Group Blog
 
All Blogs
 

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 11

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

หมวยเล็กหลังจากที่เดินออกจากห้องได้ซักพัก ตัวเองก็เริ่มรู้สึกปวดหัวตึ้บ ๆ อีก แล้วก็เริ่มตาพร่ามัว

ต้องสะบัดหัวอยู่หลายที่ จึงค่อยเดินไปที่บันได เกาะราว และเดินขึ้นไปได้ไม่กี่ก้าว

หมวยเล็กก็ร่วงลงมา !!!!!

ติ ด้วยความที่เป็นห่วงหมวยเล็ก ก็เลยออกมาจากห้อง แล้วก็เห็นภาพนั้น ซึ่งเฮีย ๆ ทั้ง 2 ก็เพิ่เงยหน้าจากการชงกาแฟที่ Pantry ข้าง ๆ บันได

ติ รีบวิ่งไปรับหมวยเล็กที่ร่วงลงมาจากบันได ได้ทันพอดิบพอดี

หมวยเล็กยังตาพร่า และปวดหัวอยู่มาก แต่ก็พอเห็นหน้าว่าใครได้ช่วยเธอเอาไว้

"ติ ขอบใจมากนะ" หมวยเล็กบอก
"ไม่เป็นไร ๆ" ในใจจริงก็อยากจะประคองหมวยเล็กไว้ใกล้ ๆ แบบนี้ให้นาน ๆ โอกาสที่จะได้ใกล้หมวยเล็กแบบนี้ ก็มีไม่มากเลย สำหรับการเป็น "เพื่อน" กัน

ทั้ง 2 เฮีย เห็นสีหน้าของติ ก็พอจะดูออกทันที ว่าติคิดอะไรอยู่กับหมวยเล็ก และแล้ว เฮียตี้ก็ตัดสินใจวางถ้วยกาแฟ เดินเข้าไปหาติ

"อ้อ ขอบใจมากนะเรา" แล้วเฮียตี้ ก็ยื่นมือออกมา และมองติด้วยสายตา ประหนึ่งเป็นคำสั่ง

"ปล่อยหมวยเล็กให้ชั้นเดี๋ยวนี้"

แล้วเฮียตี๋ก็เข้ามาสมทบ

"เดี๋ยวพวกพี่ อุ้มหมวยเล็กขึ้นไปบนห้องเอง ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจมาก" เฮียตี๋ตัดบท

แล้วเฮียตี้ ก็อุ้มหมวยเล็กขึ้นไปข้างบน ส่วนเฮียตี๋ ก็รีบวิ่งขึ้นไปเปิดประตูห้องนอนของหมวยเล็กก่อน

โดยทิ้งให้ติอึ้ง อยู่ที่ข้างล่าง

โดยที่วิเอง ก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด !!!!

----------------------------------------------------------------------------

ที่ชั้นบน

เฮียตี้อุ้มหมวยเล็กที่ตอนนี้แทบจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เข้ามาวางไว้บนเตียงนอน แล้วเฮียตี๋ ก็ช่วยเปิด - ปิด ประตูให้

"เฮีย" หมวยเล็กพูดออกมาเบา ๆ เสียงเหนื่อยอ่อน
"อืม เฮียอยู่นี้แล้ว มีอะไร" เฮียตี๋พูดออกมา
"หยิบถุงพลาสติคที่อยู่ในลิ้นชักที่โต๊ะเขียนหนังสือ อันที่ 2 นับจากทางซ้าย ให้หน่อย"
แล้วเฮียตี๋ ก็ไปหยิบมาให้ โดยเฮียตี้ก็คอยดูอาการของน้องสาวอย่างเป็นห่วง

เฮียตี๋หยิบของที่หมวยเล็กขอออกมาจากลิ้นชัก แล้วก็ต้องชะงัก

เพราะในนั้นมันคือซองยาแก้ปวดหัวไมเกรน !!!!

ถึงม้นจะมีฤทธิ์ไม่แรงนัก แต่น้องสาวที่เคยรู้จัก อยู่บ้านเดียวกันมาตลอด ไม่เคยมีอาการปวดหัวให้เห็นมาก่อน - ถึงนี้จะเป็นครั้งแรกที่เห็นหมวยเล็กเป็นลม แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า น้องสาวเป็นหนักถึงขั้นต้องใช้ยาช่วย

เฮียตี๋ยื่นให้เฮียตี้ดูก่อน ซึ่งเฮียตี้เองก็มีสีหน้าตกใจไม่แพ้เฮียตี๋

"เร็ว ๆ" หมวยเล็กกล่าวทั้งน้ำตา เพราะอาการปวดหัวนั้น สร้างความเจ็บปวดให้เธออยู่อย่างทรมาน

แต่เธอเองก็พยายามกัดฟัน ไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา !!!

