Constantly talking isn't necessarily communicating.
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
16 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

Faith or Truth? Da Vinci Code vs Contact



ถึงตอนนี้คงหาตัวจับยาก คนที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง Da Vinci Code ตามประสาผู้ตามที่ดี เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เขียนถึงเรื่องนี้ตอนที่ Superman Return ฉายแล้วก็ยังไม่สาย คริ คริ

มีโอกาสได้อ่านหนังสือเรื่อง The Da Vinci Code ก่อนหนังออกประมาณ 1 ปี จำได้ว่า สนุกมากกก วางไม่ลง ทำไมมันตื่นเต้นแบบนี้ โอ้ แดน บราวน์ กลับชาติมาเกิดหรือเปล่าหนอ....ทำ research หาข้อมูลเพิ่มเติมมากมายตามความเห่อ ก่อนที่มันจะเลือนออกจากชีวิตเราไปตามกาลเวลา...

1 ต่อมา พบว่า Langdon ของเรากลายเป็น ทอม แฮงค์ ที่มาพร้อมกับผมทรงใหม่.... โอ้ พระเจ้า เป็นไปไม่ได้ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย ใครเลือกเขามา แล้วใครทำผมให้ ช่างผมฮอลลีวู้ดเป็นอะไรกันไปแล้วนี่...



ส่วนหนังจะดีหรือไม่ดีเท่าหนังสือ ก็มีคนตัดสินไปแล้ว ขอข้ามละกัน สรุปว่าดูแล้วไม่หลับ (มีคนบอกว่าหลับ ไม่น้อยกว่า 2 คน) แต่ให้ซื้อหนังเก็บไว้ คงไม่เอา

เบื้องหลัง Da Vinci Code สิ่งที่ดังกว่าเรื่องทอม แฮงค์และทรงผมใหม่ คือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาคริสต์

เราไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด และขี้เกียจพูดถึง เพราะมันออกจะเกินกำลัง แต่หนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงหนังโปรดของเราเรื่อง Contact ที่ได้โอกาสหยิบมาดูอีกครั้งหลังจากได้ไปดู Da Vinci Code รอบเกือบลาโรง เพื่อจะพบว่าเราชอบเรื่อง Contact จริง ๆ



Dr. Ellie Arroway (Jodie Foster) ทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตเพื่อหา E.T. หรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก กับความเชื่อที่ว่า ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ น่าจะมีใครอื่นอยู่บ้าง นอกจากเรา ไม่เช่นนั้นแล้ว “...if it's just us, it would be an awful waste of space.”

เราเรียกเธอว่าหญิงแกร่ง เพราะ Ellie ต้องฝันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งจากผู้บังคับบัญชาที่เห็นว่าโครงการเธอไร้สาระ แต่ทำเนียนเอาหน้าได้เมื่อเธอสามารถค้นพบสัญญาณจากนอกโลก รวมทั้งเพื่อนร่วมงานที่กำลังใจเข้มแข็งไม่เท่าเธอ แต่ก็มีส่วนช่วยให้เธอประสบความสำเร็จ และอุปสรรคสำคัญจากกิ๊ก Palmer Joss (Matthew McConaughey) นักสอนศาสนาที่ศรัทธาในพระเจ้า

พวกเขามีความเชื่อที่ต่างกัน Palmer เชื่อในพระเจ้า และเชื่อว่าการที่เรามีศรัทธา ทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์ ส่วน Ellie เชื่อในวิทยาศาสตร์หรือสิ่งที่พิสูจน์ได้ เธอไม่เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ และก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่บอกว่าพระเจ้ามีอยู่จริง

แต่ในท้ายสุดแล้ว เธอกลับจำเป็นต้องเรียกร้องความเชื่อและศรัทธาจากทุก ๆ คน ให้พวกเขาเชื่อว่าเธอได้พบและพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาวแล้วจริง ๆ โดยที่เธอไม่มีหลักฐานอะไรกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว....

