“เตรียมลูกอ่อน” ลิ้มรสผลไม้

คุณแม่สามารถเริ่มต้นให้เจ้าตัวเล็กลิ้มรสผลไม้ได้เมื่ออายุ 4 เดือน โดยจะกินเป็นอาหารเสริม ในรูปแบบของน้ำผลไม้สด เช่น น้ำส้มคั้นสด น้ำมะพร้าวอ่อน ส่วนกล้วยน้ำว้าหรือกล้วยหักมุกปิ้งที่ เด็กวัย 4 เดือนกินได้ก็จะครูดเอาแต่เนื้อ



สำหรับวิธีการเริ่มก็ควรจะทดลองก่อนว่าลูกมีอาการแพ้หรือเปล่า แม้ว่าปกติการแพ้ผลไม้จะ น้อยมาก (ที่แพ้มากส่วนใหญ่จะเป็นนม ปลา ข้าวสาลี ถั่ว เวลาให้อาหารกลุ่มนี้คุณแม่จึงต้องระวัง เป็นพิเศษค่ะ) เริ่มจากการให้ครั้งละ 1 อย่างโดยให้ทีละน้อยๆ ครั้งละ 1 ช้อนชา 2 วันติดกัน ถ้าไม่มี อะไรผิดปกติก็จะให้เพิ่มเป็น 1 1/2 ช้อนชา ติดกันอีก 2 วัน จากนั้นก็เพิ่มเป็น 2 ช้อนชาต่ออีก 2 วัน ถ้าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นแล้วล่ะก็คุณแม่ก็สบายใจได้ว่าลูกกินผลไม้ชนิดนั้นๆ ได้ สามารถให้ ต่อได้ เช่น ถ้าจะป้อนกล้วยก็อาจเตรียมให้ครั้งละผลกลางๆ ส่วนน้ำส้มก็อาจจะเป็นครั้งละ 1-2 ออนซ์ วันละ 1 ครั้งเท่านั้น

หากจะให้ลูกกินน้ำผลไม้ คุณแม่ต้องสังเกตระบบขับถ่ายของลูกด้วยว่าปกติหรือเปล่า เพราะ เด็กบางคนจะไวกับน้ำผลไม้แต่ละอย่างไม่เหมือนกัน บางชนิดไวมากก็จะทำให้ท้องเสียได้ วิธีที่จะช่วยได้ก็คือคุณแม่ต้องดูว่าตอนให้ลูกกินนั้นเป็นเวลาที่ลูกท้องไม่ว่าง เพราะถ้าเกิดท้อง ว่างลูกก็จะขับถ่ายได้เร็วหรือท้องเสียทันที แต่ถ้าให้หลังจากให้นมแล้วสักพักใหญ่ช่วงมื้อบ่ายจะดี กว่า เรียกว่าเหมือนเสริมน้ำให้ลูกในช่วงตอนบ่ายหลังอิ่มนมนั่นเอง ที่สำคัญคุณแม่ไม่ควรให้ลูกกินน้ำ หลายๆ ชนิดปนกันค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็สามารถให้น้ำผลไม้กับลูกไปได้ตลอดเหมือนเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง โดย สามารถเพิ่มปริมาณไปตามอายุที่มากขึ้นของลูกค่ะ

