1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
...หลงเสียงนาง บทที่ 7
“ที่คุณพูดเมื่อกี้นี้หมายความว่ายังไง” มณีมัญชุญ์ถามคนที่ยืนหันหลังมองบึงน้ำใหญ่ในโอเอซิสอยู่ หญิงสาวหอบเล็กน้อยกับการเดินเร็วจนกลายเป็นเกือบวิ่งมาเพื่อให้ทันเขา ชี้คบารัคเงียบไปครู่ก่อนที่หันมาเผชิญหน้ากับหล่อน ร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดคลุมทั้งตัวสีดำแบบอาหรับนั้นยิ่งทำให้เขาดูราวกับภูตผีในเวลารัตติกาล เขาเคียงคอนิดๆ ใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาคมกล้าจับอยู่ที่ใบหน้างาม “ที่คุณพูดเมื่อกี้?” หญิงสาวถามซ้ำ รู้สึกใจไม่ดีกับความเงียบที่รายล้อมอยู่ขณะนี้ “มณีมัญชุญ์” บารัคเรียกหล่อนเสียงต่ำฟังแล้วราวกับคำราม “เจ้ารู้ไหมว่าครอบครัวเจ้ามีหนี้สินมากเท่าไร” ใจหล่อนเต้นระรัวแต่สีหน้าพยายามปรับให้เป็นปรกติ ครอบครัวของหล่อนเป็นครอบครัวคนชั้นกลางมีกิจการเป็นโรงงานทำอัญมณีเล็กๆ ของตนเอง เรื่องโรงงานขาดสภาพคล่องหล่อนก็พอรู้อยู่ แต่พ่อแม่มักปลอบว่าเงินในการดำเนินกิจการกับเงินที่ใช้เพื่อการศึกษาของ ลูกๆ นั้น เป็นคนละส่วนกัน มณีมัญชุญ์จึงยังได้เรียนในต่างประเทศ มีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ “หนี้สินหลายสิบล้านดอลล่าห์มีแต่ทำให้ฐานของบริษัทผุกร่อน” “คุณพูดมาเลยดีกว่าฉันไม่อยากอ้อมค้อม” มณีมัญชุญ์ตัดบท เริ่มรำคาญการคุกคามของเขา หล่อนเบื่อที่จะเดาจุดประสงค์ของผู้ชายคนนี้ ยิ่งคิด...ใจยิ่งฟุ้งซ่านสับสน การที่ในหัวแต่เรื่องของเขาเต็มไปหมด จนบางครั้งราวกับเป็นความคิดถึง สัญชาตญาณระแวงภัยในใจลั่นเตือนอยู่เสมอ ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินกว่าจะเอาใจไปพันผูก “เจ็ดล้านดอลล่าห์แลกกับข้อเสนอหนึ่ง” หญิงสาวเบิกตาโพลงตัวแข็งไปชั่วขณะ เงินกับข้อเสนออย่างนั้นหรือ... เขายิ้มมุมปากเมื่อเห็นปฏิกิริยาหล่อน ใบหน้าคมเข้มดวงตาแวววาวยื่นเข้ามาใกล้ จนหล่อนไม่ทันได้ระวัง “อยู่กับข้า...เป็นผู้หญิงของข้า แลกกับหนี้สินของครอบครัวเจ้า” “พักเที่ยงแล้วนะครับ ไม่ไปพักเที่ยงเหรอ” มณีมัญชุญ์สะดุ้งนิดๆ รีบปิดหน้าจอเว็บไซต์นิยายออนไลน์ทันที หนุ่มเชิ้ตฟ้ายิ้มบางๆ ให้ ก่อนที่จะเดินไปรวมกลุ่มกับวิศวกรหลังห้อง ในกลุ่มนั้นหล่อนเห็นปริวัตรมองมาทางหล่อนเช่นเดียวกัน แต่ก็แค่แว่บเดียว...แว่บเดียวจริงๆ ‘ระบบใหม่ทำงานออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต ทุกครั้งๆ ที่เราทำรายการกับลูกค้า ข้อมูลจะเก็บไว้ที่เซฟเวอร์ของโปรแกรม’ หล่อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หนุ่มเชิ้ตฟ้าบรรยายอยู่หน้าห้อง แต่ดูเหมือนความสนใจจะเทไปอยู่ที่วิศวกรระบบซึ่งนั่งจับกลุ่มกันอยู่แถวหลัง สุด ผู้ชายรูปหล่อที่แนะนำตัวว่าชื่อปริยวัตรนั่งพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่หน้าจอโน้ตบุค ‘หล่อ’ สาวๆ แอบกระซิบกระซาบกัน ‘หน้าตาแบบนี้แขกชัวร์ๆ’ ‘หล่อปานพระเอกหนังแขกเลยละแก’ . ..