคิดอะไรไม่ออก หล่อนเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่งคณะสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง หล่อนมีกันแค่สองคนพี่น้อง ไม่มีมีญาติที่ไหนหรือถ้ามีก็ไม่มีใครสนใจพวกหล่อน


“ ย้ายโรงพยาบาลดีไหม ไปอยู่โรงพยาบาลของรัฐ “
หล่อนก็อยากทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มีชื่อด้านการรักษาโรคทางสมอง


หมอที่นี่ได้รับคำร่ำลือกันว่าเก่งที่สุด แต่ค่ารักษาพยาบาลก็แพงที่สุดเช่นเดียวกัน ถ้าไปอยู่โรงพยาบาลรัฐบาลแล้วรอการรักษาที่ยาวนานขนาดนั้น หล่อนไม่อยากเสี่ยง


“ แล้วตำรวจเค้าว่ายังไงมั่งเรื่องคดี “
ปณตยักไหล่เสมองไปที่หน้าต่าง
“ ตำรวจบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ ขับรถด้วยความเร็วจนรถเสียหลัก พุ่งไปชนรถบรรทุก
ส่วนลูกค้าก็...เสียชีวิต “
โยทะกาใจกระตุกวูบ เสียชีวิต ถ้าเช่นนั้นก็เป็นความผิดละสิ


“ โชคชะตานี่มันประหลาดนะไหม ชั้นขอปากเสียหน่อยเถอะบางทีที่พี่ชายแกเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนี้
มันดีกว่าตื่นมารับความจริง โดนตราหน้าว่าทำให้คนอื่นตาย ยิ่งญาติทางฝ่ายคนที่ตายมีอิทธิพลมากด้วย “
ปลายประโยคนั้นหวั่นวิตก

แต่ร่างบางไม่ทันได้ฟังเพราะน้ำตาไหลอาบแก้มเสียก่อน เพื่อนลูบศรีษะที่ซอยผมสั้นนั้นเบาๆ
“ อย่าคิดมากเลยแก เรื่องร้ายๆมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดหรอก มันจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป “

+++++++++++++++++++++++


โยทะกาไปเรียนด้วยหัวใจแห้งแล้ง เรียนไม่รู้เรื่อง ทุกคนต่างเห็นใจหล่อนทั้งนั้น
“ มีอะไรให้ช่วยก็บอกชั้นนะแก “
พัชรพงษ์เพื่อนสาวตบบ่าปลอบ หล่อนยิ้มเซียวๆให้
“ ไหม พัช ไปกินข้าวกันไหม เดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง “
จิรัฐิติกาลหรือจีน หนุ่มรูปหล่อพ่อรวยเข้ามาทักสองสาว


“ จีน ข้าวน่ะชั้นไม่อยากกิน แต่อยากกินอย่างอื่น “
พัชรพงษ์แกล้งจีบปากจีบคอ มาเกาะแขนชายหนุ่ม เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากผู้พบเห็น
ตกเย็นโยทะกาไปเยี่ยมพี่ชายตามปรกติ หล่อนเห็นร่างสูงสวมเสื้อกาวน์ไหวๆเดินออกไปจากห้องพี่ชาย
พยาบาลเชิญหล่อนไปที่ห้องการเงิน


เด็กสาวกลืนน้ำลายอย่างฝืดเฝือเมื่อเห็นตัวเลขค่ารักษาพยาบาล
พี่ชายมาอยู่อาทิตย์เดียวค่ารักษาพยาบาลเป็นเลขถึงหกหลัก หล่อนยังไม่รู้เหมือนกันว่าเงินเก็บของพี่ชายจะพอค่ารักษาหรือเปล่า แล้วในอนาคตเล่าหล่อนจะหาเงินมาจากไหน


“ คุณโยทะกาคะ คุณหมอเชิญที่ห้องค่ะ “
เด็กสาวแปลกใจกับคนตรงหน้า หมอหนุ่มหล่อ ร่างสูงใบหน้าสะอาดสะอ้าน สวมแว่นตาอย่างดีรับกับใบหน้า
ไม่ใช่หมอเจ้าของไข้ของพี่ชายคนเก่า


