มกราคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ห้องอาหาร China Kitchen ของโรงแรม Grand Mercure Beijing Central


ชื่อร้าน : China Kitchen
รายการอาหาร : Chinese Cuisine
ที่ตั้งร้าน : 6 Xuanwumen Nei Avenue, Xicheng District, China
พิกัด GPS : 39° 49' 40.98"N 116° 24' 57.38"E




บล็อกนี้มารีวิวห้องอาหารจีน China Kitchen ของโรงแรม Grand Mercure Beijing Central ในปักกิ่งกันอีกเป็นบล็อกที่สองและบล็อกสุดท้ายนะคะ ดูบล็อก China Kitchen บล็อกแรกคลิกที่นี่ นับไปนับมาแล้ว ครอบครัวอิชั้นมาอุดหนุนห้องอาหารนี้กันทั้งสิ้น 6 มื้อ โดยเป็นมื้อเย็นทั้งหมด






อาหารที่สั่งก็จะซ้ำ ๆ กันเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเจ้าลูกชายเป็นเด็กที่รับประทานอะไรยากเย็น ชอบอะไรแล้วก็จะสั่งแต่อย่างนั้น ไม่เคยสั่งอย่างอื่น






ส่วนเครื่องดื่มนั้น ดูจากเมนูแล้วแพงหูดับตับไหม้ น้ำเปล่าขนาด 500 มล. ขวดละ 98 หยวน ห้าร้อยกว่าบาท เครื่องดื่มอื่น ๆ ก็ราคาโหดไม่แพ้กัน






ไม่อาจตัดใจสั่งเครื่องดื่มหรือน้ำเปล่าได้จริง ๆ เสียดายตังค์ เลยลองถามว่ามี Table Water หรือเปล่า ซึ่งห้องอาหารระดับนี้ควรมีเสิร์ฟให้ลูกค้าฟรีนะ ปรากฏว่ามี อ่ะ ประหยัดค่าน้ำไปได้หลายร้อยเลย






ที่จีนและฮ่องกงเนี่ยเหมือนกันตรงที่เค้าเสิร์ฟน้ำร้อนนะคะ เจ้าลูกชายดื่มไม่เป็น ก็จะต้องขอน้ำแข็งมาใส่ บอกพนักงานว่าขอ Ice ก็แล้ว พนักงานไม่เข้าใจ อิชั้นเลยลองภาษาจีนกวางตุ้งว่า "เป๊ง" เค้าเข้าใจด้วย ทั้ง ๆ ที่ออกเสียงไม่เหมือนกันนะ ตั้งแต่นั้น อิชั้นก็พ่นภาษาจีนกวางตุ้งใส่พนักงานตลอดอ่ะ






เชฟคนนี้มายืนสไลซ์แป้งสดเป็นบะหมี่เมื่อมีออเดอร์เข้ามา ใบมีดต่างกันก็ได้เส้นคนละแบบ






รายการอาหารที่สั่งบ่อยก็คือเป็ดปักกิ่งที่เคยรีวิวไปเมื่อบล็อกก่อน สั่งไปทั้งหมด 3 มื้อ 3 วัน ราคาตามเมนูคือ 198 หยวนยังไม่รวมภาษีและเซอร์วิสชาร์จ






มื้อแรกที่ไป ไม่รู้ว่าเค้าจะมีจานแถมจากเป็ดให้ด้วย เพราะพนักงานก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมนะ (คงเป็นเพราะภาษาไม่แข็งแรง) ปล่อยให้เราสั่งเอา สั่งเอาอยู่นั่น จานนี้น่าสนใจดีค่ะ เป็นผัดปลาหมึกกับคึ่นช่าย ต้นคึ่นช่ายเมืองจีน (หรือในฮ่องกง) ต้นและก้านจะใหญ่ยาวกว่ากุ้ยช่ายเมืองไทยหลายเท่าตัวนะคะ จานนี้ผัดใส่ซอสใส่พริก รสชาติเผ็ดนิดหน่อย อร่อยดีค่ะ






จานนี้เป็นหอยเชลล์ผัดกับถั่วแขกและวอลนัท ใส่พริกเพื่อเพิ่มสีสันให้อาหารในจาน รสชาติมัน ๆ เค็ม ๆ ตักพริกเข้าไปให้มีรสชาติเผ็ดนิด ๆ อร่อยค่ะ






อ้อ .. นอกจากพนักงานจะพูดภาษาอังกฤษได้แค่ hello, yes, no, ok, thank you แล้ว เมนูอาหารก็หายนะไม่แพ้กัน

ตอนอ่านรายการอาหารภาษาอังกฤษ อิชั้นก็วาดภาพไว้อย่างที่เมนูเขียนมาอ่ะนะ แต่พอเอามาเสิร์ฟต้องเรียกพนักงานมาสอบถามให้แน่ใจว่า นี่มันใช่ที่สั่งไปเหรอจ๊ะ ??