และอีกหลายเสียงที่วิจารณ์ชายหนุ่ม การเทรนเรื่องโปรแกรมรับสายใหม่ช่างน่าเบื่อ ด้วยความที่เป็นการเทรนบนสไลด์บ้าง บนกระดาษบ้าง การชมอาหารตาเป็นหนุ่มหล่อจึงช่วยคลายอาการเซ็งให้หลายคน ส่วนมณีมัญชุญ์นั้นไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าเขา แม้จะหล่อปานเทพบุตรสักเพียงใดทว่าหล่อนเจอฤทธิ์ความดุของเขามากับตัวแล้ว คะแนนส่วนนั้นมาหักลบความรูปหล่อจนตกวูบ หญิงสาวเบื่อการเทรนจึงเปิดอ่านนิยายออนไลน์เล่นจนเจอกับ ‘จอมใจชี้คทมิฬ’ ที่ชมจันทร์เพิ่งโพสลงอินเตอร์เน็ต ...แหม เพิ่งจะบ่นเรื่องพล็อตน้ำเน่าไปเมื่อวันก่อน วันนี้สาวรุ่นพี่ก็เอามาใช้เสียแล้ว ชี้คบารัคก็ช่างกระไรไล่ต้อน ‘แฮปปี้’ เสียได้ แทนที่จะบอกไปตรงๆ ก็ได้ว่าห่างๆ ไฟซาลหน่อย เพื่อความเหมาะสมแล้วก็เพื่อลดอาการหึงของของตัวเอง คิดไปหล่อนก็นึกสมเพชพระเอกในนิยายไป พระเอกเก่งกล้าต่อกรกับศัตรูจำนวนมากแต่ขี้ขลาดกับแค่นางเอกคนเดียว จะพูดความจริงในใจยังไม่กล้า นี่คงเป็นเหมือนที่เขาว่ากันว่าแพ้ทาง “มะขามๆ” จู่ๆ ชมจันทร์ก็เดินมาดึงแขนหล่อนไปในห้องทำงาน เมื่อหล่อนออกจากห้องเทรนมาแล้ว “อะไรเจ้ชม หนูจะไปกินข้าว เดี๋ยวบ่ายมีเทรนอีก” มณีมัญชุญ์ท้วง กระนั้นสาวรุ่นพี่ก็ไม่ฟัง “ฉันมีอะไรจะถามแกหน่อย เรื่องวิศวกรที่ชื่อปริยวัตร” กว่าหญิงสาวจะตอบคำถามสาวรุ่นพี่เสร็จ เวลาพักทานข้าวกลางวันก็หมดไปแล้วยี่สิบนาที เครือข่ายสาวโสดในบริษัทนี่ทำงานกันมีประสิทธิภาพจริงๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมงขนาดไม่ไปนั่งเทรนอยู่ในห้องเดียวกันชมจันทร์ยังรู้เรื่อง ปริยวัตรอีกแน่ะ ‘เขานี่แหละหนุ่มหล่อเทพที่ฉันเจอตอนแกไปเข้าห้องน้ำเมื่อวันอาทิตย์ที่เราไปซื้อของกันไง’ รุ่นพี่เฉลยแต่หล่อนกลับใจเจ็บแปลบ เมื่อนึกได้ว่าตนเองเจอกับวริญาภรในห้องน้ำวันนั้นเช่นกัน ด้วยเห็นว่าเวลาพักทานข้าวกลางวันถูกลิดรอนมณีมัญชุญ์จึงตัดสินใจว่าจะไป ซื้อขนมปังในร้านสะดวกซื้อใกล้บริษัทมาทานดีกว่า ระหว่างที่กำลังเลือกขนมปังไส้หมูหยองกับไส้ทูน่านั้น จู่ๆ ซองขนมปังไส้ไก่ก็ลอยมาอยู่ตรงหน้า “มะขามชอบขนมปังไส้ไก่ยี่ห้อนี้ไม่ใช่เหรอ” เสียงที่คุ้นเคย...ไรวินทร์ หล่อนเม้มปากแน่นสนิทไม่ยอมหันไปมองเขา “มะขามชอบกินขนมปังไส้ไก่กับนมช็อคโกแลตนี่นา” หล่อนเดินหนีไปทางทางชั้นขนมขบเคี้ยว มือยังถือทั้งขนมปังไส้หมูหยองและไส้ทูน่าอยู่ “มะขามคุยกันหน่อยสิครับ” เสียงไรวินทร์อ้อนวอน หูหล่อนได้ยิน แต่ตาจ้องอยู่ที่มันฝรั่งทอดซึ่งพิมพ์บรรยายสรรพคุณว่า...