Group Blog All Blog
|
ขั้นตอนการขอ X- VISA เข้าประเทศจีนสำหรับศึกษาต่อ ประกาศ! ตอนนี้โบว์ได้ทำการย้ายบล็อกไปที่www.thebeauhlinglings.wordpress.comแล้วนะคะ รายละเอียดยังคงมีเหมือนเดิมค่ะ ย้ายไปที่บล็อกใหม่แล้ว รบกวนตามไปอ่านที่บล็อกใหม่นะคะ เนื่องจากไม่มีเวลาทำหลายบล็อก เพราะฉะนั้นจะขออนุญาตปิดบล็อกนี้ แต่โบว์ยังคงอัพเดตเกีายวกับการเรียน ทุนการศึกษา การใช้ชีวิต และจะเพิ่มการทำงานในประเทศจีนเพิ่มลงไปด้วยค่ะ เนื่องจากตอนนี้ทำงานแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนค่ะ ตามไปอ่านกันที่บล็อกใหม่นะคะ ขอบคุณค่ะ เมื่อentryที่แล้วเราได้คุยถึงขั้นตอนในการดำเนินการขอทุนรัฐบาลจีน(CSC) กันไป เมื่อผลทุนได้ออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่เราจะต้องทำก็คือการตรวจร่างกาย สำหรับคนที่ผลตรวจร่างกายมีอายุเกิน 6เดือน นับตั้งแต่วันที่ตรวจจนถึงวันลงทะเบียน และการทำวีซ่าซึ่งในวันนี้เราจะพูดถึงเรื่องการทำวีซ่าก่อนเนื่องจากเรายังไม่มีเวลาไปตรวจร่างกายใหม่เลย ติดรับปริญญาพอดี เผอิญว่าผลตรวจร่างกายของเราที่ทำครั้งก่อนจะครบ6 เดือนในเดือนหน้านี้เราก็เลยคิดว่าควรจะบึ่งไปทำวีซ่าก่อน แล้วเสร็จงานรับปริญญาแล้วค่อยไปตรวจร่างกาย
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นวีซ่า; 1. Passport (Original, photocopy) 2. Visa Form (ถ้าคนที่จะไปเรียนต่อ(Visa typed "X') จะต้องกรอกแบบฟอร์มทั้ง A และB 3. Passport-sized photo (2-inchphoto with light background) 4. Admission Notice (Original,photocopy) 5. JW 201หรือ JW 202 (Original, photocopy) 6. Physical Examination Form(Original, photocopy)
ควรจัดเรียงเอกสารไว้ให้ดีนะค่ะ เช่นเอกสารที่เป็นสำเนา เอาคลิปหนีบไว้ เอกสารที่เป็นต้นฉบับ ก็แยกเอาไว้เพราะว่าคนไปยื่นเรื่องทำวีซ่าเยอะมาก และตอนเรายื่นเอกสารจะแอบวุ่นวายนิดนึงเพราะเจ้าหน้าที่จะต้องเช็กVisaform ว่าเราติ๊กถูก เขียนถูกมั้ยถ้ามีที่ผิดต้องแก้ไขตรงนั้นเลย การจัดเรียงเอกสารให้หยิบง่ายหยิบสะดวกก็จะช่วยลดเวลาในการยื่นเอกสารลงนะค่ะ
สถานที่ในการยื่นขอวีซ่า; ไม่ได้ไปทำเรื่องที่สถานฑูตนะค่ะแต่ไปทำที่ Visa Division ที่อยู่ตรงข้ามกับสถานฑูตจีนค่ะโดยที่ทำการจะอยู่อาคาร AA Building ซึ่งเป็นอาคารร้างอ่ะค่ะต้องเดินเข้ามาในซอยรัชดาภิเษก ซอย3ก่อนนะค่ะ เดินเข้ามานิดเดียวเท่านั้นก็จะเห็นป้ายบอกค่ะ Chinese Embassy, VISA section openhour; 09.00 - 11.30 AM ไปเช้านิดนึงนะค่ะเพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าคนไปทำเยอะมาก ถ้าไปเช้าๆหน่อยก็จะได้อยู่หน้าๆคิวได้บัตรคิวก่อนนะค่ะ
การเดินทาง; 1. ขับรถ :เมื่อวันอาทิตย์ขับรถมาดูเส้นทาง เราว่าไม่ค่อยwork อ่ะค่ะขี้เกียจหาที่จอดรถ แต่ก็แล้วแต่คน แต่วันนี้ที่เรามา เรามารถไฟใต้ดินค่ะ สะดวกดี 2. MRT : สามารถลงได้2 สถานีนะค่ะ คือ สถานีพระราม 9และ สถานีศูนย์วัฒนธรรม แต่ขอแนะนำว่าลงสถานีพระราม 9จะเดินใกล้กว่าค่ะ
