++ คุยไม่สปอยล์ : เล่าถึงสองหนังมะเขือเทศเน่า The number 23 + The Reaping ++ ถึงมิตรรักผู้อ่านทุกท่าน ก่อนอ่านบทความนี้ ขอเชิญชวนมาร่วมกันที่นี่จ้า ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับ 'การเซ็นเซอร์' ในหนังหรือในทีวี ปัจจุบัน (ทั้งกรณี 'เบลอ' และ 'แบน') //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5310223/A5310223.html และก็มาช่วยระดมพลไปที่นี่ด้วยจ้า //www.petitiononline.com/nocut/petition.html ...สุขสันต์วันสงกรานต์และสุขสันต์วันครอบครัวครับ เพื่อนๆเปียกกันบ้างเหรือเปล่า เหะๆ ผมไม่เปียกเพราะไม่ได้ออกไปเล่นน้ำเลย ยังอยู่กรุงเทพพร้อมบรรยากาศเหงาหงอย ก็เลยออกไปสอยหนังมาเป็นว่าเล่น หลังจากกระทู้ที่แล้วเชียร์ 'Pan's Labyrinth' สุดตัว ขอย้ำอีกครั้งครับว่าคอหนัง ห้ามพลาด หนังในแนว แฟนตาซีสำหรับผู้ใหญ่ (อย่าคิดลึก อย่าคิดลึก) สำหรับผู้ใหญ่ หมายถึง หนังสะท้อนภาพความรุนแรงของสงครามได้อย่างสมจริง มืดหม่น หดหู่ และ จินตนาการบรรเจิดมาก และ แนะนำว่าถ้าอยากดูหนังสนุกๆเพลินๆอารมณ์ประมาณบุญชูก็ต้อง 'เมล์นรก หมวยยกล้อ' งวดนี้ไปตามเก็บหนังอีกสองเรื่อง ที่กระแสคำวิจารณ์ออกมาย่ำแย่ แต่บังเอิญเป็นหนังในแนวโปรด ก็เลยไม่สนใจขอลุยโลด และ ก็พบว่า ทั้งสองเรื่องไม่ได้ถึงขั้นเลวร้ายอย่างที่เคยเห็นนักวิจารณ์เขาว่ากัน ผลที่ออกมาเป็นดังนี้ครับ The Number 23 ...หนังตัวอย่างก็น่าดู พล็อตก็น่าสนใจ แถม ผู้กำกับโจเอล ชูมักเกอร์ เวลาทำหนังเล็กๆที่เน้นอารมณ์ดราม่าหรือระทึกขวัญกดดันคนดู เช่น Phone Booth และ Tigerland ส่วนใหญ่ผลลัพธ์ออกมาดี แต่ พอ ผมทำการบ้านก่อนไปดู 23 ด้วยการไปสำรวจคะแนนจากเว็บมะเขือเทศ (www.rottentomatoes.com) พบว่า หนังเน่าสนิท(rotten)ได้คะแนนจากกลุ่มนักวิจารณ์ไปแค่ 8 % คะแนนจากกลุ่มคนดูมีแค่ 46% และในเว็บ IMDBก็รับไปแค่ 6.2/10 ผมลังเลใจว่าสงกรานต์นี้ ผมจะเลือกดูเรื่องไหน และ ตัดเรื่องไหนทิ้งระหว่าง 23 และ The reaping หนังแนวโปรดของผมทั้งคู่ และ กวาดรายรับพร้อมเสียงวิจารณ์มาแบบเน่าสนิททั้งคู่ สุดท้ายผมเลือก 23 เพราะ ตอนที่เลือกซื้อตั๋วไม่มีรอบฉาย The reaping แล้ว ผมเข้าไปแบบปล่อยวาง ลดความคาดหวัง และ ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่อ่านเรื่องย่อหรือคำวิจารณ์ใดๆมาก่อน นอกจากคะแนนที่ว่าไว้ข้างต้น แล้ว ผมก็พบว่า ในความเน่าสนิทของมะเขือเทศจากเว็บrottentomatoes นั้น ยังมีแสงสว่างเรืองรอง ผมเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ชอบเรื่องนี้มาก