เฮียตี้หาน้ำใส่แก้ว แล้วก็ส่งให้เฮียตี๋ ที่กำลังประคองหมวยเล็ก ให้ทานยา และดื่มน้ำตามเข้าไป

เมื่อทานยาเสร็จ เฮียตี๋ก็ค่อย ๆ ประคองหมวยเล็กให้ค่อย ๆ หนุนหัวลงไปบนหมอน

เฮีย ๆ ทั้ง 2 เฝ้าหมวยเล็กอยู่ที่ข้าง ๆ เตียง หมวยเล็กยังพอมีสติอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่พร้อมจะตอบคำถามอะไรมากมายนัก แต่แล้ว เฮียตี๋ ก็เอ่ยปากถามมาก่อน

"ป๊ากะม้ารู้มั้ย"
"ไม่รู้ เฮียอย่าบอกนะ" หมวยเล็กพูดไป น้ำตาก็ไหลไป ด้วยความเจ็บปวด
"มีอะไรก็เรียกเฮียนะ เดี๋ยวเฮียอยู่ด้วย" เฮียตี้พูดให้กำลังใจน้องสาว

หมวยเล็กเองก็ไม่เคยปวดหัวหนักขนาดนี้มาก่อน ได้ยินเฮีย ๆ ทั้ง 2 พูด หมวยเล็กก็ใช้นิ้วก้อยตัวเอง เกี่ยวกับนิ้วก้อยของเฮียตี้เอาไว้ แล้วก็กลับตานอน - เหมือนเด็กทารก ที่คว้ามือแม่ไว้ ไม่อยากให้แม่ตัวเองไปไหน

เฮียตี้เห็นดังนั้น ก็เอามือค่อย ๆ ลูบหัวหมวยเล็กเบา ๆ เหมือนจะกล่อมให้หมวยเล็กหลับฝันดี

เฮียตี้หันไปยิ้มให้เฮียตี๋
"เอากาแฟป่ะ เดี๋ยวไปเอาให้" เฮียตี๋ถามน้อง
เฮียตี้พยักหน้าแทนคำตอบ แล้วทั้ง 2 คน ก็หัวเราะเบา ๆ ให้แก่กัน

----------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ติ เดินกลับเข้ามาในห้องทำงานนั้น ก็เสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจออกมาเท่าไหร่นัก พร้อมกับบ่นออกมา

"หวงฉิบ"
"หา อะไรนะ" วิร้องถามออกมา

"ก็ไม่อะไรหรอก ก็เฮีย ๆ ทั้ง 2 ของหมวยเล็กอ่ะดิ หวงหมวยเล็กมากไปหน่อยมั้ง"

"แล้วนายไปทำอะไรให้เค้าต้องหวงหมวยเล็กหล่ะ" วิพูดต่อ ทั้ง ๆ ที่ในใจก็รู้ดี เพราะเห็นเหตุการณ์มาทั้งหมด

คราวนี้ติเองก็อึกอักไปเล็ก ๆ

"อ้าว ก็หมวยเล็กกำลังจะเป็นลม ก็ต้องเข้าไปช่วยดิ........... ก็แต่ เข้าไปประคองอ่ะ"

"แล้วนายบริสุทธิ์ใจป่ะหล่ะ ตอนประคองหมวยเล็กน่ะ" วิยิงคำถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา ยังคงหน้าบึ้งตึง ก้มหน้าก้มตาดูเอกสาร - เพื่อจะหลบสายตาคู่สนทนา อย่างน้อยก็ไม่อยากให้อีกผ่าย รู้ไปถึงความรู้สึกของตัวเองขณะนี้

ติเงียบไป อึ้งไปอยู่เหมือนกัน กับคำถามเมื้อกี้

วิเริ่มจะโมโหติมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงตัดสินใจเดินออกไปสงบสติอารมณ์ แล้วก็รีบเดินไปที่ประตูอย่างเร็ว

"อ้าว จะไปไหนอ่ะ" เมื่อเห็นเพื่อนหน้าตึงขนาดนี้ ก็ต้องถามเป็นธรรมดา
"จะออกไปชงอะไรดิ่ม แล้วก็ไปให้พ้นคนบ้าด้วย" โดยเน้นคำว่า "คนบ้า" มาที่ติ

วิหงุดหงิดสุด ๆ เดินออกไป ทิ้งให้ติ ซึ่งตอนนี้ อึ้งมาหลายรอบแล้ว นั่งงงต่อไปอยู่ในห้องคนเดียว




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2548 23:13:02 น.
Counter : 222 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 10

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มาเมื่อคืน วันนี้ก็ถือเป็นเรื่องโชคดีที่เป็นวันเสาร์

ก็ไม่ได้โชคดีอะไรมากมาย แค่เมื่อวานเป็นวันศุกร์เอ้ง

ทุกคนก็อยู่กับบ้านเหมือนเดิม แม้ทุกอย่างจะดูเหมือนเดิม ปะป๊าออกกำลังกายตอนเช้า มะม้ากะลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ 2 เฮียก็อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ แต่บรรยากาศไม่เหมือนเดิม

เพราะเรื่องเมื่อคืนทำเอาทุกคน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ได้เวลาข้าวเช้า หมวยเล็กถึงได้ลงมาจากข้างบน
(อย่าหวังว่าเธอจะกลิ้งลงมาอีก ไม่มีแล้วค่ะ)
พร้อมกับหอบงานแฟ้มโต

หมวยเล็กไม่พูดไม่จา นั่งโต๊ะกินข้าว เอาเอกสารไว้บนตัก พอได้เวลา หมวยเล็กก็กินข้าวไป ดูเอกสารที่อยู่บนตักไปเรื่อย ๆ

ถือเป็นข้าวเช้าที่เงียบที่สุดที่เคยมีมา หมวยเล็กเองก็ไม่ยิ้ม ไม่ทักทายใครเลย ตั้งแต่เช้า

ประพนท์รู้สึกหงุดหงิดนิด ๆ กะลังจะพูดออกมา แต่หมวยเล็กก็ไวกว่า เก็บจานข้าวตัวเองไปหลังบ้าน ไม่สนใครทั้งนั้น