“ ผมมาแทนแพทย์คนเก่า ท่านไปทำงานวิจัยด่วน ผมชื่อรังสฤษฏ์”
สายตาที่มองมาที่หล่อนนั้นมีแววแปลกประหลาด ใบหน้านั้นยิ้มแบบคนใจดี
แต่โยทะกากลับรู้สึกเย็นยะเยือก


“ เราจะมาคุยกันเรื่องพี่ชายของคุณ อาการของพี่ชายของคุณคือสมองตาย เรียกง่ายๆคือเจ้าชายนิทรา “
“ จะมีสิทธิ์หายไหมคะหมอ “
เด็กสาวพึมพำเสียงครือ


“ จากเปอร์เซ็นต์การรายงานการรักษาพยาบาลโรคทางสมอง มีคนเคยรักษาหาย แต่ค่อนข้างน้อย
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือค่ารักษาพยาบาลมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง “
หล่อนกลืนน้ำลาย นี่แหละคือเรื่องที่น่ากังวล


“ หมอช่วยรักษาพี่ชายชั้นด้วยนะคะ เท่าไหร่ชั้นก็จะยอมจ่ายค่ะ “
“ ค่อนข้างยากนะครับเคสนี้ อุบัติเหตุส่งผลกระทบมากเหลือเกิน ถ้ารักษาหายแล้วอาจจะกลับมาไม่เหมือนเดิม “
หมอหนุ่มพูดช้าๆ ดวงตาเรียวยาวมองลอดแว่นมาที่หล่อน


“ ถึงจะเป็นยังไงชั้นก็ยอมค่ะ หมอช่วยรักษาพี่ชายชั้นด้วยเค้าเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของชั้น เรามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง “
สิ้นประโยคนั้นของหล่อน แววตาของหมอคนนั้นวาววับขึ้นแว่บหนึ่งก่อนที่จะราบเรียบดังเดิม


“ คุณรักพี่ชายคุณมากเหรอครับ “
คนตรงหน้าถามเสียงเรียบ
“ ค่ะ ชั้นรักพี่ชาย พี่ชายเป็นทุกอย่างของชั้น “
หล่อนเสียงเครือ


“ ผมก็มีน้องสาว น้องสาวผมก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผมเหมือนกัน ทุกอย่าง…“
หมอสายตาทอดไปไกล ก่อนที่จะเป็นประกายวับดุดัน


“ ถ้าผมเป็นคุณผมจะปล่อยให้เค้าตายไปซะ ผู้ชายสวะพรรค์นั้น “
โยทะกาขมวดคิ้ว เมื่อกี้หมอหน้าหล่อว่ายังไงนะ...
“ ผู้ชายที่ขายตัวพรรค์อย่างนี้รีบๆตายไปซะก็ดี อยู่ไปก็รกโลก “


“ หมอไม่มีสิทธิ์มาว่าพี่ชายของชั้นนะ หมอมีสิทธิ์แค่รักษา ไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์คนไข้ “
เด็กสาวแว้ดขึ้น จ้องหน้าเขาไม่ลดละ


“ ผมมีสิทธิ์สิ ผมเป็นทั้งหมอ แล้วก็ผู้เสียหาย เพราะคนที่พี่ชายคุณพาไปตายน่ะ คือน้องสาวผม
พี่ชายผู้ชายขายตัวของคุณหลอกน้องสาวผมไปตาย แต่มันกลับรอด “
ชายหนุ่มตะโกนใส่หน้าหล่อน โยทะกาตกตะลึง
“ ไม่จริงน่ะ “


“ ไม่เชื่อคุณก็ไปเค้นคอถามไอ้พี่ชายชั่วของคุณสิ “
หล่อนพูดอะไรไม่ออก นึกถึงคำพูดของปณต คนหนึ่งรอดอีกคนหนึ่งตาย…


“ น้องสาวผม น้องสาวผม เธอสวย เธอน่ารัก เธออ่อนต่อโลก จนมาเจอกับพี่ชายชั่วๆของคุณ “
“ หยุดซะที หยุดว่าพี่ชายชั้นซะที เรื่องมันผ่านไปแล้ว น้องคุณก็ตาย พี่ชายชั้นก็ไม่ฟื้น
ถ้าคุณไม่อยากรักษาให้พี่ชายชั้น ชั้นจะเปลี่ยนหมอ “


