Group Blog
 
All Blogs
 

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 16

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

“นอกจากเรื่องเอกสาร และการลงบัญชีที่ติได้อธิบายไปบางส่วนแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปก็คือ รายงานต่าง ๆ เพราะว่าเอกสารพวกนั้นเมื่อบันทึกเสร็จแล้วนั้น เราก็จะเอามารวบรวมผล จัดทำเป็นรายงานต่าง ๆ ออกมา” วิอธิบายอย่างคล่องแคล่ว

“รายงานเนี่ย แบ่งง่าย ๆ ได้ 2 แบบ ก็คือ รายงานสำหรับผู้ใช้ภายนอก และรายงานสำหรับผู้ใช้ภายใน” วิอธิบายต่อ

“อย่างที่หมวยเล็กถืออยู่ในมือเนี่ยแหล่ะ เรียกว่ารายงานสำหรับผู้ใช้ภายนอก ใคร ๆ ก็ตามที่อยู่นอกบริษัท จะได้เห็นรายงานอันนี้เปรียบเสมือนตัวแทนแสดงฐานะทางการเงิน หรือผลการดำเนินงาน ขององค์กร” หมวยเล็กพูดต่อ

“ซึ่งจริง ๆ แล้ว รายงานที่พวกเรา ๆ เห็นกันเนี่ย ส่วนใหญ่ก็เป็นรายงานทางการเงิน ก็เลยแทบจะอนุมานกันได้เลยว่า รายงานที่บริษัทต้องทำให้คนภายนอกเห็นเนี่ย ต้องเป็นรายงานทางการเงินซะส่วนใหญ่” ติหยอดตอนท้าย

“แต่ก่อนที่จะไปไกลกันมากกว่านี้ ย้อนกลับมาดูรายงานสำหรับผู้ใช้ภายในกันดีกว่า

รายงานสำหรับผู้ใช้ภายในเนี่ย ก็ตามชื่อเลย เป็นคนในบริษัท จะใช้กัน ส่วนใหญ่จะเป็นรายงานทางการบริหาร” วิอธิบายต่อ

“รายงานทางการบริหาร ชื่อก็บอกอีกเหมือนเดิม ว่าใช้สำหรับการบริหาร เช่น ออกรายงานสินค้าวัตถุดิบ เพื่อจะดูถึงความเคลื่อนไหวของวัตถุดิบในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจุดประสงค์ในการ Apply อาจจะเลยไปถึง เปรียบเทียบ งบประมาณกับใช้จริงก็ได้ นี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ” ติยกตัวอย่าง

“อีกตัวอย่างหนึ่ง ถ้า Apply กะกิจการ Music แบบนี้ ก็น่าจะเป็น พวกรายงานทางยอดขาย แล้วก็ พยากรณ์ยอดขาย ถ้าดูแล้ว ต่ำไป / สูงไป จะได้หา ยุทธวิธีการตลาดมาปรับใช้ได้ถูกต้อง” หมวยเล็กพูดต่อ

“แต่ว่านะ อย่างที่ติกับหมวยเล็กบอกไงคะ เฮีย ๆ รายงานที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเนี่ย เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบริษัท ค่อนข้างจะเป็น........”

“ความลับ” ทั้ง 2 เฮียพูดออกมาพร้อมกัน

“ใช่ค่ะ เพราฉะนั้น รายงานพวกนี้ จะเป็นรายงานที่คนภายนอกบริษัทไม่ได้เห็นกันหรอกค่ะ” วิสรุป

“มีอะไรสงสัยตรงไหนหรือป่าวคะ” หมวยเล็กถาม พลางมีสีหน้าทะเล้น เพราะว่าเด็ก ๆ ทั้ง 3 เล่นอธิบายไม่หยุดเลย

“อืม................” เฮีย ๆ ทั้ง 2 ใช้ความคิดว่าตัวเองไม่เข้าใจตรงไหนหรือป่าว

แต่ระหว่างนั้น วิหันไปพูดกับติ

“เราว่าเรื่อง Financial Analysis ข้ามไปก่อนดีกว่าป่ะ เพราะขนาดคนมีพื้นฐานอย่างพวกเรา บางทียังทำผิดทำถูกเลย”

“เราว่า ไม่ต้องพูดถึงเลยก็ได้มั้ง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา 3 คน กันดีกว่า” หมวยเล็กเสนอขึ้นมา

“จะดีเหรอ เราคิดว่า แค่พวกเรา 3 คน จะ Analyze ได้ไม่ดีอ่ะดิ เราอยากได้คนที่มีประสบการณ์มาช่วยด้วย” ติยังดูเป็นกังวล

“แต่ทั้ง 2 เฮียคงช่วยเรื่องนี้ไม่ได้มากหรอกมั้ง เราว่า” วิสรุป

“เราไม่ได้หมายถึง 2 เฮียอ่ะดิ แต่อยากได้เป็น CFO ของบริษัทมากกว่า” ติบอก

แต่ก่อนที่จะพูดอะไรกันต่อไป หมวยเล็กก็แทรกขึ้นมาก่อน

“ไม่ได้เด็ดขาดนะ” หมวยเล็กแทรกขึ้นมาเสียงดัง

ทั้งหมด งง เป็นไก่ตาแตก

----------------------------------------------------------------------------

“ไม่ได้ ก็คิอไม่ได้” หมวยเล็กพูด แต่ตาก็ยังไม่เงบจากปึกกระดาษ ที่ตัวเองดูตั้งแต่ต้น จนถึงเมื้อกี้ ที่อธิบายเฮีย ๆ ทั้ง 2

“หมวยเล็กมีอะไรหรือป่าว ทำไมถึงไม่ได้หล่ะ” ติถาม

“พูดไปอาจจะไม่เข้าใจ แต่ไม่ได้ ก็คือไม่ได้” หมวยเล็กยังย้ำคำเดิม แถมน้ำเสียงยังหนักแน่นขึ้นไปจากตอนพูดออกมาครั้งแรกซะอีก

“หมวยเล็ก ตอนนี้ขอเหตุผลไม่ได้เหรอ” ทั้ง 2 เฮียถาม
และก็เป็นคำถามที่ทุก ๆ ตนตอนนี้อยากรู้

