Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
24 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 

ขับรถเที่ยวยุโรป 5 ประเทศ ตอนที่ 14 : Brussels, Belgium

เช้าวันที่ 10 ของการเดินทาง เราจะเดินทางเข้าสู่ประเทศที่ 5 ของการเดินทาง เนื่องจากเราเที่ยวมาเร็วกว่ากำหนด เราเลยมีเวลาโต๋เต๋ เช้านี้ เราเลยไม่รีบร้อนที่จะออกจากโรงแรมเหมือนเดิม เราออกกัน 9 โมงกว่า แล้วเราก็ไปเดินเล่นที่ห้าง Auchan เป็นห้างใหญ่ ในนั้นมีร้านค้าและ Supermarket เราเลยได้ซื้อเครื่องสำอางค์ที่เราอยากได้จากที่นี่ เราเดินจนเกือบเที่ยง ก็ซื้ออาหารเที่ยงกัน แต่ยังไม่กิน เพราะกะจะไปแวะกินกลางทางกัน

เราออกจากฝรั่งเศสกัน เพื่อไปยังเมือง Brussels ประเทศเบลเยี่ยม เราขับไปผ่านเมือง Metz และเข้าประเทศลักเซมเบิร์กอีกครั้ง แล้วเราก็นึกได้ว่า ประเทศทั้งหลายที่เราผ่านมา ประเทศลักเซมเบิร์กค่าน้ำมันถูกสุด เราเลยแวะเติมให้เต็มถัง รถเราถังน้ำมันใหญ่มาก ครึ่งถังก็ 50 ยูโร (ลิตรละ 1.34 ยูโร)

ระยะทางทั้งหมดประมาณ 300 กิโลเมตร เราขับไปกันจนเกือบบ่ายโมง ก็แวะที่พักเพื่อจอดรถกินอาหารที่ซื้อมากัน และก็แวะเข้าห้องน้ำที่อยู่ในร้านสะดวกซื้อด้วย

เราขับต่อไปถึงเมืองบรัซเซลประมาณ 4 โมงเย็น รถเยอะมาก ถนนเข้าเมืองใหญ่มาก ประมาณ 4 เลน



รถข้างหน้ากำลังจะลงอุโมงค์ เป็นอุโมงค์ยาว 3-4 กิโลเมตร ตรงเข้าเมืองไปเลย

พอเราขับไปใกล้ ๆ โรงแรม เราหาโรงแรมไม่เจอ เพราะ GPS บอกให้เลี้ยวซ้าย แต่พอไปถึงมันบังคับเลี้ยวขวา เราก็ลองวนดูใหม่ เป็นแบบนี้อยู่ 3 รอบ เลยคิดว่าถนนมันเปลี่ยน เลยขับเลยไปก่อน แล้วให้เครื่องคำนวณเส้นทางใหม่ จนจวนจะถึงโรงแรมอยู่แล้ว ถนนหน้าโรงแรมถูกกั้นด้วยเสาเหล็ก รถเข้าไม่ได้ เราต้องวิ่งลงไป check in แล้วถามว่าจอดรถได้ที่ไหน โรงแรมบอกให้หาที่จอดใกล้ ๆ มีเยอะแยะ อ้าว ตอบแบบไม่ช่วยอะไรเลย

คนขับต้องวนรถมาอีกรอบ พอถึงหัวมุมถนน ก็รีบยกกระเป๋าลงกัน แล้วก็ไปวนรออีก จน check in เสร็จ ก็ให้ลูกทัวร์รอที่โรงแรม เราก็ไปหาที่จอดรถกัน วนไปวนมา ก็มีแต่จอดใต้ดินอีกแล้ว เลยต้องไปจอดข้างทางรอถามคนที่เดินมา ก็บังเอิญเจอคนรู้จริง แนะนำให้ไปที่จอดรถในร่มซึ่งจอดระยะยาวได้ เราเลยไปตามทางที่เค้าบอก เป็นที่จอดรถอยู่ใกล้ ๆ ธนาคารแห่งชาตินั่นเอง



