สิงหาคม 2555

 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
บุฟเฟต์วันอาทิตย์ Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร Latest Recipe โรงแรม Le Meridien Bangkok


ชื่อร้าน : Latest Recipe @ Le Meridien Bangkok
รายการอาหาร : บุฟเฟ่ต์นานาชาติ
เวลาเปิดบริการ : 12:00-15:00 น.
ที่ตั้งร้าน : โรงแรมเลอเมอริเดียน กรุงเทพฯ 40/5 ถ. สุรวงศ์, บางรัก, กรุงเทพมหานคร Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 46.52" N 100° 31' 48.88" E




สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ น้อง ๆ ชาวบล็อกและคุณผู้อ่านทุกท่าน ป้าเดซี่ หายไปพักร้อนตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ไม่ได้ไปไหนไกลค่ะ ก็กลับบ้านทั้งที่ภูเก็ตและกทม. แล้วก็ย้อนรอยกลับไปบาหลีอีกครั้ง หลังจากที่เคยไปมาแล้วเมื่อ 7-8 ปีก่อน คงได้ทยอยลงรูปและทำรีวีวร้านอาหารที่มีโอกาสไปเห็น ไปรับประทานมาในโอกาสต่อไปนะคะ


ประเดิมบล็อกแรกหลังจากหายศีรษะไปเดือนกว่าด้วยการรีวิวห้องอาหาร Latest Recipe ที่โรงแรม Le Meridien Bangkok ถ.สุรวงศ์กันค่ะ


ขอโม้นอกเรื่องตามสไตล์กันก่อนเลยละกัน ... เมื่อสัก 20 ปีก่อน อิชั้นทำงานบริษัททัวร์ ต้องตระเวณไปตามโรงแรมสี่ซ้าห้าดาวต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ สมัยนั้นโรงแรมเชน Le Meridien คือ Le Meridien President ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้างโซโก้เอราวัณ (ปัจจุบันคือ Holiday Inn Bangkok, Ploenchit) ลูกเรือ Air France เค้าก็มีดีลมาพักกันที่นั่น เข้าไปในโรงแรมที ได้ยินเสียงล้งเล้งช้งเช้งเป็นภาษาฝรั่งเศสลั่นล็อบบี้ บรรยากาศเหมือนอยู่ในฝรั่งเศสกันเลยทีเดียวเชียว


เดี๋ยวนี้โรงแรมต่าง ๆ เปลี่ยนเชนกันเป็นว่าเล่น จนลูกค้าอย่างเรา ๆ งงเป็นไก่ตาแตก โรงแรมใหม่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาเพียบ อิชั้นกลับบ้านกทม.ครั้งก่อนเมื่อเดือนเมษายน ในซอยบ้านมีไซต์งานก่อสร้างอยู่แห่งหนึ่ง ก็เดาว่าน่าจะเป็นโรงแรมเล็ก ๆ หรือหอพักของรพ.บำรุงราษฎร์


กลับไปอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ไซต์งานดังกล่าวหายไป กลายเป็นโรงแรมใหม่เอี่ยมอ่อง Best Western Premier Sukhumvit ไปซะแล้ว อิชั้นผู้เคยเป็นศิษย์เก่า Best Western อยู่ครึ่งปีสมัยอยู่ภูเก็ต กรี๊ดเลยค่ะ อยากย้ายกลับไปเมืองไทยซะเดี๋ยวนั้น อยากลองไปสมัครงานที่นี่ดู ถ้าได้คงดีใจพิลึก ได้งานใกล้บ้านเป็นใครก็คงกรี๊ดเนอะ


นอกเรื่องกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็กลับมาเล่าเรื่องราวที่ได้ไปเยือน Latest Recipe เลเทส เรซิพี กันต่อค่ะ เมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน อิชั้นได้รับอีเมลจากทาง Le Meridien Bangkok เชื้อเชิญให้มาทำรีวิวที่นี่ ว่าแต่ที่นี่น่ะอยู่ที่ไหนนะ ?? อย่างที่บอกว่า โรงแรมใหม่ ๆ ผุดกันขึ้นมาเพียบ โรงแรมเก่า ๆ ก็เปลี่ยนเชนกันบ่อยเหมือนเปลี่ยนกางเกงใน ก็ต้องอากู๋หากันเลยทีเดียวว่า โรงแรมนี้ตั้งอยู่แห่งหนตำบลใด


