อีกคู่เวลา 01.00 น. ที่สนามคาซาน อารีนา เมืองคาซาน แซมบ้า บราซิล ที่ชนะเม็กซิโก 2-0 ในรอบที่ผ่านมาลงสนามพบกับ ปิศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยียม ที่เอาชนะญี่ปุ่นมา 3-2 สถิติที่ทั้งสองพบกันมาทั้งหมด 4 ครั้ง แซมบ้า บราซิล ชนะรวดทั้งหมด โดยพบกันครั้งล่าสุดในปี 2002 บราซิลชนะเบลเยียม 2-0 เกมนี้ถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีช่องทรูโฟร์ยู (ช่อง 24) ขณะที่ทรูวิชั่นส์เคเบิลทีวี ถ่ายทอดสดทางทรู สปอร์ต เอชดี 3 (668) และทรู 4 เค แชนแนล (400) ติเต กุนซือทีมชาติบราซิล จะไม่มีกาเซมิโร กองกลางตัวตัดเกมที่ติดโทษแบนหลังจากได้ใบเหลืองครบตามโควตา แต่จะได้มาร์เซโล แบ็กซ้ายตัวเก่งหายเจ็บหลังกลับมาคุมแนวรับร่วมกับติอาโก ซิลวา, เชา มิรันดา, เฟลิเป หลุยส์ อีกครั้ง แดนกลาง แฟร์นันดินโญ จะได้วาดลวดลายแทนกาเซมิโร โดยจะลงคุมเกมร่วมกับเปาลินโญและฟิลิปเป คูตินโญ แดนหน้ายังวางใจกาเบรียล เชซุส ออกสตาร์ตตัวจริง เคียงข้างเนย์มาร์และวิลเลียนต่อไป แม้ว่าตลอด 4 นัดที่ผ่านมายังไม่สามารถยิงประตูได้ก็ตาม
โรแบร์โต มาร์ติเนซ เทรนเนอร์กระทิงดุของ เบลเยียม ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อย่างใด ตัวหลักอยู่กันครบไม่มีปัญหาเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด แนวรับวางโทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แว็งซองต์ กอมปานี, แยน แฟร์ตองเกน ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โทมัส มูเนียร์, ยานนิก คาร์รัสโซ รับหน้าที่วิงแบ็กขวาและซ้าย เควิน เดอ บรอยน์, อักเซล วิตเซล คุมจังหวะเกมด้วยกันต่อ แม้ว่า มารูยาน เฟลไลนี กองกลางร่างโย่งจะโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมล่าสุดก็ตาม เอเด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ กัปตันทีม ผนึกกำลังดรีนส์ มาร์เตนส์ ปั้นเกมรุก โดยมีโรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างยักษ์ที่ยิงไปแล้ว 4 ประตูยืนหน้าเป้า
ด้านแนวโน้มจากการวิเคราะห์ของบริษัทพนันถูกกฎหมายจากประเทศอังกฤษได้ฟันธงว่า บราซิลน่าจะเก็บชัยได้มากกว่า แต่เบลเยียมยังมีโอกาสที่จะพลิกชนะได้เช่นกัน ส่วนผลเสมอมีโอกาสน้อยที่สุด
ข้อมูลจาก https://www.thairath.co.th/content/1328393