Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

Changing Me Chapter 5




Titile: Changing Me [Chapter 5]
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Comedy
Rating: PG
Pairing: KyuMin
Note : ฟิค SJ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามาได้ปิดหนีทัน 55555..




************************************

วันนี้วันอาทิตย์ ตามกฏหมายแรงงานผมควรได้พักงานวันนี้ ผมก็เลยนอนกลิ้งเล่นอยู่ในกระท่อมของผมจนสายโด่งชนิดที่รยอกูมาปลุกผม ๆ ก็ไม่ตื่น หากแต่พอนอนจนเกือบเที่ยงก็เริ่มคิดได้ว่าผมใช้เวลาไร้สาระเกินไป

แต่อยู่ในไร่แบบนี้ ผมจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ไปดูหนัง โยนโบว์ลิ่ง ดูละครเวที มีที่ไหนกันล่ะแถวนี้ จะออกไปชวนพี่ชินดงกินเหล้าแต่หัววันก็ใช่ที่ หรือว่าควรไปนั่งเล่นเกมส์ดีหว่า แต่เนทก็ใช่จะแรง

ผมเดินออกมาที่ระเบียงบ้าน และสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด ผมมองชมวิวไปเรื่อยๆ พลางคิดเรื่องหาอะไรทำดี และสายตาก็ไปสะดุดเข้าที่รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อคันหรูที่จอดอยู่หน้าบ้านคุณซองมิน

รถคันนี้รถใครหว่า?


ผมรีบเข้าไปจัดการล้างหน้าล้างตา แต่งตัวใหม่ และทำเป็นเดินเตล็ดเตร่ไปบ้านคุณซองมิน ข้อแรกที่ต้องไปเพราะผมหิว ข้องสองคือผมอยากรู้ว่าใครเป็นเจ้าของรถคันนี้

ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านนะครับ แต่คนเรามันก็ควรจะช่างสังเกตบ้าง ถูกไหมครับ

พอผมเดินเข้าไปในบ้านภาพที่ผมเห็นก็คือคุณซองมินนั่งคุยอยู่กับใครไม่รู้ ซึ่งผมขอยอมรับเลยว่านายนั่นดูหล่อมาก รูปร่างหน้าตาดูเหมือนพวกคุณชาย เขาใส่เสื้อลายสก๊อตสีฟ้า กับกางเกงยีนส์สีซีด เหมือนนายแบบเสื้อผ้าแนวคาวบอยยังไงยังงั้น

“อ้าวคยูตื่นแล้วเหรอ”

“ครับ” ผมรับคำ แล้วเดินเข้าไปบนบ้าน โดยพยายามทำเป็นไม่เหลือบมองแขกของคุณซองมิน แต่ผมก็เห็นว่าคนๆ นั้นมองผมอยู่

“นี่ไงซีวอน คยูฮยอนที่ เราเล่าให้ฟัง”
เล่าเรื่องอะไรของผมให้เขาฟังกันครับ แล้วจากชื่อที่เรียกทำให้ผมเดาได้แล้วว่านายคนนี้เป็นใคร

ชเวซีวอน ที่กล่าวขานกันนั่นเอง

“นี่ซีวอน เพื่อนฮยองเอง” คราวนี้คุณเจ้าของไร่เป็นฝ่ายแนะนำผมบ้าง ผมโค้งทักทายให้กับคนสูงวัยกว่า คนๆ นี้พอจะทำให้ผมเรียกฮยองได้ จากหน้าตา และบุคลิก ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเรียนรุ่นเดียวกับคุณซองมินได้

ตกลงว่าคุณซองมิน หน้าเด็ก หรือ คุณซีวอน นี่หน้าแก่ กันแน่หว่า

“คยูฮยอน หน้าตาหล่อนะครับ” คุณซีวอนชมผมแต่หันไปพูด กับเจ้านายผม แต่ไอ้คำชมนั่นหน่ะไม่ต้องชมผมก็รู้