แต่ก็ค่อนข้างพอใจไม่ถึงกับเสียดายตังค์ค่าตั๋ว วอลเทอร์ สแปร์โรว์ (รับบทโดย จิม แครี่ย์) พระเอกของเรื่อง เป็น เจ้าหน้าที่กองควบคุมสัตว์ วันหนึ่งเขารับมอบหมายไปจับสุนัขหลุด เกิดความผิดพลาด เขาโดนกัด และ ทำให้เขาไปพบ ภรรยาตามที่นัดไว้สายกว่าที่ตั้งใจ ภรรยาเขาจึงฆ่าเวลาด้วยการยืนอ่านหนังสือรอ และ มอบหนังสือให้เป็นของขวัญ หนังสือเล่มนั้นชื่อ The Number 23 นิยายเล่มนี้ เล่าเรื่องของ ฟิงเกอร์ลิง (จิม แครี่ย์ ก็เล่นอีก) นักสืบเอกชนที่มีพ่อเป็นนักบัญชี ชีวิตในวัยเด็กถูกกำหนดให้ต้องมาสนใจตัวเลขและพบกับศพแม่ม่ายข้างบ้าน จนคิดฝังใจอยากเป็นนักสืบ เขาเดินทางไปช่วยสาวผมบลอนด์ที่กำลังจะฆ่าตัวตาย และ ทำให้เขาไปพบความจริงที่น่าสะพรึงกลังของ อาถรรพณ์เลข 23 ...วอลเทอร์ ยิ่งอ่านนิยาย ยิ่งรู้สึกว่า เหมือนกับชีวิตตัวเอง และ เริ่มเอาตัวเองไปขลุกผสมกับเลข 23 เช่น ตัวเลขของสีที่ทาบ้าน , ตัวเลขของเลขที่บ้าน ฯลฯ วอลเทอร์ สงสัยว่าใครกันที่เป็นคนเขียนหนังสือเล่มนี้ เพราะรายละเอียดในวัยเด็กจนมาถึงปัจจุบัน มันช่างตรงกับชีวิตของเขาอย่างเหลือเชื่อ จะต่างไปก็ตรงที่ตอนนี้ เขายังไม่ได้คิดจะฆ่าใคร แต่ เขาก็หมกมุ่นกับ 23 ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อพบว่า ทุกอย่างรอบตัวล้วนรวมกันได้ 23 และ ภรรยาของเขาก็เริ่มไปสนิทกับเพื่อนจิตแพทย์คล้ายในนิยายเข้าไปทุกที เขาเริ่มฝันร้าย และ เห็นภาพตัวเองฆ่าภรรยา เรื่องราวถัดจากนี้ คือ สิ่งที่ท้าทายคนดูว่า เรื่องราวแท้จริงเป็นเช่นไร ใครเป็นคนเขียนนิยายเล่มนี้ คนเขียนมีวัตถุประสงค์อย่างไร และ ทำไมถึงต้อง 23 ติดตามกันได้ในหนัง สรุป ... ใครชอบหนังแนวนี้ หนังในแนวอาถรรพณ์ , ปมทางจิตวิทยา ฯลฯ ไปดูได้ ไม่ผิดหวัง หนังอาจไม่ดียอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ย่ำแย่เลวร้ายเหมือนคะแนนวิจารณ์ที่ฝั่งเมืองนอกเมืองนาให้มา ใครเป็นแฟน จิม แครี่ย์ ไปดูบทบาทใหม่ของเขาที่เล่นได้เยี่ยมยอดดีทีเดียว ป.ล. ผมคิดว่า ทำไมตัวละครในเรื่องขนาดจิตแพทย์ ถึงช่างงมงายไปหมกมุ่นกับ 23 อะไรง่ายๆกันปานนั้น เฮ้อ คนเรา แต่พอหนังกำลังจะจบผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่นั่งคำนวณอยู่เหมือนกันว่า วันเดือนปีเกิดของผม (06/08/2520 = 6+8+2+5+2) รวมกัน ก็ได้ 23 เหมือนกันนี่หว่า โอ้ 23 ช่างเป็นตัวเลขที่ชวนหลงใหล ไม่แพ้ ก้นหอยมรณะ เลยทีเดียว อยากอ่านบทวิเคราะห์สภาพจิตใจตัวละคร หรือ อยากรู้ตอนจบและไม่สน สปอยล์ หรือ สไปรท์ คลิกมาคุยกันต่อได้ที่นี่ครับ The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=14-04-2007&group=1&gblog=234 