** บันทึกการเดินทางในฝัน ... 8 วัน ณ มัลดีฟส์ **
(เนื่องจากภาพประกอบเยอะ กรุณารอโหลดรูปภาพสักพักนะคะ)
 

 ~* DAY 5 *~

:+: North Male Atoll (North Kaafu Atoll) :+:
Banyan Tree Vabbinfaru

:+: Male International Airport :+:

:+: South Male Atoll :+:
Anantara Veli
.
.
.

@ MALE INTERNATIONAL AIRPORT @

1215 น. ~ จาก North Male Atoll
เราเดินทางกลับมาที่เกาะ Hulhule (Male International Airport)

หลังจาก ได้เจอทั้งเต่า / ปลากระเบน / ฉลาม / ปลาหมึก
 ระหว่างทาง โชคดีอีกรอบ
:)

จู่ๆ คนขับเรือก็หยุดเรือกลางทะเล
แล้วตะโกนว่า “dolphin !! ”

กรี๊ดดดดด !!! ทริปนี้ ได้เจอโลมาด้วย
^__^

ตอนแรก ตั้งใจจะซื้อ “dolphin quest” เพื่อนั่งเรือ ออกไปดูโลมา
มาเจอโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง เลยเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว
5555++

ได้ชมโชว์ประทับใจ ส่งท้าย Vabbinfaru โดยไม่คาดหมาย
แต่ฝีมือถ่ายภาพไร้ความสามารถค่ะ
ถ่ายมาได้แค่นี้เอง
v
v
v



ขอชมพนักงานของ Banyan Tree อีกครั้ง
ว่าเขาดูแลดีมากๆ

มาถึงที่หมายแล้ว เขาช่วยเอากระเป๋าใส่รถเข็น พาเดินไปส่ง
(แถมช่วยเข็นรถให้อีก)

จนเจอกับพนักงานของ Anantara
ทั้งๆที่ เขาแค่พาเราส่งขึ้นฝั่งก็พอแล้ว เพราะถือว่าหมดหน้าที่ของเขาแล้ว

รอเวลาลงเรือของ Anantara ต่อค่ะ
แต่รอกันนานทีเดียว เพราะต้องรอแขกคนอื่นๆที่เพิ่งลงจากเครื่อง


++ นั่งรอเวลาขึ้นเรือ ที่สนามบินมาเล่ ++

ระหว่างนี้ ... เลยถือโอกาสสอบถามข้อมูล seaplane ที่สนใจ
แบบ photo flight / sightseeing trip
ประมาณ 15-20 นาที

Seaplane ที่นี่ จะมีอยู่ 2 เจ้าใหญ่ คือ
1) Maldivian Air Taxi และ
2) Trans Maldivian

สำหรับ Maldivian Air Taxi
เขาบอกราคามาแบบเหมาลำ (Charter Flight)
อยู่ที่ประมาณ USD 600.-  ขึ้นไป สำหรับ 2 คน (15 นาที)

ไม่ไหวล่ะค่ะ !!
เพราะราคานี้ พอๆกับค่านั่งเครื่อง seaplane ไปตามเกาะอื่นๆเลย
(ราคาอยู่ที่ประมาณ USD 310.- ต่อคน / ไป-กลับ)

ถ้าต้องจ่ายราคานี้
เลือกไปพักตามเกาะไกลๆ ที่ต้องนั่ง seaplane ไปเลยดีกว่า

ลองถามอีกเจ้า ... Trans Maldivian
เขาคิดแค่คนละ USD 55.-

แต่ไม่มีรอบเวลาแน่นอน
ต้องมีคนมาแจ้งชื่อไว้ และเครื่องเขาว่างเท่านั้น

เลยขอเบอร์ติดต่อไว้ก่อน
กะว่าวันสุดท้าย ช่วงรอต่อเครื่องก่อนกลับบ้าน อาจจะมีโอกาสได้ลองดู

จริงๆแล้ว ... ก่อนหน้านี้ เราเคยติดต่ออีกเจ้าไว้ทางอีเมล์
ก่อนจะบินมาที่มัลดีฟส์
//www.bywave.com.mv/

เขามีจัดทัวร์ snorkeling แบบ day trip โดยการนั่งเครื่อง seaplane ไป
ซึ่งเราสนใจมากๆ แต่ปัญหาคือ เขาไม่ได้มีทุกวัน
และดันไม่ตรงกับตารางการเดินทางของเรา
T.T

ไม่เป็นไร ... ถือว่าเก็บข้อมูลไว้ก่อนละกัน
.
.
.