อย่างจานนี้ เมนูเขียนว่า stir fried organic broccoli พอมาเสิร์ฟทำไมมันกลายเป็น cauliflower ไปวะคะ เสิร์ฟผิดเปล่า พนักงานก็มาชี้ให้ดูว่ามันคือเมนูที่ยูสั่งน่ะแหละ ถูกต้องแล้ว "ถูกตรงไหน ชั้นจะกินบร็อกโคลี !!"






เจ้าลูกชายจะชอบ เป็ดย่าง ห่านย่าง ไก่ย่าง ทุกมื้อก็จะมีสัตว์ปีกย่างมาหนึ่งอย่าง เพื่อให้เธอมีอะไรที่หม่ำได้ เราสั่งเป็ดย่างไป 2 มื้อ มื้อแรกได้เป็ดย่างใส่หม้อเล็ก ๆ มา (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) อร่อยดี






มื้อต่อ ๆ มาก็สั่งอีก ปรากฏว่าได้เป็นแบบนี้มา คือเป็ดย่างผสมกับหมูย่างมาด้วย (ซึ่งเจ้าลูกชายไม่ชอบ) จะเหวี่ยง ก็ทำไม่ได้ เพราะสื่อสารกับพนักงานไม่รู้เรื่อง 555 โอย น่าสงสารตัวเองเป็นที่สุด หมดโอกาสในการวีน






อีกวันนึง ก็สั่งไก่ย่างหนังกรอบ รูปนี้โพสต์ลงในเฟซบุ๊คของตัวเอง แล้วมีน้องมาเม้นท์ว่า เค้าเสิร์ฟมาทั้งหัวแบบนี้เลยเหรอ (คือคงจะดูน่ากลัวอ่ะนะ) เลยบอกน้องไปว่า เวลาฝรั่งมาเห็นร้านอาหารเมืองไทยเสิร์ฟปลาทอด ปลานึ่งมาทั้งหัว แบบปลาตาโปน ตาใสเลยนะ ฝรั่งก็ร้อง อิ้วววววว เหมือนกันน่ะแหละ 555






ถ่ายเน้นน่องนวลเนียน สำหรับคนที่ชอบชิ้นน่องอย่างอิชั้น หิวขึ้นมาเลย อิชั้นว่าเค้าเสิร์ฟมาเข้าท่าดีนะ คือเหมือนนก (หรือไก่ ก็ได้ฟระ) กำลังย่อตัวลงกินน้ำ (จิ้ม) จินตนาการของอิชั้นบรรเจิดไปมั้ยคะ

อิชั้นน่ะ ชอบเมนูนี้มาก ตอนเด็ก ๆ เวลาไปรับประทานข้าวนอกบ้านกับครอบครัว พ่อเค้าก็จะสั่งไก่ย่างให้พวกเราเหล่าพี่น้องทโมนเป็นประจำ อิชั้นน่ะมักจะ (แย่ง) ได้ชิ้นน่องเสมอ






หม้อคุณสามีสั่ง เค้าทำเครื่องหมายไว้ในเมนูว่ารสจัด เป็นเนื้อไก่ผัดพริก มีน้ำขลุกขลิก เผ็ดเหมือนอาหารไทยเลยค่ะ






ส่วนอีกชาม (ใหญ่มาก) อิชั้นสั่งเอง ก็เป็นเมนูอาหารเสฉวนที่อิชั้นชอบอีกเมนูนึง รสชาติมันจะเผ็ดเหมือนกับต้มยำ (แบบไม่เปรี้ยว) ของเมืองไทยเลยแหละ ในเมนูเค้าว่า catfish ไอ้เราก็วาดภาพว่าเป็นพวกปลาช่อน ปลาดุก หั่นชิ้นให้รับประทานสะดวกเนอะ ปรากฏว่าพอมาเสิร์ฟมันกลายเป็นปลาขนาดเบบี๋ มีแต่ก้าง เนื้อแทบจะไม่มีเลย ถึงแม้ว่าน้ำแกงจะอร่อย รสชาติจัดจ้านก็ตามที่ อิชั้นเรตให้เป็นเมนูที่แย่ที่สุดแล้วของห้องอาหารนี้ (สำหรับอิชั้นอ่ะนะ)






อาหารที่สั่งซ้ำ ๆ บ่อย ๆ อีกเมนูนึงคือ ข้าวผัดค่ะ จานนี้เป็นข้าวผัดหยางโจว (จีนกวางตุ้งเรียก เหย่องเจ้าฉาวฝ่าน จีนแมนดารินออกเสียงคล้ายกันมาก วันหลัง ๆ อิชั้นเลยสั่ง เหย่องเจ้าฉาวฝ่านตลอด เป็นอันรู้กัน)