แต่หมวยเล็ก ก็ยืนกรานคำเดิม

“ไม่ได้ ไม่ได้จริง ๆ เอา CFO ของ Melodious มาไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้” หมวยเล็กย้ำซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ ครั้ง

ติเริ่มไม่เข้าใจหมวยเล็กแล้ว ที่ถึงเวลานี้ เอาแต่ย้ำซ้ำไปซ้ำมาว่า “ไม่ได้” แถมตาของหมวยเล็ก ยังไม่เงยมาจากเอกสารนั้นซะที

ติเริ่มทนไม่ไหว เค้าไม่เข้าใจเลยว่า คนที่เค้า”แอบรัก”นั้นคิดอะไรอยู่กันแน่

ด้วยความที่เป็นคนใจร้อน

ติลืมตัวกระชากแขนหมวยเล็กอย่างแรง ไม่เข้าใจว่า ที่ตัวเองคิดนั้นมัน “ไม่ได้”ตรงไหน

“หมวยเล็ก” ติเสียงเข้ม

“ติ หมวยเล็กเจ็บนะ” ว่าแล้วหมวยเล็ก ก็กระชากแขนตัวเองออก แล้วก็

“เปรี้ยง”

เฮียตี้พุ่งเข้ามา และชกออกไปที่คางของติ เสยจนอีกฝ่ายเซออกไป

หลังจากที่ชกออกไปแล้ว ทั้งคู่ – เฮียตี้ และติ – ก็เริ่มจะสงบสติอารมณ์ได้

เฮียตี้ถามขึ้นมาก่อน “ทำไมทำอย่างนั้นกับหมวยเล็ก”

ติอึ้ง รู้ดีว่า ตัวเองนั้น “ผิด” จริง ๆ แล้ว

ที่ต้นแขนขวาของหมวยเล็กนั้น ยังมีรอยนิ้วของติ แดงเป็นจ้ำ ๆ

หมวยเล็กยังเจ็บอยู่ไม่น้อย เพราะติเล่นกระชากเต็มแรงขนาดนั้น

ติตอนนี้ เหมือนนักโทษรอการพิพากษาจากทั้ง 2 เฮีย

“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ หมวยเล็ก ติขอโทษ”

“อืม ไม่เป็นไรหรอก เฮียตี้คะ” หมวยเล็กพูดคำสุดท้าย

โดยมองหน้าเฮียตี้

เฮียตี้เข้าใจสายตาของน้องสาวดี

“ขอโทษ” เฮียตี้บอกกับติ

“ผมต่างหากครับที่ต้องขอโทษ” ติบอก

เฮียตี๋เห็นสถาณการณ์ออกไปในทางผ่อนคลายแล้ว แต่
เห็นว่า ทั้ง 2 คน คงจะยังต้องการพักผ่อน จึงพูดออกมา

“ออกไปหาอะไรทานกันก่อนเหอะ พักหายเหนื่อยแล้วค่อยมาต่อกันก็ได้”

----------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 02 มกราคม 2549    
Last Update : 2 มกราคม 2549 11:59:07 น.
Counter : 310 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 15

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

การติวเข้มก็เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางความสนอกสนใจของทั้ง 2 เฮีย ที่นั่งทำตาแป๋ว มองหมวยเล็ก ที่กำลังเปิดหนังสือ เพื่อหาหัวข้อว่าจะสอนอะไรดี
สุดท้าย ก็จนปัญญา ปิดหนังสือตำรา ถอนหายใจดังเฮื้อกใหญ่ แล้วหันมาถาม ติ กับวิ

“เฮ้ย สอนไรเฮียชั้นดีอ่ะ” หมวยเล็กเอ่ยถาม
“อ้าว หมายความว่าไงเนี่ย” วิถาม
“อ้าว ก็หมายความอย่างที่พูด สอนอะไรเฮียชั้นดี ให้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย สามารถรู้เรื่องได้ภายใน 3 ชั่วโมง”
“อืม ก็จริงนะ” วิบอก

“อืม ------- รู้แล้ว” ติตะโกนดังลั่น
“เฮ้ย รู้อะไรดี ๆ เหรอ” หมวยเล็กถาม
“ไม่” ติล้อเล่นออกมา แต่พอเห็นทั้งหมวยเล็ก และวิจะจัดการอัดอีกที ติเลยยอมบอก
“ล้อเล่น ๆ แม๋ นิดเดียวเอง”
“ไม่นิดนะ คนกำลังเครียด” วิพูดออกมา
“คือ ติว่าทำไมไม่สอนเฉพาะจุดที่จับผิดโดยเฉพาะล่ะ เอาแบบ indicator เตือนภัยไง”
“เออดีว่ะ บางทีหัวแกก็ไม่ได้ทึบนี้หว่า” หมวยเล็กเอ่ยชม
ติก็ยิ้มอาย ๆ รับรู้ในคำชมของหมวยเล็ก ในขณะที่วิเอง ก็แอบมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก

----------------------------------------------------------------------------

“เอางี้ หมวยเล็กว่า เอาตามแบบที่ติบอกน่ะแหล่ะ ดูเป็นจุด ๆ ไปเลยก็แล้วกัน” หมวยเล็กสรุป
“งั้นเริ่มที่อะไรก่อนดี” วิถาม
“เริ่มที่เอกสารก่อน” ติบอก
“งั้นติอธิบายเลย” หมวยเล็กเสนอ

“ได้เลย ก็คืองี้ เอกสารที่เราใช้ ๆ กันในบริษัทเนี่ย ก็มีอยู่มากมาย แต่ที่จะพูดนี้ จะพูดเฉพาะเอกสารขั้นต้นเท่านั้น ซึ่งหมายถึง เอกสารที่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกรายการค้าต่าง ๆ ของกิจการได้” ติอธิบาย

ทั้ง 2 เฮีย ก็

พยักหน้า หงึก ๆ

“อืม อันนี้เฮียพอรุ้แล้ว ที่ต้องมี P/R P/O S/O S/I T/I อะไรก็ไม่รู้ป่ะ”

“อืม ใช่ครับ แล้วทั้ง 2 เฮียรู้มั้ยครับ ว่าแต่ละตัวมันหมายถึงอะไรบ้าง”
“ไม่รู้ดิ” ทั้ง 2 เฮียตอบพร้อมกัน

