ททท.ภูมิภาคภาคกลาง BCG Road Trip พามาชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน ราชบุรี #3
เข้าสู่ตอนที่ 3 นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง พามาเยือนจังหวัดราชบุรี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง จัดกิจกรรม BCG Road Trip วันนี้พามาชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ วัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดเข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.30 น. เปิดการแสดงหนังใหญ่ ณ โรงละครหนังใหญ่ ทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 น. โทรศัพท์ : 089- 5554195 , 032 234 834
กราบขอบพระคุณ พระครู นำชมได้ดีมากเลยค่ะ
ผอ.กุ๊กไก่-ปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุุรี
วัดขนอน เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่มาราชบุรีต้องห้ามพลาด วัดขนอนจัดเป็นวัดที่อนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมการแสดงหนังใหญ่ และได้รับรางวัลการขึ้นทะเบียนทางยูเนสโก นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 และวันที่ 8 มิถุนายน 2550 ทางคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของยูเนสโกประกาศให้ "การสืบทอดและฟื้นฟูหนังใหญ่วัดขนอน" ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 6 ชุมชนดีเด่นของโลก ที่มีผลงานในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมเชิงนามธรรม (The safeguarding of Intagible Cultural Heritage : ICH)
คลิกที่นี่อ่านตอนที่ 1 ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จัดกิจกรรม BCG Road Trip มาที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง อ.บ้านโป่ง ราชบุรี
คลิกที่นี่อ่านตอนที่ 2 ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จัดกิจกรรม BCG Road Trip มาที่ชุมชนมอญวัดใหญ่นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง ราชบุรี
"หนังใหญ่" นับเป็นมหรสพที่เก่าแก่ของไทยเรา กล่าวกันว่าหนังใหญ่ของเร่นั้นมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จากหลักฐานบอกไว้ว่า การแสดงหนังใหญ่เริ่มมี สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ในสมัยรัตนโกสินทร์ปรากฏหลักฐานในการแสดงหนังใหญ่ มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โดยมีหลักฐานกล่าวกันว่าว่าพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนา เพื่อใช้แสดงเพิ่มขึ้นจากเรื่องรามเกียรติ์
ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้มีหลักฐานการสร้างตัวหนังใหญ่และบทวรรณคดีที่ใช้ในเรื่องรามเกียรติ์ ใช้แสดงหนังใหญ่ชุด "พระนครไหว" ซึ่งต่อมาได้มีการนำมาเก็บไว้ ณ โรงละครแห่งชาติหลังเก่าแต่ถูกไฟไหม้เกือบหมด ต่อมาสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พบการทำหนังใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ หนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสิงห์บุรี และหนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี
ด้านหลังพระอุโบสถมีเจดีย์ทรงระฆังก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ ฐานเจดีย์เป็นฐานบัวทรงสี่เหลี่ยม รองรับฐานบัวกลมและชุดมาลัยเถาโดยที่ชั้นมาลัยเถานี้จะมีซุ้มพระ 8 ซุ้ม ซ้อนกันเป็นสองชั้นชั้นละ 4 ซุ้ม องค์ระฆังกลมมีสายสังวาลรัด ส่วนยอดมีบัลลังก์สี่เหลี่ยมรองรับบัว และปลียอด ลักษณะของส่วนยอดคล้ายกับเจดีย์มอญ
ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ ด่านขนอน วัดขนอนเป็นสถานที่ ที่เคยเป็นด่านเก็บภาษีอากรที่เรียกว่า ด่านขนอน มาตั้งแต่สมัยโบราณ จึงเป็นแหล่งการศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจกับสังคมในยุคก่อน ทั้งวัดขนอนยังมีทรัพย์สินที่เหลือจากการส่งเข้าท้องพระคลัง ซึ่งนายด่านขนอนถวายเอาไว้ให้เป็นสมบัติของวัดก่อนที่จะมีการเลิกด่านขนอนไป โดยมากเป็นสินค้าที่ได้มากจากการเก็บจังกอบชนิด สิบหยิบหนึ่ง หรือ ภาษีถ้วยโถโอชาม มีเครื่องลายคราม เครื่องเบญจรงค์ และโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่เรียนรู้ทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคม ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม ในสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี
ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน สร้างขึ้นเมื่อสมัยรัชการที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นลักษณะของหนังราษฎร์(หนังชาวบ้าน) โดยท่านพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) ได้ชักชวนช่างพื้นบ้าน ร่วมกับช่างหลวงประจำจังหวัดราชบุรีมาร่วมสร้างขึ้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรามเกียรติ์ ออกแสดงตามงานต่างๆ โดยเป็นมหรสพของวัดขนอนภายหลังยุคสงครามโลกครั้งที่สอง วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามีอิทธิพลไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ดนตรี ฯลฯ หนังใหญ่จึงหายไปจากสังคมไทย
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเยี่ยมชมวัดขนอน จึงได้มีพระราชดำริให้ทางวัดขนอนได้จัดทำหนังใหญ่ชุดใหม่ขึ้นใช้แทนชุดเก่า และโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาหนังใหญ่ชุดเดิมเอาไว้ วัดขนอนจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานราชการทุกภาคส่วน โดยมีมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งอธิการบดี เป็นกำลังสำคัญในการจัดทำหนังใหญ่ชุดใหม่ โดยใช้งบบริจาค 2 ล้านบาทเศษ โดยมีผศ.สน สีมาตรัง เป็นฝ่ายดูแลและควบคุมการทำหนังใหญ่ฯ เมื่อปีพ.ศ.2538 ดำเนินการจัดทำแล้วเสร็จ
จึงได้นำขึ้นถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ได้พระราชทานให้วัดขนอนไว้ใช้ในการแสดงสืบไป และทรงให้ทางวัดขนอนส่งเสริมการฝึกหัดเยาวชน มาเชิดหนังใหญ่เล่นดนตรีไทยและแกะสลักหนังใหญ่เอาไว้ด้วย
ส่วนตัวเรือนพิพิธภัณฑ์ ทางวัดได้ผาติกรรมหอสวดมนต์เก่าของวัด ซึ่งเป็นเรือนไม้ทรงไทยมาสร้าง ออกแบบตัวเรือนพิพิธภัณฑ์โดย ผศ.สมใจ นิ่มเล็ก และการตกแต่งภายในออกแบบโดย รศ.พงศ์ศักดิ์ อารยางกูร จัดสร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ.2542
ก่อนจะออกจากวัดขนอนแสะนั่งชิลชิลร้านกาแฟสักครู่
เพราะบรรยากาศดี กาแฟอร่อย ของที่ระลึกสวยงามค่ะ
ถ้านั่งข้างเขาแล้วเหงามานั่งข้างยาย่าน้องเราก็ว่างเสมอ
ส่งท้าย ณ วัดขนอนด้วยภาพนี้ Blog หน้าก็ยังคงตะลอนเที่ยวอยู่ในจังหวัดราชบุรีค่ะแล้วเจอกัน
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี BG : โอน่าจอมซ่าส์ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat ของแต่ง BLOG : ป้ามด-ดอกหญ้าเมืองเลย-ชมพร-ญามี่-เนยสีฟ้า เพลง : เที่ยวกันเถอะเรา / F.HERO & BOOM BOOM CASH ของแต่ง Blog : ชมพร + ญามี่ + เนยสีฟ้า
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2564 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2564 19:50:18 น. |
|
13 comments
|
Counter : 1126 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณpeaceplay, คุณKavanich96, คุณlovereason, คุณกะว่าก๋า, คุณกิ่งฟ้า, คุณmultiple, คุณเริงฤดีนะ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณทูน่าค่ะ, คุณnewyorknurse, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณInsignia_Museum |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา:20:07:14 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:8:50:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:11:25:49 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:12:18:17 น. |
|
|
|
โดย: ณ มน วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:37:39 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:18:36:48 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:18:48:00 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา:19:46:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤศจิกายน 2564 เวลา:6:23:15 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2564 เวลา:15:50:17 น. |
|
|
|
|
|