ได้เวลาสัมผัสรสชาติเนื้อผลไม้

พออายุครบ 6 เดือน เจ้าตัวเล็กของคุณแม่ก็สามารถจะกินเนื้อผลไม้สุกบดได้แล้วซึ่งจะทำให้ เด็กๆ ได้รับกากใยช่วยให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น โดยให้นับว่าเป็นเหมือนอาหาร ที่อยู่ในมื้อ และควรเริ่มให้ลูกได้ทดลองกินในช่วงเวลาใกล้ๆ ที่เคยกินน้ำผลไม้แต่อาจจะเพิ่มความ เข้มข้นของเนื้อผลไม้ให้มากขึ้น อย่างเช่น มะละกอสุกบด แอปเปิ้ลบด องุ่นบด แคนตาลูป เมล่อน แตงไทยหรือมะม่วงสุกปลอกเปลือกแล้วบดหรือครูดเอาเนื้อละเอียด วิธีการก็เริ่มให้จากปริมาณน้อยๆ เพียง 1 ช้อนชาก่อน (หลักเหมือนกับการให้น้ำส้มคั้น) เพราะ ว่าพอเริ่มให้เนื้อผลไม้ กากใยที่เข้าไปในท้องอาจทำให้เกิดแก๊สเกิดขึ้น คุณแม่ต้องสังเกตดูว่าลูกมี อาการท้องอืด ผายลมออกมาบ้างหรือเปล่า เพราะถ้าผายลมมากแล้วดูลูกไม่สบายตัวอาจจะต้องลด ปริมาณลงหรืองดไปก่อน พอฟันลูกเริ่มขึ้นคุณแม่ก็สามารถเพิ่มความหยาบของเนื้อผลไม้ที่ลูกกิน จากบดเป็นสับหยาบ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นเป็นพอคำเหมือนกับผู้ใหญ่ได้ในที่สุด



หม่ำผลไม้...ถ่ายคล่อง

ปกติแล้วกากใยในผลไม้จะช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายทำงานดีอยู่แล้ว แต่มีผลไม้ บางชนิดอาจจะช่วยเสริมให้ระบบขับถ่ายทำงานไวขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคืออุจจาระ ยังคงต้องมีสีหรือลักษณะที่คล้ายเดิมอยู่ เพราะฉะนั้นคุณแม่อาจจะต้องสังเกตหรือ ระวังเรื่องปริมาณที่ จะให้ลูกกิน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ร่างกายของหนูๆ เองด้วยค่ะ

และนี่คือตัวอย่างผลไม้ที่ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น

มะละกอ จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายเพราะแยกโปรตีนได้ง่าย ถ้ากินมากๆ ก็อาจจะท้องเสียได้

น้ำลูกพรุนเข้มข้น จะค่อนข้างอันตรายถ้าจะให้เด็กเล็กกิน เนื่องจากแร่ธาตุสูงเกินไปสำหรับ เด็ก และจะไปกระตุ้นระบบขับถ่าย เรียกว่าในผู้ใหญ่กินแล้วก็จะเป็นคล้ายๆ ยาถ่ายเลยทีเดียว แต่ถ้า ลูกท้องผูกจริงๆ ก็อาจจะใช้น้ำลูกพรุน 1 ส่วนผสมกับน้ำต้มสุก 1 ส่วน ให้ลูก (อายุ 5 เดือนขึ้นไป) กินประมาณ 1 ช้อนชา

มะขาม เป็นผลไม้อีกอย่างที่กระตุ้นระบบขับถ่าย ถ้าลูกมีปัญหาท้องผูกก็อาจให้น้ำมะขาม เจือจางกับลูก โดยสามารถเตรียมเองง่ายๆ ด้วยการนำมะขามเปียก 1 ฝักมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำ มาขยำกับน้ำต้มสุก 5 ช้อนโต๊ะก็จะได้น้ำมะขามเข้มข้น ตักน้ำมะขามเข้มข้น 1 ส่วนมาผสมกับน้ำอุ่น ต้มสุก 1 ส่วน คุณแม่ก็จะได้น้ำมะขามที่ใช้ป้อนลูกได้ ให้ป้อนเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 1 ช้อนชา

ทั้งน้ำลูกพรุนและน้ำมะขามผสมเพื่อใช้เพียงครั้งเดียว และต้องใช้ในกรณีที่ลูกท้องผูกจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นร่างกายจะเคยตัวต้องกินไปเรื่อยๆ พร้อมกับเพิ่มปริมาณมากขึ้นด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร ฉบับที่ 125 เดือนมีนาคม 49







Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 15 กรกฎาคม 2552 22:06:56 น.
Counter : 2702 Pageviews.

0 comments

เจ้าแม่แฟชั่น
Location :
  Maldives

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



Group Blog
กรกฏาคม 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31