หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
...หลงเสียงนาง บทที่ 3


“ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการใช้งานบริการเอสไอซีนะคะ สวัสดีค่ะ”
มณีมัญชุญ์กดปุ่มวางสายจากลูกค้าบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
เก้าอี้ข้างหล่อนยังว่างเปล่า ชมจันทร์ยังไม่กลับ ส่วนเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ติดสายลูกค้าอยู่


ไฟที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของหล่อนวาบขึ้น
เวลาทำงานหญิงสาวมักจะตั้งเป็นเสียงเงียบและวางไว้ที่ข้างเม้าท์คอมพิวเตอร์


“มะขามเหรอ นี่พี่เปมี่เองนะ ไอ้ชมมันโทร.หาเราหรือเปล่า”
เปมี่หรือเปมิกาเพื่อนสนิทของชมจันทร์เสียงร้อนรนเข้ามาในสาย


“มีแต่มิสคอลนะพี่ หนูโทร.กลับไปเจ้ชมก็ไม่รับสาย”
หล่อนเห็นข้อความสายไม่ได้รับจากชมจันทร์แล้ว ห้าสายที่ไม่ได้รับในเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า
เพราะมณีมัญชุญ์ลืมเปิดเสียงโทรศัพท์


“ของพี่ก็เหมือนกัน โทร.ไปที่บ้านมันเขาก็จัดงานแต่งกันอยู่ ไอ้ชมนี่ใจดำจังน้องสาวจะแต่งงานก็ไม่บอกกันซักคำ”
สาวรุ่นน้องยิ้มแหย เข้าใจความรู้สึกของเจ้ชมดีว่านี่คืองานแต่งที่เจ้าตัวไม่อยากให้เกิด
น้องสาวถูกคลุมถุงชน
พี่สาวจึงพลอยหาทางช่วย จึงไม่อยากเชิญแขกจำนวนมากมาเป็นสักขีพยานในการล่มงานแต่ง


“ช่างมันเถอะ ชมมันอาจจะมีเหตุผลของมันเอง ถ้ามันอยากบอกเดี๋ยวมันก็คงจะบอก ”
เปมิกาตัดบท
“พี่โทร.มาบอกเรื่องงานแปลนะจ๊ะ มีงานใหม่มาแล้ว เดี๋ยวก่อนไปกินข้าวพี่จะเอาไปให้”
“แล้วพี่เปมี่กินข้าวกี่โมงคะ”
“เที่ยงครึ่งจ้ะ”


ดวงตากลมโตเหลือบดูเวลาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ขณะนี้เวลาเที่ยงตรง
“ค่ะ หนูจะรอนะคะพี่เปมี่”
สายตัดไป สักพักคนที่เพิ่งโทร.มาก็ก้าวฉับๆ เข้ามาในห้องทำงานของมณีมัญชุญ์
“เอ้า! พี่เอามาให้แล้ว”
เปมิกายิ้มหวาน หล่อนยิ้มง่ายและสวยหวานกว่าเจ้ชม นอกนั้นหลายๆจะคล้ายๆ กัน เช่น สูง ผิวคล้ำ ใบหน้าคม ผมยาว


“ขอบคุณค่ะ พี่เปมี่”
มณีมัญชุญ์พนมมือไหว้
สาวรุ่นพี่ล้วงเข้าไปในถุงเอกสาร หยิบหนังสือพ็อคเก็ตบุคภาษาอังกฤษหน้าปกรูปดอกไม้สีแดงและทะเลทรายมาให้


“อันนี้ของแถมจ้ะ บังเอิญแฟนพี่ได้ฟรีมาจากร้านที่รู้จักกัน พี่ไม่ชอบอ่านเลยเอามาให้มะขามกับไอ้ชมมัน”
เปมิการู้รสนิยมของพวกหล่อนดีว่าชอบนักแล นิยายรักโรแมนซ์จำพวกนี้
รุ่นพี่สาวคุยเล่นด้วยเรื่องทั่วๆ ไปสักพัก