“ขอบคุณครับ” ผมตอบรับตามมารยาท แต่ถ้าจะให้ผมชมอีกฝ่ายคืนมันดูประจบสอพลอไปนิด ไม่ใช่แนวผม ถึงอีกฝ่ายจะหล่อแต่ผมก็ไม่อยากชม

“ผมแวะไปหาอะไรกินก่อนแล้วกันนะครับ” ผมหันไปบอกคุณซองมิน คนตัวเล็กก็ยิ้มกว้าง

“อยู่ในครัวเลย แต่ไม่รู้จะเหลืออะไรบ้าง เพราะวันนี้ พี่ชินดงก็แวะมากินเมื่อเช้า”

แค่ได้ยินว่าพี่ชินดงมากินด้วย ผมก็มโนภาพออกว่ามันคงแทบไม่เหลือ ผมเริ่มคิดแล้วว่าจะรอกินมื้อกลางวันเลยทีเดียวดีกว่า ในขณะที่ผมกำลังเดินเข้าไปในครัวผมก็ได้ยินเสียงเรียก จากคุณซองมิน

“เออคยู เดี๋ยวฮยองกับซีวอนจะเข้าไปในเมือง คยูจะออกไปด้วยไหม ไปหาอะไรกินแล้ว เผื่อคยูอยากได้ของอะไรเพิ่ม”

พอได้ยินคำชวนก็ทำให้คิดได้ว่านั่นเป็นความคิดที่ดี ผมอยู่ที่นี่มาจะเดือนหนึ่งแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวบางอย่างก็เริ่มหมด และผมก็ยังไม่เคยเข้าไปเดินในเมืองจริงจังเลย ส่วนใหญ่แค่ผ่านๆ หรือไม่ก็แวะแค่ร้านขายอุปกรณ์เกษตร

“ก็ดีครับ ผมจะได้ไปซื้อของ”

======================================

ผม และ คุณซองมิน กำลังนั่งอยู่บนรถของคุณซีวอน โดยที่คุณซองมินนั่งอยู่ด้านหน้า ผมแอบนั่งมองเจ้าของรถเพื่อสังเกตพฤติกรรมไปด้วย

ผู้ชายคนนี้แปลก บุคลิกท่าทางก็ดูเหมือนคุณชาย ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา ตอนเดินมาขึ้นรถยังเดินมาเปิดประตูให้คุณเจ้าของไร่ของผมอีกด้วย เสื้อ ผ้า หน้าผม ทุก ๆ อย่างรวมกันเหมาะกับการเป็นคุณชายนักธุรกิจ ไม่ได้มีส่วนไหม เหมาะกับการเป็นเกษตรอำเภอเลยสักนิด

แล้วเกษตรอำเภอที่ไหน ขับ LAND ROVER รุ่น Range Rover Sport กันครับ นี่มันรถสำหรับนักการเมืองชัด ๆ

เบาะนิ๊มนิ่ม นั่งสบาย รถหรูชนิดที่ครอบครัวผมที่พ่อแม่มีอันจะกินจะใช้ยังไม่กล้าจะซื้อ แต่พ่อเกษตรอำเภอนี่เอามาขับลุยอยู่ที่นัมวอน ถึงแม้ศักยภาพมันเหมาะกับการปีนป่ายเขาก็เหอะ

“ซองมินจะแวะดูหนังไหมครับ” อยู่ดี ๆ ชเวซีวอนก็หันมาถาม คนข้างตัว อืม..ด้วยยิ้มหวาน

“ไม่ดีกว่าฮะ ซองมินอยากจะรีบกลับ” คนตอบก็ยิ้มน่ารักใส่

ประหลาดทั้งคู่

“เออ คยูล่ะ อยากดูหนังไหม” คุณซองมินผินหน้ามาหาผมแทน ยิ้มหวานๆ นั่นทำให้ผมมึนนิดหน่อย

“ไม่ดีกว่าครับ ช่วงนี้ไม่มีเรื่องอะไรน่าดูเท่าไหร่”

“อืมเน้อ แล้วปรกติคยูชอบดูหนังแนวไหน”

