พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ทรงแสดงลักษณะของสภาพธรรมทั้งปวงตามความเป็นจริง
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

ขยายความมงคล ๓๘ คาถาที่ ๑๐


๓๕. จิตไม่หวั่นไหวเมื่อถูกโลกธรรมกระทบแล้ว
ขยายความมงคลข้อที่ ๓๕ จิตของบุคคลใดไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรมทั้งหลายที่ถูกต้องคือมากระทบแล้วเป็นอุดมมงคลคำว่า โลกธรรม ได้แก่ธรรมดาโลก กล่าวคือโลกยังดำรงอยู่ตราบใด ธรรมของโลกเหล่านี้ก็คงเป็นไปคือหมุนไปตามโลกตราบนั้น โลกธรรมนั้นมี ๘ อย่างคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ โลกธรรมทั้ง ๘ นี่ย่อมติดตามโลกคือสัตว์โลกไปเป็นธรรมดา ไม่เว้นแม้แต่พระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งปวง เพียงแต่ว่าเมื่อใครถูกโลกธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งถูกต้องแล้ว จะมีจิตหวั่นไหวหรือไม่

คำว่าไม่หวั่นไหวนั้นหมายถึง ไม่ยินดี เมื่อได้มา และไม่เดือดร้อนใจเมื่อเสื่อมไป พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านไม่ยินดีเมื่อได้ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และไม่เดือดร้อนใจ เมื่อเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา และได้รับความทุกข์ ทั้งนี้เพราะท่านมองสิ่งเหล่านั้นตามความเป็นจริงว่า สิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง เป็นทุกข์คือทนอยู่ไม่ได้ เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจของผู้ใด ท่านจึงไม่หวั่นไหว

ถึงกระนั้นพระอริยเจ้าที่ยังมิใช่พระอรหันต์บางท่าน ก็ยังหวั่นไหวในโลกธรรมบางอย่าง ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมบางอย่าง พระอรหันต์จำพวกเดียวเท่านั้นที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้ง ๘ อย่างแท้จริง

ขอยกตัวอย่างความไม่หวั่นไหวของพระอรหันต์ท่านหนึ่งดังนี้ ได้ยินมาว่าท่านพระอนุรุทธะ องค์อรหันต์ผู้เป็นเลิศในฝ่ายตาทิพย์ วันหนึ่งท่านเดินทางไกลจะไปเมือง สาวัตถี ใกล้ค่ำจึงแวะพักที่โรงพักหน้าบ้านของหญิงหม้ายคนหนึ่ง หญิงหม้ายนั้นเห็นท่านพระอนุรุทธะมีรูปร่างงามก็ชอบใจใคร่จะได้เป็นสามี จึงนิมนต์ท่านให้ขึ้นไปพักบนหอนั่ง อันเป็นที่สบาย เมื่อพูดจาประเล้าประโลมท่าน ตั้งแต่พลบค่ำไปจนใกล้รุ่ง จิตของท่านพระอนุรุทธะก็มิได้หวั่นไหว หญิงหม้ายเห็นว่าไม่อาจทำให้พระเถระหวั่นไหวได้ ก็เกิดความละอายใจ ประนมมือไหว้ขอขมาท่าน ท่านก็ยกโทษให้ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ถูกโลกธรรม ๘ กระทบแล้วไม่หวั่นไหวจึงเป็นอุดมมงคล




๓๖. ความไม่เศร้าโศก
ขยายความมงคลข้อที่ ๓๖ ความไม่เศร้าโศกเป็นอุดมมงคล โดยปกติพระอนาคามีท่านเป็นผู้ปราศจากความโศกแล้วโดยสิ้นเชิง เพราะท่านละโทสะอันเป็นรากเหง้าของความโศกได้แล้วด้วยอนาคามิมรรค แต่ในมงคลข้อนี้ท่านมุ่งเอาจิตของพระอรหันต์เท่านั้นว่าไม่มีความเศร้าโศก บุคคลธรรมดาที่มิใช่พระอรหันต์ เมื่อกระทบกับอารมณ์อันไม่ชอบใจ แล้วระงับความเศร้าโศกเสียใจได้ ก็ยังเป็นมงคล ดังเรื่องนี้

