อาหารเจส่วนใหญ่ทำจากแป้งและปรุงโดยการผัด ทอด มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ หากเลือกทานไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ประเภท เบาหวาน ความดัน ไขมันอุดตันเส้นเลือดได้...
หรือบางทีอาจกังวลใจว่าจะทำให้อ้วนหรือขาดสารอาหารหรือไม่ แต่ข้อมูลจากผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งจะบอกว่า ทุกปีมีคนสนใจกินเจมากขึ้นร้อยละ 10 ก็ตาม
ทีมข่าวไทยรัฐ จึงสอบถามนักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญการทำอาหาร เพื่อขอคำแนะนำว่าจะกินเจอย่างไร ที่ได้ทั้งสุขภาพกายดี สุขภาพจิตผ่องใส
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัยและผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การรับประทานอาหารเจให้ได้สุขภาพดี ควรทานให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นทานโปรตีนที่มาจากพืชอย่างแท้จริง
เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ ฟองเต้าหู สาหร่าย เลี่ยงการรับประทานอาหารมัน ผัด ทอด งดอาหารรสจัดต่างๆ เช่น รสเค็ม รสหวาน และรับประทานผักผลไม้มากๆ
อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ (TIFTEC) และเจ้าของรายการอาหารชื่อดัง แนะนำว่า ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ เมนูไทยเจ น่าสนใจและจะดีต่อสุขภาพ
จึงแนะนำเมนูปรุงเองได้ง่ายๆ คือ เมนูต้มยำวุ้นเส้นรวมเห็ดเจที่ใช้เครื่องปรุงแบบเครื่องต้มยำน้ำใส แต่ไม่ใส่หอม ส่วนน้ำซุป ก็นำข้าวโพดมาต้มจนได้น้ำซุปใส รสชาติหวานหอม เหยาะซีอิ๊วขาวแทนน้ำปลาหรือโรยเกลือเล็กน้อยเพื่อให้มีรสเค็ม เท่านี้น้ำซุปก็อร่อยกลมกล่อม
ที่สำคัญเน้นใส่เห็ดและเต้าหู้ เพื่อเพิ่มโปรตีน และหากกลัวไม่อิ่ม ใส่วุ้นเส้นลงสัก 1 กำมือ ก็เรียบร้อย นับเป็นเมนูไทยเจง่ายๆ ที่ดีต่อร่างกายและสามารถทำทานเองได้ที่บ้าน
ประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการกินเจ คือ การประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรมจึงจะได้กุศลจากการถือศีลกินเจสูงสุด.