จนเฮียตี้ทนพฤติกรรมน้องไม่ไหว ตามจะไปเอาเรื่องหลังบ้าน

"หมวยเล็ก อย่างน้อยเธอก็ควรจะทักทายปะป๊ากะมะม้านะ" เฮียตี้เปิดฉาก ระหว่างนั้น เฮียตี๋ ก็เข้ามาพอดี
หมวยเล็กฟังดังนั้น นอกจากไม่พูดไม่จาแล้ว ยังเดินออกไป แถมผลัก 2 เฮีย ที่ขวางทางหมวยเล็กอยู่นั้น กระเด็นไปคนละทาง แล้วเดินไปที่ตู้เย็น

"ป๊า กะม้า เอาขนมอะไรมั้ยคะ" หมวยเล็กเอ่ยถาม
"ป๊ากะม้า ไม่เอาหรอก" มะม้าเอ่ยตอบ
"วันนี้มีเพื่อนหมวยเล็กบ้านนะคะ มา 2 คน" หมวยเล็กพูดไปพลางทำขนมให้ตัวเองกินไปด้วย

แล้วหมวยเล็กก็เดินมาที่โต๊ะ พร้อมกับน้ำผลไม้ 2 แก้ว วางตรงหน้าป๊ากะม้า แล้วขนมอีก 1 ถ้วย - ของตัวเอง

ทันใดนั้น ที่หน้าบ้านก็มีคนกดกริ่งพอดี
"พี่อ้อย ไม่ต้องคะ เพื่อนหมวยเล็ก เดี๋ยวหมวยเล็กออกไปเอง"

----------------------------------------------------------------------------

วิยืนอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับติ - ที่แต่งตัวด้วยเสื่อคอเต่าสีขาวแขนยาว กับกางเกงแสล็คสีดำ รองเท้าสีเนื้อพาสเทล

ถ้าแยกชิ้นกัน มันก็ดูดีหรอก แต่พอมารวมกันบนตัวโชติโรจน์ มันดูไม่ได้ซะยังงั้นเลย

"เฮ้ย พวกแกมาแล้ว ชั้นโคตรจะดีใจเลยว่ะ" หมวยเล็กยิ้มครั้งแรกของวัน หลังจากที่บี้งมานาน
"ติเข้าไปได้ป่ะ ร้อนสุด ๆ เลย" ติบ่น พลางขยับคอเสื้อ

"ก็นายน่ะแหละบ้า ร้อนจะตายขนาดนี้ ยังจะทำตัวเป็นพระเอก Hollywood แค่หน้าก็ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แถมที่นี้น่ะ เมืองไทยนะคะ ไม่ใช่ America จะได้ใส่เสื้อคอเต่าแล้วไม่ร้อนน่ะ" วิกัดด้วยความหมั่นไส้

"เออ ๆ พวกแกหยุดกัดกันได้แล้ว เข้าบ้านเหอะ"

----------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่หวัดดีปะป๊า มะม้า และเฮีย ๆ ทั้ง 2 แล้ว เด็ก ๆทั้ง 3 คน ใช้ส่วนของโต๊ะกินข้าวในการปรึกษาหารือกัน

"หมวยเล็กมีอะไรที่ติช่วยได้ บอกมาเลย ติทำเต็มที่เลย แต่ว่า ขอห้องแอร์ได้ป่ะ ครือว่า ร้อนอ่ะ"

หมวยเล็กขำก๊ากออกมา คงมีแต่ติเท่านั้นที่ตอนนี้ทำให้หมวยเล็กขำออกมาได้ เฮีย ๆ ทั้ง 2 ก็ดูอยู่ห่าง ๆ

"หมวยเล็กไม่ยิ้มเลยนะ ตั้งแต่เมื่อคืน"เฮียตี้บอก
"คงจะโกรธพวกเราทั้งหมดนะซิ เฮ้อ" เฮียตี๋ตอบ

"ก็ได้ ๆ เดี๋ยวย้ายไปห้องทำงานก็ได้ เฮียตี๋ ห้องทำงานมีใครใช้มั้ยอ่ะ"

เฮียตี๋สะดุ้งโหยงที่โดนเรียก แต่ตอนนี้ หมวยเล็กก็ทำสีหน้าเป็นปกติแล้ว
"อืม ไม่มีอ่ะ จะใช้เหรอ"
"อืม ได้ป่ะ" หมวยเล็กถาม
"อืม ใช้ไปเลย ป๊าไม่ว่าหรอก" เฮียตี้เสริมให้
"งั้นพวกแกไปรอในนั้นเลย เดี๋ยวชั้นจะไปเอา Notebook กะเอกสารที่พวกแกเห็นแล้วจะทึ่ง"
แล้วทั้ง 3 คน ก็แยกกันไปตามจุดหมาย

----------------------------------------------------------------------------

"อ๊ะ พวกแกดูดิ" ว่าแล้วหมวยเล็กก็เอาเอกสารทั้งหมดที่ตัวเองรวบรวมมาตั้งแต่เมื่อคืน เอามาให้เพื่อน ๆ ดู

"ยิ่งกว่าทำรายงานในห้องอีกนะเนี่ย" วิพูดพลางดูเอกสารสำคัญภายในบริษัทหลาย ๆ ฉบับที่หมวยเล็กวงด้วยปากกาสีแดงเอาไว้

"ถ้าดูตามงบกระแสเงินสดแล้วเนี่ย มีสิทธิถูกฟ้องล้มละลายตอนปลายปีหน้าได้เลยนะเนี่ย" ติพูดพลางดูงบกระแสเงินสดที่มีโครงสร้างส่วนที่เป็นหนี้มากกว่าทุนอยู่