The Reaping ถ้า 23 ได้คะแนนจากนักวิจารณ์แบบเน่าๆ The Reaping ก็เน่าไม่แพ้กัน เมื่อนักวิจารณ์จากเว็บมะเขือเทศให้ไปแค่ 7% เสียงคนดู 46% แน่นอนคะแนนเช่นนี้ก็เป็น มะเขือเทศเน่า(rotten)ตามฟอร์ม จะดูดีหรือไม่ อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจจากคำบอกของฝรั่งมังค่า เอาเป็นว่า หากคุณชอบหนังที่มีเนื้อหาประมาณ ลูกซาตานกำลังจะมาเกิดใหม่ ชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับอาถรรพณ์ คำทำนาย หรือ พระคัมภีร์ คุณจะพบกับสิ่งเหล่านี้ใน The reaping หนังที่พูดถึง ภัยพิบัติ 10 อย่าง (the Ten Biblical Plagues)ที่กำลังจะมาเยือนเมืองชื่อ Haven และ บาทหลวงเพื่อนนางเอกเชื่อว่า เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการมาจุติของซาตาน เพราะรูปภาพนางเอกที่บาทหลวงมีติดตัว ล้วนมีไฟไหม้บริเวณใบหน้าพอเอามาต่อๆกัน ก็เป็นรูปเคียวคว่ำ อันเป็นสัญลักษณ์ของพวกซาตาน นั่นแน่ อ่าน พล็อตแบบนี้ แฟนๆหนังผี หนังซาตาน หรือที่เกี่ยวข้องกับความลึกลับของศาสนา คงเริ่มคุ้นๆกันแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ ผู้หญิง 2 คน กับ แมลง ผู้หญิงคนแรก ... ฮิลารี่ สแวงค์ นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ มารับบทนักวิทยาศาสตร์ผู้หันหลังให้กับศาสนา หลังจากเธอต้องสังเวยครอบครัวให้กับอดีตที่แสนเจ็บปวด เธอได้รับการไหว้วานให้มาพิสูจน์ปรากฏการณ์ลึกลับที่เมือง Haven เริ่มต้นตั้งแต่ แม่น้ำเปลี่ยนเป็นสีเลือด กบตกจากฟากฟ้า วัวบ้า ฯลฯ ปรากฏการณ์เหล่านี้ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นไปตามพระคัมภีร์ และต้นตอมาจากเด็กผู้หญิง ที่ทุกคนเชื่อว่า เด็กคนนี้ฆ่าพี่ชายตัวเองริมแม่น้ำ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันให้กำจัดเด็กผู้หญิงคนนี้ทิ้งเสีย ผู้หญิงคนที่สอง ... แอนนา โซเฟีย รอบบ์ หนูน้อยที่ผมปลื้มมาจาก Bridge to Terabithia คือ เด็กที่ถูกข้อกล่าวหานั้น ใครๆก็เชื่อว่า เธอเป็นซาตานที่กลับมาจุติ ทั้งเรื่องเธอแทบจะไม่ได้พูดแม้ซักแอะเดียว แต่ รูปร่างหน้าตาบุคลิกท่าทางของเธอ มีพลังดาราตั้งแต่ยังเล็ก เดาได้ว่า ต่อไปดังแน่อีหนูน้อยคนนี้ อาจจะเทียบรัศมี ดาโก้ต้า แฟนนิ่ง อีกต่างหาก แมลง... ฉากแมลงบุก มันดูแปลกๆบิดๆเบี้ยวๆและหลอกตา แต่ผมก็ชอบแมลงในฉากนี้ มันดูพรึ่บพรับน่ากลัวดี ....