@ ANANTARA VELI @

จากนี้ เราจะมุ่งหน้าลงทางตอนใต้ของเกาะ (South Male Atoll)
โดยมีจุดหมายปลายอยู่ที่รีสอร์ท ในเครือ Anantara

ซึ่งบริเวณนี้ ... จะมีอยู่ 3 รีสอร์ทด้วยกัน
1) Anantara Veli
2) Anantara Dhigu
3) Naladhu

การเดินทางที่นี่ ... ไม่มีเวลาของรอบเรือที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเที่ยวบินต่างๆ
โดยเขาจะจัดเวลาให้เรา และแจ้งล่วงหน้าแค่ 1 วันเท่านั้น

รอเวลาผู้โดยสารจาก Indian Air มาสมทบ
รอบเรือเที่ยวนี้ มีผู้โดยสารเพียง 7 คน (รวมเรา 2 คน)

เรือ speedboat ของ Naladhu มารับ
พาไปยังจุดหมายปลายทาง ทางเกาะใต้ ของเมือง Male


++ On the way by speedboat to ANANTARA VELI ++

ขอบอกว่าเรือไฮโซมาก เพราะ Naladhu เป็นรีสอร์ทหรู ระดับ hi-end
และราคาแพงที่สุด ในบรรดาทั้ง 3 รีสอร์ที่ว่านี้
(ก็ได้แค่นั่งเรือเขาไป ไม่มีปัญญาไปพักหรอกค่ะ แหะ แหะ)

ขึ้นเรือมา ... พนักงานแจกน้ำดื่ม
พร้อมผ้าเย็น ยี่ห้อ BVLGARY … โอ๊วว !! ไฮโซสมราคา
^^

แต่ต่างกับ Banyan Tree ตรงที่ไม่บังคับให้ใส่ life vest
ของที่โน่น ลงเรือปุ๊ปเขาแจก+บังคับให้ใส่ทันที


++ เส้นทางการเดินเรือ ++

ใช้เวลาเดินทาง โดย speedboat ประมาณ 35 นาทีค่ะ
ความเห็นส่วนตัว ... เรารู้สึกว่า คลื่นลมที่นี่ นิ่งสงบเอามากๆ
ช่างต่างกับการนั่งเรือในบ้านเราจริงๆ

เพลิดเพลินกับการชมวิว ทิวทัศน์ริมทาง
ได้อย่างไม่รู้เบื่อ
^^

เรือ speed boat ชะลอความเร็ว
นำเราสู่ท่าเรือ ของที่พักในคืนนี้ - “Anantara Veli”
นับเป็นที่พักแห่งที่ 4 ที่ได้มาเยือนในทริปนี้


++ ANANTARA VELI ++

Anantara Veli เป็นรีสอร์ทเก่า
ในกลุ่มของ Hotel Plan ซึ่งเจ้าของเป็นคนท้องถิ่น
เดิมที ใช้ชื่อว่า “Boduhuraa”

หลังจาก Anantara มาสร้างรีสอร์ทใหม่ใกล้ๆ (Anantara Dhigu)
เลย take-over ที่นี่ด้วย

หมู่เกาะบริเวณนี้ (มีทั้งหมด 4 เกาะ) ในเครือ Anantara
ค่อนข้างใหญ่โตกว่า 2 ที่แรก ที่เราไปมาก