"นี้แหละที่หมวยเล็กจะบอก"
"แล้วพวกเรา 2 คน ช่วยอะไรหมวยเล็กได้เหรอ" วิถามอย่างงง ๆ
"อ๊ะ วิ ลองเอานี้ไปดู" แล้วหมวยเล็กก็ยื่นงบการเงินของบริษัท Harmony Sound ให้

ตามที่เคยได้รับการสอนมาในห้อง หน้าแรกที่วิเปิดอ่าน คือ "รายงานของผุ้สอบบัญขี" ซึ่งต้องลงความเห็น ลายมือชื่อ และสำนักงานสอบบัญชีของผู้ตรวจสอบ

"นี้มันบริษัทที่วิได้ทำงานหนิ"
"อืม นั้นแหล่ะที่จะขอให้ช่วย" หมวยเล็กบอก
"อ๋อ เราเข้าใจแล้ว หมวยเล็กอยากได้ Work Paper (กระดาษทำการของผู้ตรวจสอบบัญชี) ของปีที่แล้วใช่มั้ย แต่ทำไมเอาของปีที่แล้วหล่ะ"

"ก็เพราะว่าพอ Melodious Tune ลงปุ๊ป Harmony Sound ก็ดีขึ้นปั๊ปเลย" ติพูดเหมือนได้คำตอบฟันธง
"อืม จริงอย่างที่ติพูดเลย หมวยเล็กสังเกตจุดนี้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่หมวยเล็กก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถีงเป็นแบบนั้นได้น่ะซิ" หมวยเล็กพูดต่อ

"อืม เข้าใจแล้ว ยังไงวิจะลองพยายามดูละกัน"

"เอ่อ แล้วทำไมหมวยเล็กไม่ช่วยพ่อหมวยเล็กทำงานซะเลยหล่ะ" ติถามด้วยความงงสุด ๆ

"หมวยเล็กไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรอ่ะ ตอนนี้ Melodious Tune ก็เหมือนกองทัพที่กำลังอ่อนแอ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็ฮึกเหิมสุด ๆ การที่หมวยเล็กเข้าไป อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรก็ได้ ซ้ำร้าย อาจจะเป็นจุดอ่อนให้ฝั่งนั้นโจมตีได้อีกน่ะ"
ทั้งวิและติ ต่างพยักหน้าเห็นด้วย

"แล้วทำไมไม่ปลอมตัวสมัครที่ Harmony Sound หล่ะ" ติถามต่อ
"ถ้าหมวยเล็กเข้าไป กว่าหมวยเล็กจะหาหลักฐานมัดมันได้ว่ามันตั้งใจจะทำร้ายเรา จะอีกนานแค่ไหนหล่ะ" หมวยเล็กถามคืน

พูดจบหมวยเล็กก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ มีสีหน้าเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นเพื่อนสีหน้าเหนื่อย ๆ วิจึงเข้าไปหา
"แกยังไม่ได้นอนเลยละซิท่า" วิถาม
"ไม่เชิงว่ะแก แต่ชั้นอยากหาหลักฐานให้ได้มากกว่านี้"

ติที่ดูเอกสารอยู่ก็ทักขึ้นมาบ้าง
"เฮ้ย นี้มันบริษัทที่รับเราทำงานนี้หว่า" ติร้องด้วยความตกใจ
"อืม นั้นแหล่ะที่อยากให้นายช่วย" หมวยเล็กตาปรือ หันมามองหน้าติ
ติเห็นก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ก็เขินไม่กล้าสบตา
"เอาแบบวิหรือป่าว" แล้วก็พูดหันไปอีกทาง

วิสังเกตเห็นได้ชัดเจนดี ความรู้สึกของติตอนนี้ ก็คงเป็นไปอย่างที่วิคิด

"อืม" หมวยเล็กตอบกลับสั้น ๆ
"หมวยเล็กขอโทษนะ แต่ปวดหัวอ่ะ ขอไปนอนซัก 2 ชั่วโมงนะ อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนนะ" หมวยเล็กบอก
"อืม เดี๋ยววิกับติ ดูเอกสารพวกนี้ต่อเอง" วิบอก
"จะได้หาที่ผิดต่อด้วยไง พักให้สบายนะหมวยเล็ก" ติ กล่าวอย่างมีความหมายตอนท้ายประโยค

"อืม ขอบคุณมากนะ วิ ติ" แล้วหมวยเล็กก็เปิดประตูห้อง เดินออกไป ขึ้นไปนอนบนเตียงที่ห้องนอน หลังจากที่เมื่อคืน ก็แทบไม่ได้นอนมาแล้ว




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2548 3:13:26 น.
Counter : 289 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 9

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

ปะป๊า ก็เล่าถึงเรื่องราวความหลังให้ฟังถึงสมัยที่ทั้งตัวเอง และภากร ยังเรียนด้วยกันอยู่

เรื่องราวก็ดำเนินไปเหมือนเป็นปกติ ทั้ง 2 คน เองก็สนิทกัน แต่จะห่าง ๆ กันไปก็ตอนที่ทั้ง 2 คน แยกย้ายออกไปทำตามความฝันของตัวเอง

แต่ประพนท์เองก็ไม่ได้ข่าวคราวของภากรเลย จนกระทั่งบริษัท Harmony Sound ก่อตั้งขึ้นมา

ซึ่งประพนท์เองก้ทราบเรื่องนี้ และไม่ได้ละเลยที่จะแสดงความยินดี

ซึ่งตอนนั้นเองนั้นแหล่ะ คือจุดเริ่มต้นของความบาดหมางของทั้ง 2 เพื่อน

ประพนท์ไม่เคยคิดอะไรทั้งนั้น เมื่อยู่ในโลกของธุรกิจ ก็คือธุรกิจ ตัวเองก็ตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุดไป

จน Melodious Tune ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

แต่มาวันนี้ สถาณการณ์มันกลับกันไปแล้ว

Harmony Sound กำลังจะกิน Melodious Tune !!!

