..เมื่อเพื่อนบางคน...ตั้งใจจะทิ้งทวนและทิ้งกุเพื่ออำลาวงการ...ด้วยเหตุผลต่างๆมากมายที่ถูกยกมาอ้าง....สุดท้ายมันก็ดูไม่น่าเชื่ออยู่ดีนั่นแหละ....เพราะจริงๆจะเลิกวิ่งตั้งแต่มาราธอนแรกจบลงแล้วโดยให้เหตุผลว่าขอจบมาราธอนแค่หนเดียว....และมาราธอนที่สองก็มีแค่หนเดียวเหมือนกัน ......ตอนที่ปลาย่างถูกฝากไว้กับแมว...เมื่อเพื่อนบางคนถูกนำมาทิ้งไว้กับกุ...แรกๆกุก็เครียดว่าจะพาเพื่อนเที่ยวไหนเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวตอนไปเขาอกทะลุกุรู้สึกเหมือนยังไม่สนิทกัน....ที่ไหนได้พอเจอกันจริงๆแอบคิดในใจคือเราสนิทกันตอนไหนเนี่ย....!!!!เพื่อนยังไม่เคยเที่ยวพัทลุงเลยได้โอกาสพาเที่ยวทางผ่านเพื่อฆ่าเวลาไปรับบิบ....แต่กุดันผ่านจากเขาชัยสนไปออกปากพะยูนเลยไปสิงหนครผ่านเกาะยอไปออกสงขลา....และสุดท้ายเหลืออีกสิบห้านาทีจะหมดเวลารับบิบ...กุดันขับรถหลงอยู่ในสวนสาธารณหาดใหญ่เพราะหาสถานที่จัดงานไม่เจอ...ขณะนั้นค่ำแล้ว...สุดท้ายถามทางจนได้คำตอบแน่ชัด.."เลี้ยวซ้ายแล้วมันจะเป็นสโลปลงไป" กุไม่รอช้าขับลงไปทันทีเจอรถจอดอยู่ก่อนแล้วสองคันแอบด่าในใจมาจอดขวางทำบ้าอะไรวะ..กุขับอ้อมรถทั้งสองคันไป.และเลี้ยวซ้ายทันทีเพื่อจะลงทางสโลป....ตึง!!!!! เข้าใจว่ารถลงหลุม พอตึงที่สอง....แน่แล้วมันเป็นกระไดหยั่งดูท้องรถไม่ครูดกับกระไดกุเหยียบคันเร่งทันที ตึง ๆๆๆๆ !!!!จนครบห้าขั้นผู้ชายสามคนวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น....บอกไปว่ามองไม่เห็นว่าเป็นกระไดถ้าสติดีกว่านี้ก็จะบอกว่ารีบไปรับบิบค่ะขับรถไปจอดหน้าเต๊นท์เพื่อรับบิบ...และตอนนี้รู้แล้วว่ารถสองคันนั้นจอดทำบ้าอะไรตรงนั้น....รับบิบเสร็จไปพักกับเพื่อนอีกคน.....ตั้งนาฬิกาปลุกตีหนึ่งสี่สิบตื่นมาตายห่าฝนตก แต่กุก็ยังทาครีมกันแดดทั้งตัว ตอนนั้นกุคิดอะไรอยู่????......ครั้งนี้เราไปถึงสนามก่อนเวลาสิบห้านาที ไม่ได้ยืดกล้ามเนื้อเหมือนเดิม.ฝนยังตกอย่างชุ่มฉ่ำ...กินกาแฟหนึ่งแก้วที่ผู้จัดไม่ได้เตรียมไว้ให้ไปหาชงกินเองเดินเข้าจุดสตาร์ทยืนตากฝนรอปล่อยตัว....ฉิบบบบ!!!!!!........นักวิ่งมีไม่ถึงสามสิบคนเราหารถ้วยกันแล้วลงตัว...แน่นอน..หลังปล่อยตัววิ่งไปกลางสายฝนตอนตีสามผ่านถนนใหญ่ยังคงมีแสงไฟส่องทางมีตำรวจอำนวยความสะดวกสักพักถึงทางแยกเลี้ยวขวาขึ้นเนินเล็กน้อยวิ่งลึกเข้าไป....สองข้างทางเป็นสวนยางพารา...รอบตัวมืดมิด..สายฝนยังคงกระหน่ำอย่างไม่ขาดเม็ด รอบตัวไม่มีใครสักคน....แต่ในใจกุนี่..เต็มไปหมด.ผีจะหลอกมั้ยวะ....จะวิ่งเหยียบงูมั้ย???? มีโจรปล้นสวาทมั้ย..สวนยางที่นี่มีประวัติมั้ย..ยังๆ ยังมีผ่านวัดอีกตอนตีสามกว่าๆดีที่วิ่งมาเจอลุงวิ่งนำอยู่....คิดในใจต่อโชคดีที่แกแก่แล้วค่อยใจชื้นมาหน่อย...ท่ามกลางสายฝนมันช่วยเรื่องเหนื่อยน้อยลงได้เยอะ...ใช้แผนเดิมรวมสมาธิด้วยการนับจุดให้น้ำ...แวะจิบมันทุกจุด...ขาไปนับได้ 10 จุดขากลับ 10 จุดเข่าไม่งอแงหลังกลับตัวเริ่มถามหาเกลือแร่....ฉิบห่ายยยย....!!!! ไม่มีเกลือแร่...กิโลที่ 35 เริ่มปวดเข้าพร้อมฝนเริ่มซาเม็ดหลังกระหน่ำมาตลอด.....ขาเริ่มหนักเพิ่มมากขึ้นคิดว่าตระคริวกำลังจะมา....ปวดแสบฝ่าเท้าวิ่งลากขาสลับเดิน....สุดท้ายพาร่างเข้าเส้นชัยจนได้ ด้วยเวลา 4.21 ชม.หลังจากนั้นคือกินมาราธอนทั้งวัน.....กับมาราธอนที่สอง Hatyai reviving marathon....เข่าทำระยะได้มากขึ้น.....จังหวะวิ่งดีขึ้น...สมาธิดี กำลังใจดีเลิศ....มาราธอนนี้ทำให้ได้เรียนรู้ว่า นักวิ่งขาแรงไม่น่ากลัวเท่านักวิ่งขาพังมันเจ็บปวดจริงๆ....สุดท้ายขอบคุณ อควาแมน!!!! ที่ทำให้เข้าใจคำว่าวีรบุรุษ....16/12/2018
(ผมยังวิ่งมินิอยู่ ธ.ค.นี้จะวิ่งฮาล์ฟครับ)