“P/R ก็ย่อมาจาก Purchase Requisition หรือใบขอซื้อ ก็เป็นใบที่ใช้กันภายในองค์กร ประมาณว่า หน่วยงานไหน อยากซื้ออะไรเข้ามาในองค์กร ก็ต้องทำใบนี้ที่หัวหน้าฝ่าย อนุมัติแล้วส่งไปให้ฝ่ายจัดซื้อ ส่วน P/O ก็คือ Purchase Order หรือใบสั่งซื้อ ซึ่งเป็นใบที่องค์กรต้องส่งให้ผู้ค้า ว่าองค์กรต้องการสั่งซื้ออะไรจากผู้ขายบ้าง”

“เช่น ถ้าฝ่ายการตลาดต้องการกระดาษพรูฟจำนวน 2 รีม แต่ในบริษัทไม่มีเหลือแล้ว” วิพูด

“พี่ก็ต้องไปให้หัวหน้าพี่ออกใบ P/R ให้ ให้เค้าเซ็นอนุมัติ แล้วก็ไปฝ่ายจัดซื้อทำ P/O” เฮียตี๋ตอบต่อทันที

“ถูกต้องนะค้า” หมวยเล็กทำท่าเลียนแบบพิธีกรดังท่านหนึ่ง

“แล้วพวก S/O S/I T/I หล่ะ” เฮียตี้ถาม

“S/O ก็เป็น Sales Order มันมักจะมาคู่กับ P/O พูดอีกอย่างหนี่ง P/O ของเรา จะกลายเป็น S/O ของอีกฝ่ายหนึ่งไปด้วย” หมวยเล็กตอบ

“ส่วน S/I กับ T/I นั้น ก็เป็น Sales Invoice กับ Tax Invoice ซึ่งผู้ขายจะเป็นคนออกให้ลูกค้า ก็จะดูในเรื่องเก็บเงิน กับการคิดภาษี” วิตอบ

“สรุปก็คือ ตอนจะซื้อของก็ต้องมีเอกสารพวก Purchase ส่วนพวก Sale นั้น ทางองค์กรจะได้รับเมื่อสินค้ามาถึง องค์กรก็จะเทียบ Purchase Order ของตัวเอง กับ Sale Order ที่มาพร้อมกับของว่าเหมือนกัน ทั้ง Spec ของ, จำนวนของที่สั่ง แล้วก็ราคา” ติช่วยสรุป

เมื่อเห็น 2 เฮียพยักหน้าตาม หมวยเล็กเลยพูดออกมาว่า

“เข้าใจแล้วเหรอ ถ้าอย่างงั้น บอกได้มั้ยว่า มันจะโกงกันตรงไหน”

“เอ่อ ...........” คราวนี้ 2 เฮียอึ้งหนักกว่าเดิม ก่อนจะยอมรับออกมาว่า

"ไม่รู้อ่ะ"

(ทำม้าย ทำมาย มันเหมือนตอนเรียนหนังสือในห้องเลยหล่ะ พยักหน้าตามอาจารย์หงึก ๆ แต่พอถูกถามก็ทำไม่ได้ )

“วิธีโกงนะ เต็มเลย” วิพูด
“หา !?!?!?! เต็มเลยเหรอ” เฮียตี้ถาม
“มากกว่า 2 ก็แล้วกัน” หมวยเล็กบอก

“1. ถ้าเกิดไม่มีการอนุมัติจากหัวหน้าฝ่าย แปลว่าใคร ๆ ในบริษัทก็ขอซื้อได้ แล้วก็ขอซื้อของต่าง ๆ กันอิสระเลย ซึ่งของที่ซื้อมาน่ะ ถ้าไม่เอากลับไปใช้ส่วนตัว ก็อาจจะเกิดการฮั้วะกันเล็ก ๆ ด้วยว่า ยักยอกเงินของบริษัท ไปซื้อของที่คนรู้จักตัวเองขาย แล้วก็เอาเงินไปแบ่งกัน” ติบอก

“2. ข้อแรกที่ติบอกไป จะได้ผลมากขึ้น ถ้าเกิดร่วมมือกันโกงกะฝ่ายจัดซื้อ และ ฝ่ายควบคุมสินค้าในบริษัท ถึงขั้นที่ว่า จะไม่มีใครจับได้เลยแหล่ะ” วิบอก

“3. อย่างที่บอก พวกนี้เป็นเอกสารขั้นต้น ถ้ามันจับคู่กันไม่ครบ เช่นมี P/O แต่ของยังไม่ได้ ก็ยังไม่ได้ S/I องค์กรก็ยังไม่สามารถบันทึกรายการนี้ได้ แต่ว่า ถ้าเกิดว่าองค์กรใช้คอมพิวเตอร์บันทึกรายการเป็นหลัก เอกสารพวกนี้ ก็จะไม่ออกมาเป็นกระดาษเลย สามารถ Key เข้าเครื่องได้เลย เพราะฉะนั้น ก็จะมีการ Key ข้อมูลโดยที่ไม่มีหลีกฐานพวกนี้มาประกอบไงหล่ะ อีกนัยหนึ่ง สร้างรายการปลอม ๆ ขึ้นมา เพื่อจะหาทางเอาเงินออกจากบริษัทไงหล่ะ” หมวยเล็กบอก

“หรือจะเอาอีก ได้อีกซัก 2 – 3 ข้อหล่ะมั้ง ใช่ป่ะหมวยเล็ก วิ” ติหันมาถาม
“อืม ประมาณนั้น” ทั้ง 2 ตอบพร้อมกัน

“โอเค” เฮียตี้ตะโกนออกมา
“อยากรุ้อีกเหรอคะ” วิถาม
“ไม่แล้วแหล่ะ” เฮียตี้บอก
“แป่ว~~~~~” ที่เหลือทั้ง 4 คน ตอบออกมาพร้อมกัน

หลังจากหายอาการ “แป่ว~~~~” กันแล้วนั้น ติก็มี Idea บ้างอย่าง

“อืม ...........ติว่านะ ถ้าแค่นี้ มันไม่น่าจะทำให้ Melodious Tune เป็นแบบนี้ไปได้ง่าย ๆ หรอก” ติออกความเห็น

