ร้าน Kizahashi

วันก่อนได้มีโอกาสไปกินโอโคโนะมิยากิ(พิซซ่าญี่ปุ่น)แถวๆ คาร์ฟูพระรามสี่ค่ะ

ร้านนี้มีชื่อร้านว่า Kizahashi


ภายในร้านก็จัดเป็นสไตล์คล้ายๆ ร้านคุโรดะ นะคะ แต่ว่าความพิเศษของมันก็คือ จะมีกะทะเหล็กวางอยู่ตรงกลาง อ่า เอาไว้ทอดของดีโดยเฉพาะ อิอิ


วันที่พวกเราไปกิน เป็นวันพฤหัสที่ฝนตกหนักค่ะ หลังจากเข้าไปในร้าน พนักงานก็ยื่นเมนูมาให้ แต่....เอ่อ เมนูมันมีสองภาษาอ่ะ คือภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่น เพราะที่นี่ ส่วนมากมีชาวญี่ปุ่นมากินด้วย พอเลื่อนสายตามาที่ภาษาอังกฤษก็ถึงกับงง มันเป็นภาษาอังกฤษที่เขียนจากคำอ่านของญี่ปุ่นค่ะ


พวกเราเลยถึงกับใบ้กิน ไม่รู้จะสั่งยังไง เพราะอ่านญี่ปุ่นไม่ออก เลยตัดสินใจ ลองเสี่ยงสั่งโอโคโนะมิยากิมากินจานนึงก่อน ไกลนั้นเคยกินแนวๆนี้มาก่อนด้วยอ่ะ เลยคิดว่า น่าจะพอทำๆ คลำๆกันไหวน้อ


อ่า จานแรกเป็นฝีมือพี่ต่อ พี่ทีม Research ของเรา ดูหน้าตาดีทีเดียว (แต่มีแอบไหม้อ่ะ ควันพวยพุ่งไปรอบนึง กิกิ)




จากนั้น พี่ต่อก็ตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ อ๊ากกก กลิ่นหอมๆลอยมา น่ากินโคตร





เอ่อ ดูจากท่าทางก็อาจจะเก้กังบ้างนะคับพี่น้อง เนื่องจากดีกรีพี่เขาเป็นนักศึกษาป.เอกคณะวิศวกรรมศาสตร์ เอาเป็นว่า ผ่านมาหลายวันเราก็ยังไม่ท้องเสีย ก็โอเคแล้วล่ะ ^^"



ต่อมา พี่กอล์ฟกับพี่ภัทรตามมาเป็นชุดที่สอง ตอนเห็นหน้าพี่สองคนนี้ดีใจมากๆ เนื่องจากพี่กอล์ฟอ่านภาษาญี่ปุ่นได้ พี่ภัทรก็เป็นเซียนเปิบบริสุทธิ์อาหารญี่ปุ่น งานนี้เรารอดตายแล้ว ดีใจ แต่พี่กอล์ฟมาแบบเปียกไปทั้งตัว เพราะซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่ภัทรมาที่ร้าน สิ่งที่เราคาดไม่ถึงคือ ทางร้านเอาชุดยูคาตะ(หากเขียนผิดก็ขออภัยนะคะ เพราะไม่สันทัดภาษานี้จริงๆอ่ะค่ะ) มาให้เปลี่ยน ซึ่งตอนแรกพี่กอล์ฟก็จะเปลี่ยนแหละ แต่ไกลนั้นบอกว่าจะถ่ายรูปเป็นหลักฐานไว้แฉแต่เช้าในบริษัทพรุ่งนี้ พี่กอล์ฟเลยไม่ยอมเปลี่ยน แง๊ๆๆ หนูขอโทษ


อ่า มาถึงคิวจานเด็ดของเราบ้างดีกว่า พี่กอล์ฟกับพี่ภัทรก็สั่งกันแบบเมามัน จานต่อไปเป็นมอนจายากิรสต้มยำคับ




