|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
วาสนาคนเรานั้น สร้างได้ แก้ไขได้..........
หลายวันก่อน ได้มีโอกาสไปวัดญาณเวศกวัน เลยได้หนังสือของท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ติดไม้ติดมือกลับบ้านมาหลายเล่ม รวมทั้ง CD คำบรรยายธรรมะของท่านด้วย ใช้เวลาอ่าน ฟัง รวดเดียวติดต่อกันด้วยความหลงไหล และสนุกสนานอิ่มเอิบในคำสอน
อ่านจบไปหลายเล่ม เห็นว่าคำสอนท่านเหมาะกะมนุษย์ปุถุชนที่ยังมีกิเลสหนาอย่างเราๆเพื่อนำไปครองตนครองชีวิตอย่างยิ่ง อ่านง่าย เข้าใจง่าย ชวนให้คิดตาม สงสัยจอมโจรอย่างข้าพเจ้า คงได้คิดกลับตัวกลับใจกันคราวนี้ เหอเหอเหอ.........
นึกถึงเพื่อนๆ เลยคัดย่อมาบางส่วน เพื่อมา share กะเพื่อนๆเป็นข้อคิดสะกิดใจในการดำเนินชีวิต ในการทำงานประกอบอาชีพ ลองตั้งใจอ่านกันนะคับ ได้ประโยชน์จิงจิงนะเอ๊าววว.....อุอุอุ
เราสร้างวาสนา แล้ววาสนาก็สร้างเรา
วิธีดำเนินชีวิตให้ดีมีสุขอย่างหนึ่งก็คือ ทำใจของเราให้เกิดกุศล เมื่อใดใจเกิดกุศล ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้สึกที่สบาย ผ่องใส เอิบอิ่ม เบิกบานใจ หรือเป็นด้านคุณธรรม เช่น เมตตา ไมตรี หรือเป็นความคิดที่ดีว่าจะทำโน่นทำนี่ที่เป็นการสร้างสรรค์ ช่วยเหลือกัน ร่วมมือกัน เอื้อเฟื้อกันดีทั้งนั้น เมื่อเกิดอย่างนี้แล้วต่อไปก็ออกสู่การกระทำ มีการปฏิบัติที่ดีตามมา
ถ้าใจของเราเกิดอย่างนี้บ่อยๆ จิตก็จะคุ้นเป็นนิสัย คือคนเรานี้อยู่ด้วยความเคยชินเป็นส่วนใหญ่ เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่า ที่เราอยู่กันนี้เราทำอะไรๆ ไปตามความเคยชิน ไม่ว่าจะพูดกับใคร จะเดินอย่างไร เวลามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เราจะตอบสนองอย่างไร ฯลฯ เรามักจะทำตามความเคยชิน ทีนี้ก่อนจะมีความเคยชินก็ต้องมีการสั่งสมขึ้นมา คือทำบ่อยๆ บ่อยจนทำได้โดยไม่รู้ตัว
แต่ทีนี้ท่านเตือนว่าถ้าเราปล่อยไปอย่างนี้มันจะเคยชินแบบไม่แน่นอนว่าจะร้ายหรือจะดี และเราก็จะไม่เป็นตัวของตัวเอง ท่านก็เลยบอกว่าให้มีเจตนาตั้งใจสร้างความเคยชินที่ดี ความเคยชินที่เกิดขึ้นนี้ท่านเรียกว่า วาสนา ซึ่งเป็นความหมายที่แท้และดั้งเดิม ไม่ใช่ความหมายในภาษาไทยที่เพี้ยนไป วาสนา ก็คือความเคยชิน ตั้งแต่ของจิตใจ ตลอดจนการแสดงออกที่กลายเป็นลักษณะประจำตัว ใครมีความเคยชินอย่างไร ก็เป็นวาสนาของคนนั้นอย่างนั้น และเขาก็จะทำอะไรๆ ไปตามวาสนาของเขา หรือวาสนาก็จะพาเขาไปให้ทำอย่างนั้นๆ เวลาพบเห็นอะไร ใครสั่งสมจิตใจชอบมาทางไหน ก็ไปทางนั้น