พราหมณ์ชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง ทำนาอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำอจิรวดี ครั้นข้าวแก่พอจะเกี่ยวได้ ก็เตรียมผู้คนที่จะเก็บเกี่ยวในวันรุ่งขึ้น แต่คืนนั้นเกิดฝนตกหนัก น้ำในแม่น้ำอจิรวดีไหลบ่ามาท่วมนา และพัดพาเอาข้าวกล้าไปหมด พราหมณ์เศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้ไม่เป็นอันกินอาหาร พระบรมศาสดาทรงเห็นอุปนิสัยแห่งมรรคผลของพราหมณ์ จึงเสด็จมาที่บ้านของพราหมณ์แต่พระองค์ พราหมณ์เห็นแล้วก็ทูลนิมนต์พระศาสดา ขึ้นประทับบนเรือนถวายบังคม พระศาสดาทรงแสดงธรรมดับความโศกของพราหมณ์ มีอาทิว่า สังขารทั้งหลายทั้งภายในทั้งภายนอก ทั้งมีวิญญาณครองและไม่มีวิญญาณครองล้วนไม่เที่ยง มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ตัวของเรายังไม่อาจบังคับให้เป็นไปตามใจเราได้ ทั้งที่เรามีจิตวิญญาณแล้วเราจะไปหวังให้สิ่งที่ไม่มีจิตวิญญาณ รับรู้อะไรไม่ได้ให้เป็นไปตามใจของเราได้อย่างไร สิ่งทั้งหลายไม่อยู่ในอำนาจของใคร พราหมณ์ได้ฟังแล้วก็คลายโศก น้อมใจลงสู่ไตรลักษณ์ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน คนที่เสื่อมลาภที่ยังเป็นปุถุชนย่อมเศร้าโศกอย่างนี้ แต่เพราะได้ฟังพระธรรมเทศนา ละความโศกได้ในขณะนั้น จึงสามารถบรรลุเป็นพระโสดาบันได้ นี่คือคุณของความไม่เศร้าโศก ความไม่เศร้าโศกจึงเป็นอุดมมงคลอีกประการหนึ่ง




๓๗. จิตที่ปราศจากธุลี คือกิเลส
ขยายความมงคลข้อที่ ๓๗ จิตที่ปราศจากธุลีคือกิเลสเป็นอุดมมงคล ซึ่งท่านก็หมายเอาจิตของพระขีณาสพ คือพระอรหันต์เท่านั้น เพราะจิตของพระอรหันต์เป็นจิตที่ปราศจากธุลีคือกิเลส มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นต้น

ขอยกตัวอย่างคนที่ยังมีกิเลสว่ามีโทษเพียงไร ชาย ๒ คนพี่น้อง น้องชายเกิดเป็นชู้กับภรรยาของพี่ชาย ภรรยายุยงให้ฆ่าพี่ชายเสีย พี่ชายนั้นยังรักภรรยาอยู่ ตายไปจึงเกิดเป็นงูเขียวอยู่ที่เรือนของตน ภรรยาอยู่ที่ไหน งูนั้นก็ไปอยู่ใกล้ๆด้วยความรัก ภรรยาก็ฆ่างูตาย งูไปเกิดเป็นสุนัขในเรือนด้วยความรักภรรยา เวลาภรรยาไปไหนก็ติดตามไปด้วย จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านเยาะเย้ย หญิงนั้นเกิดความอาย จึงใช้อุบายฆ่าสุนัขเสีย สุนัขยังรักภรรยาอยู่ ตายแล้วไปเกิดเป็นโคในบ้านนั้น เมื่อโตก็ติดตามภรรยาไปนาอยู่เสมอ เป็นที่เย้ยหยันของเพื่อนบ้าน หญิงนั้นได้รับความอาย จึงฆ่าโคนั้นเสีย ถึงอย่างนั้นโคก็ยังไม่คลายความรักที่มีต่อภรรยา จึงได้เกิดเป็นลูกของหญิงนั้น เมื่อคลอดแล้วระลึกชาติได้ว่า หญิงนี้ได้ฆ่าเรามาแล้วหลายชาติ จึงไม่ให้หญิงนั้นซึ่งเป็นมารดาในชาตนี้ถูกต้องตัว ยายกับตาต้องเอาไปเลี้ยงไว้ ครั้นโตขึ้นก็เล่าเรื่องราวในอดีตชาติให้ฟัง คนทั้งหลายได้ฟังแล้วก็สลดใจ เมื่อเด็กโตขึ้น ตาก็พาหลานไปสู่วิหารแห่งหนึ่ง แล้วทั้งตาและหลานก็ออกบวชตั้งใจเจริญสมณธรรมจนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งคู่