นอกจาก 3 รีสอร์ทที่ว่า ตั้งอยู่แต่ละเกาะแล้ว
อีกเกาะหนึ่ง เป็นบ้านพักของพนักงาน

ตรงกลางเชื่อมต่อ กันด้วย LAGOON
ขอบอกว่า เวลาน้ำลง มันตื้นมากๆ ... จนบางครั้ง ดูแล้วไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
แต่พอน้ำขึ้นแล้วละก็ ให้ความรู้สึกคนละอารมณ์เลย


++ Main Jetty ช่วงน้ำลง ++

ถ้า Banyan Tree Vabbinfaru เน้นในเรื่องของความเป็นธรรมชาติแล้ว
Anantara จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง คือ เน้นด้าน Facilities

ด้วยตัวเลือกของกิจกรรมทางน้ำ ที่มีมากกว่า
และร้านอาหารที่มีมากกว่า ถึง 7 ร้าน
ในขณะที่ Banyan Tree มีห้องอาหารเพียงห้องเดียว
.
.
.

พนักงานนำทางไปยัง Lobby
พร้อมด้วย welcome drink เป็น “น้ำมะนาวโซดา”

ก่อนจะพาไปยังห้องพักของเรา คืนนี้
Deluxe Overwater Bungalow (#142)


++ Villa No. 142 @ ANANTARA VELI ++

ที่ Anantara Veli …
จะมีแต่ห้องพักแบบ overwater bungalow ไม่มี beachfront
และมีห้องพักเพียง 2 แบบ คือ
1) overwater bungalow
2) deluxe overwater bungalow

ห้องพักใหญ่โตกว้างขวาง
เพียบพร้อมด้วยตู้แช่ไวน์ / เครื่อง brew กาแฟ

แต่บอกตรงๆ ... ไม่ค่อยประทับใจห้องพักอย่างที่คาดไว้ค่ะ
อาจเพราะเป็นที่พักเก่า แล้วนำมา renovate ตกแต่งใหม่

วิวรอบๆ ไม่สวยอย่างที่คาดไว้
ไม่รู้ว่า มาถึงตอนช่วงน้ำกำลังลงด้วยรึเปล่า !?!?
เลยดูไม่ค่อยสวย


++ Welcome Fruits & Bedroom ++

เปิดประตูระเบียงด้านหลังออกไป
 จะพบกับ day bed ตัวใหญ่ ไว้นอนกลิ้งชมดาว
แต่กลางวันนั่งไม่ได้เลยค่ะ .. ตรูดแทบพอง
T^T

ข้อแตกต่าง ของห้องพักแบบธรรมดา และแบบ deluxe
อยู่ที่'ห้องน้ำ'ค่ะ

จากห้องนอน
เดินผ่าน Walk-in Closet และมุมโต๊ะทำงาน
จะเป็นส่วนห้องน้ำ ซึ่งแยกส่วนแห้ง-ส่วนเปียกได้อย่างลงตัว


++ ห้องน้ำกว้างมาก ++

เราชอบห้องน้ำของ Veli มากกว่าห้องนอนซะอีก
เพราะสามารถเปิดม่านขึ้น แล้วแช่น้ำชมวิวได้ (กึ่ง open air)

แต่ไม่ค่อยจะเป็นส่วนตัวเท่าไหร่
เพราะอาจจะมีคนว่ายน้ำ หรือพาย kayak ผ่านได้

อีกอย่าง ... วิวไม่สวย
เพราะมีเกาะเล็กๆ มีขอบแนวปูนมากั้นกลาง
เลยดูไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาติมากนัก


++ วิวจากอ่างอาบน้ำ ++

ออกไปเที่ยวชมรอบนอกกันบ้าง
วิวจาก Veli จะมองเห็นคลื่นทะเลแรง ม้วนตัวอยู่รอบนอก
เลยดูน่ากลัวเชียว
><

นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้าง”ขอบปูน” กันแนวหาดทรายร่นรอบๆ
(เพื่อไม่ให้เกาะจมเร็ว) เลยดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่
 
ในขณะที่ Banyan Tree ใช้วิธีสูบทรายจากในทะเล ส่งมาตามท่อ
แล้วพ่นออกตามแนวชายหาด
เพื่อกันไม่ให้แนวหาดทรายของเกาะ ร่นหายไป