เช่น มีของเลือก ๒-๓ อย่าง คนไหนชอบสิ่งไหนก็จะหันเข้าหาแต่สิ่งนั้น แม้แต่ไปตลาดไปร้านค้า ไปที่นั่นมีร้านค้าหลายอย่าง อาจจะเป็นห้างสรรพสินค้า เดินไปด้วยกัน คนหนึ่งชอบหนังสือก็ไปเข้าร้านหนังสือ อีกคนไปเข้าร้านขายของเครื่องใช้ เครื่องครัว เป็นต้น แต่อีกคนหนึ่งไปเข้าร้านขายของฟุ่มเฟือย อย่างนี้แหละเรียกว่าวาสนาพาให้ไป คือใครสั่งสมมาอย่างไรก็ไปตามนั้น และวาสนานี้แหละจะเป็นตัวการที่ทำให้ชีวิตของเราผันแปรไปตามมัน
พระท่านมองวาสนาอย่างนี้ เพราะฉะนั้น วาสนาจึงเป็นเหตุเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โดยไม่รู้ตัว ท่านก็เลยบอกว่าให้เรามาตั้งใจสร้างวาสนาให้ดี เพราะวาสนานั้นสร้างได้
วาสนาสร้างได้ แก้ไขได้
คนไทยเราชอบพูดว่าวาสนานี้แข่งกันไม่ได้ แต่พระบอกว่าให้แก้ไขวาสนา ให้เราปรับปรุงวาสนา เพราะมันอยู่ที่ตัวเรา ที่สร้างมันขึ้นมา แต่การแก้ไขอาจจะยากสักหน่อย เพราะความเคยชินนี้แก้ยากมาก แต่แก้ได้ปรับปรุงได้ ถ้าเราทำ ก็จะมีผลดีต่อชีวิตอย่างมากมาย ขอให้จำไว้เป็นคติประจำใจเลยว่า วาสนามีไว้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้แข่งขัน
ถ้าคิดเป็น ก็พลิกวาสนาได้
บางคนเกิดมาจน บอกว่าตนมีวาสนาไม่ดี หรือบางทีบอกว่าเราไม่มีวาสนา พูดอย่างนี้ยังไม่ถูก คนจนวาสนาดีก็มี วาสนาไม่ดีก็มีคนรวยก็อับวาสนาได้เช่นกัน ถ้าเกิดมาจนแล้ว มัวแต่หดหู่ ระย่อ ท้อแท้ใจ ได้แต่ขุ่นมัว เศร้าหมอง คิดอย่างนี้อยู่เรื่อย ก็แน่นอนละว่าวาสนาไม่ดี เพราะคิดเคยชินในทางไม่ดี จนความท้อแท้อ่อนแอกลายเป็นลักษณะประจำตัว
แต่ถ้าเกิดมาจนแล้วคิดถูกทางว่า ก็ดีนี่ เราเกิดมาจนนี่แหละเจอแบบฝึกหัดมาก พระท่านว่าคนนี้เป็นสัตว์พิเศษ จะประเสริฐได้ด้วยการฝึก เพราะเราจน เราจึงมีเรื่องยากลำบากที่จะต้องทำ มีปัญหาให้ต้องคิดและเพียรพยายามแก้ไขมาก นี่แหละคือได้ทำแบบฝึกหัดมาก
พลิกวาสนาได้ด้วยปัญญาและความเพียร
เมื่อเราทำแบบฝึกหัดมาก เราก็จะยิ่งพัฒนามาก ได้พัฒนาทักษะให้ทำอะไรได้ชำนิชำนาญ พัฒนาจิตใจให้เข้มแข็งอดทน มีความเพียรพยายามใจสู้ จะฝึกสติฝึกสมาธิก็ได้ทั้งนั้น และที่สำคัญยอดเยี่ยมคือได้ฝึกปัญญาในการคิดหาทางแก้ไขปัญหา
คนที่เกิดมาร่ำรวยมั่งมี ถ้าไม่รู้จักคิด ไม่หาแบบฝึกหัดมาทำมัวแต่หลงเพลิดเพลินในความสุขสบาย นั่นแหละจะเป็นวาสนาไม่ดี ต่อไปจะกลายเป็นคนอ่อนแอ ทำอะไรไม่เป็น ปัญญาก็ไม่พัฒนากลายเป็นคนเสียเปรียบ เพราะฉะนั้น ใครจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ จะดูที่ฐานะข้างนอก ว่ารวยว่าจนเป็นต้น ยังไม่แน่
คนที่รู้จักคิด คิดเป็น คิดถูกต้อง สามารถพลิกความเสียเปรียบเป็นความได้เปรียบ แต่คนที่คิดผิด กลับพลิกความได้เปรียบเป็นความเสียเปรียบ และทำวาสนาให้ตกต่ำไปเลย จึงต้องจำไว้ให้แม่นว่า ไม่มีใครเสียเปรียบหรือได้เปรียบอย่างสัมบูรณ์ ถ้าคิดเป็น ก็พลิกความเสียเปรียบให้เป็นความได้เปรียบได้แต่อย่าเอาเปรียบกันเลย เรามาสร้างวาสนากันให้ดี จะดีกว่า...............
พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์นั้นเป็นผู้ที่พ้นจากอำนาจของวาสนา พระพุทธเจ้าทรงละกิเลสพร้อมทั้งวาสนาได้หมด หมายความว่า พระองค์ไม่อยู่ใต้อำนาจความเคยชิน แต่อยู่ด้วยสติปัญญา.......
Create Date : 17 สิงหาคม 2550 |
|
86 comments |
Last Update : 17 สิงหาคม 2550 15:23:45 น. |
Counter : 1825 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 17 สิงหาคม 2550 15:29:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 17 สิงหาคม 2550 22:20:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ญ่า (kayook ) 17 สิงหาคม 2550 22:43:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 17 สิงหาคม 2550 23:20:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: สะเทื้อน 18 สิงหาคม 2550 10:47:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: prncess 18 สิงหาคม 2550 13:45:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: akojajaa 18 สิงหาคม 2550 15:57:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงาราตรี 19 สิงหาคม 2550 0:32:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: pangz 19 สิงหาคม 2550 22:59:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: นกหวาน 20 สิงหาคม 2550 11:10:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 20 สิงหาคม 2550 11:15:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: pangz 20 สิงหาคม 2550 12:16:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ญ่า (kayook ) 20 สิงหาคม 2550 14:07:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) 20 สิงหาคม 2550 15:53:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: azamiya 20 สิงหาคม 2550 16:26:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 20 สิงหาคม 2550 17:18:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: sysee 20 สิงหาคม 2550 23:21:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ญ่า (kayook ) 21 สิงหาคม 2550 12:21:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 21 สิงหาคม 2550 18:21:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงาราตรี 22 สิงหาคม 2550 0:05:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 22 สิงหาคม 2550 0:56:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 22 สิงหาคม 2550 10:09:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้ำฝน (มณีไตรรงค์ ) 22 สิงหาคม 2550 10:37:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 22 สิงหาคม 2550 11:07:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 22 สิงหาคม 2550 13:20:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 22 สิงหาคม 2550 13:38:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: akojajaa 22 สิงหาคม 2550 14:08:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 22 สิงหาคม 2550 14:27:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 22 สิงหาคม 2550 22:26:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 23 สิงหาคม 2550 11:01:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) 23 สิงหาคม 2550 11:29:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ญ่า นังนู๋ตลกคาเฟ่ (kayook ) 23 สิงหาคม 2550 12:58:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 23 สิงหาคม 2550 15:37:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงาราตรี 23 สิงหาคม 2550 18:02:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: pangz 24 สิงหาคม 2550 14:41:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงาราตรี 26 สิงหาคม 2550 0:07:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: pangz 27 สิงหาคม 2550 9:50:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) 27 สิงหาคม 2550 15:07:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟ้า (ฟ้ากระจ่าง ) 27 สิงหาคม 2550 15:31:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: pangz 27 สิงหาคม 2550 18:08:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 27 สิงหาคม 2550 18:47:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: jajijaa 27 สิงหาคม 2550 18:48:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 27 สิงหาคม 2550 18:50:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 27 สิงหาคม 2550 19:16:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) 27 สิงหาคม 2550 19:51:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงาราตรี 28 สิงหาคม 2550 0:02:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 28 สิงหาคม 2550 8:16:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 28 สิงหาคม 2550 9:59:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaa+ (jajijaa ) 28 สิงหาคม 2550 10:36:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาวทะเล 28 สิงหาคม 2550 12:50:46 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนบางคนอยากมีเงินเท่าทะเล เขาจึงมีความทุกข์เท่าทะเล...... เพียงเพราะต้องดิ้นรน........ หาเงินให้เท่ากับทะเล
คนบางคนอยากมีเพียงเบ็ดสักคัน เพียงเพื่อหาปลาตัวนึง....จากทะเล กลับไปเป็นอาหารเย็น และมีความสุขกับ....การนอนนับดาว ยามค่ำคืนบนชายหาดที่สงบเงียบ
|
|
|
|
|
|
|
|
อนุโมทนา สาธุ
ในกุศล อันเกิดจาก การให้ธรรมะเป็นทาน นะคะ
แล้วดาวจะไปพลิกฟ้าด้วยผ่ามือ...เอ๊ย...!!!
พลิกวาสนา ด้วยปัญญา และ ความเพียร