"แค่นี้เองเหรอคะป๊า" หมวยเล็กถาม

"นอกจากนั้น ถ้าป๊าไม่อยากให้บริษัทล้ม หมวยเล็ก ต้องไปแต่งงานกับลูกชายของเค้า เพื่อเอาค่าสินสอดนั้นมาช่วยบริษัท" ในที่สุด ป๊าก็พูดความจริงออกมา

ทุกคนต่างอึ้งไปกับเงื่อนไขนี้

"แล้วป๊าจะเลือกอะไร ลูกจ้างทั้งหมด กับลูก 1 คน" หมวยเล็กถามอย่างอวดดี

"ป๊าไม่ส่งเราไปให้ไอ้เวรนั้นแน่"

"แล้วบริษัทฯหล่ะคะ" หมวยเล็กถามคืน

ประพนท์หนักใจมาก ถึงขั้นร้องไห้ออกมา

"หมวยเล็ก ลูกจะทำมากไปแล้วนะ" มะม้าด่าว่าหมวยเล็ก

"หมวยเล็กเคยบอกป๊าแล้วใช่มั้ย คนเราไม่ได้มีวิธีการเดียวในการหาทางออกให้กับตัวเอง"

"ป๊าบอกคุณภากรเค้าก็ได้ว่า รอให้หมวยเล็กรับปริญญาก่อน แล้วค่อยคุยกันอีกที อีก 3 เดือนข้างหน้านี้ หมวยเล็กเอาหัวตัวเองเป็นประกัน ว่า Harmony Sound จะได้รับการชดใช้อย่างสาสมที่สุด ระหว่างนี้ ป๊าแล้วก็เฮีย ๆ เอง ก็ทำงานต่อไปให้เต็มที่ก็แล้วกัน เดี๋ยวหมวยเล็กหาทางเอง"

"ถ้าวิธีของป๊า ของเฮีย มันไม่ได้ผล วิธีของหมวยเล็ก ก็ไม่น่าเสียหายที่จะลองใช่มั้ยคะ" หมวยเล็กทิ้งท้าย

"ป๊าขอโทษนะหมวยเล็ก"

"ไว้ใจหมวยเล็กเท่านั้นเอง ได้มั้ยคะ" หมวยเล็กถามคืน

"ป๊าไม่มีทางเลือกแล้วเหรอไง"

"งั้นป๊าก็ส่งหมวยเล็กให้ไอ้ภากรเลยมั้ยคะ ง่ายดี ได้ตังค์มาด้วย แต่ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุ ได้ตังค์มา บริษัทมันก็ฉิบหายอยู่ดีน่ะแหละ" หมวยเล็กชักมีอารมณ์ และโมโหแล้วเหมือนกันที่ป๊าตัวเองไม่เคยไว้ใจและเชื่อใจว่าหมวยเล็กจะทำอะไรได้

ประพนท์นึกได้ ถ้าไม่แก้ที่ตนเหตุ เอาเงินมา ก็เท่านั้น พรปวีย์กำลังจะด่าอีกครั้ง ประพนท์ก็มองหน้าเป็นเชิงห้าม

"หมวยเล็กมีวิธี ไม่ช่วย ก็อย่ามาห้ามหล่ะกัน"

หมวยเล็กโมโหสุด ๆ คว้าเอกสารทั้งหมด แล้วก็เดินออกไปจากห้อง

----------------------------------------------------------------------------

บรรยากาศในห้องทำงาน อึมครึมมากทุกที พรปวีย์โกรธลูกมากที่ทำแบบนี้

"คุณคะ หมวยเล็กทำเกินไปแล้วนะคะ คุณจะไม่อบรมหน่อยเหรอคะ"

เฮีย ๆ ทั้ง 2 ก็ได้แต่นั่งเงียบอยู่คนละมุม ไม่เคยนึกว่า หมวยเล็กเองที่เคยยิ้มแย้มตลอดเวลา เวลาโกรธ แม้ไม่โวยวายอาละวาด แต่สีหน้า ท่าทาง คำพูดของหมวยเล็ก ดูแข็งกร้าว และน่ากลัวมาก

"ที่ผ่านมา เราเองนะแหละ ที่ไม่ดีเอง เราเห็นหมวยเล็กเป็นเด็ก เห็นว่าหมวยเล็กคงทำอะไรไม่ได้มาก คงไม่มีความคิดอะไรเป็นของตัวเอง เราถึงได้พยายามขีดเขียนทางเดินให้หมวยเล็กตลอด หมวยเล็กเค้าก็คงทนมามากพอแล้วหน่ะ เด็ก ๆ มาก็ไม่เคยบ่อนซักคำ ให้ทำอะไรก็ทำหมด เรียนไอ้โน่น ไอ้นี้ ก็ไปตามที่เราบอกทั้งหมด เราไม่เคยถมเค้าซักคำเลยนะ ว่าชอบมั้ย ดีมั้ย แต่จริง ๆ แล้ว หมวยเล็กเค้าก็คงคิดอยู่ตลอด ว่าตัวเองจะทำอะไร อนาคตจะเดินไปทางไหน ยังไงซะ เราเป็นพ่อ เป็นแม่ เราต้องมั่นใจตัวเองด้วยว่าเราเลี้ยงลูกมา ลูกเราเป็นยังไง ไม่ใช่นึกเข้าข้างตัวเองในแง่ร้ายอยู่แบบนี้ อีกอย่าง เราก็ต้องมั่นใจในตัวหมวยเล็กด้วย เพราะเราเองไม่เคยคิดว่าหมวยเล็กจะทำอะไรได้ แต่คราวนี้ เชื่อใจหมวยเล็กดูมันซักครั้งเถอะ หมวยเล็กอาจจะมีทางออกอะไรดี ๆ อย่างที่หมวยเล็กบอกก็ได้"