เมื่อทราบแล้วว่าอยู่แถวสุรวงศ์ ใกล้ ๆ บ้านนี่เอง อิชั้นก็อีเมลตอบกลับไปว่า อิชั้นอยู่ฮ่องกง เพิ่งจะกลับมาจากเมืองไทยเมื่อไม่กี่วันนี้เอง มีกำหนดกลับไปกทม.อีกทีก็ปลายเดือนกรกฎาคม "จะรอมั้ยคะ ??" คำตอบคือ "รอค่ะ" นั่นล่ะ ... เป็นจุดเริ่มต้นในการมาทำรีวิวที่นี่


กำหนดนัดหมายเป็นวันอาทิตย์ อิชั้นเลือกมื้อ Brunch เช้าควบเที่ยงกันเลยทีเดียว ก็ไปถึงก่อนเวลาห้องอาหารเปิดตามเคยค่ะ กะว่าไปก่อนจะได้ไปถ่ายรูปไลน์อาหารตอนเต็ม ๆ รูปจะได้งาม ๆ เนอะ ปรากฏว่า ยังไม่เที่ยงเลย แขกในห้องอาหารก็เริ่มทยอยมากันแล้ว เริ่มเดินตักอาหารคาวกันแล้ว อิชั้นเลยต้องเลี่ยงไปถ่ายรูปของหวานเสียก่อน แล้วค่อยกระมิดกระเมี้ยนถ่ายไลน์อาหารตามบุญตามกรรม ไม่ให้เกะกะแขกในห้องอาหารท่านอื่นมากนัก





เริ่มกันที่มุมขนมปังชนิดต่าง ๆ ถ้าเป็นฝรั่งก็ขาดกันไม่ได้กับมุมนี้เลยค่ะ ส่วนเราคนไทย ด้อม ๆ มอง ๆ เฉย ๆ ละกัน ไม่อยากตัดกำลัง






นอกจากจะมีชีสชนิดต่าง ๆ ให้เลือกกันแล้ว ยังมีผลไม้แห้งด้วย ทำเอานึกถึงตอนที่ไปมอสโก อาหารมื้อแรกที่ไปถึงที่นั่น คือขนมปังชนิดต่าง ๆ ชีส แล้วก็ผลไม้แห้งแบบนี้แหละ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าอร่อยเลิศนะ เพิ่งเคยจัดเต็มเป็นครั้งแรก แต่ให้รับประทานแบบนั้นทุกมื้อ คงเอียนน่าดู






อิชั้นชอบเนยของที่นี่มาก อยากจิ๊กกลับไปเชยชมที่บ้านจังเลย แพ็กเกจจิ้งเก๋เนอะ เค้ามีให้เลือกทั้งเนยจืดและเนยเค็ม อันนี้เป็นเนยเค็มค่ะ เหมาะกับคนเค็ม ๆ อย่างอิชั้น






สเตชั่นอาหารอิตาเลียน มีเตาพิซซ่า และเครื่องหั่นไส้กรอกอิตาเลียนอย่างเท่ ทำเอานึกถึงร้านข้าวหมูแดงเจ้าดังที่นครปฐม เค้ามีเครื่องหั่นแบบนี้ไว้หั่นหมูแดงตั้งแต่เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว หั่นแล้วบางเฉียบชิ้นสวยเท่ากันเชียว อิอิ






มุมเนื้ออบชิ้นเบ้อเริ่ม เค้าพอกชิ้นเนื้อด้วยพริกไทยสีชมพู มีเกรวี่หลายชนิดให้เลือก มุมนี้เนี่ยตอนถ่ายรูปอิชั้นหมายตาไว้แล้ว เดี๋ยวกลับมาจกแน่นอน