“อืม .......... วิว่าก็จริงนะ มันไม่น่าจะมีแค่นี้อ่ะ หมวยเล็กว่าไง” วิหันมาถามหมวยเล็ก ที่หันไปดูหนังสือ + เอกสารต่าง ๆ บนโต๊ะทำงาน

“อืม ใช่ ถ้าจะคิดการใหญ่นะ ถ้าคิดจะเอาให้ล้มกันจริง ๆ นะ แค่นี้ไม่ทำให้ล้มได้ในทันทีทันใดขนาดนี้หรอก โกงกันแค่นี้ มันดูเล็กน้อยไปหน่อยว่ะ” หมวยเล็กตอบ แต่ตาก็ยังไม่เงยขึ้นมาจากกองเอกสารหลายอย่างที่อยู่บนโต๊ะ

วิเองก็เริ่มสงสัย
“หมวยเล็ก ดูด้วยดิ”
แล้วหมวยเล็กก็ส่งกระดาษที่ตัวเองดูอยู่ แบ่งให้ติกับวิดู

“อืม.... ไม่แน่ใจนะ ว่าจะใช่อย่างที่คิดหรือป่าว” ติตอบ พลางกระทุ้งศอกไปที่วิ “ว่าไงหล่ะ”
“อืม.... ไม่แน่ใจเหมือนกันอ่ะ หมวยเล็กว่าไง” วิหันมาถาม
“หมวยเล็กคงคิดเหมือนอย่างที่วิกับติคิดแหล่ะ แต่เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกีนว่ามันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน”

“อืม....เอาเป็นว่า สอนหัวข้อต่อไปให้เฮีย ๆ ก่อนก็แล้วกัน ดูดิ หน้าตาเอ๋อ รับประทานกันไปทั้ง 2 คนแล้ว” วิพูด พลางใช้ปึกกระดาษที่ตัวเองถืออยู่ ชี้ไปทาง 2 เฮีย ที่เวลานี้ได้แต่ฟังเด็ก ๆ ทั้ง 3 คนพูดจาอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะรู้เรื่อง

“เออ แหะ ๆ จริงด้วย เฮีย ๆ ต่อกันเลยดีมั้ย หรือจะไปชงกาแฟก่อน” หมวยเล็กพูด พร้อมกัยเสียงหัวเราะแย๋ ๆ ของทั้ง 3 คน

----------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2548    
Last Update : 29 ธันวาคม 2548 23:02:56 น.
Counter : 243 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 14

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

ขออนุญาตลงตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ รับรอง ตอนหน้า ใครที่เป็นแฟนหมวยเล็ก กรี๊ดแน่ ๆ คะ เพราะจะมีแต่หมวยเล็กทั้งตอนเลย
อ้อ แล้วพระเอกเนี่ย จินตนาการได้ตามสบายนะคะ ว่าเป็นใครดี
แตรับรองอย่างหนึ่งว่า ถ้า 2 คนนี้เจอกัน มันส์แน่ ๆ คะ

----------------------------------------------------------------------------

3 พี่น้องและวิ ลงมาข้างล่าง แล้วก็เปิดห้องทำงานเข้าไปก็เห็นว่า ตินั้น หลับสบายอยู่บนพื้นห้องทำงาน

หมวยเล็กเห็นว่าเพื่อนอู้ ไม่สนใจงานที่ตัวเองขอให้ทำ + กับความหมั่นไส้ของวิ ทั้ง 2 จึง พร้อมใจหันมามองหน้า วางหนังสือไว้บนโต๊ะ

และ

ถีบติพร้อมกันคนละทีทั้งซ้ายและขวา จนติกะเด็นไปชนผนังห้อง

ทั้ง 2 เฮียอุทานมาพร้อมกัน ตกใจในความโหดของเพื่อนน้องสาว และน้องสาว

“โอ๊ย เจ็บโว้ย ใครเตะว่ะ แม่งตีนหนักฉิบ”
“พวกกรูเองว่ะ มีอะไรป่าวว่ะ” หมวยเล็กพูดจากวนตีนกลับ
“เอ่อ เหี้ยแม่ง แน่จริง…….” พอติลืมตาขึ้นมา ก็เห็นเป็นหมวยเล็ก กะวิ แล้วก็เลยเย็นลง

“เอ่อ...........หมวยเล็กเองเหรอ ปลุกติดี ๆ ติก็ตื่นนะ ไม่เห็นต้องถีบติเลย” ติพูดจาอ้อน
“อ๋อ เหรอ แล้วไอ้ที่นอนกลางพื้นห้องบ้านคนอื่นเค้า แถมน้ำลายไหลยืด โชว์พุงอุบาทว์เนี่ย มันควรแล้วเหรอไง” วิสวนกลับทันควัน ในใจก็คิด “หมั่นไส้ชะมัด ทำเป็นจีบหมวยเล็กอยู่ได้”
“อ๋อ นี้เธอเตะฉันเหรอ ยายตีนช้าง” ติหันมาด่า
“ว่าฉันเหรอ นายสิวเขรอะ” วิหันมากัดคืน
“หนอย ยายเพิ้งหัวสิงโต” ติหันมาเอาคืน
“หนอย ๆ นายน่ะแหละ ไอ้ .... ไอ้ ...... ไอ้หน้าประเทศเพื่อนบ้าน” วิด่าคืน

แต่ก่อนที่ทั้ง 2 จะกัดกันต่อ หมวยเล็กก็โพล่งขึ้นมา

“เฮ้ย ๆ พวกแกหนิ ที่นี้ไม่ได้เป็นตลาดนะโว้ย ที่นี้บ้านกรูโว้ย บ้านกรู เกรงใจหันหน่อย จะกินมั้ย ข้าวเที่ยงน่ะ”
“กินเด่ะ” ทั้ง 2 ตอบพร้อมกัน
“เออ งั้นก็ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะได้กลับมาทำอย่างอื่นต่อ”
หลังจากที่เถียงกันนั้น ทั้ง 5 คน ก็ออกไปนอกห้อง
ไปที่โต๊ะกินข้าว กินข้างเที่ยงพร้อมกับปะป๊า และมะม้า

ปะป๊าเองก็ยังหงุดหงิดจากโทรศัพท์เมื่อตะกี้ไม่หาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมามาก
แต่ก็เปรย ๆ กับหมวยเล็กว่า