กรณีลงสถานีพระราม 9 : ให้เดินออกทางออกที่1 อาคารฟอร์จูนนะค่ะเดินออกมาจากตัวสถานีแล้วให้เดินไปทางซ้ายมือค่ะ (สังเกตุ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นCentralGrand Rama IX) เดินไปเรื่อยๆ ผ่านโลตัส ผ่านธนาคารทิสโก้ ผ่านBankof China แล้วก็จะเห็นซอยรัชดาภิเษกซอย 3ให้เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ ที่ทำการวีซ่าจะอยู่ตรงทางเข้าซอยเลยเห็นชัดเจน อยู่ข้างๆกับสถานฑูตค่ะ
กรณีลงสถานีศูนย์วัฒนธรรม :ให้เดินออกทางออกที่ 3 อาคารทรูนะค่ะเดินออกมาจากตัวสถานีแล้วให้เลี้ยวขวา(((((((อย่าเดินไปทางซ้ายนะค่ะเพราะทางนั้นจะเป็นทางไปเอสพลานาด
และอาคาร RS Building ค่ะ
เดินตรงมาเรื่อยๆ ค่อนข้างไกลนิดนึง แต่ก็พอเดินได้อ่ะค่ะ สังเกตุlandmark ใหญ่ๆคือตึกTrue จะอยู่ตรงข้ามกับสถานฑูตพอดี เดินตรงมาอีกนิด จะเจอรัชดาภิเษกซอย 3ก็เลี้ยงเข้าไปในซอยเลยค่ะ
3. BTS : ถ้ามารถไฟฟ้าต้องลงสถานีที่เชื่อมกับMRT ค่ะ ได้แก่ สถานีศาลาแดง เชื่อมกับ MRTสถานีสีลม,สถานีอโศก เชื่อมกับ MRTสถานีสุขุมวิท, และสถานีหมอชิต เชื่อมกับ MRTสถานีจตุจักรค่ะ
รายละเอียดของการขอวีซ่า; ค่าใช้จ่าย :อย่างเราไปเรียนต่อใช่มั้ยค่ะ ก็ขอแค่เป็น Single entry Service type ประมาณ4 วัน ก็เสียเงิน 1,000บาท ชำระวันที่เรามาเอาวีซ่านะค่ะ รายละเอียดการกรอกข้อมูลใน VisaForm; (จะprint out มาจากบ้านหรือ มารับฟอร์มที่สถานฑูตก็ได้ค่ะ) (จริงๆแล้วก็มีแปะความหมายของแต่ละช่องไว้ที่ชั้น1 ของอาคารนะค่ะแต่เราขออธิบายอีกรอบเผื่อใครที่จะprint formเองที่บ้านค่ะ) ปล. เพื่อไม่ให้เกิดการงง จะอ่านควบคู่ไปกับแบบฟอร์มที่โหลดมาก็ได้นะค่ะ จะได้เข้าใจมากขึ้น
FORM A ; ** เวลากรอกกรอกเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่นะค่ะ (Capital letter) ** ถ้าช่องไหนไม่มีข้อมูลให้ใส่ NOไปนะค่ะ อย่าเว้นว่าง ถ้าเว้นว่างไว้เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราเติม NONO NO ตอนยื่นเอกสารอยู่ดีค่ะ ** เอกสารมี 4หน้า
Section I : Personal Information 1.1 Full English name as inpassport : ชื่อ นามสกุลเรา ตรงตามpassport นะค่ะตรงนี้ไม่ต้องบอกมากเนอะ น่าจะเข้าใจกันอยู่แล้ว 1.2 Sex : เพศ 1.3 Name in Chinese character (ifapplicable) : ชื่อภาษาจีน ถ้ามีก็กรอกลงไปด้วยนะค่ะ 1.4 Other names you are, or havebeen known by : ชื่ออื่นๆของเราถ้ามี(น่าจะหมายถึงกรณีถ้าเรามีการเปลี่ยนชื่อนะค่ะ) 1.5 Name in ethic script : ชื่อของเราที่เขียนเป็นภาษาไทย(คิดว่าน่าจะใช่ แต่เราไม่ได้เขียนอ่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ว่าอะไร) 1.6 Current Nationality : สัญชาติที่ถืออยู่ปัจจุบัน