ซึ่งของที่นี่ก็จะแตกต่างไปจากในฮ่องกงนะคะ ในฮ่องกงจะใส่กุ้ง แฮมจีน บางร้านไม่ใส่ผักเลย บางร้านใส่ผักกาดแก้ว ที่นี่จะใส่กุ้ง แล้วโรยหน้าด้วยหอยเชลล์แห้งฉีก แล้วก็ใส่ผักแต่งสีสัน บ้านอิชั้นชอบผักอยู่แล้ว ถูกใจเลยสิ






จานนี้เป็นหายนะในการสั่งอาหารอีกจานนึงค่ะ เป็นอาหารในหมวด Appertizer ในเมนูภาษาอังกฤษเค้าว่า 3 tripes with szechuan sauce ไอ้เราก็นึกว่ามันต้องเป็นเครื่องใน ราดซอสเผ็ด ๆ แบบที่ขายกันตามร้านแผงลอยในฮ่องกงนะ ราคาไม่แพงค่ะ 38 หยวนหรือไงเนี่ย สั่งมาให้ปอบหยิบเปิบคนเดียวแหละ คนอื่นเค้ายี้เครื่องในกัน

พอมาเสิร์ฟ มันคือสลัดผักค่ะ สลัดผัก ราด vinaigrette dressing โรยด้วยซีเรียล งงดิ !!






มาแล้วปลาทอดทั้งหัวทั้งหาง ราดซอสเปรี้ยวหวาน ฝรั่งบ้านนี้ชินแล้ว อยู่ในเอเชียมาเกือบ 20 ปีแล้ว ไม่ร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้แต่อย่างใด






จานนี้ก็อร่อยแบบทั่ว ๆ ไปอ่ะนะคะ อิชั้นชอบที่เค้าบั้งเนื้อปลาได้ละเอียดมาก ๆ เนื้อปลาเหมือนเป็นเกล็ดปลาเลยอ่ะ สวยเชียว






จานนี้เป็นข้าวผัดที่สั่งมาในอีกวันหนึ่ง ไม่ใช่ข้าวผัดหยางโจวค่ะ เป็นข้าวผัดอะไรไม่รู้ แล้วราดด้วยน้ำเกรวี่เหนียว ๆ (เหมือนราดหน้า) อร่อยแปลกดีค่ะ เห็นในร้านติ่มซำร้านประจำของอิชั้นในฮ่องกงเค้าก็มีขายกันอยู่นะ เพียงแต่ไม่เคยสั่งเท่านั้น






และจานนี้เป็นจานโปรดที่สุดในร้านนี้ค่ะ เหมือนกับไก่ผัดเม็ดมะม่วง แต่เปลี่ยนจากเนื้อไก่เป็นเห็ดยักษ์ (ที่คนไทยเรียกว่าเห็ดญี่ปุ่น) แต่ที่ฮ่องกงไม่ได้เรียกอย่างนั้นนะ

รสชาติเข้มข้น หวาน เค็ม เผ็ด เนื้อเห็ดก็อร่อยอยู่แล้วอ่ะนะคะ อิชั้นจำเมนูนี้ไว้ในสมอง (แถมถ่ายรูปเอามารีวิวแล้วนี่) คงได้ทำรับประทานเองในเร็ววัน






ปิดท้ายกันด้วยซุปประจำวัน ของอิชั้นเอง พ่อลูกเค้าไม่สนใจเท่าไหร่ ถ้าสั่งเป็ดปักกิ่ง มันจะมีซุปมาให้แล้ว แต่ถ้าไม่ได้สั่ง อิชั้นจะสั่งซุปประจำวันอีกหนึ่งที่ มาซดแก้หนาว ซึ่งตัวซุปก็จะเปลี่ยนไปทุกวันค่ะ อย่างวันนี้เป็นซุปไก่ติดกระดูกกับหัวไชเท้า ซึ่งเจ้าลูกชายชอบ ก็ตักแบ่งให้ชิมกันเล็กน้อยค่ะ

ห้องอาหาร China Kitchen ก็เป็นห้องอาหารในโรงแรม Grand Mercure Beijing Central นะคะ ใครผ่านไป หรือมีโอกาสได้ไปพักที่ไหน ไปลองกันสักมื้อสองมื้อ ไม่น่าจะผิดหวังค่ะ

พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ





Create Date : 20 มกราคม 2556
Last Update : 21 มิถุนายน 2556 15:10:07 น.
Counter : 5362 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