Group Blog
 
 
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
+++ Artisan Sweets by Kate. : Cherry Blossoms Wedding Cake +++




สวัสดีค่ะ .... เพื่อน ๆ ทุกคนยังคงสบายกันดีอยู่ไหมคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงจากหน้าฝนไปสู่หน้าหนาวแล้วนะคะ ยังไงก็ขอให้รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
เข้าหน้าหนาวแล้ว ..... ก็ชวนให้คิดถึงเนื้อเพลงที่ว่า “ หนาวเนื้อ ห่มเนื้อจึงหายหนาว “ ก็เลยจะเห็นว่าช่วงหน้าหนาวนี่มีคู่แต่งงานกันเยอะเลย เอ้า ... ใครที่ยังไม่มีคู่ก็อย่าเพิ่งเบื่อไปก่อนนะคะ สำหรับงานนี้





วันนึงก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 เดือนเกดได้รับเมลล์โทรศัพท์จากน้องอุ้มหมี ..... ว่าป้าเกดดดดดด ป้ารับทำเค้กแต่งงานดอกซากุระไม๊ เพื่อนน้องจะแต่งงาน .... บลาๆๆๆ แทบไม่ได้คิดอะไร ตอบตกลงไปในทันทีว่า เออ ... ชั้นทำ เรื่องราคาไม่ทันได้พูดเลย ตกลงซะแล้ว
เค้กที่น้องชมพู (ชื่อเจ้าสาว) อยากได้เป็นเค้กดอกซากุระ สีชมพู เพราะว่าธีมแต่งงานเป็นสีชมพู ออกแนวญี่ปุ่นน่ารัก เป็นเค้กโฟมเพราะว่าเค้กจริงก็จะทำเป็นเค้กชิ้นเล็ก ๆ ให้กับแขกในงาน


โอ .... ความฝันเป็นจริงอีกแล้ว หลังจากงานแรกที่เป็นคัพเค้กงานแต่งงานของน้องเอเลน่า ซึ่งเป็นเค้กที่จุดประกายให้เกดไปเรียนการตกแต่งหน้าเค้กที่มาเลเซีย กลับมาแล้วก็ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซะทีเลย จากวิชาที่ได้ไปเล่าเรียนมา


ขั้นตอนแรกก็ต้องคิดแบบก่อน .... ว่าเจ้าสาวอยากได้เค้กแบบไหน ร่างแบบไว้สี่แบบพร้อมลายเอียด ส่งไปให้เจ้าอุ้มหมีแม่งาน แล้วก็รอคำตอบว่าชอบแบบไหน





พอสรุปแบบแล้วก็เตรียมของ เริ่มจากเค้กโฟมขนาดที่ต้องการ เกดเลือกใช้เค้กโฟมสูง 4 นิ้วขนาดต่าง ๆ กันถึง 7 ก้อน ได้แก่ 6,8,10,12,14,16,18 นิ้ว เอามาลองวางซ้อน ๆ กันดู เฮ้ยใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยอ่ะ





จากนั้นก็ทดลองทำดอกซากุระ ในเฉดสีชมพูอย่างที่เจ้าสาวต้องการคือ อยากได้ดอกซากุระ มีหลายเฉดสีในแต่ละชั้น สำหรับดอกซากุระก็ทำจาก Gumpaste (Flowerpaste) ที่ทำเองค่ะ ทดลองหลายสูตรเหมือนกัน จนได้สูตรที่ลงตัว งานนี้ไม่ได้สั่งซื้อแบบสำเร็จเข้ามา เพราะว่าอยากทดลองทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่อาศัยตัวช่วย แต่ถามว่าจริง ๆ แบบทำเองกับแบบที่ซื้อมานั้นมีความแตกต่างกันบ้างค่ะ แบบสำเร็จรูปนี่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า