“ก็ดูได้หมดครับ แอคชั่น ไซไฟ อะไรแบบนี้ก็ชอบ” ผมแอบไม่บอกคุณซองมินไปว่าที่ผมชอบสุดคือดราม่า เพื่อนมันชอบแซวผมว่ามันไม่เท่ห์

“ชอบเหมือนผมเลย ไม่เหมือนซองมิน คนนี้ชอบดูหนังการ์ตูน หรือไม่ก็ดราม่า”

ผมแทบตบเข่าฉาดตอนคุณซีวอนพูด ที่คุณซองมินชอบนั่นแหละของโปรดผม

“ซีวอนชอบล้อว่าฮยองเด็ก”

“ก็จริงไหมล่ะ” คนขับรถละมือของตัวเองมาขยี้หัวคุณซองมิน แล้วก็หัวเราะคิกคัก

แล้วคุณซีวอนก็เริ่มเล่าให้ผมฟัง ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ถาม เกี่ยวกับสมัยเรียนของทั้งคู่ เท่าที่ผมจับประเด็นได้ก็ประมาณว่า ทั้งคู่เรียนคณะเกษตรศาสตร์ ที่มหาลัยชื่อดังที่โซลมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน คุณซองมินกลับมาช่วยงานที่บ้าน ในขณะที่คุณซีวอนอยากจะทำตามความฝันของตัวเองที่อยากจะช่วยเกษตรกร พัฒนาด้านเกษตรกรรม เลยมาเป็นเกษตรอำเภอแบบนี้

สำหรับผมฟังแล้วเหมือนกำลังดูละครแนวตามล่าหาความฝันเพื่อชาติอะไรแบบนั้นเลย

ผมให้ทั้งคู่พาผมมาส่งแถวตลาด ที่ผมพอจะเดินเองได้ และจะหาอะไรกินเอง แล้วปล่อยให้สองคนนั้นเขาไปธุระของเขาต่อ แล้วถ้าเสร็จธุระผมจะโทรบอกเอง

คุณซองมินหันมาโบกมือให้ผม ก่อนที่รถหรูคันนั้นกำลังจากไป พร้อมกับความหมั่นไส้เล็กๆ ให้กับเจ้าของรถของผมที่ติดไปด้วย

======================================

หลังจากกลับจากในเมือง วิถีชีวิตของผมก็คล้ายๆ เดิม กินข้าวเย็นกับอีกสามหนุ่ม และออกไปนั่งคุย และสังสรรค์กับคนงานที่บ้านพี่ชินดง

บางทีถ้ากลับโซลไปผมอาจเริ่มติดโซจู

พอคิดได้ผมก็เลยขอตัวกลับมาที่บ้านก่อน ผมไปหยิบคลาริเน็ต ที่ร้างลาจากมันไปนานขึ้นมาเช็ดถู และหยิบมันเดินมาที่ระเบียงของกระท่อม ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลง

อากาศเย็นสบายแบบนี้เหมาะกับเสียงของคลาริเน็ตมาก ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ

ผมหลับตา และปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงเพลงที่เกิดจากสัมผัสบนปลายนิ้วของผม

ผมชอบเสียงเครื่องเป่า ไม่ว่าจะ คลาริเน็ต แซกโซโฟน หรือฟลุต มันดูอบอุ่นและสุขุม มันคงคล้ายกับผมมั่งนะ ผมคิดว่าผมไม่ได้คิดเอาเองนะ ลุคส์ผมเป็นแบบนั้น

แต่ในระหว่างที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับเสียงดนตรี จากการบรรเลงของตัวเอง ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใครสักคนเดินมาจากข้างหลัง ผมเหลียวไปมองโดยที่ยังไม่ละจากการเป่าเจ้าเครื่องดนตรีในมือ

ลีซองมินยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น

“You Raise Me Up ฉันชอบเพลงนี้” คุณซองมินเอ่ยบอกกับผมหลังจากที่ผม เลิกเป่าคลาริเน็ตแล้ว ผมยิ้มตอบกับรอยยิ้มสดใสนั้น

“เป่าเพลงอื่นอีกซิ”