เราจอดเสร็จก็ตรวจตรารถให้ดี เพราะเราจะค้างที่เมืองนี้ 2 คืน แล้วก็เดินกลับโรงแรม เดินประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร ก็ถึงโรงแรม เราอยู่ที่ Alma Grand Place Hotel อยู่ใจกลางเมืองมาก (ถนน Spoormarkersstraat) ห้องนอนก็ใหญ่ แถมเป็นห้องสำหรับ 2 คน ได้นอนสบาย 2 คืนเลย หน้าโรงแรมก็มีร้านอาหารเยอะแยะ มีร้านขายของที่ระลึกด้วย

หน้าโรงแรม



บริเวณโรงแรม





พอสมาชิกครบ เราก็เดินตามแผนที่ไปทาง Grand Place ปรากฏว่าใกล้มาก ออกจากโรงแรม เดินทะลุซอยเดียวก็ไปโผล่ด้านข้างของศาลากลาง Hotel de Ville เลย







จัตุรัสนี้ใหญ่โตอลังการมาก ตึกก็ดูสวยงาม ลานตรงกลางกว้างขวาง มีคนมานั่งวาดรูป



มีด้านนึงที่มีร้านค้าและร้านกาแฟ ที่นี่ เราเจอคนไทยด้วย หลังจากเที่ยวมาตั้งหลายเมืองแล้วไม่เจอคนไทยเลย



เราถ่ายรูปกันพักใหญ่ และเดินข้ามจตุรัสเพื่อไปออกซอยนึงด้าน Rue au Beurre ก็ไปเจอตึกใหญ่ ๆ คือ Bourse หรือก็คือ Stock Exchange นั่นเอง



มองไปตรงข้าม มีร้านอาหารจีน เราเลยไปลองดู เค้ามีแบบบุฟเฟ่ราคาคนละ 13 ยูโร แต่เราคิดว่าเรากินกันไม่เยอะ เลยขอสั่งเป็นจาน โชคดีลูกทัวร์เราพูดภาษาจีนเป็น เลยไปเจรจาต่อรอง เค้าก็ถามว่าเราจะสั่งอะไรบ้าง เค้าต้องถามแม่ครัวก่อน เพราะช่วงนี้จะยุ่งทำอาหารเติมถามบุฟเฟ่ พอเราบอกเมนูที่เราอยากกินไป แม่ครัวก็ยอมทำให้ เรารออาหารอยู่พักนึง อาหารจานแรกมา พวกเรางงมาก จานใหญ่แบบเป็นจานเปล จนต้องเรียกพนักงานมาถามว่าเราสั่งจานเล็กนะ ก็นี่ล่ะจานเล็ก โชคดีที่เราสั่งอาหารแค่ 4 อย่าง แต่ในที่สุดก็กินกันไม่หมด ต้องห่อกลับบ้านตั้ง 2 อย่าง



จานใหญ่มาก

หลังจากกินเสร็จ ก็กลับไปเดินใน Grand Place ดูตามซอกซอยต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านชอคโกแลต ที่นี่จะขึ้นชื้อชอคโกแลตที่เป็น Truffle เป็นเหมือนชอคโกแลตสด





คืนนั้น เราเดินกันจนฟ้าเริ่มมืดประมาณ 2 ทุ่ม ก็กลับไปนอนพักกัน

เช้าวันที่ 11 ของการเดินทาง เราตื่นกันแบบไม่รีบเร่ง ออกจากโรงแรมประมาณ 10 โมง วันนี้ฝนตกด้วย เป็นวันที่สองของการเที่ยวที่เราเจอฝน อากาศเลยเย็นลง หลังจากที่เผชิญความร้อนมาจากฝรั่งเศส

จุดมุ่งหมายแรกคือเดินไปดูรูปปั้นเด็กฉี่ Menneken Pis โดยออกจากโรงแรมไปทาง Place St. Jean แล้วไปเลี้ยวขวาที่ถนน Lombardstraat แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีที่ถนน Rue de L'Etuve ก็จะเจอรูปปั้นเด็ก วันนี้เด็กใส่ชุดมนุษย์อวกาศด้วย (เค้าจะเปลี่ยนเสื้อตามเทศกาลหรือฤดูกาลต่าง ๆ) เห็นตอนแรกงงนิดหน่อย เพราะไม่นึกว่ารูปปั้นจะมีขนาดเล็ก เล็กกว่ารูปปั้นเด็กฉี่ที่ร้าน
ชอคโกแลตแถวนี้ทำไว้ตั้งหน้าร้านอีก