ประพนท์พูดจบ พรปวีย์ ก็เข้าใจทุกอย่าง ทั้งเฮียตี๋ และเฮียตี้เอง ก็เพิ่งจะคิดได้ ตามที่ปะป๊าพูด

"เราควรมั่นใจในตัวหมวยเล็กด้วย ว่าหมวยเล็กจะทำได้"

----------------------------------------------------------------------------

หมวยเล็กกลับขึ้นมาด้านบน ดูเอกสารทั้งหมดอีกครั้ง แล้วตัดสินใจไปเปิด Notebook ที่อยู่ในห้องนอน เปิดหางบการเงินของ Harmony Sound

เมื่อเห็นหน้าของราบงานของผู้สอบบัญชี หมวยเล็กเห็นก็เริ่มยิ้มออก
"เป็นไปตามที่คิดไว้เล้ย ดีล่ะ ค่อยง่ายหน่อยแบบนี้"
ขณะนั้น วิ ก็ส่งข้อความ Chat มาทักทายพอดี

"หมวยเล็ก เราเห็นข่าวแล้วนะ" วิส่งมา
"เห็นแล้วเหรอ ดีจัง งั้น วิช่วยอะไรเราหน่อยดิ" หมวยเล็กพิมพ์กลับไป
วิ งง ๆ นิดหน่อย จึงถามต่อ "เราช่วยได้เหรอ"
"ได้ซิ มากด้วยแหล่ะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ วันนี้ดึกแล้ว คุยตอนนี้อาจจะไม่สะดวก รายละเอียดค่อนข้างมากเหมือนกัน" หมวยเล็กพิมพ์ด้วยสีหน้ามีความหวัง
"เหรอ อืมเอาไงดีอ่ะ" วิพิมพ์ถามตอบ
"เอางี้ พรุ่งนี้วิมาที่บ้านเราได้ป่ะ ซัก 10 โมง" หมวยเล็กพิมพตอบ
"ได้ ๆ เจอกันนะ วิไปนอนก่อนนะ ฝันดีจ๊ะ"
"ฝันดีจ๊ะวิ"

หมวยเล็กเหลือบตามามองที่งบการเงินของ บริษัท Melodious Tune อีกครั้ง คราวนี้หน้าบานกว่าเก่า

แล้วก็ส่ง sms หาติ

"ติ พรุ่งนี้มาที่บ้านเราหน่อยดิ ซัก 10 โมงนะ อย่า Late หล่ะ มีเรื่องนิดหน่อย อ้อ เกือบลืม Goodnite"

ทางด้านติ โทรศัพท์ก็ดังเป็นเสียง Message Tone ติหันไปมอง

"ใครส่ง message มาว่ะ" ติคว้ามาเปิดดู

"เฮ้ย หมวยเล็กหนิ" แล้วติก็เปิดอ่านอย่างตั้งใจ

อ่านจบ ติ ก็ดีใจขึ้นมาซะงั้น แล้วก็ไปที่ตู้เสื้อผ้า หาเสื้อผ้าที่จะใส่ไปพรุ่งนี้อย่างร่าเริง พลางฮัมเพลงไปด้วยอีกต่างหาก




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2548 12:51:21 น.
Counter : 260 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 8

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

ข้าวเย็นของบ้าน "จรรยาวิเศษกุล" ดำเนินไปด้วยความเงียบ และอึมครึม มีแต่ปะป๊า มะม้า และหมวยเล็กเม่านั้น

หมวยเล็กรีบกินข้าวด้วยกริยาที่ไม่ค่อยดีนัก ไม่เรียบร้อยเอาซะเลย แต่คราวนี้ประพนท์เอง ก็ไม่ว่าอะไรซักคำ

หมวยเล็กรู้ดีว่า ที่ห้องทำงานของปะป๊ามีอะไร แน่ ๆ

หมวยเล็กกินเสร็จ ไม่รอช้า จึงทำทีว่าจะไปหยิบขนมที่ตู้เย็นหลังบ้าน แต่เดินไปที่ห้องทำงานแทน

ที่นั้น มีความจริงอะไรกันแน่ที่รอหมวยเล็กอยู่

----------------------------------------------------------------------------

"เข้าไปในห้องนั้นไม่ได้นะคะ น้องหมวยเล็ก" พี่อ้อยตะโกนเสียงดัง

แต่ไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว หมวยเล็กเดินเข้าไปทันที ดิ่งไปที่โต๊ะทำงานของปะป๊า แล้วก็ต้องตกใจ

แน่นอนหมวยเล็กเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง เห็นปุ๊บ ก็ต้องเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ปะป๊าและมะม้า ที่วิ่งตามมาพอดี ก็ยังไม่เดินเข้าไปในห้อง

ภาพที่ปะป๊า มะม้า เห็นก็ตือ หมวยเล็กนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของปะป๊า กำลังเอาเอกสารบนโต๊ะทุกอย่าง ขึ้นมาดูที่ละแผ่น ๆ ไปเรื่อย ๆ