มุมอาหารว่างไทย ๆ ได้แก่ เมี่ยงคำ ยำปลาดุกฟู ยำไส้กรอก







อิชั้นชอบที่เค้าจัดวางเครื่องเมี่ยงมาในสาแหรกอ่ะ เก๋ไก๋สไลเดอร์เชียว






ใครที่ไม่อยากเอาเมี่ยงเค้ามาอมเอง ห่อเอง เค้าก็จัดวางใส่ถ้วยเล็ก ๆ ไว้ให้ แค่ตักน้ำจิ้มราดลงไปเท่านั้น จะโกยเครื่องใส่เพิ่มก็ไม่น่าเกลียด






ใกล้ ๆ กันเป็นมุมซาซิมิ เค้าจัดวางไว้ 2 ถาด พร่องไปแล้วทั้ง 2 ถาด แต่เค้าเติมตลอดนะคะ ไม่ได้จังหวะถ่ายรูปตอนเต็มซักที แขกมาตักกันตลอด ซาซิมิในถาดก็มีอยู่ 3 ชนิดที่เป็นยอดนิยม คือ แซลมอน ทูน่า และหนวดปลาหมึกยักษ์






มีไข่ปลาแซลมอนจัดวางไว้บนถ้วยแตงกวา รายการนี้ก็เป็นที่ฮิตเติมทีไรก็พร่องตลอด เก็บหลักฐานไม่ทันกันเลย








ใกล้ ๆ กันเป็นมุมอาหารทะเล วันนี้มี 3 เกลอ คือ กั้ง







ปามู้ ..... ปูม้า







และของโปรดของอิชั้น หอยเชลล์หรือโฮตาเตะ รับประทานแบบซาซิมิ แหล่มเลยค่ะ








มุมนี้เป็นผักดองแบบฝรั่ง เช่น หัวหอมดอง มะกอก เคเปอร์ ด้านบนเป็นสลัดฝรั่งต่าง ๆ









มาดูมุมทาปาสกันบ้าง มีพาร์ม่าแฮมกับเมล่อน







มะเขือเทศยัดไส้







เนื้อปูบนมะเขือม่วงย่าง







ทูน่าย่างราดซอสโรยพริกไทยสีชมพู้ ชมพูอีกแล้ว







มุมเทปปันยากิกับพาสต้าตามสั่ง อิชั้นหมายตาพาสต้าเอาไว้ค่ะ ของโปรดของเจ้าลูกชาย








มีเครื่องเคราให้เลือกเยอะแยะไปหมด








มุมอาหารหม้อร้อนมีทั้งอาหารไทยและเทศ โดนรังสีแดงอำมหิตเข้าไป สีสันเลยไม่โดนเท่าไหร่ ขอจับมารวมมิตรเลยนะคะ ก็มีพวกปลากระพงราดซอส ราตาตูย มันอบ ฯลฯ






นอกจากนี้ก็ยังมีมุมสลัดผัก ซึ่งไม่ได้ลงรูปนะคะ ที่เด่นคือซีซ่าร์สลัด ซึ่งเค้ามีชามให้แขกมาเลือกตัก เลือกคลุกเครื่องปรุงต่าง ๆ กันเอง แล้วก็สลัดฝรั่งพร้อมรับประทานแบบนี้






มาดูของหวานซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่กันค่ะ เริ่มด้วยทาร์ตผลไม้ สังเกตให้ดีจะเห็น .. มะละกอค่ะ มะละกอ คิดได้ไงอ่ะ เลิศ






อร่อยเบา ๆ กับมูสช็อกโกแลต







มูสราสเบอร์รี่







เค้กช็อกโกแลตชิ้นโต







เค้กผลไม้อะร้าอร่าม







ให้ทายว่า นี่คืออะไร (อิชั้นไม่รู้น่ะสิ ถึงได้ถาม อิอิ)