“ป๊าเชื่อใจนะ รีบ ๆ หน่อยแล้วกัน”

หมวยเล็กได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกขัดคอ พูดโต้ออกไปด้วยแรงทิฐิ

“ค่ะ หมายเล็กทราบดีค่ะ เพราะถ้าหมวยเล็กไม่รีบ หมายเล็กต้องถูกขายให้เค้าแน่ ๆ ใช่มั้ยคะ “ หมวยเล็กหันกลับไปมองพ่ออย่างท้าทาย แล้วเดินสะบัดตัวอย่างโมโหไปที่โต๊ะกินข้าว

ยังไง พ่อลูกคู่นี้ ก็ไม่ลงรอยซักที

----------------------------------------------------------------------------

อีกด้านหนึ่ง หนุ่มเจ้าสำอาง หน้าตาหล่อเหลา คล้ายดาราหนังเกาหลีซะยังงั้น ก็หลบพ่อ ขับรถสปอร์ตสุดหรูออกมา หวังโฉบสาว ๆ ไปควงเล่นให้หายเบื่อซักกะหน่อย

หลังจากที่ส่องกระจกดูสภาพตัวเองแล้ว ก็พาตัวเอง ไปนั่งเชคเรตติ้งที่ร้านกาแฟสุดหรู แบบ Open Air ทื่ร้านนึง

หึหึหึ ได้ผลสมใจณัฐเสียด้วย

สังเกตุได้จากรอยยิ้มมุมปากของหนุ่มเจ้าเล่ห์คนนี้

เพราะณัฐรู้ดี ว่าตัวเองนั้น หน้าตาดีแค่ไหน และรู้ว่า เค้าสามารถใช้หน้าตาตัวเองนั้น ล่อหญิงให้มาติดกับนับ 10 ราย

ได้ผลขนาดนั้นหล่ะ อยากรู้มั้ย

ก็ขนาดที่ สาว ๆ ทั้งร้าน มองกันไม่วางตา
สาว ๆ ที่เดินอยู่ยังซุบซิบกันอีกด้วย

สบายใจแล้ว ว่าตัวเองยังเรตติ้งแรงใช้ได้อยู่ ก็ออกจากร้านไป
(มันน่าตบกะโหลกมั้ยเนี่ย -_-“)

----------------------------------------------------------------------------

ย้อนกลับมาที่บ้านจรรยาวิเศษกุลกันบ้าง
หลังจากที่ทานข้าวกลางวันกันเสร็จแล้วนั้น เด็ก ๆ ทั้ง 5 คน (แน่ใจเหรอว่ายังเด็กกันอยู่ ) ก็รีบวิ่งปรื๋อเข้าห้องทำงานของปะป๊าไป

พอทั้ง 5 คน เข้ามาในห้องแล้วนั้น เฮียตี้ก็พูดออกมากะหมวยเล็กว่า

“สัญญาแล้วนะ ว่าจะสอนเฮียน่ะ” เฮียตี้พูดแหย่น้องสาว
"เอ่อนะ สัญญา ก็ต้องเป็นสัญญาดิ หมวยเล็กเคยกลับคำพูดเหรอไง” หมวยเล็กกวนตีนกลับ
“ดีมาก มันต้องอย่างนี้ซิ” เฮียตี๋พูดพลางกอดอกไปด้วย
“เฮ้อ ไม่น่าเสียรู้เฮียตี๋เลย เซ็งอิบ” หมวยเล็กบ่นในใจ
แล้วบรรยากาศการติวเข้ม ก็เริ่มขึ้น




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2548    
Last Update : 9 ธันวาคม 2548 0:03:44 น.
Counter : 246 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 13

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่รู้สึกแย่ได้ไม่นานนัก หมวยเล็กก็เริ่มขยับตัว
“โอ๊ย” หมวยเล็กร้องเบา ๆ
ทั้ง 3 รีบเข้าไปดูอย่างเป็นห่วง
แต่หมวยเล็กก็ยังคงร้องครางเบา ๆ ไม่หยุด
แต่ดูจากสีหน้าแล้ว ก็คงไม่ได้เจ็บปวดมากเท่ากับตอนที่เฮียตี้อุ้มมาส่ง

“หมวยเล็ก ๆ” เฮียตี๋ ร้องเรียก
“ใครอ่ะ” หมวยเล็กยังสะลึมสะลืออยู่มาก
“เฮียตี๋นะ หมวยเล็ก” เฮียตี๋ตอบ
“เฮียตี๋มีอะไรเหรอ” หมวยเล็กพูดชัดขึ้น
“ไหวไหม ให้เฮียพาไปหาหมอมั้ย” เฮียตี๋ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร หมวยเล็กไหว” ปากพูด แต่มือก็ยังกุมหัว ตาก็ยังไม่ลืม

“หมวยเล็ก หมวยเล็กจะตื่นหรือยังน่ะ” วิถาม
“วิเหรอ” หมวยเล็กพูด แล้วก็เริ่ม ขยับตัวมานั่งบนเตียง และลืมตา
“อืม ไหวมั้ย ไม่ไหวก็พักก่อนเหอะ” วิเสนอ
“ไม่ได้หรอก พักมานานแล้ว ลงไปทำต่อเหอะ” หมวยเล็กเตรียมจะลุก

ลุกแล้ว ก็เดินไปหยิบกองหนังสือทั้งกองนั้น จะเดินลงไปข้างล่าง
แต่ทั้ง 2 เฮีย ก็มาคว้าเอาไปถือไว้ก่อน
“มานี้ เฮีย ๆ ถือเอง” เฮียตี้บอก
“ขอบคุณค่ะ” หมวยเล็กกล่าว

“เออ เฮียอยากรู้อ่ะ ว่าของพวกนี้มันคืออะไรบ้างเนี่ย เราต้องใช้มากขนาดนี้เลยเหรอ” เฮียตี๋ถาม
“อืม ก็เป็นพวกหลักการ เนื้อหาทั้งนั้นเลยอ่ะ เอามาเปิดดู บางหัวข้อเราก็ลืมไปบ้างนะ บางอันที่ไม่แน่ใจ ก็เปิดหนังสือดูได้เลยไง ว่าเราคิดถูกหรือป่าว” หมวยเล็กบอก