“ยังไงพี่ก็ฝากมะขามโทร.หามันหน่อยละกัน เดี๋ยวพี่จะโทร.หาด้วย ไม่รู้มันทะเลาะกับพ่อมันอีกหรือเปล่า
หรือว่ามีเรื่องเดือดร้อนอะไร ไม่งั้นมันคงไม่โทร.มาแต่ไก่โห่อย่างนี้หรอก”
เปมิกาสำทับเสียงกังวลก่อนที่จะขอตัวลงไปทานอาหารกลางวัน


เพื่อนของเจ้ชมคนนี้เป็นคนดีมาก ห่วงใย แถมยังหางานมาให้มณีมัญชุญ์และเจ้ชมทำเพื่อเพิ่มรายได้เสมอ
‘พี่เคยทำผิดกับไอ้ชม เป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลย’
เปมิกาเคยเปรยสีหน้าเศร้าๆ ถึงสาเหตุของการห่วงใยเจ้ชมและเผื่อแผ่มาถึงพนักงานรุ่นน้องอย่างหล่อนด้วย
ชมจันทร์เล่าว่าคบกับเปมิกามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นเพื่อนตายกันเลยก็ได้


‘ฉันกับมันเคยสัญญากันว่าถ้าโลกนี้หาผู้ชายดีๆ ทำยาไม่ได้ พวกเราจะขึ้นคานด้วยกัน’
เจ้ชมเคยเล่าให้ฟังตอนเมา แต่แล้วเพื่อนก็พบรักกับหนุ่มอเมริกัน ตบแต่งกันเรียบร้อย
มณีมัญชุญ์คิดว่าคงเป็นเรื่องนี้กระมังที่พี่เปมี่บอกว่าทำผิดกับเจ้ชม


หลังจากเพื่อนรักแต่งงานไปรุ่นพี่ของหล่อนจึงเคว้งขาดคนเม้าท์ตามประสาสาวโสด จึงมาแต่งนิยายแก้เซ็ง
โดยแอบเอาชื่อของมณีมัญชุญ์ซึ่งตอนนั้นเป็นเด็กใหม่มาเป็นนางเอกในนิยาย
หล่อนรู้สึกตะหงิดๆ ในใจตั้งแต่อ่านนิยายเรื่องนี้ในเว็บฟรีนิยายออนไลน์แล้ว


มณีมัญชุญ์มีหนี้ทำให้ต้องลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย นิยายเป็นเล่มนี่ก็ถือว่าฟุ่มเฟือยเช่นกันเพราะราคามิใช่น้อย
หล่อนจึงถนัดที่จะหาข้อมูลว่าเว็บไซต์ไหนมีนิยายฟรีๆ ให้อ่านบ้าง


จนมาถึง ‘จอมใจชีคทมิฬ’ มณีมัญชุญ์ตามอ่านเรื่องนี้มาได้สองตอนแล้วจู่ๆ คนโพสนิยายก็หายไปเสียเฉยๆ
แม้จะรู้ว่าเอาความแน่นอนอะไรไม่ได้กับคนลงนิยายในอินเตอร์เน็ต
เพราะยังไม่ใช่มืออาชีพ มีตกหล่นและมุกนิยายตันอยู่เสมอ


แต่การหายไปโดยไม่บอกกล่าวแถมทิ้งปริศนาสำคัญในเนื้อเรื่องไว้ก็ทำให้หล่อนเคืองพอสมควร
จนกระทั่งวันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้มณีมัญชุญ์รู้ความลับ


รุ่นพี่สาวมักจะพกคอมพิวเตอร์โน้ตบุคมาทำงานด้วยเสมอทั้งๆที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอยู่แล้ว
วันนั้นชมจันทร์ไปเข้าห้องน้ำ
มณีมัญชุญ์ก็ไม่มีสายเข้าเพราะเลือกสถานะโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นตามงานลูกค้าซึ่งสายลูกค้าจะโทร.มาไม่ได้
จู่ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์ของสาวรุ่นพี่ก็มีสายจากลูกค้าเข้ามา หญิงสาวเงอะงะมองเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ติดสายลูกค้ากันหมด