มุมขนมไทยหลากสีสัน ก็มีมะพร้าวแก้ว ข้าวตู ทองหยอด และไม่ใช่ขนมเธอ อิอิ







ไซรัปรสต่าง ๆ สำหรับราดเค้กหรือไอศกรีมตามชอบ







รวมมิตรเค้กก้อนใหญ่กันสักรูปนะคะ อาศัยมาถ่ายรูปตอนที่แขกท่านอื่นยังตะลุยอาหารคาวกันอยู่ เลยได้เค้กเป็นก้อนสวยงามแบบนี้ โถหลากสีด้านหลังเป็นช็อกโกแลตเคลือบสำหรับโรยหน้าไอศกรีม นอกจากนี้ก็ยังมีมุมผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งอิชั้นตัดทิ้งไปทั้งหมด






ไอศกรีมรสต่าง ๆ เป็นของเด็ดของ Latest Recipe เค้าล่ะ เมื่อก่อนเห็นเค้ามีโคนสำหรับใส่ไอศกรีมเป็นของขึ้นชื่อ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วค่ะ มีของเล่นใหม่มาแทน จะเป็นอะไรนั้น ไว้รอดูตอนท้ายนะคะ






อิชั้นก็คัดรูปไลน์อาหารและของหวานมาลงกันพอประมาณ กลัวรูปเยอะแล้วจะโหลดกันช้า แค่นี้ก็ปาเข้าไป 40 รูปแล้วค่ะ

มานั่งที่โต๊ะกันดีกว่า วันที่ไป แขกค่อนข้างหนาตา เลยไม่ได้ถ่ายบรรยากาศของห้องอาหารมาเลย แอบถ่ายเฉพาะโต๊ะข้าง ๆ ที่ว่างอยู่ เก้าอี้ของที่นี่หน้าตาทันสมัยแถมนั่งสบาย บรรยากาศในห้องอาหารก็สว่างไสว ชิลล์ซะ






จานแรกเลือกมาแต่ของโปรด อาหารทะเลและซาซิมิสดใหม่








มนุษย์กินเนื้ออย่างอิชั้น ไม่พลาดจานนี้แน่นอนค่ะ เนื้อย่างมาได้กำลังดีสีสวยเชียว ราดซอสเกรวี่เยิ้ม ๆ นะ เลิศ

ถ้วย ๆ ที่เห็นนั่น เค้าว่าเป็นของเด็ด อิชั้นจำชื่อไม่ได้แล้ว เป็นอาหารคาวซึ่งทำจากไข่ รสชาติคล้ายซูเฟล่ มีผลไม้เชื่อมกับน้ำตาลไหม้อยู่ข้างบน อิชั้นว่าเหมือนของหวาน สังขยาบ้านเราประมาณนั้น







หยิบทาปาสมาอย่างละชิ้นสองชิ้น แถมด้วยพิซซ่า ซาลามี








ซาซิมิบ้าง อั้มมมมมมม !! สังเกตกันมั้ย อิชั้นมีทริปเปิลอยู่เมนูนึง อร่อยอ่ะ








คาโบนาร่าของเจ้าลูกชาย ยัยแม่แอบชิมนิดหนึ่ง รสชาติเข้มข้นดีค่ะ







อิ่มของคาวแล้ว มาดูของหวานกันบ้าง อิชั้นพยายามหยิบมาให้ครบ จะได้ถ่ายรูปแล้วสวยหน่อย (อีกนัยหนึ่งคือ ตะกละ อิอิ)







ขนมไทยต่าง ๆ สีสันสวยงาม เสียดายทองหยอดหมด
หนูจะเอาทองหยอดดดดดดดดดดดด








ไลน์อาหารของที่นี่ไม่ได้อลังการมากมาย แต่ก็หลากหลาย อิชั้นรับประทานได้ไม่ครบละกัน และที่ตั้งใจไว้ว่า ถึงจะอิ่มยังไงก็จะต้องลอง นั่นก็คือไอศกรีมค่ะ เค้ามีของเล่นเป็นเครื่องทำไอศกรีมให้เป็นสปาเกตตีด้วย เริ่ดเนอะ