“เฮีย ๆ อยากรู้เหรอคะ ว่ามีอะไรบ้าง” วิถามทีเล่นทีจริง
“โห วิ อย่าเลย เรา 2 คน อธิบาย 2 เฮีย 2 วัน 2 คืน จะจบมั้ย ยังไม่รู้เลย” หมวยเล็กยังไม่ค่อยเห็นด้วย
“แต่วิว่า ถ้าหมวยเล็กคิดอย่างที่เคยบอกติไป วิว่า หมวยเล็กน่าจะสอนเฮีย ๆ เค้าไว้นะ อย่างน้อย ก็จะได้ช่วย ๆ กันดูได้” วิเสนอ
“เอางั้นเลยเหรอ” หมวยเล็กว่า เพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทำได้
“เอาน่าช่วย ๆ กัน แป๊ปเดียวก็น่าจะได้แหละ ไม่ต้องละเอียดเท่าก็ได้ แค่ให้พอรู้ก็พอหนิ” วิบอก

“เออ ๆ นั้นดิ ไหน ๆ เราก็รู้เรื่องนี้เหมือน ๆ กันแล้ว ก็น่าจะช่วยกันไม่ใช่เหรอ” เฮียตี้บอก
“เฮียตี้ หมวยเล็กบอกแล้วไง หมวยเล็กมีวิธีของหมวยเล็กนะ เฮีย ๆ ก็แค่ไปทำงานตามปกติก็แค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องมารู้เรื่องพวกนี้ก็ได้” หมวยเล็กตัดบท

ทั้ง 2 เฮียชักทนไม่ไหว ตัวเองก็อยากช่วยแท้ ๆ ทำไมน้องสาวถึงได้ดื้อดึงแบบนี้
จากที่ปกติก็เป็นคนร่าเริง สนุกสนาน แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นคนดุดัน
“งั้นเฮียจะบอกปะป๊า กะมะม้า ว่าหมวยเล็กเป็นไมเกรน” เฮียตี๋พูดเสียงแข็ง

หมวยเล็กอึ้งไปพักนึง ความน้อยใจเมื่อ 4 ปีก่อน พุ่งขึ้นมาในหัวใจ

หมวยเล็กหันกลับไปมองหน้าเฮียตี๋เป็นเชิงคำถาม

“ถ้าป๊ารู้ แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาเหรอ” หมวยเล็กถามคืน
“แล้วถ้ามะม้ารู้หล่ะ” เฮียตี๋ถามคืน

คราวนี้ หมวยเล็กยิ่งอึ้งไปหนักกว่าเดิม – เพราะหมวยเล็กรู้ดีว่า ตอนนี้มะม้าจะต้องเข้มแข็งมากที่สุด เพื่อเป็นกำลังใจให้สามีตัวเอง !?! ถ้ามีเรื่องของหมวยเล็กเข้าไปอีก มะม้าจะต้องเป็นกังวลเรื่องของหมวยเล็กแน่ ๆ

ถึงแม้หมวยเล็กจะน้อยใจปะป๊าตัวเองคิดว่ารู้ไปก็เท่านั้น ไม่ให้รู้ดีกว่า เดี๋ยวปะป๊าจะหาว่าหมวยเล็ก อ่อนแอ สำออย แต่กับมะม้า หมวยเล็กก็ไม่อยากให้รู้เหมือนกัน

ภรรยารู้ มีเหรอ สามีจะไม่รู้น่ะ !?!

ถ้าสามีรู้ มันก็วนกลับมา Loop เดิม

ถูกหาว่าอ่อนแอจากปะป๊าตัวเองงั้นเหรอ

เรื่องแบบนี้ไม่เอาด้วยหรอก

หมวยเล็กเงียบไปพักนึง ก่อนถอนหายใจออกมา

และตอบว่า

“ก็ได้ แต่ห้ามบอกม้านะ ว่าหมวยเล็กเป็นไมเกรน ถ้าบอกนะ หมวยเล็กงอนจริง ๆ ด้วย”

2 เฮียยิ้มออกมาพร้อมกัน
พร้อมกับเข้าไปขยี้หัวน้องสาวตัวเองด้วยเอ็นดู

ไม่มีใครสังเกตคำพูดของหมวยเล็กเมื่อกี้เลยว่า ตกคำว่า “ปะป๊า” ไป

“เห็นมั้ย เฮีย ๆ เธอรู้ แล้วไม่เห็นมีอะไรเลย” วิบอก
“เออน่า รู้แล้ว” หมวยเล็กยิ้มออกมาด้วยความดีใจ โล่งอกไปอีก 1 เรื่อง
----------------------------------------------------------------------------
ข้างล่าง ในห้องทำงาน

“ฮาโหล” เสียงประพนท์กรอกไปตามสาย
“เออ อั๊วเอง” ไม่ต้องบอกก็รู้แก่ใจดีว่าเป็นใคร
“แก” ประพนท์กัดฟันพูด
“เรื่องลูกสาวลื้ออ่ะ ว่าไง 555+” ภากรกรอกเสียงอย่างสะใจลงไปตามสาย

“อีกไม่นานหมวยเล็กจะรับปริญญา เอาไว้หลังจากนั้น แล้วมาคุยกันอีกทีดีกว่ามั้ง” ประพนท์ตอกคืน
“หึ งั้นอั๊วก็ไม่รับรองความปลอดภัยของบริษัทลื้อละกัน”
แล้วภากรก็กดวางสายไปอย่างหงุดหงิด

“อะไรคะ คุณ” พิศพิไลที่แต่งตัวสีสันร้อนแรง บวกกับมีนิสัยอยากจะอวดว่าตัวเองรวยนักหนา ถึงได้ประโคมเครื่องเพชรจนแสบตา กล่าวถามสามี

“หึ ก็ไอ้ประพนท์มันน่ะซิ บริษัทมันจะตายห่าอยู่แล้ว เอาลูกสาวมาแลกง่าย ๆ มันก็ไม่เอา ท่าทางมันคงอยากล้มละลายไปจริง ๆ”

“คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณไปเหอะ ชั้นไม่สนแหละ ไปงานสมาคมดีกว่า” ว่าแล้วพิศพิไล ก็หมุนตัว ออกจากบ้านไปงานสมาคมชั้นสูง

ระหว่างนั้น ณัฐปคัลภ์ ลูกชายคนเดียวของทั้ง 2 สามี ภรรยา ก็เดินลงมาจากข้างล่างพอดี

ณัฐปคัลภ์ เป็นผู้ชายที่ถึงแม้จะไม่ได้รักครอบครัว แต่ก็ชอบทำงาน ประสบความสำเร็จในฐานะนักบริหารสื่อของบริษัท Harmony Sound แต่นิสัยหลัก ๆ ที่เป็นจุดเด่นของณัฐ ก็คือ ความเป็นเพลย์บอย !?!