การมีกิเลสจึงเดือดร้อน ปราศจากกิเลสจึงเป็นสุขอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ จิตที่ปราศจากธุลีคือกิเลส จึงเป็นอุดมมงคล




๓๘. จิตที่เกษมจากโยคะ
ขยายความมงคลข้อที่ ๓๘ จิตที่เกษมจากโยคะเป็นอุดมมงคล ในข้อนี้ท่านก็หมายถึงจิตของพระอรหันต์เช่นกัน เพราะปลอดจากโยคะทั้ง ๔ มี กามโยคะ ทิฏฐิโยคะ ภวโยคะ และอวิชาโยคะ โยคะนั้นเป็นกิเลสประเภทประกอบสัตว์ไว้ในวัฏสงสาร เมื่อปลอดจากโยคะ คือปราศจากโยคะก็พ้นจากวัฏสงสาร จิตที่ปราศจากโยคะ จึงเป็นอุดมมงคล

พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อทรงแสดงมงคล ๓๘ ดังนี้แล้วได้ตรัสว่าบุคคลใดกระทำมงคลทั้งหลายดังกล่าวแล้ว บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง คือไม่พ่ายแพ้ข้าศึก ๔ อย่างคือ ขันธมาร ๑ กิเลสมาร ๑ อภิสังขารมาร ๑ และเทวปุตตมาร ๑ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ที่จะพ้นจากข้าศึกทั้ง ๔ ได้ ต้องเป็นพระอรหันต์ เมื่อไม่พ่ายแพ้ก็ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง คือถึงความสวัสดีในทุกอิริยาบถและทุกสถานที่ ความเดือดร้อนอันเกิดจากการคบคนพาลเป็นต้นย่อมไม่มี

ในเวลาจบพระธรรมเทศนา คือมงคลสูตรนี้ มีเทวดาที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ถึงแสนโกฏิ ที่เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามีนั้นมากมาย

รุ่งเช้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเล่าเรื่องนี้ให้ท่านพระอานนท์ฟัง แล้วทรงให้ท่านอานนท์เรียนมงคล ๓๘ ท่านพระอานนท์เรียนแล้ว ก็บอกเล่าให้ภิกษุทั้งหลายเรียน และได้มีผู้เล่าเรียนสืบต่อกันมาจนบัดนี้

ท่านที่ต้องการความสุขความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ตลอดจนเข้าถึงนิพพานพึงประพฤติตามมงคล ๓๘ ประการนี้ ก็เป็นอันจบมงคลสูตร ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ข้อ ๔-๕ และอรรถกถาเพียงเท่านี้




......




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2548
10 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2550 3:03:07 น.
Counter : 1386 Pageviews.

 

 

โดย: อัญชา 11 ตุลาคม 2548 12:40:55 น.  

 

 

โดย: Malijauna IP: 203.156.45.8 18 ตุลาคม 2548 18:43:26 น.  