ก็ทำมาคนละชามกับเจ้าน้ำหลานสาว แต่ของอิชั้นสีสวยสู้ของหลานไม่ได้ เลยขอจิ๊กของหลานมาลงละกัน ลากันไปด้วยไอศกรีมสปาเกตตีเขียวปี๋ม่วงแป๊ดช้ำเลือดช้ำหนองชามนี้เลยนะคะ



สุดท้าย ... ขอขอบคุณ คุณยุวดี และ Latest Recipe @ Le Meridien Bangkok ที่วางใจให้อิชั้นยกพวกไปถล่มนะคะ

ขอขอบคุณพนักงานที่ต้อนรับแขกกันอย่างขยันขันแข็งและยิ้มแย้มแจ่มใส ไลน์อาหารถืงแม้ว่าจะไม่อลังการซักเท่าไหร่ แต่หลากหลาย และมีของชอบของทุกคนในครอบครัวแน่นอนค่ะ ส่วนบรรยากาศในห้องอาหารก็เป็นกันเอง นั่งกันสบาย ๆ



และเนื่องในโอกาสวันแม่ที่กำลังจะมาถึง ทาง Latest Recipe ก็จัดกิจกรรมพิเศษ เมื่อรับประทานบุฟเฟต์ในช่วงเทศกาลวันแม่ 4 ท่านขึ้นไป รับส่วนลด 50% และเมื่อทานครบ 5,000 บาทรับบัตรกำนัลมูลค่า 1,000 บาทเพื่อไปใช้กับสปาที่ SPA by Le Meridien

ในวันที่ 12-13 สิงหาคม 2555 นี้พบกับบุฟเฟต์ต้อนรับวันแม่ Taste of Discovery Mother's Day Brunch ที่เต็มไปด้วยอาหารนานาชาติ ซีฟู้ด ซูชิ ซาชิมิ พิซซ่า พาสต้า และสเต็กต่างๆทำสดจากเตา และอย่างอื่นอีกมามาย ให้คุณแม่ที่รักและทั้งครอบครัวได้อิ่มอร่อยในบรรยากาศสบายๆของร้านอาหารเลเทส เรซิพี

โปรโมชั่นพิเศษในช่วงวันแม่และวันหยุดยาวนี้ รับประทานบุฟเฟต์ Taste of Discovery Mother's Day Brunch 4 ท่านขึ้นไปรับส่วนลด 50% และเมื่อทานครบ 5,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 1,000 บาท เพื่อไปใช้เป็นส่วนลดกับทรีทเม้นต์ต่างๆที่ SPA by Le Meridien นอกจากนี้เด็ก ๆ จะได้สนุกกับการเรียนทำคุ้กกี้รูปหัวใจกับเชฟผู้มากความสามารถของทางโรงแรมฯ

Taste of Discovery Mother's Day Brunch ราคา 2,200 ต่อท่าน ราคานี้รวมค่าอาหาร บุฟเฟต์ไวน์หรือบุฟเฟต์ Prosecco น้ำอัดลม ชาหรือกาแฟ ตั้งแต่เวลา 12.00 - 14.30 น. ที่ห้องอาหารเลเทส เรซิพี บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ

เงื่อนไข

• ส่วนลด 50% นี้ใช้ได้สำหรับผู้ใหญ่ 4 ท่านที่มารับประทานบุฟเฟต์ Taste of Discovery Mother's Day Brunch
• เด็กอายุ 4-12 ปี ราคา 600++ ต่อท่าน
• เด็กอายุ 0-3 ปี ทานฟรี

ราคานี้ยังไม่รวมค่าภาษีและค่าบริการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง ได้ที่ 02232 8888




วันนี้อิชั้นก็ต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ





Create Date : 04 สิงหาคม 2555
Last Update : 4 สิงหาคม 2555 11:10:07 น.
Counter : 14719 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