ท่าทางเหมือนมืออาชีพ

ทั้งงบการเงิน เอกสารภายในบริษัท รายงานต่าง ๆ รวมไปถึง ความเห็นของผู้วิเคราะห์หุ้น ฉบับแล้ว ฉบับเล่า ผ่านตาหมวยเล็ก

หมวยเล็กเอาปากกาสีแดง มาวงข้อน่าสงสัยในเอกสารแต่ละใบ ๆ จนครบถ้วน

ระหว่างนั้นเอง เฮีย ๆ ทั้ง 2 ก็กลับมาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี

หมวยเล็กในตอนนี้ไม่สนใจใครทั้งนั้นแล้ว กำลังตั้งใจดูของทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ประพนท์เอง ก็มองลูกสาวด้วยสายตาที่ทั้งอึ้ง ปน ทึ่ง เพราะไม่อยากเชื่อว่า และไม่เคยนึกเชื่อ และนึกเห็นมาก่อนว่า ลูกสาวที่เคยขัดคำสั่งของตัวเองเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนี้ จะมีมาดและท่าทางเหมือนผู้เชี่ยวชาญ เหมือน CEO ที่ทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ นั้น

ปะป๊า มองภาพตรงหน้าอยู่ได้ซักพัก นึกได้ จึงเดินเข้ามา

"หมวยเล็ก ป๊าขอคุยอะไรด้วยหน่อย"
"ค่ะ มะม้า เฮีย เข้ามาให้หมดเลยนะคะ"
"พี่อ้อยคะ หมวยเล็กขอให้ล็อกประตูทุกบานด้วยนะคะ แล้วถ้ามีอะไรจะไปทำ ก็ไปทำนะคะ หมวยเล็กไม่ใช้พี่แล้ว"

"ได้ค่ะ น้องหมวยเล็ก"

แล้วครอบครัวจรรยาวิเศษกุล ทั้งหมดตอนนี้ก็อยู่ในห้องทำงาน

----------------------------------------------------------------------------

"ใครจะพูดอะไรก่อนมั้ย" ปะป๊าเอ่ยเปิดฉาก

ไม่รอช้า เฮียตี๋ถามขึ้นมา

"ป๊าครับ ตอนนี้สถานการณ์เราไม่ดีเลยนะครับ ผู้ถือหุ้นกับคณะกรรมการตอนนี้ ระส่ำระส่ายกันไปหมดแล้ว"

"ก็เพราะว่า ผลกำไร มันไม่เป็นที่น่าพอใจมาตั้ง 3 ปีติดกันแล้วน่ะซิ" หมวยเล็กเอ่ยแทรก

"ตอนนี้โครงสร้างทางงบการเงินของ Melodius Tune ออกไปในแนวที่เป็นการกู้ยืมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะเฮียตี๋ มันก็ไม่แปลกหรอกที่พวกผู้ใหญ่ที่อยู่ใน Board จะไม่พอใจ อีกอย่าง ผู้ถือหุ้นเอง ตอนนี้เค้าก็เริ่มไม่ได้ประโยชน์จากการทื่เค้าถือหุ้นเราอีกต่อไปแล้ว เค้าก็ต้องขายทิ้งเป็นธรรมดา นอกจากนั้น Analysist เองก็วิคราะห์ว่าหุ้นเราจะไม่เหลือราคาอีกต่อไปแล้ว ถ้าเกิดยังปล่อยให้ทุกอย่างเป็นต่อไปแบบนี้" ไม่รอช้า หมวยเล็กก็หยิงบการเงินที่วงด้วยปากกาสีแดง พร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้องเอาไปให้เฮียตี๋ดู

เฮียตี๋ดูแล้วก็อึ้งไป จริงอย่างที่หมวยเล็กบอกทุกอย่าง

"แล้วที่น่าสงสัยก็คือว่า แผนประชาสัมพันธ์ของเราทุก ๆ อย่าง โดย Harmony Sound ชิงตัดหน้าไปด้วยครับ ในช่วงปีที่ผ่านมา" เฮียตี้บอก

"เฮียตี้ดูนี้แล้วจะเข้าใจ" หมวยเล็กเอาผลงานที่ออกในช่วงที่ผ่านมาของ Harmony Sound เทียบกับ Melodious Tune ก็พอว่า

"คล้ายกันมากเลยหนิ เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน" เฮียตี้พึมพำ

หมวยเล็กหันมาทางประพนท์ "ปะป๊าคะ ป๊าคงเห็นเอกสารทั้งหมดนี้แล้วนะคะ พอจะบอกหมวยเล็กได้หรือยังคะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

ประพนท์ทำสีหน้าหนักใจที่สุด

"ป๊า ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ ถ้าปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่เกิน 3 เดือน เราอาจจะต้องปิดบริษัทนี้ก่อนที่จะล้มละลายก็ได้"

ทุกคนทำหน้าตกใจปอึ้ง ยกเว้นหมวยเล็กที่ไม่เปลี่ยนสีหน้าอะไรเลย ประพนท์สงสัย

"รู้อยู่ก่อนแล้วเหรอ" ปะป๊าถาม
"หมวยเล็กเห็น หมวยเล็กอ่าน ก็พอรู้แล้วหล่ะค่ะ แล้วป๊าจะเอายังไงต่อไปหล่ะคะ" หมวยเล็กไล่ต้อน
"คุณคะ" พรปวีย์เอ่ยถาม
"ป๊า" เฮีย ๆ เองก็อยากรู้ไม่แพ้ไป
หมวยเล็กเองก็มองด้วยวสยตาที่ต้องการคำตอบ