รสเผ็ดนรกแตก “มะขาม ผมขอโทษเรื่องที่ผ่านมา” อดีตคนรักเก่ายื่นมือมาจะจับไหล่หล่อน แต่มณีมัญชุญ์เบี่ยงหลบเสีย “วินทร์ ฉันอโหสิกรรมให้คุณไปแล้ว ชาตินี้เราจะได้ไม่ต้องติดค้างอะไรกันอีก” หล่อนพยายามบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในใจกำลังโทษความบังเอิญของโชคชะตา ร้านสะดวกซื้อทั่วกรุงเทพฯมีเป็นร้อย ทำไมต้องจำเพาะเจาะจงมาซื้อของร้านเดียวกันด้วย “มะขามเป็นคนดีจริงๆ ดีจนผมรู้สึกว่าตัวเองเลวมาก” วาจาเขาสุดจะทนจนหล่อนต้องหันขวับไปมอง “ไม่ต้องรู้สึกหรอกนะวินทร์ คุณเลวจริงๆ เลยต่างหาก” สีหน้าเขาสลด ผิดจากไรวินทร์คนที่เคยทิ้งหล่อนไปอย่างเย็นชา “เราเลิกกันแล้ว เดินคนละทาง อย่ามาทัก อย่าเจอกันอีกเลย” “มะขามผมขอโทษ ผมผิดที่ทิ้งคุณใช้หนี้อยู่คนเดียว ด่าผมเถอะ ต่อว่าผมแรงๆ ให้สมกับกับความเลวที่ผมทำ” อะไรกันละนี่...มณีมัญชุญ์ขมวดคิ้ว ไรวินทร์มีท่าทีแปลกๆ ไม่มีมาดคนเป็นต่อหล่อนเหลืออยู่เลย “เรื่องหนี้ผมจะมาใช้คืนทั้งหมด มะขามบอกมาได้เลยว่าเท่าไหร่ ผมยินดีชดใช้” “ไม่จำเป็น!” มณีมัญชุญ์สะบัดหน้าพรืด สาวเท้าก้าวจะเดินออกไปจากชั้นสินค้านั้น “เดี๋ยวก่อนมะขาม ฟังผมก่อน” มือขาวของไรวินทร์จับแขนหล่อนไว้ ยึดร่างบางนั้นไว้นิ่ง “ผมยินดีชดใช้ ผมยินดีทำทุกอย่าง” “เพื่ออะไรล่ะวินทร์ เรื่องของเรามันจบลงไปแล้ว” เขานิ่งไปครู่ก้มหน้าลงมองพื้น ก่อนที่จะสบตากับหล่อน “ผมอยากให้เรากลับมาเหมือนเดิมนะมะขาม ผมรู้แล้วล่ะว่าผมรัก แล้วก็คิดถึงคุณขนาดไหน ไม่มีใครดีเท่าคุณอีกแล้ว” ความเงียบครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ชั้นขนมขบเคี้ยวราวกับกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของมณีมัญชุญ์และไรวินทร์ คนหนึ่งตื่นตระหนกกับคำสารภาพ ขณะที่คนหนึ่งนิ่งรอคำพูดต่อไปจากปากบาง “คุณกำลังจะแต่งงานนะวินทร์” หล่อนพึมพำเรียกสติ ไม่รู้ว่าเป็นสติของใคร ...เขาหรือหล่อนกันแน่ “ผมจะยกเลิกมันแล้ว ผมจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากคุณนะมะขาม” “มะขามซื้อของเสร็จหรือยังครับ” เสียงทุ้มต่ำติดจะขึ้นจมูกดังอยู่ใกล้ ปริยวัตรเดินเข้ามาในชั้นขนมขบเคี้ยว “ซื้อขนมปังทูน่าให้ผมด้วยเหรอเนี่ย คุณรู้ใจผมเสมอนะมะขาม” เขาหยิบขนมปังจากมือหล่อนมาถือ ท่ามกลางอาการงุนงงของหล่อนและไรวินทร์ “อ้าว! ผมขอโทษ ไม่ทันเห็นว่าคุณคุยกับเพื่อนอยู่ครับมะขาม” ชายหนุ่มค้อมศีรษะนิดๆ ขอโทษอย่างสุภาพ มือข้างหนึ่งมาแตะไหล่บาง มณีมัญชุญ์หันมามองไหล่ตัวเองที่มือเขาแตะอยู่แล้วประสานสายตากับผู้มาใหม่ ดวงตาสีดำเข้มมองมายังหล่อนราวกับร่ายมนต์สะกด หากดวงตานั้นเปล่งวาจาได้ ดวงตาของปริยวัตรคงจะเอ่ยว่า...หยุด! ฟังผม ทันใดนั้นใจของสาวตัวเล็กก็คิดถึงงูในฝัน ...