“อ้าวพ่อ แม่เค้าไปไหนแล้วหล่ะฮะ”
“ตามฟอร์มของแม่แกน่ะแหล่ะ ไปงานสมาคม” ผู้เป็นพ่อพูดอย่างหัวเสีย
“อ้อ แล้วแกก็เตรียมตัวแต่งงานได้แล้วน่ะ ถ้าเราล้มบริษัท Melodious Tune ได้เมื่อไหร่ ลูกสาวเจ้าของบริษัทนั้นเป็นของแกแน่ ๆ” ภากรพูดอย่างหมายมั่น

แน่นอนว่า ความเป็นเพลย์บอย ย่อมไม่ชอบการผูกมัดอะไรอยู่แล้ว ณัฐจึงตอบกลับไปว่า

“สวยมั้ยครับพ่อ” ณัฐถามพ่อ
“ก็ดีกว่าไอ้พวกนางแบบที่ดูกร้านโลกที่แกเคยตวงมาก็แล้วกัน” ภากรพูดคืนพร้อมกับตอกลับหาว่ารสนิยมลูกชาย นั้น “ไม่ได้เรื่อง”

ผู้เป็นลูกชายก็ขี้เกียจเถียงพ่อต่อไป จึงบอกพ่อว่าจะออกไปข้างนอก เลี่ยงการที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกันกับพ่อตัวเอง แล้วก็ควงกุญแจรถ Sport สุดหรู เดินไปที่รถ แล้วก็ขับรถออกไป




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2548 20:28:15 น.
Counter : 286 Pageviews.  

l+_+l+_+l เฮี้ยวนัก รักซะให้เข็ด l+_+l+_+l - ตอนที่ 12

บทความ หรือ เรื่องราวต่อไปนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องราว สถานที่ ชื่อบุคคล ต่าง ๆ ล้วนเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีการพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางที่เสียหายแล้วนั้น ผู้เขียน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ออกมาจากห้องของหมวยเล็กแล้ว เฮียตี๋ ก็เดินลงไปเอากาแฟที่ตัวเองชงค้างไว้เมื่อกี้ แล้วกลับขึ้นไปที่ห้องของหมวยเล็ก

เมื่อกลับเข้ามา ก็เห็นว่า หมวยเล็กนั้น นอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีเฮียตี้คอยดูอาการน้องสาวอยู่ข้าง ๆ

เฮียตี๋จึงเอากาแฟไปให้เฮียตี้ดื่ม แล้วตัวเอง ก็กลับมาที่โต๊ะหนังสือของหมวยเล็ก โดยที่เพิ่งจะสังเกตเห็นกองหนังสือกองโต ที่หนังสือแต่ละเล่ม ทั้งหนา ทั้งหนัก อยู่

ด้วยความสนใจ เฮียตี๋จึงไปที่หนังสือกองนั้น หยิบออกมาดูทีละเล่ม ๆ

แต่แล้วก็ต้องร้องออกมา

"โห"
"อะไรเหรอ" เฮียตี้หันไปตามเสียง
"ก็ดูนี้ดิ" ไม่พูดเปล่า เฮียตี๋ ก็หยิบหนังสือที่ละเล่ม ๆ โดยเห็นด้านหน้าปกไปที่เฮียตี้

หนังสือกองนั้น ก็มีหนังสือหนัก ๆ อยู่หลายเล่มทีเดียว

เล่มที่ 1 "Thai Standard Accounting Priciple" (มาตรฐานการบัญชีของไทย)
เล่มที่ 2 "Auditing" (การสอบบัญชี)
เล่มที่ 3 "Working Paper" (กระดาษทำการของผุตรวจสอบบัญชี)
เล่มที่ 4 "Financial Statement Analysis and Valuation" (การวิเคราะห์งบการเงิน และประเมินมูลค่าของกิจการ)
เล่มที่ 5 "Internal Audit and Controls" (การควบคุมและการตรวจสอบภายในกิจการ)
นอกจากนั้นก็ยังมีกอง Lecture และ Sheet อีกจำนวนหนึ่ง ที่กองหนังสือนั้น

"โห นี้หมวยเล็กมันเรียนขนาดนี้เลยเหรอ" เฮียตี้ร้องขึ้นมา
"อืม มิหน่าหล่ะ หมวยเล็กถึงได้รู้ทุกอย่าง แค่จากอ่านเอกสารกองโตนั้น" เฮียตี๋ตอบ พลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวาน

เฮียตี๋เองก็อยากรู้บ้าง แต่ด้วยความหนาของหนังสือแต่ละเล่ม รวมไปถึงจำนวนเล่ม และเรื่องราวที่ดูจะเป็นเรื่องยาก ๆ ทั้งนั้น สำหรับคนที่ไม่ได้เรียน

แล้วจะเริ่มตรงไหนดี จะอ่านอะไรก่อนดี แล้วงานนี้จะอ่านรู้เรื่องมั้ยหล่ะ

-_-"

----------------------------------------------------------------------------

ส่วนวิเองนั้น ก็ออกมาจากห้อง เพื่อจะไปให้พ้น "คนบ้า" ที่ยังงุ่นง่าน และงงไม่หายอยู่ในห้องทำงานนั้น

ตัวเองก็ออกมาที่ Pantry กะว่าจะชงอะไรดื่มซักหน่อย

เพราะด้วยความที่เป็นเพื่อนกับหมวยเล็กมาตั้งแต่มัธยม มาบ้านหมวยเล็กก็บ่อย จึงรู้ว่า อะไรอยู่ตรงนั้น หยิบเองทำเองได้อย่างคล่องแคล่ว - ไม่เหมือนติ ที่มาเป็นครั้งแรก ก็โดน 2 เฮีย ออกฤทธิ์แล้ว