มณีมัญชุญ์จึงรับสายแทน
ขณะที่กำลังตอบคำถามลูกค้าโดยการหาข้อมูลจากระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในบริษัท(Intranet)นั้น
หล่อนก็กดเปิดหน้าจอเว็บไซต์ที่สาวรุ่นพี่เข้าข้างไว้


หน้าจอเว็บฟรีนิยายออนไลน์ที่หล่อนเข้าประจำ แถมหน้าจอนี้ยังเป็นหน้าจอสำหรับการโพสนิยาย
หญิงสาวหันไปทางโน้ตบุคแอบเปิดดูก็พบว่าโปรแกรมเวิร์ดนั้นมีนิยาย ‘จอมใจชีคทมิฬ’ อยู่ด้วย


มณีมัญชุญ์นึกถึงใบหน้าสำนึกผิดตอนที่เจ้ชมเห็นหล่อนนั่งอ่าน ‘จอมใจชีคทมิฬ’ ขึ้นมาทีไรก็อดหัวเราะไม่ได้สักที
‘ก็เห็นชื่อน้องเก๋ดีพี่เลยยืมมาใช้ นี่เป็นนางเอกนิยายเชียวนะ’
สาวรุ่นพี่ประเหลาะเอาใจ ตั้งแต่นั้นมามณีมัญชุญ์และเจ้ชมจึงสนิทกันเรื่อยมา
เพราะหล่อนชอบทวงนิยาย แล้วสาวรุ่นพี่ก็เป็นพวกเขียนตามอารมณ์เสียด้วย คือเขียนบ้างบางทีก็หายไปเสียดื้อๆบ้าง


มณีมัญชุญ์โทร.หาชมจันทร์อีกหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย
หล่อนจึงส่งทั้งข้อความตัวอักษรและฝากข้อความข้อความเสียงไว้ให้สาวรุ่นพี่โทร.กลับ


ทว่าวันนั้นทั้งวันคนที่ห่วงกลับไม่ยอมโทร.มาเลย หญิงสาวกำลังจะโทร.ไปปรึกษากับเปมิกาแล้ว ถ้าไม่เห็นข้อความที่ส่งมาเสียก่อน
‘ไม่ต้องเป็นห่วงสบายดี จะรีบกลับ’
สั้นและห้วนสมเป็นชมจันทร์เสียจริง สาวรุ่นน้องแอบยิ้ม


ทันใดนั้นที่หน้าจอโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็แสดงว่าสายเข้า
“เอสไอซีคอลเซ็นเตอร์สวัสดีค่ะ มณีมัชชุญ์รับสายยินดีบริการค่ะ”
มณีมัญชุญ์รีบกรอกเสียงลงไปในไมค์ของเฮดเซ็ทเหมือนเคย
ก่อนที่จะนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าหน้าจอข้อมูลลูกค้าแสดงเป็นบริษัทลัคกี้อีเลเฟ่น
ใจหล่อนกระหวัดถึงอีตาวิศวกรเสียงดุจากซิลิคอนวัลเล่ย์คนนั้นทันที สายลูกค้าที่โทร.มาเงียบอย่างประหลาด


“สอบถามเรื่องอะไรคะ”
หญิงสาวถามย้ำเสียงอ่อนหวาน ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่ซวยเจออีตาวิศวกรนั่นหรอกน่า
“ผมต้องการคุยสายกับซุปเปอร์ไวเซอร์ของคุณ”
ลูกค้าตอบกลับมารัวเร็วและขึ้นจมูก ...หล่อนซวยเสียแล้ว


“รบกวนถือสายรอสักครู่นะคะ”
มณีมัญชุญ์กดปุ่มพักสาย(Hold) เหลียวไปดูประโยชน์ ก็พบว่าหัวหน้างานกำลังทำเสียงแมนเก็กหล่อคุยสายอยู่กับลูกค้ารายหนึ่ง
ส่วนที่พนักงานที่เหลือก็ติดสายกันเกือบหมด