ใช่เลย ดวงตาวาวดำเข้มอย่างนี้แหละ “มะขาม” ไรวินทร์ครางเมื่อเห็นหนุ่มสาวยืนประสานสายตากัน มณีมัญชุญ์ยืนตาลอยมองผู้ชายตัวสูงคนนี้เสียเคลิ้ม ขณะตัวคนถูกมองเองก็ยิ้มน้อยๆ ให้ ไรวินทร์รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นส่วนเกิน ข่าวที่ออกมาจากปากแฟนเพื่อนไม่น่าจะผิด ‘ผู้หญิงที่ชื่อมะขามทั้งผอมทั้งโทรม’ แฟนเพื่อนซึ่งเป็นผู้หญิงขี้หึงจีบปากจีบคอเล่า หลังจากที่เจอกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ในผับหรู แฟนเพื่อนไม่ไว้ใจเพราะเห็นผู้ชายมองตามมณีมัญชุญ์ตาปรอย ไรวินทร์จึงสบโอกาสและถามถึงสถานที่พบกับมณีมัญชุญ์ครั้งสุดท้าย โชคดีที่เขาไปทำธุระในย่านธุรกิจแห่งหนึ่งจึงพบกับมณีมัญชุญ์โดยบังเอิญ ตอนที่เขาเห็นหล่อนเข้าไปในตึกของสำนักงานใหญ่เอสไอซี หล่อนยังเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีของสาวที่กำลังมีความรักเลย แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร? “ถ้าคุยกันเสร็จแล้ว ผมกับมะขามขอตัวนะครับ เราต้องไปทำงานต่อ ไปเถอะ” มือของปริยวัตรเลื่อนมาแตะที่เอว หญิงสาวไหวตัวหนีนิดหนึ่งเพราะรู้สึกถึงการแสดงออกความสนิทสนมเกินไป ทว่าเขากับทำตาดุเป็นสัญญาณให้นิ่งเสีย “เดี๋ยวมะขาม” ไรวินทร์ไม่ยอมแพ้สาวเท้าจะตามมา คราวนี้มือที่แตะเอวเลื่อนขึ้นมาโอบบ่าเสียเลย มณีมัญชุญ์อ้าปากจะท้วง แต่ดวงตาดุของเขาก็ออกคำสั่งให้เงียบตามเคย อดีตคนรักของหญิงสาวชะงักเมื่อเจอไม้นี้ เขาไม่ทันได้คิดมาก่อนว่าหล่อนจะมีแฟนใหม่ แถมหน้าตาหล่อเหลาท่าทางมีอำนาจ ปริยวัตรดันไหล่บังคับให้มณีมัญชุญ์เดินตามมาจนถึงเคาน์เตอร์คิดเงิน “สามสิบบาทค่ะ” แคชเชียร์บอก หล่อนควานหาเศษเหรียญจากกระเป๋ากางเกง แต่ธนบัตรใบละห้าร้อยก็มาวางข้างถุงขนมปังทูน่าเสียก่อน “คิดรวมกันนะครับผมขอเพิ่มแซนวิชแฮมชีสสอง ไส้กรอกชีสหนึ่ง ไส้กรอกวุ้นเส้นหนึ่ง ฟุตลองไก่สอง ฟุตลองห่อหมกหนึ่ง แฮมเบอร์เกอร์กุ้งหนึ่ง ...แล้วก็น้ำนี่ด้วยนะครับ” เขาหยิบขวดน้ำส้มจากลังโฟมน้ำแข็งข้างเคาน์เตอร์คิดเงินมาเพิ่มสองขวด “เราจะกินอาหารกลางวันด้วยกัน” “ฉันไม่...” หล่อนอ้าปากจะท้วงแต่เห็นไรวินทร์เดินมาข้างหลังเขา จึงตัดสินใจสงบคำเสีย ก่อนจะออกจากร้านสะดวกซื้อขณะที่ปริยวัตรกำลังเปิดประตูให้ เขาก็กระซิบเบาๆ “ผู้ชายคนนั้นยังตามมา เราต้องเดินกลับไปด้วยกัน อย่าเดินห่างจากผม” มณีมัญชุญ์คิดว่านั่นคือการกระซิบแม้จะแปลกใจกับปลายประโยคที่ฟังดูยังไงก็เป็นคำสั่งก็ตาม ระหว่างทางต่างคนต่างเงียบแม้จะเดินข้างกัน วิศวกรหนุ่มทีแรกก็เดินเร็วทำเอาคนขาสั้นอย่างหล่อนต้องซอยเท้าตามให้ทัน ชะรอยเขาคงจะรู้สึกจึงผ่อนฝีเท้าลงบ้าง เมื่อร่างกายเคลื่อนไหวช้าลงสมองหญิงสาวจึงได้คิดใคร่ครวญถึงการพบเจอการโดย ไม่คาดฝันระหว่างหล่อนและไรวินทร์ ตั้งแต่ที่ตึกสำนักงานใหญ่จนมาถึงที่ตึกสำนักงานย่อยแห่งนี้ ทุกอย่างมันบังเอิญเกินไป ราวกับใครบางคนจงใจทำให้เกิด ...