ก๊ากกก ควันขึ้น พี่ภัทรทำมอนจาไหม้ง่ะ T____T




เอาน่า พี่กอล์ฟปลอบใจ เดี๋ยวพี่แก้ตัวให้ในยากิโซบะคับน้องๆ ทำให้พวกเรามีความหวังรำไร อ๊ากกก เราชอบกินยากิโซบะที่ซู้ดเลย


พี่กอล์ฟลงมือผัดยากิโซบะ งวดนี้เสียงตะหลิวดูดีแฮะ ฟังแล้วรู้เลยอ่ะว่าพี่เขาทำกับข้าวเป็น คล่องมาก พวกเรามองเพลินเลย






ผลงานของพี่กอล์ฟ อื้อ หน้าตาดีทีเดียวแม้จะมีการเติมเครื่องปรุงกันมั่ว เพราะไม่รู้ว่าไอ้เจ้านี่มันใส่ซอสตัวไหน -__-" แต่ผลสุดท้าย เราก็ยังกินกันได้น่า(นี่เราจะแนะนำร้านอาหารให้คนอื่นเข้าไปกินหรือว่าทำให้เขาไม่มีใครกล้าเข้าไปกินกันน้อ แหะๆ)






มาดูโฉมหน้าของดิบก่อนลงกะทะกันดีกว่า เผื่อจะดูดีกว่าผลลัพท์น่ะค่ะ ^^"


อันนี้เป็น โอโคโนะมิยากิ




แต๋นแตนแต๊น ถ้วยต่อไปนี้จะเป็นฝีมือไกลนั้นแล้วค๊าบ


เราค่อยๆ เทโอโคโนะมิยากิอย่างนุ่มนวลลงกะทะ



จากนั้น กดตะหลิวแบบไม่รู้จะทำอะไรดี โอม สุกแบบสวยๆหน่อยนะลูก ^^




จากนั้น พอสองด้านสุกดี ออกเกรียมนิดๆ เราก็ทาซอสลงไป แล้วโรยด้วยกุ้งแห้งป่น กับสาหร่าย





และสุดท้าย เพื่อความไฮโซ เราต้องใช้มายองเนสเขียนชื่อเรากำกับลงไปด้วยแบบนี้








อ่า มาถึงคิวเครื่องดื่มกันบ้าง ที่นี่จะมีชาร้อนกับชาเย็นค่ะ เป็นรีฟิว สำหรับชาเย็นจะงั้นๆ แต่ชาร้อนนี่สิ ถ้วยสวยดีค่ะ





ตบท้ายด้วยภาพของมอนจายากิรสแกงกะหรี่ฝีมือน้องทับจ้า อันนี้ไกลนั้นช่วยเทน้ำอ่ะ




มื้อนี้สนนราคาตกคนละ 350 บาท (ไปกันห้าคนค่ะ) ไกลนั้นว่าอิ่มนะ แต่แพงแฮะ ไปกินบุพเฟ่ต์ที่คุโรดะแบบกลิ้งออกจากร้านได้สบายๆเลยอ่ะ (คุโรดะราคา 399 แต่สั่งไม่อั้น) แต่พี่บางคนคงเกรงใจ ไม่กล้าสั่งต่อ คาดว่าคงไม่อิ่มเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่ากินเพื่อให้รู้ว่าเคยมากินอะไรแบบนี้ละกัน


กินเสร็จตัวเหม็นหึ่งเลยอ่ะ ดังนั้น งานนี้หากใครกินเสร็จแล้วไม่อาบน้ำสระผมล่ะก้อ ระวังคนข้างๆรังเกียจนะคะ

Photo by TQ , กล้องมือถือของทับ พี่กอล์ฟ พี่ภัทร ค่ะ

Create Date : 01 กันยายน 2550 Last Update : 19 ตุลาคม 2551 19:37:42 น. Counter : 706 Pageviews.		29 comments
Share Tweet