1.7 Former Nationality : สัญชาติที่เราเคยถือ(กรณีมีการเปลี่ยนสัญชาติค่ะ) 1.8 Other Nationality(ies) : สัญชาติอื่นๆ(บางคนถือ 2 สัญชาติ) 1.9 Date Of Birth : วันเกิด 1.10 Place Of Birth : สถานที่เกิด(ให้ใส่เป็นชื่อจังหวัด และ ประเทศค่ะ โรงพยาบาลที่เกิดไม่ต้องใส่) 1.11 Local ID Card Number : หมายเลขบัตรประชาชน 1.12 Marital Statue : สถานะของเราก็จะมีให้เลือกคือ Married (แต่งงาน), 1.13 Current Occupation : อาชีพปัจจุบัน 1.14 Passport Type : ประเภทของpassportใครถือpassportทางการฑูตก็เลือก Diplomatic ใครถือธรรมดาทั่วไปๆก็เลือก Ordinary ค่ะ
1.15 Passport Number : หมายเลขพาสปอร์ต 1.16 Date of issue : วันที่ออก(ใส่เป็น ปี เดือน วัน 1.17 Place of issue : สถานที่ออกพาสปอร์ต(ใส่แค่จังหวัด และ ประเทศค่ะ 1.18 Expiration date : วันหมดอายุ.. ปี เดือน วัน 1.19อันนี้ใครไม่รีบก็เลือก regular for 4 working days ไปค่ะ
Section II: Travel information 2.1 Major purpose(s) of yourvisit(s) to China : วัตถุประสงค์หลักๆที่เราจะไปเมืองจีน ก็เลือก Studyไปค่ะ 2.2 Intended number of entries : เลือกOne entry valid for 3 months from application เพราะยังไงเราก็ต้องไปเปลี่ยนเป็นTemporary Residence อยู่แล้วนะค่ะ แต่ต้องเปลี่ยนภายใน 30วันนับตั้งแต่วันที่เราเดินทาง
2.3 Date of your first entry : ให้ใส่วันที่เราจะเดินทางไปเมืองจีนค่ะ(เมื่อเราได้visaนี้แล้ว เราต้องเดินทางออกนอกประเทศภายใน 90วันค่ะ) 2.4 Your longest intened stayamong all entries of your intended visits in China : สำหรับคนไปเรียนต่อระยะเวลานานเกิน 1 ปี ให้ใส่ 360หรือ 000 ค่ะ (เจ้าหน้าที่บอกมานะค่ะ เราใส่ 000ไปค่ะ) 2.5 Residence and phone numberduring your stay in China : ตรงนี้เราใส่แต่ชื่อมหาลัย และ เบอร์โทรศัพท์ค่ะ 2.6 Who will pay for your cost oftravelling and living during your stay in China : ตรงนี้เราติ๊กOther และระบุไปว่า CSC ค่ะ
2.7 Do you have medical insurancecovering your visit in China : ประกันสุขภาพ ถ้ามี ใส่ YES พร้อมระบุชื่อบริษัทที่ทำประกันสุขภาพและ account ของเราค่ะ แต่ในกรณีนักเรียนทุน เราไม่ได้ใส่อะไรเลยช่องนี้ไม่ได้เขียน NO ด้วย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้เราเขียนอ่ะค่ะเราคิดว่าเจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้วว่า CSC เป็นคนดำเนินการเรื่องนี้ 2.8 Name, address, and phonenumber of your inviter or contact unit in China : ตรงนี้เจ้าหน้าที่ให้เราใส่ชื่อมหาลัยที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ค่ะ 2.9 Name, address, and phonenumber of your relative, friend, or contact person in China : ใครมีญาติมีเพื่อน ที่อยู่เมืองจีน และสามารถติดต่อหากันได้ก็ใส่ไปค่ะ
