ออกปากที่มีบ่อยๆ เช่นออกปากเก็บข้าว,ออกปากตัดซัง ออกปากขุดถนน ขุดคลอง ออกปากแปลว่าวาน ไหว้วาน หรืออย่างไร คือการขอช่วยเพื่อนบ้าน ชุมชน กระทำอะไร ที่ไม่ต้องจ้าง เสร็จแล้วก็เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี อาหารเพียบ เหล้าเถื่อนพร้อม หลายคนเมาคลานกลับบ้าน บางรายก็กลับบ้านไม่รอด ต้องเอารถรุน (รถเข็น) มาทุกกลับ
ออกปากไปตามหาวัวเพราะวัวหายไป เพราะวัวเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มไปติดตัวเมีย แล้วหลงไปไหนไม่รู้กลับบ้านไม่ถูก ใช้ไม่กี่คน ก็พอ แต่ก็ต้องออกตามเพราะวัวสมัยนั้นเป็นสิ่งมีค่า เทียบกับรถยนต์สมัยนี้
ออกปากเก็บข้าว
ออกปากเก็บข้าวนี่ต้องหลายคน เก็บข้าว (เกี่ยวข้าว) จะเป็นผู้หญิงผู้ชายก็ได้ แต่ถ้าออกปากหาบข้าวซึ่งใช้แสกดังในรูปใช้ผู้ชายล้วน ผู้หญิงทำได้แค่ทูน (วางไว้บนหัว) ซึ่งจะได้ไม่กี่เลียง (ข้าวที่เก็บเป็นรวงแล้วมัดๆไว้)
เหตุที่ผมอยากเล่าเพราะผมเป็นคนรุ่นเก่า ยังเคยเก็บข้าว หาบข้าว และเลี้ยงวัวในท้องทุ่งนา ยังจำความได้
การออกปากเก็บข้าวมักจะใช้กับเจ้าของนาที่ทำนาเยอะ อาจจะมีญาติมากหลายคนทำเองได้ แต่อาจมีเหตุการณ์ให้ต้องออกปากเพราะญาติไม่อยู่ ย้ายบ้าน ตายจากหรือจะเหตุอะไรก็แล้วแต่ เช่นฝนจะมา พายุจะเข้า ช้าไม่ได้ต้องเร่ง มีทางเดียวคือต้องออกปาก
บางรายอาจจะใช้วิธีจ้างโดยใช้เงิน แต่สมัยนั้นเงินมีก็ไม่รู้เอาไปทำอะไร ยังไม่มีอะไรขาย นอกจากไฟฉายกับถ่านตรากบ หรือก้อนแก๊สสำหรับใส่กระป๋องเพื่อจุดไฟไปส่องปลาส่องกบยามค่ำคืน การจ้างด้่วยเงินจึงใช้ไม่ได้
สนุกครับตอนเก็บข้าว(ใช้แกะ) หยอกล้อกันไป เล่านิทาน ขับโนรา ว่ากลอนหนังตลุง มีคนเก่งๆแนวนี้อยู่จะเพลิน เพลินแบบเที่ยงหรือค่ำแบบไม่ทันรู้ ไม่เหนื่อย ลืมหิวไปเลย
ตัวอย่างภาพการออกปากสมัยใหม่ อันนี้ออกปากดำนา เชิญผ่านเฟสฯบุ๊คได้เลย สะดวกที่สุดครับ
การออกปากหามเริน
การออกปากหามเริน หรือย้ายบ้าน นี่ ต้องใช้คนเยอะครับ เพราะบ้านเป็นที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ใหญ่แบบสมัยก่อน สมัยนี้หมดสิทธฺิ๋เพราะเป็นบ้านปูนซีเมนต์
เหล็ก สารพัดสารเพ สมัยก่อนบ้านคือบ้านไม่มีอะไรมากมาย มีแต่ไม้ฝากำหลังคาจากหรือกระเบื้อง อาจถอดออกก่อน หรือไม่ต้องก็ได้ แล้วแต่ขนาดและจำนวนคน
ผมนี่ทันตั้งแต่สมัยตัวเล็กๆตามผู้ใหญ่ไปดูเขาหามเริน จนโตขึ้นมาหามเรินเอง และอยู่เรินหามถึงที่สุด เพราะพ่อไปซื้อเรินเก่ามาหลังนึง เป็นไม้ทั้งหลัง 1 ห้องโล่งกับมีห้องนอนแบบสมัยก่อน แต่ก็จำได้แบบเลือน ข้างนอกผมนอนกับแม่เฒ่า พี่สาวนอนในห้อง
การออกปากขุดถนน
ภาพนี้ได้จากคณพิชัย พรรคพวกชาวหัวไทร ออกปากชาวบ้านมาช่วยขุดดินซ่อมถนนที่เป็นหลุมเป็นโคลนไปต่อไม่ได้ ถนนเส้นจาก อ.ระโนดไป หัวเขาแดง ซึ่งเป็นท่าเรือข้ามฝั่งไป จ. สงขลา สมัยยุคแรกการมาของรถยนต์โดยสาร น่าจะราวๆ พศ. 2508
ภาพนี้จากคุณพิชัย พรรคพวกผมเองครับ เอาลงได้เลย ไม่ต้องอนุญาตแกคนใจดี ใจถึง ไม่ปิดบัง
ภาพข้างบนนี้เป็นการออกปากขุดดินช่วยรถตกหล่มบนถนน เส้นหัวเขาแดง-ระโนด บริเวณวัดพร้าว ต.ชายเคือง อ.ระโนด จ. สงขลา น่าจะ พศ.2512 ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นถนนดินบ้างลูกรังบ้าง เพิ่งนำรถยนต์มาใช้ได้ไม่นาน ตามรูปนี้น่าจะมี 2 คันแล้ว ก่อนหน้านี้ ไปปีสองปี มีคันเดียว 5 วันวิ่งทีนึง วันนึงเต็มๆจากระโนดไปหัวเขาแดง ถึงแล้วต้องนั่งเรือหางยาวข้ามฝั่งไปบ่อยางหรือสงขลาอีกที
ขากลับรถก็วิ่งวันนึงเต็มๆกว่าจะถึง ใครเคยดูหนังไทยเรื่อง"หนองหมาว้อ" ที่ปิยะ ตระกูลราษฎร์ แสดง ยังไงก็ยังงั้นครับ มาถึงระโนดแล้วก็ซ่อมรถอีก 2 วัน หลวมหมดทั้งคัน ลำบากลำบน แต่ก็สนุกดีครับ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งผ่านหน้าบ้าน ก็จะพากันไล่กระโดดเกาะหลังรถ ยืนไปได้ ราว 2-3 กม.ก็ลง แล้วก็เดินกลับบ้าน การวิ่งเกาะหลังรถถือเป็นของเล่นผมในยุคสมัยหนึ่ง
อัศจรรย์มาก ออกปากหามเริง
คนสมัยนี้มีความต้องการมากกว่าแต่ก่อน สังคมเปลียนไปเยอะ