ซึ่งไม่ใช่หล่อนแน่ เพราะมณีมัญชุญ์สาปส่งผู้ชายหน้าหล่อใจทรามคนนี้ไปแล้ว ถ้าไม่ใช่หล่อนงั้นก็คงเป็นไรวินทร์ แต่เขาจะกลับมาหาหล่อนทำไมก็ในเมื่อหล่อนไม่มีอะไรให้เขาอีกแล้ว ...เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของไรวินทร์อย่างนั้นหรือ “คุณ! จะเดินเลยบริษัทแล้วนะ” คนเสียงดุเรียกก่อนที่มณีมัญชุญ์จะเดินเลยไปยังป้ายรถเมล์หน้าบริษัท หญิงสาวจึงได้สติและรีบเดินก้มหน้าหงุดเข้าไปในบริษัททันทีโดยไม่เหลียวหลัง หล่อนจึงไม่รู้เลยว่าคนที่เดินข้างมาตลอดทางมองตามหลังหล่อนด้วยสายตาครุ่น คิดเช่นไร “ห๋า...มีอย่างงี้ด้วยเหรอ” ชมจันทร์เปลี่ยนสถานะในโปรแกรมรับสายเป็น ‘เอ้าท์(out)’ ทันที เมื่อมณีมัญชุญ์เข้ามาหาในห้องทำงานแล้วเอ่ยชื่อไรวินทร์ สาวตัวเล็กจึงเล่าเรื่องตั้งแต่เจอเพื่อนของเขาในซุปเปอร์มาร์เก็ตไล่ไปถึง การเจอกันที่สำนักงานใหญ่และเมื่อสักครู่ สดๆ ร้อนๆ “แล้วแกเอาตัวรอดจากเขามาได้ยังไงเนี่ย” พอรุ่นพี่ถามหล่อนจึงนึกถึงปริยวัตรขึ้นมาได้ โอ๊ย...ตาย หญิงสาวครวญในใจ เขามาเห็นเรื่องแย่ๆ ของหล่อนจนได้ แต่เอ...ทำไมปริยวัตรถึงยื่นมือเข้ามาช่วยคนไม่รู้จักมักจี่อย่างหล่อนได้ เล่า “ฉันว่าแกลำบากแล้วนะมะขาม ขืนนายวินทร์นั่นรู้ที่ทำงานของแก ต่อไปก็ต้องรู้ที่อยู่ แล้วถ้าเขามารังควาญแกล่ะ จะทำยังไง” “แต่หนูไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาแล้วนะเจ้ เงินก็ไม่มี มีแต่หนี้” สาวรุ่นน้องคราง ใจยังเต้นไม่เป็นส่ำจากอาการตกใจ สับสน และหวาดวิตก “อืม...แกเคยได้ยินคำว่าหมาจนตรอกไหมมะขาม ฉันว่านายวินทร์นั่นจะต้องมีปัญหากับผู้หญิงทางโน้นหนัก ชนิดที่คงจะโดนตัดขาด เขาถึงหวนกลับมาหาแกไงล่ะ” ชมจันทร์วิเคราะห์ เล่นเอาหล่อนเงียบเพราะเห็นด้วยกับรุ่นพี่ “แต่ก่อนอื่นเรามาแก้ปัญหาเฉพาะกันก่อน ทำยังไงที่จะให้นายวินทร์ไม่รู้ที่อยู่ของแก” “ทำยังไงดีล่ะเจ้ อย่าบอกนะว่าหนูต้องนั่งแท็กซี่ย้อนไปลงหลายๆ ป้าย แล้วนั่งรถเมล์กลับมาบริษัทน่ะ เปลืองเงินตาย” อืม...ก็ใช่นี่เนอะ มณีมัญชุญ์ยังเป็นสาวที่เต็มไปด้วยหนี้สินอิรุงตุงนัง แถมตอนนี้ยังมีหนี้ของครอบครัวเพิ่มขึ้นมาอีก เรื่องจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในตอนนี้คงไม่ดีแน่ “เออ...เดี๋ยวแป๊บหนึ่งขอคิดก่อน เกิดเป็นสาวฮอตนี่มันลำบากทั้งตอนรักตอนเลิก แถมมีตอนรักรีเทริ์นมาตบท้ายอีก” มิวายชมจันทร์ยังหยอดมุกหน้าตาย มณีมัญชุญ์จึงอดขำรุ่นพี่สาวไม่ได้ สาวผิวคล้ำนิ่งคิดไปสักครู่ก่อนจะดีดนิ้วเปาะ “เออ...