“ขอโทษนะคะ ตอนนี้หัวหน้างานติดสายลูกค้าท่านอื่นอยู่ ถ้ายังไงดิฉันขออนุญาตรับเรื่องไว้ก่อน ไม่ทราบเรียนสายคุณอะไรคะ”
พูดไปแล้วหล่อนก็อยากกัดลิ้นตัวเองนัก น่าจะบอกว่าเดี๋ยวจะให้เจ้ปองติดต่อกลับดีกว่า ไม่น่าติดคำพูดหวานๆ แบบคอลเซ็นเตอร์ทั่วไปเลย


“ผมชื่อ ปริยวัตร ในคอนแทคพอร์ซั่น(contact person)ของคุณไม่ได้ลงข้อมูลผมไว้เหรอ”
เขาบอกพร้อมถอนหายใจยาว หญิงสาวเห็นชื่อเขาแล้วในช่องรายชื่อผู้ประสานงาน
แต่การถามชื่อคนโทร.มาก็เป็นมารยาทอย่างหนึ่ง หล่อนอยากจะถามเขาเหลือเกินว่าที่ซิลิคอนวัลเล่ย์ไม่มีสอนหรือไง
“ไม่ทราบระบบมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”


“เหมือนเดิม”
คนโทร.มาบอกว่าเหมือนเดิม แล้วหล่อนจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเหมือนเดิมของเขาคือปัญหาอะไร
“ใช้ได้แป๊บเดียวก็มีปัญหาเหมือนเดิม”
เขาบอกใบ้ขึ้นมาหน่อย มณีมัญชุญ์รีบเปิดดูข้อมูลการติดต่อคอลเซ็นเตอร์ย้อนหลังย้อนหลังทันที
ปัญหาของเขาที่ส่งเรื่องตรวจสอบคือหมายเลขโทรศัพท์ภายในใช้ไม่ได้


“รบกวนรอสักครู่นะคะ ขออนุญาตตรวจสอบข้อมูลก่อน”
หล่อนกดปุ่มพักสาย แล้วรีบหาข้อมูลจากอีเมล์กลางของแผนก เมล์ตอบกลับจากวิศวกรระบบยาวเป็นหางว่าว
โดยมากเป็นการโต้ตอบกันไปมาระหว่างแผนก ศัพท์เทคนิกทางระบบลายตาไปหมด


“ขอประทานโทษที่ให้ถือสายรอนะคะ ตอนนี้ระบบมีปัญหาอยู่ค่ะ
จะมีผลทำให้การโทร.ออกมีปัญหาบ้างบางช่วงแล้วก็บางเอ็กซ์เทนชั่น ตอนนี้กำลังแก้ไขอยู่ค่ะ
จะมีการอัพโหลด(up load)ข้อมูลเข้าเสาสัญญาณใหม่อีกครั้งหนึ่งประมาณคืนนี้ค่ะ
ส่วนค่าเสียเวลาที่เสียไปเพราะเอ็กซ์เทนชั่นนัมเบอร์ใช้ไม่ได้ ทางเซลของเราจะติดต่อกลับไปเพื่อเคลีย์ค่าใช้จ่ายกันทีหลังค่ะ”
หญิงสาวตอบเขายาวเป็นพรืด ครอบคลุมทั้งปัญหาและวิธีการแก้ไข


ดูสิ! ทีนี้อีตาวิศวกรเสียงดุว่าจะว่าอะไรได้ หากเขาจะต่อว่าจริงๆ ก็ต้องว่าระบบ ไม่ใช่ตัวหล่อน
“อืม...รับทราบครับ แต่ผมขอติอย่างหนึ่งได้ไหม คุณหาข้อมูลนานมากเลย
ความจริงเรื่องสำคัญอย่างนี้ควรจะแจ้งให้ลูกค้ารู้ก่อนนะ จะได้ไม่ต้องโทร.เข้าคอลเซ็นเตอร์แล้วรอนาน ผมแนะนำแค่นี้ละครับ สวัสดี”


