...นาฬิกาปลุกดังตอนตีสี่ตื่นได้โดยไม่งัวเงีย ไม่ต้องกดเลื่อนทุกสิบนาทีเหมือนตอนอยู่เวร แวะไปหากาแฟเซเว่นก่อนไปสนามหลังอดมาหนึ่งวันไปทันยืดกล้ามเนื้อตอนรอเพื่อนสักคนเข้าส้วม...ณ จุดสตาร์ทยังไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนปล่อยตัวนี่สิเขาจุดพลุ แมร่งเราดันคิดมาก พลุนำทางเปล่าวะ สนามนี้เรากลัวว่าจะ arest อยู่บนเขาซะด้วย แอบนัดแนะ ambulance กับหมอเวร รพ. ไว้แล้ว เรื่องนี้เรารู้กันอยู่ไม่กี่คนว่าต้องทำไง ผ่านจุดปล่อยตัวไปด้วยบรรยากาศอันมืดมิดแต่อุ่นใจเรามากันหลายคนและเรารู้จักพื้นที่ไม่หลงแน่นอนวิ่งไปเรื่อยๆเป็นสนามแรกที่ได้วิ่งแล้วชมวิวไปด้วย ไม่ต้องทำความเร็วซึ่งปกติก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว แค่ทำใจไปเรื่อยๆ....ไม่ต้องมองรองเท้าเหมือนสนามอื่นๆผ่านท่างราบมาได้อาการปกติ....เริ่มไต่เนิน....ยังได้อยู่....เริ่มเนินหลายลูกเริ่มต้องปรึกษากับตัวเองต้องทำยังไง....มาลงตัวที่ขึ้นเนินเดินมั่งวิ่งมั่งไปเก็บช่วงลงเนินวิ่งทอดน่องยาวๆคลายกล้ามเนื้อ.มันได้ผลดี..มาถึงตอนนี้การขึ้นเนิน....ดูจะง่ายกว่าการลงเนิน.....การควบคุมเข่าไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางดูจะเป็นความท้าทายที่สุดของงานนี้การบนบานศาลกล่าวก็มา...เมื่อต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวใจ...ช่วงขาลง.และก็เป็นภาระของหลวงพ่ออีกเช่นเคย.....มีบางช่วที่เจอ fc ขอถ่ายรูป.....มอบดอกไม้....วิ่งไปโม้ไป ผ่านยี่สิบโลตะคริวเกือบมาแต่พี่รู้ทันงานนี้ไม่ได้กินพี่นะรองานหน้าแล้วกัน...ตอนที่ขึ้นไปบนเขาสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเย็นตา เสียงหอยกวัก แมงสีปีกยังได้ยินเสียงเป็นระยะเรากลับคิดถึงเขาเจ็ดยอด เขาลูกล้อน ....บรรยากาศมันใช่ขาดแต่เป้บนหลัง ถ้าวิ่งออกจากถนนไปคือมันใช่เลย.......แล้วมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี.....กับ 30 km แรกของชวิต เขาพับผ้าซุปเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน กับเสื้อ finisher ตัวแรก กับเวลา 3:20 ชม.หลังจากวิ่ง bib เพื่อนสักคน ตอนงานลำปำ ครั้งนั้น ทำให้มีความเชื่อมั่นในเข่าตัวเองขึ้นมาก ครั้งนี้เพื่อน ตั้งใจมาวิ่งแก้บน ส่วนกุอยากลงสนามนี้ตั้งแต่ต้น ตั้งใจว่าผ่านสนามนี้ได้จะไปมาราธอนด้วยกัน05/08/2018