“ จะไม่มีการเปลี่ยนหมออะไรทั้งนั้น “
ชายหนุ่มเสียงเข้มท่าทางคุกคามหล่อนเต็มที่


“ ไม่! ชั้นจะเปลี่ยนหมอ “
“ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของผม ถ้าผมถอดเครื่องช่วยหายใจออกก็คือพี่ชายคุณไม่รอด “
โยทะกาชาวาบทั่วร่างกาย ไม่อยากเชื่อว่านี่คือคำพูดของคนเป็นหมอ
“ คุณไม่มีจรรยาบรรณเลยหรือยังไง “


“ ผมจะเก็บไว้ใช้เมื่อมันถึงคราวที่จำเป็นเท่านั้น “
“ คุณต้องการอะไร “
เด็กสาวเค้นเสียงลอดไรฟัน


“ รักษาให้หมอนั่นหาย แล้วฟื้นขึ้นมารับโทษที่มันทำให้น้องสาวผมต้องตาย หรือถ้ามันไม่หายก็ต้องตายอย่างทรมาน “
คนตรงหน้าดวงตาวาววับยื่นหน้ามาใกล้หล่อน โยทะการู้สึกถึงความจริงจังในน้ำเสียงนั้น


ผู้ชายคนนี้พูดเหมือนคนบ้า อันตราย…ร่างบางเหลือบไปทางประตู แต่หมอชุดขาวไวกว่าคว้าร่างบางไว้ก่อน


“ คุณรู้หรือเปล่าว่าการสูญเสียมันเป็นยังไง คุณรู้ไหมว่าผมรู้สึกยังไงที่รู้เรื่อง
คุณรู้หรือเปล่า…ทำไมต้องเป็นน้องผมด้วย “
เสียงเขาคำรามราวกับสัตว์บาดเจ็บ หล่อนรู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายแผ่มาจากชุดสีขาวที่เขาสวมอยู่


“ ชั้นไม่รู้ ชั้นขอโทษแทนพี่ชายชั้นด้วย ทุกคนก็สูญเสียทั้งนั้น “
“ ไม่ พี่ชายคุณยังอยู่ แต่น้องสาวผมไม่รอด เธอไปแล้ว น้องสาวผม “
มือนั้นบีบกระชับราวกับจะให้หล่อนแหลกไปด้วยแรงเขา
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พยาบาลวัยกลางคนยิ้มละไมเข้ามา


ชายหนุ่มปล่อยมือเด็กสาวและหันมายิ้มกับผู้มาใหม่
“ ก็อย่างที่ผมแจ้งให้คุณทราบละครับคุณโยทะกา คุณลองไปคิดดูเรื่องพี่ชายคุณนะครับ “
เสียงนั้นทุ้มนุ่มอบอุ่น จนไม่อยากเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับที่แสดงท่าทีคุกคามหล่อนเมื่อสักครู่


“ แล้วผมจะนัดคุณคุยเรื่องนี้ใหม่นะครับ “
ชายหนุ่มโน้มตัวมากระซิบข้างหู โยทะกาออกมาจากห้องพร้อมกับพยาบาลวัยกลางคน พอประตูห้องปิดลงร่างบางก็ทรุดลงทันที


“ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ “
พยาบาลร้องเสียงหลง โยทะกาหมดแรง หัวหมุน นี่มันอะไรกันนี่…

+++++++++จบบทที่1+++++++++





Create Date : 12 เมษายน 2552
Last Update : 12 เมษายน 2552 13:25:18 น. 1 comments
Counter : 376 Pageviews.

 
เราติดตามเรื่องนี้จาเวบ sirinda
รอร้อรอให้ ลาชา มาอัพตั้งนาน
ก็มะมาซักที
แบบว่าอยากให้แต่งต่อให้จบอะค่ะ
ฝากด้วยนะคะอยากอ่าน


โดย: Zo-ey IP: 58.8.151.182 วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:3:43:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.