สายลูกค้าวางไปแล้ว แต่มณีมัญชุญ์ยังอ้าปากค้างอยู่ พอได้สติหล่อนรีบกดปุ่มล็อกเอ้าท์(Log out)ออกจากระบบ
โอ๊ย...คุณพระคุณเจ้า ตั้งแต่เป็นคอลเซ็นเตอร์มา หล่อนไม่เคยนึกหมั่นไส้ลูกค้าได้เท่านี้มาก่อน
ขนาดคำแนะนำยังฟังแล้วเหน็บแนมยังไงพิกล บริษัทลัคกี้อีเลเฟ่นนี่ยังไงกันนะ รับคนพูดจาแย่ๆ อย่างนี้มาทำงานเสียได้
อุตส่าห์หาข้อมูลมาให้ยังไม่มีคำขอบคุณสักคำ


ผิดกับคุณเอกพลรายนั้นรอสายได้แถมพูดให้กำลังใจอีกต่างหาก
ส่วนอีตาคนนี้ขู่เอาๆ มณีมัญชุญ์คิดว่าตัวจริงของวิศวกรที่ชื่อปริยวัตร
คงจะเป็นหนุ่มไฮเปอร์มือไม้อยู่ไม่สุขและรัวภาษาอังกฤษเป็นไฟตามแบบเด็กเนิร์ด(Nerd)


ช่างมัน...ช่างมัน หญิงสาวบอกกับตัวเอง เขาก็เป็นแค่งานชิ้นหนึ่งที่หล่อนต้องรับมือ ผ่านแล้วผ่านเลย
งานของหล่อนยังไงก็ต้องบริการเขา ทนๆ เอาหน่อยก็แล้วกัน

ท้องฟ้าเป็นสีดำทะมึนราวกับผืนม่านใหญ่ในโรงละครกำลังใกล้เข้ามา มันค่อยๆ กลืนกินภูเขาทรายลูกย่อมๆ
สร้างฝุ่นทรายจนมองแทบไม่เห็นเส้นทางใดเลย
“พายุทะเลทรายหลบเร็ว!”
คนบนหลังอูฐรีบตบคอให้สัตว์พาหนะย่อตัวลงอย่างรวดเร็ว


“มาทางนี้”
แล้วหลังจากนั้นเขาก็คว้ามือหล่อน รีบพาไปหลบยังชะง่อนหินกลางทะเลทราย
“ผูกอูฐไว้ แยกย้ายกันหลบ”
คนของเขาทำงานกันรวดเร็วดีเหลือเกิน ครู่เดียวทั้งคนทั้งอูฐก็มารวมตัวกันอยู่บริเวณชะง่อนหิน


“เจ้าจะไปไหนน่ะฮึมณีมัญชุญ์”
บารัคปรามเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะก้าวออกไปนอกบริเวณที่หลบภัย


“ฉันอยากดูพายุทะเลทราย อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ลมจะพัดทรายไปได้สูงแค่ไหน”
เสียงหล่อนรื่นเริงแต่ชีคหนุ่มไม่เห็นดีด้วย ร่างสูงสาวเท้าไปดึงหล่อนเข้ามาหลบเหมือนเดิม
มือหนาใหญ่รีบหาผ้าจากถุงเสบียงข้างตัวอูฐมาพันศีรษะเล็กนั้นไว้ทันที


“จะดูอะไรกับพายุทะเลทราย ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกมีแต่ฝุ่น เอ้า! พันผ้าไว้ ทรายจะได้ไม่เข้าปากเข้าตา”
เขาสั่งเสียงดุ มณีมัญชุญ์ค้อนเขาขวับ
ดูรึ...จู่ๆ เขาพาหล่อนมารอนแรมในทะเลทรายตั้งสองวันเต็มๆ เหมือนจะพาหนีอะไรบางอย่าง
ถามก็ไม่ตอบ บอกแต่ว่าจะพามาเที่ยว


