เต็งหนึ่งอย่าง บราซิล เป็นอันต้องกระเด็นตกรอบเป็นที่เรียบร้อยหลังเจอทีมฟอร์มร้อนแรงอย่าง เบลเยี่ยม กระซวกตาข่าย 2-1 ทำให้พวกเขาต้องรอคอยแชมป์ต่อไปนับตั้งแต่ปี 2002 ส่วนเบลเยี่ยมพร้อมเข้าไปล่าแชมป์สมัยแรกของพวกเขาแล้ว มาดูเกมนี้กันมีประเด็นอะไรน่าสนใจกันบ้าง
1.เคาน์เตอร์แอตแทคของปีศาจแดง
เกมนี้พิสูจน์ได้ว่า เบลเยี่ยม เป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกที่ดีที่สุดในโลกในตอนนี้ก็ว่าได้ โรเมลู ลูกากู ใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งกระชากผ่านกองหลังบราซิลได้ตลอด ขณะที่ เอแด็น อาซาร์ ทำอะไรก็ดีไปหมดเมื่อเขาได้บอล การแตะหลบหนีคู่แข่งและการจ่ายบอลทำได้ไร้ที่ติ
ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ แม้เกมที่ผ่านๆมาอาจจะไม่มีบทบาทเด่นนักเพราะถูกจับไปเล่นกองกลางตัวเชื่อมเกมเป็นส่วนใหญ่ แต่ในเกมนี้เขาถูกดันขึ้นสูงให้ไปเล่นกลางตัวรุกทำให้เขากลับมาเฉิดฉายแบบสุดๆพร้อมยิงประตูสุดสวย เมื่อสามคนนี้อยู่รวมกันทำให้การโต้กลับของเบลเยี่ยมมีความเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ขนาดที่แนวรับบราซิลที่เสียประตูเดียวตลอดทัวร์นาเมนต์แทบจะหัวปั่นกันเลยทีเดียว
2.ฝันร้ายของแฟร์นันดินโญ่
การขาดหายไปของคาเซมิโร่กลายเป็นหายนะของทีมแซมบ้าก็ว่าได้หลังจากที่ดันสะสมใบเหลืองครบจนต้องถูกแบนในนัดนี้ ชื่อของ แฟร์นันดินโญ่ คือตัวเลือกที่พอจะมีชื่อชั้นทดแทนได้ แต่ทว่ากลับไม่เป็นอย่างที่คิด แฟร์นันดินโญ่ ไม่สามารถเบรกเกมรุกของเบลเยี่ยมหรือผ่านบอลแดนกลางได้เลย ผู้เล่นแนวรุกของเบลเยี่ยมเลี้ยงผ่านเขาไปดื้อๆหลายครั้ง ทำให้กองกลางเป็นรองเบลเยี่ยมอย่างเห็นได้ชัด แถมเจ้าตัวมาพลาดทำเข้าประตูตัวเองอีก กลายเป็น
3.กูร์กตัวส์ท็อปฟอร์ม
นอกจากจะต้องชมเกมรุกของเบลเยี่ยมแล้ว นัดนี้ต้องชมเขาคนนี้ด้วยเพราะถ้าไม่ได้นายด่านสิงโตน้ำเงินครามมีหวังบราซิลสอยตาข่ายไปหลายลูกแน่นอน โดย ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟไปเน้นๆ 7 ครั้งในเกมนี้ โดยเฉพาะการซุปเปอร์เซฟลูกยิงของเนย์มาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ต้องบอกได้คำเดียวว่า "เวิร์ลคลาส" มากๆ
4.เส้นทางของ "เนย์มา"
เนย์มาคว้าน้ำเหลวอีกครั้งหลังไม่สามารถพาบราซิลกลับมาเป็นแชมป์ได้ ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์นี้เขาดูเหมือนจะเรียกความมั่นใจได้มากจากการทำประตูนัดอุ่นเครื่องแต่เมื่อเริ่มต้นฟุตบอลโลกกลับเหมือนเป็นคนละคน แม้จะมีการทำประตูได้บ้างแต่เนย์มายังดูห่างไกลคำว่า "ท็อปฟอร์ม" ของเขา
ในเกมนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ความกดดันถาโถมมาที่เขาทำให้เขาเล่นไม่ออก โทมัส มูนิเย่ร์ ตามประกบเขาแบบไม่ปล่อย แถมเขาถูกความใหญ่ของผู้เล่นเบลเยี่ยมทั้งมารูยาน เฟลไลนี่ และ อักเซล วิตเซล ยืนขวางอยู่ ยิ่งแผนการพุ่งล้มของเขาตบคากรรมการไม่ได้อีก ก็ทำให้เกมนี้แทบจะไร้พิษสง เขาคงต้องจำบทเรียนนี้ไว้และกลับมาสู้ในอีก 4 ปีหน้า
ข้อมูลจาก https://www.siamsport.co.th