ประพนท์ทำอะไรไม่ได้ นอกจาก "พูดความจริง"

----------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2548 11:37:36 น.
Counter : 454 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 7

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

อีกด้านนึง ชั้นล่างของบ้าน ประพนท์ ก็ยิ่งปวดหัวกับเอกสารกองโตที่อยู่ตรงหน้า ในห้องทำงาน

แล้วก็มีคนเปิดประตูเข้ามา

"คุณผู้ชายคะ มีโทรศัพท์มา จะรับมั้ยคะ" พี่อ้อยถาม
"จากใครเหรอ อ้อย"
"เอ่อ เห็นเค้าบอกว่า ชื่อ "ภากร ชัยชาญวิลักษณ์" น่ะค่ะ"

ได้ยินแค่นั้น ประพนท์ ถึงกับตัวชา นิ่งเงียบ ไปพักใหญ่
อ้อยเห็นว่า ปลายสายนั้น รอนานแล้ว จึงได้เอ่ยตัดบท

"งั้น อ้อยจะไปบอกเค้านะคะ ว่าคุณผู้ชาย......."
"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจะออกไปคุย"

----------------------------------------------------------------------------

"ฮัลโหล" ประพนท์กรอกเสียงลงไป
"ว่าไงหล่ะ สบายดีหรือป่าว หึ" อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางที่พึงพอใจ
"ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง" ประพนท์ตอบแบบไว้เชิง
"ป่าว ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็แค่โทรมาถามด้วยความเป็นเพื่อนกันว่ะ 555" อีกฝ่ายหัวเราะลั่น พร้อมกับแก้วไวน์ในมือ
ประพนท์ได้แต่เจ็บใจ

"อั๊วจำได้ว่า เราเป็นเพื่อนกัน มีเรื่องเดือดร้อน ก็ต้องช่วยกัน เอางี้ดีกว่า ไหน ๆ ถ้าเรื่องราวมันยังเป็นแบบนี้อยู่ อั๊ว จำได้ว่า ลื้อมาลูกสาวน่ารักอยู่คนนี้หว่า อั๊วขอไว้หล่ะกัน ลื้ออย่าไปให้ใครที่ไหนหล่ะ"

"แก"
"อ้อ ๆ อั๊วะจะเอามาเป็นลูกสะใภ้ แลกกะเงินที่จะทำให้ลื้อทำธุรกิจต่อไปได้ เลือกเอาหละกัน อั๊วะรออยู่ 5555"

พูดจบ ภากรก็วางสายไป

แม้ในใจจะโกรธแค้นมากมาย แต่เมื่อเหลือบเห็นเอกสารกองโตที่อยู่ตรงหน้า ก็เริ่มคิดไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไรดี

----------------------------------------------------------------------------

ทั้งประพนท์ และภากร ต่างก็เป็นเจ้าของบริษัทค่ายเทปทั้งคู่ ทั้ง 2 คนเมื่อก่อนเป็นเพื่อนกันมา เรียนด้วยกันมาตลอด ประพนท์เองก็ไม่เคยคิดว่า คนที่เป็นเพ้อนกัน จะมาทำร้ายกันขนาดนี้

สาเหตุที่ภากรนึกทำร้ายตัวเองนั้น ประพนท์นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเคยไปสร้างความแค้นเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

จะมีก็แต่ ความสำเร็จของ Melodious Tune ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ที่ทำเอาบริษัทของประพนท์เกือบจะเป็นที่ 1 ของวงการ แซงหน้าบริษัท Harmony Sound ของภากร ไปแล้ว

ถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ด้วยแผนธุรกิจถึงทิศทางของแนวเพลง ที่ปภาณ เป็นคนรับผิดชอบ รวมไปถึงแผนการประชาสัมพันธ์รวมไปถึงสื่อและการ Promote ของ ปภพ ทำให้ Melodious Tune ยังเป็นบริษัทที่สามารถอยู่รอดได้ในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

ประพนท์เองก็หวังไว้กับลูกทั้ง 3 คนไว้มากพอสมควร
เพราะทั้ง 3 คนนี้ จะกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ที่จะทำงานแทนเค้าได้

เค้าเองอยากให้หมวยเล็กเรียนมาทางด้านเพลงและศิลปะต่าง ๆ ที่เดี่ยวข้องโดยเฉพาะ แต่แน่นอน แม้หมวยเล็กจะถูกบังคับเคี่ยวเข็นให้เรียนตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้งดนตรี เต้นรำ แต่หมวยเล็กก็ไม่ได้ตฃคิดที่จะเอามันเป็นอาชีพ

หมวยเล็กไปสอบเข้าคณะฯ อื่นแทน

แต่แน่นอน แม้ไม่ใช่ตามที่ประพนท์ต้องการ แต่ถ้าหมวยเล็กจบออกมา ก็เข้ามาช่วยได้เหมือนกัน

แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น
ราคาหุ้นของ Melodious Tune ตกลงอย่างฮวบฮาบ
จนประพนท์เอง ก็หาคำตอบไม่ได้
ทิศทางที่ชัดเจนที่ปภาณ เคยวางไว้ กลายเป็นว่า Harmony Sound ออกมาได้ก่อนทุกครั้ง
งานโฆษณา และสื่อประชาสัมพันธ์ ที่เคยทำได้อย่างตรงจุดของ ปภพ กลับถูก ลูกค้าตีคืน และบอกว่า "ของ Harmony Sound" ดีกว่า

เกิดอะไรขึ้นกันแน่
----------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2548 19:53:08 น.
Counter : 261 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

Yutaka (Real)
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Yutaka (Real)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.