พอทำดอกไม้เรียบร้อยแล้ว ก็จัดการทำแบบส่งให้ทางอุ้มหมีและน้องชมพูตรวจรอบสุดท้ายก่อนการลงมือทำเค้กจริง ๆ ก่อนหน้างานประมาณ 1 อาทิตย์ ที่จริงถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เร็วกว่านี้อีกสัก 3 อาทิตย์ แต่เผอิญมีสอนด้วยแล้วก็ทำเค้กด้วย จะทันไหนหนอเรา





แบบเค้กเรียบร้อย ..... ก็เริ่มลุยทำดอกไม้ก่อนเลย ในหลาย ๆ เฉดสี แล้วแต่ว่าผสมสีเข้าไปเท่าไหร่ ที่แน่ ๆ ก็ทำดอกไม้ออกมาประมาณ 2000 ดอก ทั้งเล็กและใหญ่ จัดการใส่กล่อง ใส่สารกันชื้น ทำเตรียมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป การทำดอกไม้ก็ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ทำกันจนมือหงิก พอได้ดอกไม้เยอะแล้วก็จัดการระบายสีเพื่อเพิ่มมิติ และความแตกต่างให้กับดอกไม้ .... ระบายจนมือหงิกอีกเช่นกัน





หลังจากนั้นก็จัดการคลุมเค้กบอร์ด หรือว่าที่รองเค้กขนาด 20 นิ้ว เป็นการรื้อฟื้นการคลึงฟอนดองต์อีกครั้งนึง แต่ว่าถ้าจะให้ดีเกดว่านาจะใช้เป็นซัก 22 นิ้วจะดูสวยกว่านี้ เอาไว้งานหน้านะคะ





ใช้ริบบิ้นสีชมพูติดขอบให้เรียบร้อย จากนั้นก็จัดการทำฟอนดองต์เอง ทำไปโดยรวมแล้วก็ประมาณ 20 กิโลกรัม ทำแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดไปเลย นวดกันให้ตายไปข้างนึง แอบบอกอีกนิดว่าทุกครั้งที่ทำเค้กฟองดองต์ เกดเองไม่เคยทำเลยสักครั้ง ซื้อตลอด .... แต่งานนี้ให้ซื้อเอาคงไม่ไหว เนื่องจากปริมาณที่ใช้เยอะมาก ๆ สำหรับจำนวนฟองดองต์สำหรับคลุมเค้กแต่ละก้อนเกดได้จากหนังสือ wedding cake ของ Mich turner


จากนั้นก็จัดการขนทุกอย่างทีคาดว่าจะใช้แพคใส่กล่อง แล้วก้ขับรถมาที่ กทม. เพื่อทำการประกอบเค้ก ขนลงมาประมาณ 4 กล่องใหญ่





เริ่มจากการคลุมฟอนดองต์บนเค้กโฟม ปกติที่เคยเรียนก็จะเป็นเค้กขนาด 8-10 นิ้ว ถ้าเค้กก้อนใหญ่ก็จะแค่ 12 นิ้ว มาคราวนี้มา 18 นิ้ว .... บอกตรง ๆ ว่ากลัวมาก ๆ คิดว่าถ้าทำไม่ได้นี่ตายแหงมๆ
เอ้า ... สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ อิหนู แล้วก็จัดการทำโลด การคลึงเกดเรียงจากขนาดใหญ่ไปหาขนาดเล็กค่ะ





พอเราทำได้ชิ้นแรกแล้ว ความมั่นใจก็จะมาทันที ทำก้อนต่อไปเรื่อยๆ ก้อนที่ 2 , 3 และ 4 เอ้า ... ขอพักหน่อยค่ะ





พักแล้วก็มาทำต่อกับก้อนที่ 5, 6, 7 เสร็จแล้ว ..... อยากจะร้องกรี๊ด ว่าเดินทางมาครึ่งทางแล้ว งานต่อไปก็เป็นงานตกแต่ง





เริ่มจากการติดเค้กแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน ด้วยรอยัลไอซิ่ง ทำการบาลานซ์เค้ก ให้ด้านซ้ายขวามีระยะเท่า ๆ กันในแต่ละชั้น ติดดอกไม้ พันริบบิ้น