โดยตัวหนัง ถือเป็นหนัง sci-fi เอเลี่ยนที่แหวกแนวกว่าเรื่องอื่น ๆ อย่าง Independence Day หรือ War of The World น้องเอ (เลี่ยน) จะ ดูโหดร้าย น่าเกลียด น่ากลัว และเป็นอันตรายต่อมนุษย์โลกอย่างเรา แต่ใน Contact บอกว่า ไม่จริงหรอก น้องเอ นิสัยดี น่ารัก ก็อาจจะยังมีอยู่ในจักรวาลอันใหญ่โตนี้

นอกจากนี้ยังเป็น sci-fi ที่เล่นกับความเชื่อ ความรู้สึก ความฝัน และปูมหลังของตัวละครมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่เน้น effect ล้างผลาญ ฉากอลังการทุนสร้าง.....อืม กี่ล้านหว่า เวลาเขาโฆษณา ไม่เคยจำ



4-5 ปีก่อน อยากดูเรื่องนี้ เพราะเด็ก ๆ อยากเป็นนักดาราศาสตร์ อยากทำได้อย่าง Ellie ที่มีความมุ่งมั่นและจริงจังจนทำตามความฝันได้จริง ๆ (อ้อ มีความฉลาดมาก ๆ แบบที่เราไม่มีด้วย)

ครั้งล่าสุดที่หยิบมาดู เพื่อคอนเฟิร์มความคิดตัวเองหลังจากดู Da Vinci Code จบ ว่าจริง ๆ แล้วความจริง หรือการค้นหาความจริงก็เป็นความศรัทธาอย่างหนึ่งได้ ถ้ามันเป็นความเชื่อของเรา และเราเลือกที่จะยึดถือและเดินตาม เพราะศรัทธาของแต่ละคนต่างกัน เพียงแค่เราทำในสิ่งที่เชื่อ และเคารพในสิ่งที่คนอื่นเชื่อ เราคงไม่มีปัญหาว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง เพราะแล้วแต่ว่าใครจะเลือกเชื่อแบบไหน...

ว่าจะเขียนถึง Da Vinci Code นี่นา ไหงกลายเป็น Contact ไปได้...สบายใจจัง อิอิ

[Ellie challenges Palmer to prove the existence of God]
Palmer Joss: Did you love your father?
Ellie Arroway: What?
Palmer Joss: Your dad. Did you love him?
Ellie Arroway: Yes, very much.
Palmer Joss: Prove it.



Palmer Joss: By doing this, you're willing to give your life, you're willing to die for it. Why?
Ellie Arroway: For as long as I can remember, I've been searching for something, some reason why we're here. What are we doing here? Who are we? If this is a chance to find out even just a little part of that answer... I don't know, I think it's worth a human life. Don't you?





 

Create Date : 16 มิถุนายน 2549
4 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2549 9:08:32 น.
Counter : 1220 Pageviews.

 

Contact เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ชอบมากๆๆๆๆ ค่ะ

เคยซื้อเก็บไว้เป็นวีดีโอ แล้วพอย้ายหอ มันก็หายไปกับสายลม

เป็นหนังที่ทำให้เราชอบโจดี้ ฟอสเตอร์ด้วยค่ะ

นึกแล้วก็อยากดูอีกนะนี่

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มิถุนายน 2549 10:48:08 น.  

 

ยังไม่เคยดูเลย...

แต่ดาวินชี่โค้ดนี่...ทั้งทอม แฮ้งส์ ทั้งสาวอามิลี่(จำได้แต่นามสกุลเธอ..แต่อย่าเลยดีกว่า)



ดูไปเศร้าไป...กลับไปอ่านหนังสือดีกว่า
ปล. รู้สึกว่าทอมแฮ้งคแกจะออกเงินเองนะคะ รึเปล่าน้อ

 

โดย: PADAPA--DOO 16 มิถุนายน 2549 10:56:55 น.  

 

ชอบออลเวย์สเหรอคะ
(คงน้อยคนอะน้อที่จะไม่ชอบน่ะค่ะ)

เราดูหนังคล้ายๆ กันนะคะนี่

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มิถุนายน 2549 14:25:40 น.  

 

I always admire sci-fi movie. The main reason is it's purely based on someone imagination. Succeeded sci-fi will sure to be a classic. But even failed sci-fi are still interesting because at least they show their point of view and imagination.

Also, these kind of movies will never be dated (2001: space odysey(?) is still capturing me for all this year).

So I think sci-fi movies will be made as long as movies are made.

 

โดย: BloodyMonday 17 มิถุนายน 2549 9:43:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


unwell
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add unwell's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.