 

สวัสดียามเช้า

วันนี้เข้ามาแสวงธรรม พร้อมๆกับฟังวิทยุธรรมไปด้วย
อากาศเริ่มดีขึน แต่ใจอยากไปต่างจังหวัดเหลือเกิน
อยากไปสูดโอโซน เพราะที่นี่สูดแต่ในถังอ๊อกซิเจน

แต่ยังไม่มีปัญญาไปไหนได้เลย.....................ได้แต่
แอบเที่ยวตามบ้านเพื่อนในเว็บนี่แหละ เพลินๆดี

ต้องขอออกตัวก่อนนะว่า บางครั้งเราก็โง่ถาวรทีอ่าน
ธรรมแล้วบางครั้งก็ง่วงนอนจัง แต่ก็อ่านพวกปรัชญา
และใช้วิธีฟังเอา กับปฏิบัตินิดหน่อยยกับธรรมชาติ

ขออนุโมทนาด้วยนะค๊ะ

 

โดย: บัวโรย IP: 58.10.48.141 19 ตุลาคม 2548 5:30:54 น.  

 

..อ่านจบแล้วค่ะ..พยายามถ่างตามากเลย..สีแดงบนพื้นเทาอ่านยากนะคะ..ขอบคุณที่ถ่ายทอดสิ่งดีดีค่ะ

 

โดย: patnaja 1 พฤศจิกายน 2548 17:10:54 น.  

 

คุณ Sevenlotus คะ..
อยากอ่านเรื่อง การวินิจฉัยว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร แนวๆ นี้ค่ะ..
Search หาอ่านจากเว็บอื่นไม่เจอค่ะ..
เจอแต่ที่เป็นความคิดเห็น..
ช่วยชี้แนะให้หน่อยนะคะ..ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป..ขอบคุณค่ะ..

 

โดย: patnaja 1 พฤศจิกายน 2548 17:20:37 น.  

 

ขออนุโมทนา เจริญในธรรมยิ่งๆ

"การวินิจฉัยว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร แนวๆ นี้ค่ะ.."

คำถามกว้างนะ ถ้าจะให้แนะนำแคบๆแต่กว้างๆก็คือ ศึกษาพระธรรมนั่นแหละ ถูกต้องแล้ว อย่างเช่น มงคล 38 ศึกษาดูแล้วจะเห็นว่า เป็นมงคลเป็นสิ่งควรยิ่งแก่การปฏิบัติ สิ่งที่ไม่ควรก็เป็นสิ่งตรงข้ามใช่ไหม ศึกษาให้เข้าใจและเห็นประโยชน์นำไปปฏิบัติ ย่อมประสบความสุขความเจริญ

สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด เราก็ไม่เรียกเช่นนั้นอีก เราเรียก กุศล อกุศล สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิดล้วนเพราะตั้งเงื่อนไขขึ้นมาและต้องทำคำตอบให้ตรงซึ่งเป็นเรื่องทางโลก ส่วนทางธรรมนั้นคือทำให้ถูกธรรม ถูกธรรมชาตินั่นเอง รู้เห็นตามจริง ตามสัจจะ ทำถูกผิดก็มีเหตุปัจจัยอีก อยากทำให้ถูกธรรมแต่อาจจะทำไม่ได้เพราะขาดเหตุปัจจัยที่เหมาะสม

//www.84000.org/true/ ลองอ่านดูนะ

 

โดย: sevenlotus 2 พฤศจิกายน 2548 11:49:44 น.  

 

ขออนุโมทนาคุณบัวโรย

อ่านเรื่องที่เคยฟังจะยิ่งเข้าใจ

 

โดย: sevenlotus 2 พฤศจิกายน 2548 11:57:14 น.  

 

คุณ อัญชา
คุณ Malijauna ขออนุโมทนา

 

โดย: sevenlotus 2 พฤศจิกายน 2548 12:00:24 น.  

 

ขอขอบคุณมากค่ะ คุณ Seven Lotus สำหรับคำแนะนำ..สำหรับเว็บที่แนะนำลองเข้าไปดูแล้วภาษาอ่านยากค่ะ แต่จะพยายามทำความเข้าใจ..ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ..

 

โดย: patnaja 2 พฤศจิกายน 2548 17:13:14 น.  

 

สาธุนะ

 

โดย: วิถีมังกร IP: 203.172.59.31 12 พฤศจิกายน 2548 19:29:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


sevenlotus
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









ค้นหาใน GOOGLE.CO.TH
ค้นหาใน CodeTukyang.com





Friends' blogs
[Add sevenlotus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.