หล่อนเห็นแต่ทราย...ทราย...และทราย โอเอซิสชุ่มฉ่ำหรืออินทผาลัมผลไม้จากสรวงสวรรค์สักต้นหล่อนก็ไม่เห็น
พอมีพายุทะเลทรายมาให้ตื่นเต้นเขาก็กลับทำเสียงดุหล่อนอีกแน่ะ เกลียดจริงเชียวเสียงดุๆ แบบนี้


“มานี่มณีมัญชุญ์”
บารัคดึงหล่อนมานั่งหลบข้างๆ คนของเขานั่งอยู่ห่างๆ
“พายุทะเลทรายไม่ใช่พายุฝนเหมือนกับที่ประเทศของเจ้า ฝนนำมาซึ่งความชุ่มฉ่ำ ทรายมีแต่ความแห้งแล้ง”


“ก็เพราะไม่เหมือนน่ะสิ ฉันถึงอยากเห็น ถ้าเรารู้จักอะไรเพียงสิ่งเดียว เราก็คงตัดสินอย่างอื่นไม่ได้หรอกค่ะว่าดีหรือไม่ดี”
มณีมัญชุญ์จ้องหน้าเขา ตอนนี้ทั้งเขาและหล่อนใช้ผ้าพันศีรษะและปากไว้เรียบร้อยแล้วเว้นไว้แต่ดวงตา


จากการเดินทางด้วยกันมาสองวัน ชายหนุ่มรู้แล้วว่าชื่อเล่นว่า ‘แฮปปี้’ ช่างเหมาะกับหล่อนจริงๆ
มณีมัญชุญ์หัวเราะรื่นเริงได้ทุกสถานการณ์
เสียอย่างเดียวหัวดื้อชอบขัดคำสั่งแล้วก็หาเหตุผลร้อยแปดมาโต้เถียงเขาตลอดการเดินทาง


“เจ้าอยากรู้จักมากนักรึมณีมัญชุญ์ ลมร้อนของทะเลทรายน่ะ?”
ชีคหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ดวงตาแวววาว
พลันหูหล่อนก็ได้ยินเสียงดังหึ่งๆ ปนหวีดหวิว เหมือนเสียงกรีดร้องของภูติพรายจากนรก
ลมแรงและฝุ่นทรายก็ปลิวมามากขึ้น


“ว๊าย!”
หญิงสาวอุทานเมื่อรู้สึกว่าฝุ่นทรายจำนวนหนึ่งปลิวเข้ามาในตา
“อย่าเพิ่งลืมตานะมณีมัญชุญ์ หลับตาไว้ อดทนหน่อยรอจนพายุทรายจะสงบ”
มือใหญ่รีบพันผ้าให้คลุมดวงตาหล่อนทันที ชายหนุ่มพยายามจับมือขาวบางนั้นไว้ไม่ให้ขยี้ตา


“แต่มันเจ็บนะ มองอะไรไม่เห็นเลย”
หล่อนครางเพราะเคืองตาเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ต้องกลัวหรอกมณีมัญชุญ์ ข้าจะอยู่กับเจ้า จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน”
เสียงดุนั้นเปลี่ยนมาเป็นแผ่วเบาอ่อนหวาน อ้อมแขนแข็งแกร่งโอบร่างหล่อนไว้ เป็นผลให้ศีรษะเล็กๆ นั้นซบที่อกกว้างของเขา


“ถ้ามีข้าอยู่ เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นมณีมัญชุญ์”
คนตัวสูงพูดจากใจจริง มณีมัญชุญ์ตัวสั่นนิดๆ ขืนตัวออกจากอกใหญ่
ใจหญิงสาวเต้นระทึกกับความชิดใกล้ที่กำลังจะเกินเลย แต่เขาก็ดึงหล่อนมาแนบอกเหมือนเดิม


ในห้วงวินาทีนั้นบารัคเกิดความคิดแปลกๆ ว่าหากพายุทะเลทรายพัดอยู่จนชั่วนิรันดร์ก็ดี
หล่อนจะได้นั่งนิ่งๆ อยู่ในอกเขาตลอดไป