บีบรอยัลไอซิ่งเป็นไข่มุกพันรอบ ๆ เค้ก และช่วยเป็นกาวยึดติดกันในแต่ละชั้น





ระบายสีดอกไม้ด้วย luster dust อีกครั้งเพื่อให้มีความแววาว ดูบลิ๊งค์ บลิ๊งค์





เค้กเกดแบ่งเป็น 2 ส่วนเพราะว่าเค้กค่อนข้างหนักและสูง ก็เลยนำไปประกอบที่สถานที่แต่งงานที่ ราชนาวิกสภา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พอได้เวลาก็เดินทางไปที่งานก่อนงานแต่งจะเริ่มประมาณ 6 ชั่วโมง





มาถึงที่ราชนาวิกสภา วิวสวยมาก ๆ ค่ะ ด้านตรงข้ามเป็นวัดพระแก้ว





ทำการนำเค้กต่อกันเป็นครั้งสุดท้าย .... ด้วยใจระทึกมาก ๆ ว่าจะเป็นไงบ้าง





จัดการตกแต่งให้เรียบร้อยทุกขั้นตอน แล้วนำไปวางบนฐานเค้กที่สั่งทำ





จากนั้นก็มาช่วยน้องอุ้มหมีตกแต่งเค้ก petit four สำหรับแจกแขกในงาน ...... เค้กเคลือบฟอนดองต์ ที่อุ้มหมีทำเอง ประมาณ 400 กว่าชิ้น แปะด้วยดอกไม้จากเกด





มากันเป็นกองทัพเค้กน้อยยยยย





งานนี้เป็นธีมสีชมพู ..... ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้ หวานสวยมากๆ





นำเค้กทอปเปอร์ของน้องชมพูมาวาง ดูน่ารักน่าเอ็นดู เสร็จแล้วค่ะ เค้กแต่งงาน 7 ชั้นของน้องชมพู เสร็จก่อนงานเริ่ม 3 ชั่วโมง ดีใจสุด ๆ กลัวไม่ทันจริง ๆ เลยเพราะว่าเกดเป็นพวกจัดการเวลาไม่ค่อยดี ชอบประดิดประดอยจนบางครั้งออกแนวฉิดเฉียดเกือบทุกครั้ง





ขอขอบคุณน้องฟูและน้องชมพู ที่ได้ให้ความไว้วางใจกับพี่สาวคนนี้นะคะ ที่ให้มีโอกาสได้ทำเค้กให้ในวันสำคัญของชีวิต ขอให้น้องชมพูและน้องฟูเริ่มชีวิตครอบครัวใหม่ได้อย่างราบรื่นและมั่นคง ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ และก็แทงกิ้วอุ้มหมีด้วยนะ ที่หาโปรเจคใหญ่ ๆ ให้พี่ได้ทำจ๊ะ สำหรับปลายปีนี้เกดเองก็มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่แต่งงานอีก 3 คู่ ..... งานนี้ไปจองทำเค้กให้เรียบร้อย อิอิอิ คงได้เอาผลงานมาให้ได้ดูกันอีกในเร็ว ๆ นี้นะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ






Create Date : 20 มกราคม 2555
Last Update : 20 มกราคม 2555 16:43:05 น. 0 comments
Counter : 2364 Pageviews.

Artisan Sweets
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




Artisan Sweets by KATE .... A place for those who can not live without SWEETS.

About Me ....

จากลอกอินเดิมที่ใช้ชื่อว่า Pastel pied ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Artisan Sweets ก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านและรักการแต่งหน้าเค้ก

ตอนนี้เริ่มมีธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเองคือทำเบเกอร์รี่โฮมเมด ตกแต่งเค้กในแบบที่ลูกค้าต้องการ มีการสอนแต่งหน้าเค้กทั้งบัตเตอร์ครีมและฟอนดองต์ พยายามทีจะทำให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ตัวเองตั้งใจและฝันไว้

Contact : artisansweet@hotmail.com
Friends' blogs
[Add Artisan Sweets's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.