Section III : Information aboutyour family, work, or study 3.1 Detailed home mailing address: ที่อยู่ปัจจุบัน 3.2 Home phone number : เบอร์โทรศัพท์บ้าน 3.3 Mobile phone number : เบอร์มือถือ((( 3.4 Email address : อีเมลล์ 3.5 Current employer or school : ตรงนี้จะมีช่องให้ใส่ชื่อโรงเรียน/ ที่ทำงาน, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ 3.6 Major Family Member : กรอกข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวได้แก่ ชื่อ สัญชาติ อาชีพ ความสัมพันธ์
3.7 Contact person in caseemergency : ที่คนที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน 3.8 Contact person's phone number: เบอร์โทรศัพท์ของคนที่จะต้องติดต่อในยามฉุกเฉิน
Section IV : Other information 4.1 Have you ever visited Chinabefore : ถ้าไม่ให้เขียน NO ถ้าเคยให้ตอบYES และระบุวัน เวลา วัตถุประสงค์ 4.2 Have you ever visited othercountries or territories in the last 12 months : ในช่วง1 ปีที่ผ่านได้ไปต่างประเทศบ้างมั้ยถ้าไม่ได้ไปไหนเลยใส่ NO ถ้าไปใส่ YES พร้อมระบุวัน ชื่อประเทศ และวัตถุประสงค์ 4.3 Have you ever overstayed yourvisa or residence permit in China : ความหมายคือเคยเป็นโรบินฮู้ดอยู่เมืองจีนมั้ยติ๊ก NO ไปเลยค่ะ แต่ต้องอย่าโกหกนะ ถ้าเคยติ๊ก YES 4.4 Have you ever been resfused avisa for China, or been refused entry into China : เคยถูกปฏิเสธการขอวีซ่าหรือ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองจีนหรือไม่ 4.5 Do you have any criminalrecord in China or any other country : เคยมีประวัติอาญชกรรมในเมืองจีน หรือประเทศอื่นๆหรือไม่ 4.6 Are you affiliated with any ofthe following diseases : ป่วยเป็นโรคเหล่านี้อยู่หรือไม่ ได้แก่ Serious Mental Disorder : มีอาการป่วยทางจิตรุนแรง Infectious Pulmonary Tubercosis : วัณโรค (ให้ความรู้ศัพท์ไว้นิดนึงค่ะเผื่อใครต้องไปตรวจร่างกายเจอแล้วจะได้ไม่ งง ) Infectious คืออาการติดเชื้อ Tubercosis คือ เกี่ยวกับวัณโรคค่ะ ส่วน Pulmonaryคือเกี่ยวกับปอด 4.7 Other infectious disease ofpublic health hazards : เป็นโรคติดต่อที่เป็นอันตรายต่อสาธารณสุขหรือไม่ 4.8 If you selected YES to anyquestions form 4.3 to 4.7, please give detail below : ถ้าระบุYES ในข้อ 4.3 - 4.7ให้ใส่รายละเอียดในข้อ4.8 ด้วยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็ตอบ NO หมด แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะถ้าเป็นมันก็จะไปโชว์ในผลตรวจร่างกายแน่นอน
Section V : Relevant Declaration เราปล่อยผ่านค่ะ เพราะข้อที่ 5.2 เค้าจะถามว่ามีรายละเอียดอะไรที่สถานฑูตควรจะรับรู้เกี่ยวกับตัวเราอีกมั้ย ใครมีก็ใส่ได้ค่ะ
Section VI : Signature กรอกข้อมูลเสร็จหมดแล้ว ก็เซ็นชื่อให้ตรงกับพาสปอร์ตด้วยนะค่ะพร้อมลงวันที่ Section VII : If the applicationform is completed by another person on the applicant's behalf, please fill outthe following : ใครที่ให้คนอื่นทำแทน เช่นagency ต้องกรอกข้อมูลช่องนี้ด้วยค่ะ เป็นอันจบ VISA Form A
FORM B ; ** เวลากรอกกรอกเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่นะค่ะ (Capital letter) ** เอกสารมี 2หน้า
Name in English: ชื่อ-นามสกุลภาษาอังกฤษ Passport Number : หมายเลขพาสปอร์ต Date of birth : วันเกิด (ปี เดือน วัน)
A : สำหรับคนที่ขอVISA Z (เข้าไปทำงาน เราไปเรียนก็ปล่อยผ่านได้เลยค่ะ) B : Applying to study in China (X- Visa)
1. Education : การศึกษาสูงสุดมีให้ติ๊ก Bachelor, Master's, Doctorate or higher, และอื่นๆโปรดระบุ 2. Name of your last school,college, university, or other institutes : ชื่อมหาวิทยาลัยที่เราจบการศึกษามาค่ะใครไปต่อป.ตรีก็ใส่ชื่อโรงเรียน 3. Your major or focused in study: ใส่คณะ หรือ major ที่เราจบการศึกษามา 4. Your professional or technicalqualification : หากใครสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพ อะไรมาก็ระบุด้วยนะค่ะ 5. Name, address, and phone numberof your school in China : ใส่ชื่อมหาลัยที่เราได้ทุน หรือกำลังจะไปศึกษาต่อ พร้อม ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ 6. Your major or course in China :คณะ หรือ major ที่จะไปศึกษาต่อ
C : หัวข้อนี้สำหรับคนที่ไปท่องเที่ยวโดยใช้พาสปอร์ตเดียวกับเรา...อันนี้ดูงงๆ ไม่เกี่ยวกับเราปล่อยผ่านค่ะ D : หัวข้อนี้สำหรับคนที่ขอVISA ในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศของตน (เราพูด งงๆมั้ยค่ะ) อันนี้ใครที่ถือพาสปอร์ตไทยก็ข้ามเลยค่ะ หลังจากนั้นก็เซ็นชื่อ ลงวันที่เป็นอันเรียบร้อย
จบแล้วการขอวีซ่ามีเท่านี้จริงๆข้อควรระวังคือ ควรเตรียมเอกสารไปให้พร้อม เพราะเวลายื่นเอกสาร ยื่นทีเดียวค่ะแล้วก็ควรกรอกข้อมูลต่างๆให้ครบ รูปถ่ายแปะกาวมาเลยหรือจะมาแปะที่สำนักงานก็ได้ แต่มันจะเสียเวลาค่ะส่วนค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าให้นำเงินมาชำระวันรับวีซ่านะค่ะ วันไปขอวีซ่ายังไม่ต้องชำระเงินค่ะ ปล 1. ใครมีข้อสงสัยอะไรทิ้งคอมเม้นท์ไว้เฉกเช่นเดิมนะค่ะ หรือจะทิ้งอีเมลล์ไว้ก็ได้ เด่วจะกลับมาตอบนะค่ะ ปล 2. พอดีหลังจากทำวีซ่าเสร็จก็เดินไปขอความรู้เกี่ยวกับการเปิดบัญชีของ Bank of China พอดีในhandbookที่มหาลัยส่งมาบอกว่า Bank of China อยู่ใกล้ๆมหาลัย ก็ว่าจะเปิดบัญชีที่แบงค์นี้ด้วยอ่ะค่ะ ถ้าใครสนใจอยากได้ข้อมูลก็บอกได้นะค่ะ เด่วจะเอามาลงในครั้งหน้าให้ค่ะ ปล 3. อ่านไม่รู้เรื่อง หรือข้อมูลตรงไหนผิดพลาด ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ Beauhlinglings
กำลังจะไปทำวีซ่าอยู่เหมือนกันคับ แต่สงสัยนิดนึงว่าใบตรวจร่างกายที่ทางมหาลัยแนบมา เอาไว้ทำวีซ่าหรือต้องส่งให้มหาลัยคับ ถ้าต้องส่งให้มหาลัย ใบตรวจร่างกายสำหรับทำวีซ่าใช้ฟอร์มของโรงพยาบาลก็ได้อย่างนั้นรึป่าวคับ
โดย: dee IP: 202.12.73.65 วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:41:42 น.