กำลังคิดอยู่ว่า จะกินอะไรดี ก็รู้สึกเป็นห่วงหมวยเล็กขึ้นมา จึงตัดสินใจ ละมือจากเครื่องดื่มตัวเอง เดินขึ้นไปชั้น 2 ไปดูอาการของหมวยเล็ก

----------------------------------------------------------------------------

วิขึ้นไปถึงที่ห้องของหมวยเล็ก แล้วก็เปิดประตูเข้าไป
"อ้าว เฮียตี๋ กะเฮียตี้ก็อยู่นี่เหรอคะ" วิถาม
"อืม แล้วน้องวิมีอะไรหรือป่าวคะ" เฮียตี๋ถาม
"คือวิ จะมาดูอาการหมวยเล็กน่ะค่ะ ว่าเป็นไงบ้างอ่ะค่ะ" วิตอบ พร้อมกับเข้ามาในห้อง

แล้ววิก็เดินไปที่เตียงของหมวยเล็ก แล้วก็เอื้อมมือไปแตะหน้าผากหมวยเล็ก

"อืม ตัวก็ไม่ได้ร้อนหนิ"

แล้ววิก็จับหมวยเล็กนอนตะแคงขวา - หันหน้าไปทางเฮียตี้ - แล้วก็นวดไล่จากศรีษะด้านซ้าย ลงไปถึงหัวไหล่

ทั้ง 2 เฮีย อึ้งไปพร้อมกัน !!!
ทำไมเพื่อนน้องสาวถึงนวดได้ตรงจุดกับที่น้องสาวปวดหล่ะ

"โห แข็งเป๊กเลย" วิพูดพลางนวดไปด้วย
"แล้วนี้หมวยเล็กทานยาหรือยังคะ" วิเงยหน้าขึ้นมาถาม
"อืม ทานแล้วหล่ะค่ะ" เฮียตี๋ตอบ
"แล้วน้องวิรู้ได้ยังไงหล่ะคะ" เฮียตี้สงสัย
"อ้าว แล้วเฮีย..........ไม่รู้หรอกหรือคะ" วิถามคืน แต่ว่าท้ายประโยคนั้น เสียงเบาลงไปเยอะ

เธอเองก็ไม่คิดว่า หมวยเล็ก จะปิดบังเรื่องนี้ แม้กระทั้งพี่ชายของตัวเอง

----------------------------------------------------------------------------

สภาพบรรยากาศภายในห้องนอนของหมวยเล็ก ก็มีหมวยเล็กที่นอนไม่รู้เรื่องราวอะไรอยู่ แล้วก็มีทั้ง 2 เอีย กับวิการดาที่คุยกัน

"วิเองก็ไม่รู้ชัด ๆ หรอกนะคะเฮียตี๋ เฮียตี้ ว่าทำไมหมวยเล็กถึงเป็นแบบนี้" วิบอก
"แล้วหมวยเล็กเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่" เฮียตี๋ถาม
"อืม ซักประมาณตอนที่หมวยเล็กรู้ผลสอบเข้าคณะใหม่ ๆ น่ะค่ะ"

พอถึงตรงนี้ ทั้ง 2 เฮียก็พอจะเดาเรื่องราวที่เหลือออกแล้ว

ภาพเหตุการณ์ที่ปะป๊า ปาจดหมายรับรองการสอบผ่านเข้าคณะฯ ใส่หมวยเล็กนั้น ชัดเจนขึ้นอยู่ในหัวของทั้ง 2 เฮีย

"วิก็พอรู้มาบ้างอ่ะค่ะ ว่าปะป๊าของหมวยเล็กเอง ไม่ได้อยากให้หมวยเล็กเรียบนคณะนี้ แต่จะให้หมวยเล็กเรียนอย่างเดียว หมวยเล็กเค้าก็ทำไม่ได้อ่ะค่ะ
มีเทอมนึง ที่หมวยเล็กเอาแต่อ่านหนังสือเรียน ตอนนั้นรู้สึกว่า หมวยเล็กจะเครียดมาก ตอนนั้น บางทีหมวยเล็กเดิน ๆ อยู่ ก็ฟุบไปเลยก็มีอ่ะค่ะ แต่ก็แค่ 2 - 3 ครั้งเองอ่ะค่ะ"

"แล้วหลังจากนั้นหล่ะ" เฮียตี้ยิงต่อ
"อาจารย์ก็เลยแนะนำให้หมวยเล็ก ทำกิจกรรมไปด้วยอ่ะค่ะ เพราะอย่างน้อยจะทำให้หมวยเล็กไม่เครียดจนเกินไปด้วย" วิตอบ

"เฮ้อ หมวยเล็กเอ๊ย เครียดก็ไม่พูดไม่จา" เฮียตี้ถอนหายใจ พลางบ่นไปด้วย
"วิเองก็เคยถามหมวยเล็กเหมือนกันว่า ทำไมไม่ปรึกษาเฮีย ๆ แต่หมวยเล็กเค้าก็บอกว่า

"วิ รู้อะไรมั้ย ปัญหามันไม่ได้ใหญ่อะไรหรอก หมวยเล็กไม่อยากพึ่งใคร
อีกอย่าง เฮีย ๆ เองก็มีภาระหน้าที่การงาน และความหวังจากป๊ามากมาย จากการที่ป๊าผิดหวังจากหมวยเล็ก มันก็มากพอแล้ว หมวยเล็กไม่อยากเอาเรื่องยุ่งยากหนักใจเข้าบ้าน เข้าไปให้ใคร ๆ ต้องรับรู้อีกน่ะ"

เฮียทั้ง 2 ได้ฟังที่วิเล่า ก็ได้แต่รู้สึกแย่

แย่ที่เคยคิดว่า ถ้าน้องสาวมีอะไร ก็คงมาเล่าเอง
แย่ที่เคยคิดว่า หมวยเล็กยิ้มได้ตลอดเวลา ก็คงจะยิ้มมาจากใจจริง ๆ
และที่แย่ที่สุด
คือทำไม ตัวเอง ไม่พร้อมเป็นจะยืนเคีบงข้างน้องสาวเวลาที่น้องสาวต้องการมากที่สุด




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2548 20:37:16 น.
Counter : 252 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

Yutaka (Real)
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Yutaka (Real)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.