มณีมัญชุญ์ไต่สายตาไปตามตัวหนังสืออย่างช้าๆ
ด้วยเพราะเมื่อครู่เพิ่งมีข้อความจากชมจันทร์ มาที่โทรศัพท์มือถือหล่อน
ว่าจะกลับเร็วขึ้นหนึ่งวัน รถโดยสารมาถึงกรุงเทพฯเวลาประมาณคืนนี้ พร้อมกับบอก
‘อัพนิยายเพิ่มแล้ว’
เมื่ออ่านจบแล้วหล่อนก็ห่อปาก เป็นเค้าลางว่าบทโรแมนซ์กำลังจะมา


นี่เป็นหนึ่งในกฎเหล็กของนิยายพาฝันจำพวกนี้เลยก็ได้ พระเอกนางเอกจะต้องมีเหตุการณ์ที่ได้อยู่กันตามลำพัง
สถานการณ์อันตรายทำให้ไม่ระวังหัวใจ เปิดเผยความนัยกันหมด


ฉากในทะเลทรายผ่านไปแล้วต่อไปก็คงเป็นโอเอซิส และจากนั้นก็คงจะเป็นฉากอัศจรรย์
หญิงสาวอยากรู้เหลือเกินว่าชมจันทร์จะแต่งฉากนี้ออกมายังไง จะวาบหวิบจนใจอ่อนระทวยขนาดไหน แค่คิดหล่อนก็แอบยิ้มออกมาแล้ว


“มะขามค่ำนี้มีธุระไปไหนหรือเปล่า”
ประโยชน์เร่มาถาม มณีมัญชุญ์ตอบว่า ‘ไม่’
“พี่ขอแรงอยู่ต่ออีกสักชั่วโมงนะ เพราะฝนตกหนักเลย รอบกลางคืนเขาอาจจะเข้างานไม่ทัน วันที่ฝนตกอย่างนี้ระบบมักจะมีปัญหาประจำ”
หัวหน้างานบุ้ยปากไปทางด้านนอกหน้าต่างกระจกที่มีท้องฟ้ามืดครึ้ม เม็ดฝนโปรยปราย


“เดี๋ยวพี่เพิ่มเป็นโอทีพิเศษให้”
ได้ยินข้อเสนอเช่นนี้มีหรือที่หญิงสาวจะปฏิเสธ กลับช้านิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
วันฝนตกอย่างนี้สายลูกค้าจะน้อย เพราะลูกค้าบางคนกลัวฟ้าผ่าจากการใช้โทรศัพท์ อย่าว่าแต่ลูกค้าเลยมณีมัญชุญ์ก็กลัวฟ้าผ่าเหมือนกัน


“เปรี๊ย-ง”
นั่นประไร หล่อนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ฟ้าผ่าลงมาเสียแล้ว ฟังเสียงแล้วเหมือนจะผ่าใกล้ๆ เสียด้วย
“ติ๊-ง...ติ๊-ง”
พลันหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหล่อนก็มีสายลูกค้าเขา


“เอสไอซีคอลเซ็นเตอร์สวัสดีค่ะ มณีมัชชุญ์รับสายยินดีบริการค่ะ”
ข้อมูลของลูกค้าที่แสดงหน้าจอขึ้นมาว่าเป็นบริษัทลัคกี้อีเลเฟ่น
“ไฟโมเด็มของผมไม่ติด”
เสียงลูกค้าโทร.ดุเหมือนเคย วิศวกรเจ้าปัญหาคนนั้นแน่


“ลองแก้เบื้องต้นแล้วหรือยังคะ”
มณีมัชชุญ์ถามอย่างใจเย็นตามแนวทางการแก้ไขปรกติ


“ถ้าคุณหมายถึงสลับสวิชท์ไฟแล้วล่ะก็ผมทำแล้ว มีไฟโมเด็มสามดวงที่ไม่ติด เพิ่งเป็นเมื่อสักครึ่งชั่วโมงที่แล้ว”
เขาถอนหายใจยาว ราวกับเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดา
“ค่ะ เดี๋ยวยังไง...”