ใช่ สัปดาห์นี้ แกเทรนระบบใหม่ทั้งอาทิตย์นี่เนอะ เข้างานกลับบ้านตามเวลาของพวกอยู่ออฟฟิศ งั้นก็ต้องพึ่งยัยเปมี่ รอเดี๋ยวนะ” ชมจันทร์หยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะขึ้นมากดหาเพื่อน สนทนากันสักพักก็ได้ข้อสรุป “โอเคมะขาม ระหว่างที่เทรนระบบแกขึ้นรถไปกลับกับยัยเปมี่เลย ส่วนหลังเทรนเข้ารอบงานปรกติแกก็ขึ้นรถรับส่งของบริษัทแล้วให้เขาขับรถวนมา ส่งอีกที” รุ่นพี่สรุปให้แม้มณีมัญชุญ์จะบอกว่าเกรงใจเปมิกาก็ตาม “เกรงใจบ้าอะไรฮึ! ยัยมะขาม เรื่องแค่นี้พอช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป ยังไงยัยเปมี่มันก็ผ่านหอเราอยู่แล้ว ตัวแกก็ไม่หนักเท่าไหร่ ไม่เปลืองน้ำมันรถมันหรอกน่า” มณีมัญชุญ์ได้แต่น้ำตาซึมยกมือไหว้ชมจันทร์ประหลกๆ แม้อยู่ในช่วงมรสุมร้ายแห่งชีวิต ชมจันทร์นี่แหละเป็นนางฟ้าที่หล่อนเจอ หญิงสาวสาบานกับตัวเองหากชมจันทร์มีเรื่องเดือดร้อนหรือรบกวนให้หล่อนทำอะไร ให้ มณีมัญชุญ์จะเต็มใจทำให้สาวรุ่นพี่แบบถวายหัว มณีมัญชุญ์กลับเข้าห้องเทรนก่อนเวลาประมาณสิบนาที บนเก้าอี้ที่หล่อนนั่งมีถุงติดตราร้านสะดวกซื้อใกล้บริษัทวางอยู่ ในถุงนั้นเต็มไปด้วยอาหาร แฮมชีส ไส้กรอก ขนมปังหมูหยอง ฟุตลองและน้ำส้ม หล่อนจำได้ว่านี่คือรายการอาหารที่ปริยวัตรสั่ง ส่วนเจ้าตัวนั่งพิมพ์อะไรกร๊อกแกร๊กอยู่ในโน้ตบุคหลังห้อง “ของคุณค่ะ” หญิงสาวเอาถุงนั้นไปคืนให้เขา โชคดีที่ยังไม่มีใครเข้ามาในห้องเทรนก่อน มิฉะนั้นหล่อนคงตกเป็นจุดสนใจแน่ เพราะได้คุยต่อหน้าต่อตากับคนหล่อ “ผมให้ ทานเถอะ คุณยังไม่ได้ทานกลางวันไม่ใช่เหรอ” เขาตอบแต่ตายังมองจอคอมพิวเตอร์ “อย่าบอกว่าคุณทานกลางแล้วนะ เพราะขนมปังหมูหยองกับขนมปังทูน่าที่คุณจะซื้อยังอยู่รวมในถุงนั้นอยู่เลย” หนุ่มรูปหล่อดักคอ มณีมัญชุญ์จึงล้วงเข้าไปหยิบเฉพาะขนมปังของตนออกมา “เอาไปหมดนั่นแหละคุณ ไส้กรอกน่ะทานตอนร้อนๆ อร่อยกว่า” พอคนจ่ายเงินซื้อพูดว่าอร่อย ดูเหมือนเจ้าไส้กรอกในถุงจะรับคำทันที พวกมันค่อยๆ ลอยละล่องส่งกลิ่นหอมยั่วยวนมาจากในถุง ไออุ่นและกลิ่นของอาหารชวนให้หล่อนน้ำสายสอ หญิงสาวมัวแต่ตกใจกับอดีตคนรักเก่าจนลืมเรื่องปากท้องตนเอง “คุณเอาไปเถอะ เดี๋ยวผมมีเรื่องจะให้คุณช่วยเหมือนกัน” เขาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์มามองดูหล่อน ใบหน้าหล่อคมเข้มนั้นยิ้มนิดๆ แหม...บทเขาจะยิ้มนี่ก็เล่นเอาหล่อแบบใจละลาย “คุณพอลคะ” เสียงสาวๆ ในบริษัทแว่วมาจากประตู มณีมัญชุญ์จึงรีบขอบคุณเขาและรีบจรลีไปนั่งที่เดิมพลางค่อยๆ จัดการกับมื้อกลางวัน เหลียวมามองวิศวกรรูปหล่อ ...ตอนนี้โดนสาวๆ รุมถามปัญหาเรื่องโปรแกรมใหม่กันหมด แว่วว่าตรงโน้นก็ไม่เข้าใจ ตรงนี้ก็ไม่เข้าใจ หล่อนคิดว่าเขาจะโกรธจนระเบิดลง แต่เปล่าเลย... เขากลับตอบเสียงนุ่มๆ ว่าจะให้วิศวกรที่เทรนช่วงบ่ายย้ำจุดที่ไม่เข้าใจกันอีก อืม...เขาแก้ปัญหาได้ดีกว่าที่คิด แต่ไหงเวลาโทร.มาเข้าคอลเซ็นเตอร์ถึงได้ดุอย่างกับไปกินรังแตนที่ไหนมา ...