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ช่วยได้มากๆเลย กำลังจะไปขอวีซ่าพรุ่งนี้แล้วค่ะ =^^=
โดย: pum mushroom IP: 58.9.45.203 วันที่: 23 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:21:13 น.
เราติดทุนจีนเหมือนกัน แต่ยังงงกับขั้นตอนอยู่ ทั้งวีซ่า การเปิดบัญชี และอีกหลายๆเรื่อง ติดต่อเราหน่อยนะที่เมลล์ qian_belinda&msn.com
ขอบใจมากจร้า โดย: STSN IP: 115.87.246.66 วันที่: 24 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:44:04 น.
รบกวนขออีเมลล์ด้วยคับ ruchy.tts@gmail.com
โดย: dee IP: 180.183.171.233 วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:30:36 น.
ขอ email ได้ไหมคะ
- อยากสอบถามเรื่องใบตรวจสุขภาพค่ะ ในวันรายงานตัวต้องใช้ไหมคะ - แล้วถ้าใบตรวจสุขภาพเกินกำหนด 6 เดือน ในวันที่รายงานตัวต้องทำใหม่หรือเปล่า - แล้วถ้าต้องทำใหม่ต้องทำที่ประเทศไทย หรือทำที่จีนคะ -แล้วมีอีกหลายเรื่องที่สงสัย ขอemail คุยกันได้ไหมคะ โดย: 2WEN IP: 122.154.94.10 วันที่: 31 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:09:23 น.
รบกวนขอคำปรึกษา เรื่องการเปิดบัญชีธนาคารและการโอนเงินทางเมล์ค่ะ frame_flammable @hotmail.com
โดย: sirithorn IP: 110.49.242.211 วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:10:01:35 น.
อยากขอคำปรึกษามากค่ะ
nampailin@yahoo.com โดย: หลิน IP: 115.67.1.23 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:14:54:38 น.
พี่คะตอนตรวจสุขภาพ ทางสถานทูตกำหนดโรงพยาบาลมั้ยคะ ว่ารับรองโรงพยาบาลไหนไว้บ้าง
โดย: นานะ IP: 223.207.207.243 วันที่: 28 มิถุนายน 2556 เวลา:22:07:52 น.
แล้วแต่มหาลัยค่ะ แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลจุฬาฯก็จะชัวร์สุดค่ะ บางมหาลัยก็ไม่รับรองผลของศิริราชค่ะ
โดย: beauhlinglings วันที่: 4 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:34:58 น.
ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่ะค่ะ ดีมากๆ เลย
โดย: smile IP: 58.8.174.63 วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:13:47:38 น.
ใบตรวจร่างกายจากรพ.จุฬาต้องนำไปรับรองเอกสารที่กงสุลไทยก่อนไปยื่นขอวีซ่าจีนมั้ยคะ
โดย: June IP: 124.121.121.213 วันที่: 12 พฤษภาคม 2557 เวลา:17:48:58 น.
|
beauhlinglings
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?] PHOEBE HUNG Based in +852|+86|+66 Coffee|Lifestyle|Gastronomy |Diary|Travel Instagram: thephoebediary Tumblr: Beauhlinglings "Spinning Laughing Dancing to her favourite song"
Friends Blog Link |