นอกจากผู้หญิงและแมลงที่จัดว่าดีแล้ว องค์ประกอบอื่นๆในหนังเรื่องนี้อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้หรือไม่ก็สอบตก หนังจะค่อยๆโชว์ของ(CG)ตามคำทำนาย 10 ภัยพิบัติ แล้วหย่อนความตกใจให้คนดูเป็นพักๆ ผ่านเสียงดังๆหรือฉากทำให้สะดุ้งตกใจ แต่เนื้อหาของหนังแทบจะไม่มีอะไรมาก ช่วงแรกมีความน่าเบื่อเป็นพักๆ เนื้อหาจะไปแน่นกันที่ช่วงท้าย แต่ ความแน่นของเนื้อหา ก็เป็นเรื่องราวที่เราแสนจะคุ้นเหลือเกิน ยิ่งตอนจบดูแล้วยิ่งรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้สามารถเป็น The Omen ภาค 0.5 ได้เลย (ก่อนภาค 1) สรุป ... ดูก็ได้ มีตกใจเป็นพักๆ แต่ไม่ได้ดูก็ไม่น่าเสียดาย รอแผ่นเอาก็ยังได้ ตัวอักษร สีเขียว 2 ข้อต่อไปนี้ Spoil บอกจุดสำคัญในเรื่องคร้าบ ยังไม่อยากรู้เลื่อนไปอ่านต่อตรง ป.ล.ได้เลยจ้า 1.หน้าตาพระเอกเรื่องนี้ ทำให้ผมระแวงตั้งแต่ต้น เหมือนกับ ปีเตอร์ แซกการ์ดที่เล่น Skeleton key หรือ Flightplan คือ ดูไปก็เดาได้ในใจว่า ไอ้นี้ผู้ร้ายชัวร์ และก็ตามนั้นจริงๆ 2.หนังเริ่มต้นยังกะ The Exorcist นี่ถ้าตอนจบนางเอกเข้าเมือง ไปแต่งงานกับท่านฑูตแล้วละก็ เริ่มต้น The omen กันต่อได้เลย ป.ล. เดี๋ยววันนี้ ขอตัวไป Meet the robinson และ Meet เฮียเหลียงเฉาเหว่ย ก่อนเป็นการปิดฉากเทศกาลตะลอนดูหนังช่วงสงกรานต์แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อเน้อ ส่วนผู้ติดตามรออ่าน Pan's Labyrinth โปรดรออีกนิดจ้า (ส่วน The reaping คงไม่เขียนถึงแล้วครับ) ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่คือการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม (วางขายตามร้านหนังสือทั่วไป หาไม่เจอถามจากพนักงานขายได้เลยจ้า) ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป   Create Date : 15 เมษายน 2550 4 comments Last Update : 15 เมษายน 2550 12:02:21 น. Counter : 3152 Pageviews. Share Tweet

ฝากเป็นคำทักทายละกันครับ... เดวิด เบ๊กแฮมก็เกี่ยวกับ 23 ด้วยหนิครับ...   โดย: ^^ (Horrible Member ) 15 เมษายน 2550 13:39:18 น.

ทีแรกคิดว่า อยากไปดู The Number 23 เพิ่งรู้เหมือนกันครับว่ากระแสวิจารณ์ ไม่ค่อยดี แต่ถ้ามีเวลาก็คงจะไปดุเรื่องนี้แหละครับ   โดย: poser (poser ) 15 เมษายน 2550 14:01:18 น.

เห็น ตัวอย่างแล้วความรู้สึกอยากดูน้อยนิดมากครับ ฟังตาจิมแครี่สมการบวกเลขให้เราดูเป็นระยะ ๆ ท่าจะมึนหัว ลงชื่อรออ่าน Pam's Labylinth ด้วย   โดย: ตาอิน IP: 124.121.56.254 15 เมษายน 2550 19:57:12 น.

แหะๆ 2 เรื่องนี้ ผมคงขอบายทั้งคู่ ... แค่นี้ก็มีหนังต้องดูในลิสต์บานตะไทดูไม่ทันแย้วอ่ะครับ ได้แต่ตามเข้ามาอ่านเนี่ยแหละ เฮ่อออ เหนื่อย   โดย: บลูยอชท์ 18 เมษายน 2550 10:54:36 น.