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ การเทรนช่วงบ่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามโมงครึ่งเป็นเวลาพักเบรก มณีมัญชุญ์ชงกาแฟพร้อมกับหยิบโดนัทของว่างไปด้วย หล่อนเดินหลบไปที่ห้องนั่งเล่นใกล้ห้องเทรน มีเวลาพักสิบห้านาทีคงพอที่จะอ่านข่าวหน้าบันเทิงในหนังสือพิมพ์หัวสีจบ ข่าวว่าด้วยการกินเกาเหลากันระหว่างนักแสดงสาวร่วมช่อง ข่าวมือที่สามและข่าวการเป็นเก้งกวางของพระเอกหน้าขาวช่องสามสี แถมบางข่าวคนเขียนยังเขียนได้ดุเด็ดเผ็ดมันราวกับไปอยู่ใต้มุ้งของดาราเลย บางทีก็สนุกเสียยิ่งกว่าละครอีก “ว่างหรือเปล่า” เงาดำพร้อมเสียงขึ้นจมูกมาอยู่ใกล้ๆ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่แก้มยังตุ่ยเพราะเคี้ยวโดนัทอยู่เลย ปริยวัตรเลิกคิ้วแล้วอมยิ้มเมื่อหล่อนทำมือชี้มาที่ตัวเป็นทำนองว่าถามหล่อน เหรอ... “ครับ คุณนั่นแหละครับคุณมณีมัญชุญ์ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อย” เขานั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆ ในห้องนั่งเล่นมีทั้งเกาอี้ที่เป็นลักษณะชุดรับแขก และเก้าอี้สูงที่ติดผนังมีเคาน์เตอร์ยื่นออกมาเป็นลักษณะเหมือนบาร์เหล้า มณีมัญชุญ์นั่งเก้าอี้สูงบริเวณบาร์ การที่เขามานั่งข้างเท่าทั้งสองใกล้กันมาก หล่อนรีบเคี้ยวรีบกลืนโดนัทเป็นพัลวัน ใจเต้นเป็นรอบที่เท่าไร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนี้ สมองนึกว่าเคยไปทำอะไรให้เขาแค้นเคืองหรือเปล่า เอ...หรือว่าตาช่างไฟที่ไปดูโมเด็มที่บริษัทเขาทำพิษปูดเรื่องที่หล่อนเล่า เพราะหล่อนบรรยาย ‘สรรพคุณ’ นายปริยวัตรคนนี้ไปเสียมาก หรือเขาจะโกรธที่หล่อนทานแฮมชีสของเขาหมดทีเดียวทั้งสองอัน “ช่วงนี้คุณว่างอยู่หรือเปล่าผมมีเรื่อง...” “คุณพอล” ระฆังช่วยชีวิต! สาวเปรี้ยวสามสี่นางกรูกันเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังคนรูปหล่อ สาวสวยน้อยอย่างมณีมัญชุญ์จึงรีบหลบไปอีกทางอย่างรู้งานโดยที่ไม่ลืมจะถือ กาแฟและจานขนมไปด้วย “เดี๋ยว! คุณมณีมัญชุญ์ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเรื่องงานเย็นนี้นะครับ รบกวนอยู่รอผมด้วย” กลุ่มสาวที่เข้ามาใหม่ตวัดสายตาพิฆาตมาทางหล่อนแว้บหนึ่ง มณีมัญชุญ์ต้องรีบรับปากทันที “ค่ะ คุณปริยวัตร เดี๋ยวดิฉันจะให้คุณประโยชน์หัวหน้างานมาคุยกับคุณนะคะ” จากนั้นหล่อนก็เดินตัวลีบออกไปจากห้องนั่งเล่นแบบไม่เหลียวหลัง ไม่อยากโดนมองว่าเป็นศัตรูที่ต้องห้ำหั่นเพื่อชิงความสนใจจากวิศวกรหนุ่ม นี่แหละนะโลกทุกวันนี้ ...ประชากรชายแท้ แมน รูปหล่อ และเป็นโสด หายากยิ่งนัก เปอร์เซ็นต์การแข่งขันจึงสูง นี่ยังไม่นับเปอร์เซ็นต์ของการหวงก้างอีกนะ เกิดเป็นผู้หญิงในยุคนี้ช่างลำบากจริงๆ มณีมัญชุญ์คิดพลางจิบกาแฟอึกสุดท้ายก่อนจะเดินตรงเข้าห้องเทรนไป หลังการเทรนจบหญิงสาวรีบออกจาห้องและไปรายงานประโยชน์เรื่องที่ปริยวัตร จะคุยเรื่องงานทันที จากนั้นจึงไปนั่งรอเปมิกาบริเวณม้านั่งใกล้ลานจอดรถ สักพักเปมิกาจึงโทร.