คราวนี้ผมเลือก Mozart Clarinet Concerto ขึ้นมาเป่าท่อนหนึ่ง คนตาแป๋วก็นั่งฟังผมบนเก้าอี้เอนหลังที่ระเบียงอย่างตั้งใจ

“เพลงอะไร เพราะดี”

“Clarinet Concerto ของ Mozart”

“เพราะ แต่ฮยองไม่ค่อยคุ้นกับเพลงคลาสสิคเท่าไหร่”

“ปรกติผมก็ชอบเป่าพวกแจ๊สมากกว่าเพลงคลาสสิค”

“ฮยองก็อยากหัดเล่นกีตาร์แจ๊สให้ได้ดีเหมือนกันนะ เออนี่คยูต้องไม่รู้แน่เลยว่าฮยองเล่นกีตาร์เป็น”

ผมส่ายหัวเป็นคำตอบให้กับคนที่นั่งยิ้มโชว์ฟันกระต่ายให้กับผม

“คยูเล่นเพลงอื่นอีกซิ”

ผมขี้เกียจขัดอกขัดใจแฟนเพลงจำเป็นของผม ผมก็เลยเริ่มเป่าเพลงโปรดของผมขึ้นมา

“Autumn Leaves” แฟนเพลงของผมขานชื่อเพลงเสียงดังและยิ่งยิ้มกว้างหนักขึ้นไปอีก คุณซองมินเริ่มฮัมเพลงตาม และยิ้มสดใส

สดใสเสียจนผมรู้สึกเหมือนกำลังเป่าคลาริเน็ต อยู่ในทุ่งดอกไม้ตอนเช้า ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ผมรู้สึกแปลกเสียจนต้องหลบสายตาจากรอยยิ้มนั้น ผมเป่าเพลง Autumn Leaves ไม่จบเพลง แต่คนฟังก็ยังปรบมือให้กับผม

“ฮยองชอบเพลงนี้มาก เล่นกีตาร์เพลงนี้ได้ด้วยล่ะ”

“เหรอครับ ผมว่า Autumn Leaves เหมาะกับกีตาร์นะ” คนตาแป๋วพยักหน้าหงึกหงักรับกับความเห็นของผม

“งั้นคยูรอเดี๋ยวนะ” พอพูดจบคุณซองมินก็เด้งตัวแล้ววิ่งไปทางบ้านใหญ่ทันใด และชั่วเวลาครู่เดียวที่ผมยังงงอยู่ เจ้าตัวก็วิ่งออกมาพร้อมกับกีตาร์

กีตาร์สีชมพูด้วยเอ้า!!


“ฉันอยากเล่น Autumn Leaves บ้างไม่ได้เล่นนานแล้ว คยูร้องเพลงนี้ได้ไหม”
ผมพยักหน้ารับ แล้วคนอยากเล่นกีตาร์ก็เริ่มบรรเลง ผมร้องเพลงนี้คลอเบาๆ ไปด้วย

เราร้องเพลงไปด้วยกัน ผมไม่รู้ตัวว่าผมยิ้มกว้างขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอจบเพลงผมถึงรู้ตัวว่าผมยิ้มกว้างไม่ต่างจากคนที่เล่นกีตาร์อยู่

ทำไมผมถึงรู้สึกว่า Autumn Leaves คืนนี้ของผม กับคุณซองมิน ถึงไม่ได้เศร้าเหมือนเนื้อเพลง

“คยูร้องเพลงเพราะมาก”

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้กับคำชม แต่ก็ขี้เกียจอธิบายว่าผมเคยเกือบได้เป็นนักร้องแล้ว เสียแต่ผมขี้เกียจไปซ้อมเต้นก็แค่นั้น

“คยูเรียนเอกดนตรีใช่ไหม”

“ครับ”

“คยูเรียนเอกอะไรเหรอ”

“Post Modern Music ครับ”

“อย่างนี้ก็แต่งเพลงได้ใช่ไหม”

ผมพยักหน้าตอบรับ “ก็แต่งได้บ้าง จริงๆ ผมเคยแต่งเพลงขายให้ค่ายเพลงบ้างสมัยเรียน”