++ กลุ่มปะการัง @ Anantara Veli ++

กลับมาดูที่ Veli
ด้านหลังเกาะ เป็นขอบปูนตลอดแนว ... คลื่นด้านนอกแรง แถมโขดหินเยอะมาก
เลยไม่ค่อยจะประทับใจ กับทิวทัศน์รอบๆสักเท่าไหร่
:(

ยิ่งช่วงน้ำลงใน Lagoon
โขดหินโผล่ขึ้นมาบ้าง เลยดูไม่สวยอย่างที่คาดไว้

แต่จุดสวยงามของ Veli
อยู่ที่กลุ่มปะการังใต้บ้านพักค่ะ
ในบรรดาทั้ง 3 รีสอร์ทบริเวณนี้ มีแต่ Veli เนี่ยแหละ ที่มีกลุ่มปะการัง




++ ฝูงปลา ใต้บ้านพัก ++

สามารถดำ snorkel ชมปะการังได้ เพียงแค่ก้าวขาลงจากบันไดบ้านพัก
มีปลาตัวเล็กๆเยอะมาก รวมถึง baby shark และ ปักเป้า

เดินเล่นไปเรื่อยๆ
จนถึงร้านอาหารไทย “Baan Huraa”

ก่อนจะกลับมาชมพระอาทิตย์ตกดิน
บนทางเดินสะพานไม้ หน้าห้องพัก ... แต่วันนี้เมฆเยอะจัง
เลยไม่ได้ภาพสวยๆ กลับมาเลย
T^T


++ ถ่ายจากสะพานทางเดินสู่บ้านพัก ++
ไม่ได้ใช้กล้องใต้น้ำนะคะ ... น้ำทะเลใสมากๆ

เลยไปนอนเล่นแช่น้ำ ในห้องพัก
ดีว่า ที่พักเขามีเครื่องเล่น VCD/DVD ให้ด้วย
เลยได้ดู VCD ที่หอบหิ้วไปจากเมืองไทย

สำหรับ Internet มีบริการฟรี ที่ Library เท่านั้น
พร้อมกับบริการ Wi-Fi ฟรี แถวๆ Lobby

แต่ภายในห้องพัก ไม่สามารถใช้ Wi-Fi ได้
ถ้าจะเล่นเน็ทภายในห้องพัก ต้องใช้สาย LAN และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นับเป็นจุดด้อยอีกอย่าง ถ้าเทียบกับ Banyan Tree


++ Free Internet Access @ Library ++

 มาอยู่ที่มัลดีฟส์ได้ 4 คืน
ขอบอกว่า “ดาวสวยมาก” เยอะแยะมากมาย ระยิบระยับเต็มท้องฟ้าเลย
ดึกๆ เลยได้ออกไปเดินเล่มชมดาวอีกแล้ว

 พยายามถ่ายภาพอยู่ทุกคืน แต่ไม่สำเร็จ
จนมาประสบความสำเร็จครั้งแรก ที่ Veli นี่เอง
^^V



ถ่ายรูปดาวได้สมความตั้งใจแล้ว
ถึงแม้จะไม่ชัดเท่าไหร่ ... แต่ยังดี ที่ถ่ายจนติดได้
คืนนี้ คงได้นอนหลับฝันดี

บริการพิเศษของ Anantara คือ “Pillow Menu” ค่ะ
แขกสามารถเลือกได้ ว่าต้องการหมอนแบบไหน
??

อาทิเช่น
หมอนขนเป็ด / Air Flow / Natural Cotton ฯลฯ
แปลกดี ... ไม่เคยเจอบริการแบบนี้ กับที่อื่นมาก่อนเลยค่ะ
^^



- ราตรีสวัสดิ์ Veli -
พรุ่งนี้ ย้ายที่พักกันอีกครั้ง สู่ “Anantara Dhigu” ค่ะ

   




Now Playing :: So Much in Love

 
- Since August 12, 2005 -