มาหา แล้วเจ้าตัวจึงลงมาเมื่อสิบนาทีล่วงไปแล้ว “โทษทีมะขามพี่เคลียร์งานด่วนอยู่ อ้าว! ยัยชมไปกินข้าวเหรอ” “ค่ะพี่เปมี่ เจ้ชมเข้าบ่ายสามเลิกเที่ยงคืน วันนี้กินข้าวหกโมงเย็น” หล่อนบอกเสียงใส เปมิกาผงกศีรษะเข้าใจแล้วเดินนำไปขึ้นรถ “วันนี้วันจันทร์รถติดหน่อยนะ” มณีมัญชุญ์ได้แต่ยิ้มให้รุ่นพี่คนสวย การจราจรในท้องถนนยามเย็นก็ติดขัดมากจริงๆ อย่างที่รุ่นพี่บอก เปมิกาจึงกดเปลี่ยนสถานีวิทยุไปเรื่อย เพื่อหาเพลงที่ถูกใจ “ไม่อยากฟังเพลงวัยรุ่นน่ะมะขาม ฟังไม่รู้เรื่อง พี่ชอบฟังเพลงเก่ามากกว่า” เปมิกาออกตัว มณีมัญชุญ์นั้นก็เป็นพวกว่ายังไงว่าตามกัน หล่อนฟังเพลงได้ทุกแนว ตั้งแต่เพลงจีนของอาม่ายันเพลงกันตรึมของบ้านเจ้ชม ระหว่างที่การจราจรติดขัดอยู่นั้นหญิงสาวเสไปมองข้างนอกจึงเห็นชมจันทร์ นั่งอยู่ในร้านกาแฟ กระจกร้านกาแฟใสจึงมองเห็นคนข้างในทั้งหมด รุ่นพี่สาวหน้านิ่งคุยอยู่ผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างสูง สวมแว่นท่าทางสะอาดสะอ้าน ผู้ชายทำไม้ทำมือเหมือนกับจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ชมจันทร์หน้าบึ้ง แล้วไม่กี่อึดใจรุ่นพี่หล่อนก็จะลุกออกไป ผู้ชายคนนั้นจับแขนชมจันทร์ไว้ สาวรุ่นพี่สะบัดปากพูดอะไรสักอย่าง ผู้ชายคนนั้นดึงแขนจนพลอยทำให้ร่างของชมจันทร์เซมาปะทะอกเขาด้วย มณีมัญชุญ์อ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น การทะเลาะกันของคนชิดใกล้...ภาพราวกับมิวสิควีดีโอเพลงประเภทรักๆ เลิกๆ “พี่เปมี่ๆ” หญิงสาวรีบเรียกรุ่นพี่ แล้วชี้ไปทางร้านกาแฟ แต่รถเมล์เจ้ากรรมดันมาจอดเทียบเคียงเสียก่อน “อะไรน่ะมะขามหือ ว๊าย! รถเคลื่อนแล้วดีจังเลย” เปมิกาหันไปสนใจการขับรถทันที ทิ้งให้มณีมัญชุญ์อ้าปากค้างมองกระจกอยู่คนเดียว หล่อนตาไม่ฝาดแน่ชมจันทร์จริงๆ แล้วผู้ชายคนนั้นคือใคร หรือว่าผู้ชายคนนั้นคือต้นเหตุของอาการแปลกๆ และคราบน้ำตาของชมจันทร์
Create Date : 21 มีนาคม 2553
9 comments
Last Update : 21 มีนาคม 2553 18:45:15 น.
Counter : 1090 Pageviews.
โดย: da IP: 124.120.9.219 22 มีนาคม 2553 0:18:41 น.
โดย: NinjaTurtle IP: 202.3.71.10 22 มีนาคม 2553 9:46:48 น.
โดย: xyz IP: 202.147.43.153 22 มีนาคม 2553 13:39:55 น.
โดย: ร้อรอ IP: 203.144.144.165 22 มีนาคม 2553 22:06:34 น.
โดย: พี่หมูน้อย (พี่หมูน้อย ) 23 มีนาคม 2553 11:01:59 น.
โดย: Lemon Problem IP: 161.200.208.189 26 มีนาคม 2553 0:16:08 น.
โดย: Maple IP: 124.120.107.148 27 มีนาคม 2553 14:00:24 น.
โดย: ใผ่ IP: 124.120.181.205 28 ธันวาคม 2553 11:46:03 น.
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!
GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him