ตุ๊กตาชอคโกแลตใหญ่กว่ารูปปั้นอีก

แถวนี้เจอคนไทยมาเป็นกลุ่มเยอะมาก

เมื่อถ่ายรูปกันพอแล้ว ก็เดินกลับทางถนน Rue de L'Etuve เพื่อไป Grand Place แล้วก็ข้ามจตุรัสไปยัง Bourse อีก เพื่อเดินไปทางถนน Anspachlaan เป็นถนนใหญ่



มาถึงแถวนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราเลยแวะกินแฮมเบอร์เกอร์กัน พอกินเสร็จจะเข้าห้องน้ำ ต้องเสียเงินด้วย 35 เซนต์ ผิดกับเมืองในฝรั่งเศสที่สามารถเข้าห้องน้ำตามร้านอาหารได้ไม่คิดเงิน

หลังกินอาหารเสร็จ ก็เดิน ๆ ตรงต่อไปจนเกือบถึง Place de Brouckere ตรงนี้ถนนเป็นสามแยก มีตึกโบราณสวย ๆ อยู่แนวนึง



เราเห็นมีไปรษณีย์อยู่ตรงข้าม เลยข้ามไปส่งโปสการ์ด ถนนแถวนี้มีตึกสวยงามอยู่แถบนึง ทางขวาของเรา คือ Place de la Monnaie Muntplein จะมีห้างสรรพสินค้าเป็นตึกเชื่อมระหว่าง 2 ถนน เราเลยเดินเข้าไปดูซักนิด เพราะอยากหลบฝน และเอาความอุ่นด้วย

พอออกจากห้าง ก็เจอ Opera House แต่กำลังซ่อมแซมอยู่



เราเดินตรงต่อไปเพื่อไปถนน Rue Neuve (Nieuwstraat) เป็นถนนคนเดิน shopping ที่สำคัญแห่งหนึ่ง



เดินไปประมาณกลางถนน มีแยกขวาเพื่อเลี้ยวออกไปที่ Place Martyrs เป็นจัตุรัสมีรูปปั้นตรงกลาง เคยอ่านเจอว่าสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับคนตาย 450 คนในช่วงปี 1830 (แต่ไม่รู้รายละเอียด)



แล้วเราก็เดินกลับออกมาผ่านทาง Opera House แล้วแยกไปทางซ้าย เพื่อไปดู Place des Bouchers หรือที่เรียกว่า Belly of Brussels ถนนนี้มีร้านอาหารที่ขายแต่อาหารทะเล พวกหอยแมงภู่ กุ้ง ซึ่งขายเหมือน ๆ กันทุกร้าน



เราเดินจนถึง Galleries Saint Hubert เป็นตึกยาว ๆ มีร้านค้า หลังคาสูง ๆ สวย ๆ



เราไปลองชิมชอคโกแลตและลองซื้อมากินด้วย



พอเดินออกมาจากตึกนั้น ปรากฏว่าเป็นถนนหลังโรงแรม เรียกบริเวณนี้ว่า Grasmarkt ตอนนั้นประมาณบ่าย 3 โมงกว่า เราเลยให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่านขึ้นไปพักบนโรงแรม แล้วเราก็ไปเดินเล่นกันต่อ โดยเดินกลับไปทางรูปปั้นเด็กฉี่ ปรากฏว่าเดินอยู่ดี ๆ ก็เห็นรูปปั้นคนนั่งอยู่ ก็ยังคุยกันว่าเมื่อเช้ามาไม่เห็นรูปปั้นนี้เลย พอกำลังจะเดินผ่าน รูปปั้นเข้ามาจ๊ะเอ๋ เราตกใจกันใหญ่ แล้วเค้าก็เรียกเราไปถ่ายรูป พอถ่ายเสร็จ เค้าบอกว่าคนละ 2 ยูโร อ้าว งงสิ แต่เรามีเหรียญกันไม่ถึง 6 ยูโร เค้าก็บอกว่าโอเค เซงเลย เสียเงินแบบเสียค่าโง่เลย