“เก่งจัง แล้วตอนนี้ยังได้แต่งบ้างหรือเปล่า”

“ก็แต่งบ้าง ผมแต่งลงคอมพิวเตอร์ หรือถ้านึกเมโลดี้ออกก็ฮัมใส่โทรศัพท์บ้าง อยู่ที่นี้ผมแต่งได้หลายเพลงแล้ว ที่นี่สงบดี”

“ดีจัง” คุณซองมินคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะหงายหลังเอกเขนก ไปกับเก้าอี้นอน

“ฮยองอยากฟังเพลงของคยูฮยอนบ้าง”

ผมนิ่งคิดสักพัก ในใจลึก ๆ ก็อยากอวดเพลงตัวเองให้คุณซองมินฟังเหมือนกัน

อ่ะ!! ผมนึกออกแล้ว

ผมคว้าหยิบโทรศัพท์ และกดเลื่อนหน้าจอเข้าไปในเมนูที่ผมอัดเพลงที่แต่งเอาไว้

“เพลงนี้ผมอัดเอาไว้ เมื่อวันก่อน” ผมเสียบหูฟัง และยื่นอีกข้างให้กับคุณเจ้าของไร่ คุณซองมินหลับตา และคลายยิ้ม

“เพลงเพราะจังเลย คยูฮยอน”

ผมมองหน้าคุณซองมิน ... แล้วอดยิ้มไม่ได้ ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอะไรอยู่ ... แต่ผมกำลังนึกถึง “คิมยอนจี”...

ทำไมผมคิดถึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาได้ไม่รู้ บางทีผมอาจกำลังนึกถึงช่วงเวลาที่ผมเคยมีความสุขกับยอนจี และนึกอยากให้ผู้หญิงคนนั้นชื่นชมกับงานของผมแบบนี้บ้าง

หรือผมกำลังนึกถึงเขา เพื่อเอามาเปรียบเทียบกับคนข้างหน้า.....
บ้าน๊าาา มันเปรียบกันไม่ได้เลย คิมยอนฮี กับ ลีซองมิน

คุณคนนี้เขาเป็นผู้ชาย...

คุณซองมินยังคงหลับตาฟังเพลงของผมอยู่ รอยยิ้มที่ประดับบนหน้าใสๆ ของเขามันทำให้ผมรู้สึกอยากแต่งเพลง เพลงที่สดใส เหมือนยามเช้าที่แสงแดดส่องพาดทับไล่ทิวลิป

สดใสเหมือนกับรอยยิ้มของเจ้าของไร่.....

***********************************



ขอเปลี่ยนชื่อเรื่องของฮยองเจ้าของไร่กับไอ้หนุ่มนักดนตรีหน่อยนะคับ ตอนแรกตั้งชื่อนั้นเพราะมีนัยยะบางอย่าง แต่วันเวลาผ่านไป 1 ปี เปลี่ยนดีกว่า 555

ตอนนี้ปุ้มตั้งใจปั่นเรื่องนี้ให้จบ (ซึ่งตอนนี้เค้าแต่งพล็อตจบเรียบร้อยแล้ว) แล้วค่อยทุ่มเวลาให้กับ ปรากฏการณ์ผีเสื้อนะคับ เพราะแต่งคยูมินสองเรื่องพร้อมกันเด๋วมรึน

อีกไม่นานคงพบกับตอนต่อไปค่ะ


ปล. ช่วงนี้ปุ้มอัปฟิคไม่ถี่ไม่เป็นเวลา อัปมั่ว ไม่รู้ว่าอัปเรื่องไหนอยู่ รบกวนแอดทวิต @midoripum ไว้ก็ได้นะคับ ที่ทวิตเตอร์ปุ้มจะอัปไว้ว่าอัปเรื่องไหนไว้แล้ว และทวิตปรกติปุ้มไม่ค่อยได้เล่น ข้อความของปุ้มจะไม่ได้ไปรบคกวนไทม์ไลน์ของทุกท่านนัก









 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2554 18:47:28 น.
Counter : 492 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.