“เปรี๊ย-ง”
เสียงฟ้าผ่าดังลั่นคั่นก่อนที่หล่อนจะพูดจบ เท่านั้นยังพอไม่ไฟในห้องทำงานรวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ดับพรึ่บทันที มณีมัญชุญ์สะดุ้งเฮือกหลับตาปี๋


“เฮ้ย! โอ๋ยโหยว พระเจ้าช่วยกล้วยบวชชี อาปาอามา ช่วยไอ้มะขามข้อเดียวด้วย”
หล่อนครางเสียงหลง ไฟดับอย่างนี้ไม่ใช่ว่าฟ้าผ่าหม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทหรอกนะ คอมพิวเตอร์ก็ดับเครื่องที่หล่อนนั่งไม่มีตัวแบ็คอัพข้อมูลเสียด้วยสิ


“ฮึ…”
เสียงใครกัน หญิงสาวนึกฉงนอยู่ในใจ
เหมือนอยู่ใกล้ๆ หู หล่อนกวาดตาไปทั่วบริเวณที่มีแต่ความมืด และแสงไฟวอมแวบจากโทรศัพท์มือถือของพนักงานคนอื่น ที่เปิดไฟหน้าจอเพื่อให้แสงสว่าง


“ฮะ...ฮ่าๆ”
เสียงใกล้หูเริ่มเปลี่ยนเป็นหัวเราะ มณีมัญชุญ์เพิ่งนึกได้ตอนนั้นเองว่าหล่อนยังสวมเฮดเซ็ตอยู่ และที่สำคัญหล่อนไม่ได้กดปุ่มพักสายลูกค้า เขาคงจะได้ยินที่หล่อนอุทานเต็มๆ


“ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวเสียงอ่อยหน้าม่อย ไฟสำรองเริ่มมาแล้ว หน้าจอคอมพิวเตอร์ของหล่อนเป็นจอฟ้าสักพักก็เปลี่ยนเป็นสีดำเพื่อให้ล็อกอินเข้าระบบ


“ไม่เป็นไรครับ...ไม่เป็นไร”
เขาพูดพลางกลั้นหัวเราะ
“คุณดูให้ผมหน่อยก็แล้วกัน เรื่องไฟโมเด็มไม่ติดน่ะ”


“ค่ะ เดี๋ยวจะนัดช่างให้ ประมาณครึ่งชั่วโมงดิฉันขออนุญาตติดต่อกลับ”
มณีมัญชุญ์รีบรับคำโดยไว หน้าแดงอายอย่างที่สุด เผลอปล่อยไก่ให้ลูกค้าฟังจนได้


“ครับ คุณมณีมัญชุญ์ผมจะรอ”
วิศวกรระบบจากบริษัทลัคกี้อีเลเฟ่นว่างสายไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ ซึ่งกลบความดุของน้ำเสียงไปเสียสนิท



++++++++++++++++++


Create Date : 09 มีนาคม 2553
Last Update : 9 มีนาคม 2553 22:38:23 น. 3 comments
Counter : 380 Pageviews.

 
ติดตามมมมมมมม


โดย: แสนดีคนในพื้นที่ วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:9:38:16 น.  

 
สนุกทุกเรื่องเลย เรื่องใหม่นี่ก็สนุก.. แต่.. ทำไมไม่จบ.. อิอิ

คิดถึงหมอเอิงจัง..(ระเด่นกับบุษบาด้วย... ด้วย...ด้วย)

แต่ก็ยังดี มีอะไรให้แก้ขัดไปก่อน.. ฮ่าฮ่า


โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:13:19:40 น.  

 
จะตั้งใจรอนะคะ
ทั้งน้องมะขาม น้องไหม น้องบุษบา



โดย: maybe IP: 10.19.1.46, 202.28.180.202 วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:18:13:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.