เจ้าตัวแสบ

บริเวณนั้น บนกำแพงจะมีการ์ตูน tin tin ซึ่งเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของการ์ตูนเรื่องนี้





แล้วเราก็กลับโรงแรมไปนั่งพักกัน

พักกันจน 4 โมงกว่า ก็พากันออกไปเดินอีก คราวนี้เราจะไปแถว Grand Sablon กัน เราออกจากโรงแรมแล้วมาทางทิศตรงข้ามกับที่ไป Grand Place โดยมาทางถนน Rue de L'Hopital เดินขึ้นเนินบางช่วง จนไปถึง Grand Sablon ตอนแรกนึกว่าจะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย แต่มันดูเงียบยังไงไม่รู้



มีไข่โชว์ ใกล้วัน Easter

เราก็เดินไปถึงถนนใหญ่ Rue de la Regence ตรงนั้นจะมีสวนสาธารณะเล็ก ๆ เราก็แวะเข้าไปถ่ายรูป



แล้วเราก็เจอ Place Royale ก็ได้แต่ถ่ายรูปด้านหน้า

มีทิวลิปด้วย



Royal Palace



แล้วเราเดินไปทาง Mont de la Cour จากตรงนี้ เหมือนเราอยู่บนเนิน เรามองเข้าไปเห็นวิวเมืองบรัซเซลทั้งหมด



แถวนี้ เราเจอรถขาย Waffle ซึ่งเป็นขนมอีกอย่างนึงที่ต้องมากินที่นี่ ของเขามีชื่อจริง ๆ



แล้วเราก็เดินลงบันไดไป Kunstberg Square จะมีต้นไม้ปลูกเรียงกัน ดูสวยดี แล้วเราก็ขอให้ฝรั่งช่วยถ่ายรูปให้พวกเราหน่อย



เดินต่อไปตรงถนน Mont des Arts จะมีนาฬิกาโต ๆ บนผนัง มีตุ๊กตาประดับมากมาย เรารอจนมัน 6 โมงตรง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น



เราเลยเดินกลับโดยไปเดินเล่นรอบ ๆ โรงแรมกันอีก เดินจนไม่รู้จะเดินอะไรแล้ว ก็กลับไปอยู่ที่โรงแรม

คืนนั้น เรารอจน 3 ทุ่ม ก็ออกมาถ่ายรูป Grand Place ตอนกลางคืน แต่ด้วยอากาศหนาว ทำให้เราอยู่ได้ไม่นานก็ต้องกลับโรงแรม แล้วเราก็นอนที่ บรัซเซลอีกเป็นคืนที่ 2





3 ทุ่มนะเนี่ย



ร้านอาหารบริเวณโรงแรมจะเริ่มขายตอนบ่ายไปยันดึกเลย มีพวก Pub ด้วย

เราชอบบรัซเซลนะ มีอะไรให้ดูเยอะ ตึกก็สวย อาหารการกินก็สะดวก ประกอบกับโรงแรมที่เราอยู่สะดวกสบายในการเดินเที่ยวเมือง เลยรู้สึกว่าเที่ยวเมืองนี้สนุกดี

แล้วเช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 12 ของการเดินทางแล้ว เรา Check out แล้วเตรียมกระเป๋าให้พร้อม แล้วเราก็เดินไปเอารถกัน ค่าที่จอดรถคิดเป็น 2 วัน ราคา 28 ยูโร



ตู้หยอดเงิน

หลังจากจ่ายเงิน ขับรถไปรับลูกทัวร์ที่โรงแรม เราก็ออกเดินทางต่อไป




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2554
2 comments
Last Update : 24 มิถุนายน 2554 12:15:22 น.
Counter : 1333 Pageviews.

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ ทักทายเช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์นี้ค่ะ

ไปเยี่ยมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ ThaiLand Travel l สถานที่ท่องเที่ยว

 

โดย: nonguide 24 มิถุนายน 2554 8:48:21 น.  

 

น่าอิจฉาจังเลยค่ะ อิอิ ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมมูลดีๆ ในการท่องเที่ยวยุโรป ตอนนี้กำลังศึกษาหาข้อมูลค่ะ

 

โดย: Color Candy (Color Candy ) 24 มิถุนายน 2554 11:22:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


boom_dw
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add boom_dw's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.